รู้สึกว่า "บุคลากร" ในที่นี้ คือ ผู้กำกับ และ คนเขียนบทนะ คือสิ่งที่วงการหนังบ้านเราดูจะขาดแคลน รุ่นเก่า ถ้าไม่หาย ก็แลจะเสื่อมมนต์ขลัง ส่วนรุ่นใหม่ก็เหมือนจะยังไม่ค่อยมี
พูดไปก็เหมือนจะดี การปั้นบุคลากร ถ้าไม่พูดถึงตลาดคนดู และทิศทางหนังที่เป็นกรอบให้นายทุน หรือขั้นตอนกระบวนการปลุกปั้นที่ต้องเสียเวลา เสียอะไรไปอย่างมาก มันก็นับเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับวงการหนัง และทุก ๆ วงการ ไม่ว่าแวดวงอาชีพใด ทว่าวงการหนังบ้านเรานั้นดูจะไม่มีพื้นที่สำหรับการมีบุคลากรมาก ๆ เพราะเมื่อมีมากก็จะกลายเป็นล้นไป เนื่องด้วยอุตสาหกรรมหนังซบเซามากในช่วงนี้ อีกทั้งยังไม่โต อย่าง เกาหลี อเมริกา ที่เขาขายได้ในระดับอินเตอร์มากกว่า วงการหนังบ้านเราก็อย่างที่รู้ ๆ ต้องใช้ใจสูงมาก ถ้าไม่มีใจ อยู่ไม่ได้นาน
วงการหนังบ้านเรา ณ ตอนนี้ต้องการบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีทั้งความสามารถ และใจให้กับหนังไทยเต็มร้อยมาก ๆ มาก ๆ เลย ที่จะมาช่วยทำให้วงการหนังแปลกใหม่ มีสีสันกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งก็ต้องเจอนายทุนที่ใจดีให้เขาเปล่งประกายความมีสีสันของเขาด้วย ก็ได้แต่ขอวานให้นายทุนที่ได้กำไรจากหนังตลาด เปิดโอกาสให้คนเหล่านี้บ้างนะ ๆๆๆ
นอกจากบุคลากร ตอนนี้ก็เฝ้าฝันที่จะมีบุคลากรรุ่นใหม่ หรือจะรุ่นเก่าคืนฟอร์ม หวนวงการก็ได้ ที่กลับมาพลิกทำให้หนังไทยกลับมาคึกคักอย่างเมื่อคราว 2499 นางนาก เมื่อวงการหนังไทยกระเตื้องขึ้นมาได้ ในระดับที่ไม่ต้องเป็นอย่างยุคมิตร เพชรา อรัญญา สมบัติ จารุณี ทูน สรพงษ์ จินตหรา สันติสุข อะไรพวกนี้หรอก เอาแค่เรียกศรัทธากลับมา
เมื่อนั้นมองว่าหลักการปั้นบุคลากรก็ใช้ได้ผลยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อวงการหนังกลับมากระเตื้อง คนทำหนังก็สามารถลืมตาอ้าปากกันได้ ส่งผลให้มีทั้งหนังและบุคลากรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเพิ่มพูนจากของเดิมที่มีอยู่
ฤาถึงเวลาแล้วที่วงการหนังไทยจะต้องปั้นบุคลากรขึ้นมาใหม่ครั้งมโหฬาร
พูดไปก็เหมือนจะดี การปั้นบุคลากร ถ้าไม่พูดถึงตลาดคนดู และทิศทางหนังที่เป็นกรอบให้นายทุน หรือขั้นตอนกระบวนการปลุกปั้นที่ต้องเสียเวลา เสียอะไรไปอย่างมาก มันก็นับเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับวงการหนัง และทุก ๆ วงการ ไม่ว่าแวดวงอาชีพใด ทว่าวงการหนังบ้านเรานั้นดูจะไม่มีพื้นที่สำหรับการมีบุคลากรมาก ๆ เพราะเมื่อมีมากก็จะกลายเป็นล้นไป เนื่องด้วยอุตสาหกรรมหนังซบเซามากในช่วงนี้ อีกทั้งยังไม่โต อย่าง เกาหลี อเมริกา ที่เขาขายได้ในระดับอินเตอร์มากกว่า วงการหนังบ้านเราก็อย่างที่รู้ ๆ ต้องใช้ใจสูงมาก ถ้าไม่มีใจ อยู่ไม่ได้นาน
วงการหนังบ้านเรา ณ ตอนนี้ต้องการบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีทั้งความสามารถ และใจให้กับหนังไทยเต็มร้อยมาก ๆ มาก ๆ เลย ที่จะมาช่วยทำให้วงการหนังแปลกใหม่ มีสีสันกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งก็ต้องเจอนายทุนที่ใจดีให้เขาเปล่งประกายความมีสีสันของเขาด้วย ก็ได้แต่ขอวานให้นายทุนที่ได้กำไรจากหนังตลาด เปิดโอกาสให้คนเหล่านี้บ้างนะ ๆๆๆ
นอกจากบุคลากร ตอนนี้ก็เฝ้าฝันที่จะมีบุคลากรรุ่นใหม่ หรือจะรุ่นเก่าคืนฟอร์ม หวนวงการก็ได้ ที่กลับมาพลิกทำให้หนังไทยกลับมาคึกคักอย่างเมื่อคราว 2499 นางนาก เมื่อวงการหนังไทยกระเตื้องขึ้นมาได้ ในระดับที่ไม่ต้องเป็นอย่างยุคมิตร เพชรา อรัญญา สมบัติ จารุณี ทูน สรพงษ์ จินตหรา สันติสุข อะไรพวกนี้หรอก เอาแค่เรียกศรัทธากลับมา
เมื่อนั้นมองว่าหลักการปั้นบุคลากรก็ใช้ได้ผลยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อวงการหนังกลับมากระเตื้อง คนทำหนังก็สามารถลืมตาอ้าปากกันได้ ส่งผลให้มีทั้งหนังและบุคลากรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเพิ่มพูนจากของเดิมที่มีอยู่