“โควิดยังไม่หาย แต่ลูกเปิดเทอมแล้ว ทำไงดี?”
* เตรียมให้พร้อมก่อนลูกกลับไปเรียนอีกครั้ง หลังเรียนออนไลน์มานาน
* ทำอย่างไรดี เมื่อลูกติดเกม?
* วิธีสังเกตว่าลูกมีภาวะสมาธิสั้น
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเรียนผ่านไปแล้ว 1 ภาคเรียน ที่เด็กๆต้องเรียนแบบไม่ได้ไปโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบ Online คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเหนื่อยหรือเครียดกับการกำกับให้ลูกๆ เรียน Online และช่วยลูกทำงานส่งคุณครู
เด็กๆหลายคนก็เริ่มอยากไปโรงเรียนเจอเพื่อนๆ กันแล้ว แต่เรายังไม่ทราบว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นอย่างไรแต่จากที่ติดตามข่าวก็มีแนวโน้มจะต้องเรียนทั้ง Online สลับกับ Onsite (เรียนที่โรงเรียน) ดังนั้นถ้าเราเตรียมพร้อมกับรูปแบบการเรียน New Normal ใหม่ที่จะถึงนี้เทอมหน้าก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้นสำหรับน้องๆและคุณพ่อคุณแม่
ในเทอมที่ผ่านๆ มาการเรียน Online จะเป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบรับข้อมูลโดยจะมีความยากในการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติและนำไปประยุกต์ใช้ซึ่งจะส่งผลให้ความทรงจำในสิ่งที่เรียนรู้เกิดได้ดีกว่า
ประสบการณ์ที่เราได้จากการเรียน Online มีหลายหน่วยงานเก็บรวบรวมข้อมูลพบว่ามีผลกับสุขภาพเช่นสายตาจากที่ต้องมองจอนานๆปวดเมื่อยหลังและกล้ามเนื้อกิจกรรมการเคลื่อนไหวออกกำลังกายน้อยลงบางคนก็รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาหรืออยู่บ้านก็ทานทั้งวันจนน้ำหนักขึ้นและทางด้านจิตใจในเด็กทุกๆ วัยต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนซึ่งเป็นการเรียนรู้ของพัฒนาการทางสังคมที่ควรมีตามวัยลดลงเด็กบางคนรู้สึกเบื่อที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมจำเจนอกจากนี้งานที่ต้องทำส่งก็มีมากจนเด็กบางคนเกิดความเครียด
ดังนั้นการที่จะช่วยให้เด็กๆ เรียน Online ได้อย่างมีประสิทธิภาพคุณแม่คุณพ่อจะต้องช่วยกำกับดูแลอย่างมากบางท่านก็จะสังเกตเห็นว่าทั้งที่มีคนช่วยดูและไม่มีสิ่งเร้ามากเท่าอยู่ในห้องเรียนเด็กบางคนก็ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองให้อยู่กับบทเรียนให้เหมาะสมตามวัยได้เมื่อเทียบกับเพื่อนก็ไม่สามารถคงสมาธิสนใจเนื้อหาที่เรียนได้เท่าเด็กคนอื่น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมบนจอยุกยิกหาอะไรเล่นทำแทนการเรียนตลอด
“โควิดยังไม่หาย แต่ลูกเปิดเทอมแล้ว ทำไงดี?”
“โควิดยังไม่หาย แต่ลูกเปิดเทอมแล้ว ทำไงดี?”
* เตรียมให้พร้อมก่อนลูกกลับไปเรียนอีกครั้ง หลังเรียนออนไลน์มานาน
* ทำอย่างไรดี เมื่อลูกติดเกม?
* วิธีสังเกตว่าลูกมีภาวะสมาธิสั้น
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยเรียนผ่านไปแล้ว 1 ภาคเรียน ที่เด็กๆต้องเรียนแบบไม่ได้ไปโรงเรียนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบ Online คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเหนื่อยหรือเครียดกับการกำกับให้ลูกๆ เรียน Online และช่วยลูกทำงานส่งคุณครู
เด็กๆหลายคนก็เริ่มอยากไปโรงเรียนเจอเพื่อนๆ กันแล้ว แต่เรายังไม่ทราบว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นอย่างไรแต่จากที่ติดตามข่าวก็มีแนวโน้มจะต้องเรียนทั้ง Online สลับกับ Onsite (เรียนที่โรงเรียน) ดังนั้นถ้าเราเตรียมพร้อมกับรูปแบบการเรียน New Normal ใหม่ที่จะถึงนี้เทอมหน้าก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้นสำหรับน้องๆและคุณพ่อคุณแม่
ในเทอมที่ผ่านๆ มาการเรียน Online จะเป็นรูปแบบการเรียนรู้แบบรับข้อมูลโดยจะมีความยากในการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติและนำไปประยุกต์ใช้ซึ่งจะส่งผลให้ความทรงจำในสิ่งที่เรียนรู้เกิดได้ดีกว่า
ประสบการณ์ที่เราได้จากการเรียน Online มีหลายหน่วยงานเก็บรวบรวมข้อมูลพบว่ามีผลกับสุขภาพเช่นสายตาจากที่ต้องมองจอนานๆปวดเมื่อยหลังและกล้ามเนื้อกิจกรรมการเคลื่อนไหวออกกำลังกายน้อยลงบางคนก็รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาหรืออยู่บ้านก็ทานทั้งวันจนน้ำหนักขึ้นและทางด้านจิตใจในเด็กทุกๆ วัยต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนซึ่งเป็นการเรียนรู้ของพัฒนาการทางสังคมที่ควรมีตามวัยลดลงเด็กบางคนรู้สึกเบื่อที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมจำเจนอกจากนี้งานที่ต้องทำส่งก็มีมากจนเด็กบางคนเกิดความเครียด
ดังนั้นการที่จะช่วยให้เด็กๆ เรียน Online ได้อย่างมีประสิทธิภาพคุณแม่คุณพ่อจะต้องช่วยกำกับดูแลอย่างมากบางท่านก็จะสังเกตเห็นว่าทั้งที่มีคนช่วยดูและไม่มีสิ่งเร้ามากเท่าอยู่ในห้องเรียนเด็กบางคนก็ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองให้อยู่กับบทเรียนให้เหมาะสมตามวัยได้เมื่อเทียบกับเพื่อนก็ไม่สามารถคงสมาธิสนใจเนื้อหาที่เรียนได้เท่าเด็กคนอื่น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะเห็นว่าลูกมีพฤติกรรมบนจอยุกยิกหาอะไรเล่นทำแทนการเรียนตลอด