ชีวิตที่เปลี่ยนไปเมื่อเป็นโรควิตกกังวลในระยะเวลาเกือบ 2 ปี

ย้อนความไปเมื่อสมัยตอนเรา ป.3 เราเครียดเรื่องนึงๆมากมันฝั่งใจเรามาจนถึงตอนนี้ (ม.2)  ทุกๆ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยสนุกกับชีวิตตัวเองเท่าไหร่       เเต่ยังดีที่ตอนนั้นไม่ได้อะไรมากเลยพอไปได้ในเเต่ละวัน   

เกริ่นความมาตอน ม.1-
------
ทุกอย่างยิ่งเเย่ลง เหมือนดิ่งลงเหว เหมือนยิ่งโตขึ้นยิ่งเหนื่อยขึ้น รับความกดดันไม่ไหวยิ่งเครียดสะสม  ตอนนั้นต้องบอกว่าเป็นช่วงนี้เเย่มากจริงๆมันเครียดสะสมจนฝั่งใจลึกๆจนมีอยู่หลายคืน ที่ตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึก ( ตอนนั้นไปเที่ยวพอดี ) เเต่ไม่เคยอยากร้องไห้ ให้ใครฟังมันเเบบทรมาณไปหมด ( นึกเเล้วสงสารตัวเองที่เป็นเเบบนี้ )วินาทีนั้นคือ สิ้นหวังเเล้วจริงๆเหมือนตายทั้งเป็น 

      ( เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัวเราไม่ได้มโนเเต่อย่างใดเเละ เขียนขึ้นมาเพื่อนเตือนสติว่าความเครียดนั้นส่งผลต่อหลายด้าน )

-------

    (1) ท้าวความก่อน ว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีความสุข ตลอดปี นั้นเเหละ เราเครียดมาเรื่อยๆ จนวันนึงเราได้ไปเที่ยว เราก็ไม่มีความสุขอีกเช่นเคย ใจลอย คิดอะไรหลายๆอย่าง มีเเต่ความเครียดที่ฝั่งใจตลอดมา พอกลับจากไปเที่ยว ก็ได้แวะร้าน ก๋วยเตี๋ยวเรือกินอาหาร กินไปหลายถ้วยเลยเพราะอร่อยมากๆ  ..... พอกินเสร็จมันเหมือนท้องไส้ปั่นป่วน เเบบปวดลำไส้ มีเสียงคลืดคลาดในท้อง คล้ายๆท้องร้อง ปวดเหมือนอยากอุจระ เเต่อุจจาระไม่ออก กลับบ้านไปก็ปวดท้องมากกินยาก็ไม่หาย ทรมาณสุดๆเลย  หลายวันต่อมามีอาการเเบบนี้เเทบทุกวันทรมานมากโดยเฉพาะหลังกินอาหารเช้าจะเป็นประจำ ( วันไหนไม่เป็นเหมือนขึ้นสวรรค์ ) นั้นเเหละ เเทบจะไปรร.เข้าเเถวไม่ทันต้องนั่งจนกว่าจะออก ถ้าไม่ออกคือจะปวดท้องมาก  เราเริ่มวิตกกังวล ลองไปหาข้อมูลดูเจอกับโรค  "มะเร็งลำไส้ , ลำไส้เเปรปวน" ซึ่งอาการทั้งสองโรคนี้อาการคล้ายกันมากจน ไม่รู้ว่าตกลงเป็นอะไร เเต่ที่ผ่านมาก็กลัวว่าเป็นมะเร็งลำไส้ เพราะมันปวดท้องมากๆๆ ( เริ่มรู้จักกับกระทู้พันทิปเพราะหาข้อมูลนี้ละ ) ตับว่าโชคดีมากๆที่เจอกระทู้พันทิป เราได้ปรึกษากับหลายๆคนทำให้เราสบายใจขึ้นเพราะ ตลอดทุกครั้งที่ปวดท้องเเลบนี้มาในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง มันเเย่มากๆกับโรคนี้ นั่งอยู่เเต่กูเกิ้ลทั้งวัน  ปกติเครียดอยู่เเล้วพอเจอโรคนี้มันก็เเย่กว่าเก่า ( ยังไม่ถึงขั้นเก็บตัว เเละยังพอปรึกษากับครอบครัวได้อยู่ )  

    เราจะคิดเสมอว่า " เราจะพยายามผ่านมันไปให้ได้เเม้ว่าเราจะไม่ไหวก็ต้องบอกตัวเองให้พยายามต่อไป เพราะเรานังเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เขาเเย่กว่าเราเยอะ " เราจึงพยายามไม่เครียดไม่หมกหมุ่น " เย้!!อาการดีขึ้นเรื่อยๆ  ( เเต่ถ้าเครียดก็อาจจะมีกลับมาบ้าง ) ก็ลองพยายามต่อไปจนหายดีใจมากๆคิดว่าชีวิตเเย่ๆจะจบลงเเต่นี้เเต่ไม่.....

