JJNY : เกษตรกรเลี้ยงหมูโอดขาดทุน│ลุงเครียดโควิด น้ำท่วมเป่าขมับดับ│รวบ2บัณฑิตตกงานปลูกกัญชาขาย│ธีรภัทร์ไขก็อกเซ่นผลโพลล์

เกษตรกรเลี้ยงหมู โอดสารพัดปัญหารุมเร้า อาหารสัตว์ราคาพุ่ง 30% ขาดทุนย่อยยับ
https://ch3plus.com/news/category/264781
  
 
ปัญหาสินค้าราคาแพง ลามเข้าฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ล่าสุด เกษตรกร เดือดร้อนหนัก ราคาวัตถุดิบพุ่งสูงกว่า 30% ทำขาดทุนย่อยยับ
 
สมาพันธ์ปศูสัตว์ฯ ระบุว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะหมู กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากภาระต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะอาหารสัตว์ ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 30% มาตั้งแต่กลางปี 63 สูงสุดในรอบ 13 ปี โดยราคากากถั่วเหลืองปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 13 บาท เป็นกิโลกรัมละ 19 บาท ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขยับสูงสุดในเดือนกันยายน 64 ที่ 11.50 บาทต่อกิโลกรัม จากราคา 8 - 9.50 บาทต่อกิโลกรัม
 
โดยอาหารสัตว์เป็นต้นทุนการผลิต 60-70% ของการเลี้ยงสัตว์ และวันนี้ราคายังพุ่งไม่หยุด ยังไม่รวมอาหารเสริม วิตามิน เกลือแร่ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 20-30% เช่นกัน รวมถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการฟาร์ม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากโรคระบาดสัตว์ ขณะที่สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ทำให้ผู้เลี้ยงสัตว์ไม่สามารถขายและส่งออกได้ตามปกติ
 
นายเสน่ห์ นัยเนตร ประธานสหกรณ์ปศุสัตว์ฯ จังหวัดฉะเชิงเทราเปิดเผยกับทีมข่าวเรื่องเด่นเศรษฐกิจ บอกว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู กำลังเดือดร้อนหนัก ในรอบ 30 ปี จากสารพัดปัญหารุมเร้า โดยเฉพาะวัตถุดิบต้นทุนอาหารสัตว์ที่พุ่งสูง รวมไปจนถึงเคมีภัณฑ์ต่างๆ ราคาขึ้นทั้งหมด
 
ส่งผลให้ต้นทุนการเลี้ยงหมู ทะลุกิโลกรัมละ 86 บาทไปแล้ว จากเมื่อก่อนอยู่ที่ 60-80 บาทต่อ ขณะที่ราคาขายปลีก ถูกควบคุมโดยกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ปรับราคาขายตามต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ได้ วันนี้เกษตรกรรายย่อยขายหมูได้เฉลี่ย 74-76 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น ต้องยอมขาดทุนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 10 บาท
 
วันนี้เกษตรกรรายย่อย ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 180 ราย เหลืออยู่รอดได้เพียง 20 กว่ารายเท่านั้น ที่เหลือต้องหยุดเลี้ยง เพราะขาดทุนย่อยยับ แบกรับต้นทุนไม่ไหว วอนรัฐเข้าช่วยเหลือด่วน
 
ชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/RNKyrObOP7Y  
  
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 

 
ลุงเจ้าของบ้านเช่า เครียดพิษโควิดเจอน้ำท่วมซ้ำ คว้าปืนเป่าขมับดับ
https://ch3plus.com/news/program/264825

เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 พ.ต.ท.สมพล นาคคำพันธ์ รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ
 
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นพบร่างนายเอนก ซื่อตรง อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของห้องเช่า นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้น ด้านหน้าห้องน้ำ ที่ปลายเท้าพบอาวุธปืนลูกโม้ขนาด .38 ม.ม.ตกอยู่ เจ้าหน้าที่กันผู้ไม่เกี่ยวข้อง ห้ามเข้าไปภายในที่เกิดเหตุ ก่อนให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ซึ่งไม่พบร่องรอยการต่อสู้และรื้อค้นสิ่งของแต่อย่างใด
 