      ----------
หลายเดือนต่อมา-

     (2) อยู่ๆก็มีอาการเเน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่มเราก็คิดว่าเป็นอาการเเน่นหลังทานอาหารธรรมดาเเต่ไม่ มันเริ่มเเย่ลง หายใจไม่ทัน เเต่ไม่ได้ขนาดเป็นลม พ่อเเม่ก็ไม่รู้ตามเคย บางครั้งต้องรอจังหวะ หายใจเข้าลึกๆให้เต็มปอด   พอมีอาการเเบบนี้ไม่หายสักทีหลายวัน ก็เครียดมาก ( ยิ่งกว่าโรค (1) ) อีก ทรมาณจับใจกลัวตายมาก มันทำให้ต้องพึ่งกูเกิ้ลอีกตามเคย ไปเจอโรคต่างๆทำให้เเย่กว่าเดิม คิดในใจว่าทำไมต้องเป็นเเบบนี้ ช่วงนั้นก็คือนอนไม่หลับเลย หรือเครียดฝั่งใจ จนสะดุ้งตื่นกลางดึกเหมือนเคย พอตื่นขึ้นมาสมองมันก็คิดทำให้ใจเต้นเร็ว หายใจไม่อิ่ม ไม่มัน ต้องพยายามบอกตัวเองว่า "สติ สติ พุธโธพุธโธ"
เห้ออออออออมม มันเเย่มากจริงๆก็จะผ่านไปได้เเต่ละวัน

___________________

เดี๋ยวว่างมาเล่าความต่อนะคะ เพราะสิ่งที่เราเช่ามาทั้งหมดมันยังเป็นเเค่"นํ้าจิ้ม" หลายคนอ่านเเล้วอาจจะไม่เข้าใจเราว่ามันขนาดนั้นเลยหรอ ใช่ค่ะความรู้สึกเราตอนที่เราอ่านสิ่งที่เราเขียนมันดูไม่ได้อะไรมาก เเต่ถ้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นอีกรอบจริงๆคงทรมาณกว่าที่คิด "
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
วิตกกังวล ก็คือ การคิดมากนั้นแหละ คิดมากแล้วเครียด มีผลต่อสมอง มีผลต่อระบบย่อยอาหาร
ระบบลำใส้แปรปรวน เพราะความเครียด

ประเด็นมันอยู่ที่ความคิด พอคิดมากแล้วเครียด วิตกกังวล
แต่เราจะไปห้ามความคิดก็ไม่ได้อีก

ลองเอาวิธีนี้ไปฝึกดูนะครับ ให้สังเกตุความรู้สึกของตัวเอง เวลามีความคิดขึ้นมา
เวลามีความคิดอะไรก็ช่างนะ เพราะต้องฝึกตลอดเวลา เช่น เวลามีความคิดขึ้นมา
จะคิดถึงอะไรก็แล้วแต่ อย่าไปสนใจความคิด ให้มาสนใจความรู้สึกของตัวเอง เช่น

เวลามันมีความคิดขึ้นมา คิดแล้ว มีความ สุข ก็รู้
เวลามันมีความคิดขึ้นมา คิดแล้ว มีความ ทุกข์ ก็รู้
เวลามันมีความคิดขึ้นมา คิดแล้ว มีความ เฉยๆ ก็รู้

ให้สังเกตุความรู้สึก สุข ทุกข์ หรือ เฉยๆ เวลามันมีความคิดเกิดขึ้นมา
แต่วิธีนี้ต้องฝึกตลอดทุกความคิดนะ รู้สึกไปเรื่อย ๆ มันจะคิดอะไรมาก็ช่าง
ให้สังเกตุความรู้สึกของตัวเองไปเรื่อย ๆ สังเกตุแถวๆกลางอกอะ

แล้วไปสังเกตุดูเถอะ ความรู้สึก ๓ อย่างนี้ มันจะไม่เกิดพร้อมกันหรอก มันจะสลับกันเกิดขึ้นมาทีละอัน
แล้วความรู้สึก ๓ อย่างนี้ มันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามความคิด ลองเอาวิธีนี้ไปลองฝึกดูนะครับ.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่