สอบถามลูกชายทราบว่า พ่อมีความเครียดจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ห้องเช่าไม่มีผู้เช่า ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง แต่ไม่คิดว่าพ่อจะคิดสั่นเช่นนี้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นตนเองกับแม่มาหาพ่อกระทั่งมาพบว่า พ่อนอนแน่นิ่งอยู่ด้านหน้าห้องน้ำ มีอาวุธปืนตกอยู่บนพื้น เมื่อตั้งสติได้จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบดังกล่าว
 
เบื้องต้น พ.ต.ท.สมพล นาคคำพันธ์ รองผกก.สอบสวน มอบหมายให้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจอย่างละเอียดยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางญาติไม่ได้ติดใจอะไร แต่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์สลดในครั้งนี้
 


รวบ 2 บัณฑิตตกงาน ปลูกกัญชาในคอนโด ขายออนไลน์
https://ch3plus.com/news/program/264827

ตำรวจจับ 2 บัณฑิตตกงาน หันมาปลูกกัญชาในคอนโด เผยสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์ มาเพาะจนเริ่มโตเป็นต้น ก่อนลงขายผ่านทางเฟซบุ๊ก
 
เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 6 พ.ย.64 ตำรวจ สน.ลำผักชี และ กก.สส.บก.น.3 เข้าจับกุม นายอัครัช หรือแทน ภูสมศรี อายุ 24 ปี และ นายกีรติ หรือ บีม ใจประเสริฐ อายุ 24 ปี ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาลักลอบปลูกกัญชาส่งขายผ่านช่องทางออนไลน์
 
พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.ลำผักชี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองราย มีการเปิดขายต้นกัญชาผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยได้เปิดขายมาแล้ว 2-3 วัน จึงทำการล่อซื้อต้นกัญชาจำนวน 2 ต้น ในราคาต้นละ 350 บาท ก่อนจะนัดรับของที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง กระทั่งเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนขยายผลมายังคอนโดดังกล่าว ที่ห้องพักชั้น 12 พบว่าถูกใช้เป็นสถานที่เพาะกัญชา จำนวนทั้งสิ้น 16 ต้น โดยมีการติดตั้งเครื่องทำความชื้น รวมถึงเครื่องดูดกลิ่นกัญชาเพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการทำปุ๋ยน้ำหมัก และสูตรสำหรับดูแลกัญชาติดไว้บนผนังห้องไว้อีกด้วย
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ทั้งสองคนรับว่า หลังจากเรียนจบก็ยังไม่มีงานทำ และเงินไม่พอใช้ จึงหันมาปลูกกัญชาโดยใช้เมล็ดพันธุ์จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งสั่งซื้อภายในประเทศไทย มาเพาะจนกระทั่งเริ่มโตเป็นต้น ก่อนจะลงขายผ่านทางเฟซบุ๊ก เริ่มทำเป็นครั้งแรก ก่อนจะถูกตำรวจจับกุมในที่สุด
 
ด้าน พ.ต.ท.พฤทธิพงศ์ พรหมเต็ม รอง ผกก.สส.บก.น.3 หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 เปิดเผยว่า นอกจากนี้ตำรวจยังขยายผลไปที่ห้องพักอีกแห่งของผู้ต้องหา พบกัญชาอัดแท่งจำนวนหนึ่ง จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนี้จะขยายผลต่อเนื่องว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
ทั้งนี้อยากจะฝากถึงประชาชนให้ศึกษากรณีการปลูกต้นกัญชา จะต้องรวมตัวกันเป็นรัฐวิสาหกิจชุมชนก่อนจึงจะไปขออนุญาตเพาะปลูกได้ ซึ่งกรณีนี้ไม่เข้าข่ายการขออนุญาต และมีการส่งขายผ่านออนไลน์เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
 
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันผลิตยาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่