[CR] ทริปปลายฝนต้นหนาว ต.ค. 2021 ซ้อนมอเตอร์ไซค์ท้าลมฝนลุยสวนดอกไม้แม่ริม farmstay เชียงดาว เมืองคอง แล้วย้อนกลับเชียงใหม่

เมื่อสายการบินเปิดให้เที่ยวบินขึ้นเหนือได้ ทริปที่เราจองไว้ตั้งแต่ต้นปี 2021 เพื่อให้ได้ราคาโปรโมชั่นไฟล์ทปลายฝนต้นหนาวในช่วง long weekend ของสายการบิน AirAsia ก็เป้นจริงในที่สุด
แอบลุ้นตลอดเวลาว่าจะเปิดให้บินไหม และเราฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มตามมาตรการพร้อมทั้งดูแลตัวเองอย่างดี อุปกรณ์พร้อม หาข้อมูลพร้อม แล้วก็เตรียมลุย


แพลนของทริปนี้
- Flight บินจากดอนเมือง 8.00 น. ไปถีงสนามบินเชียงใหม่ 9.15
- รับรถเช่าที่จองไว้ให้มาส่งที่สนามบิน เป็นรถ yamaha N-MAX 155 cc.  แล้วขับเข้าที่พัก
- คืน 1 พักที่ Stay with Nimman ที่จองด้วยโปรฯ เราเที่ยวด้วยกัน 
- คืน 2 ไปพักที่เชียงดาว ที่พักเป็น homestay ชื่อ เล คอ ที
- คืน 3 พักที่เมืองคอง นอน homestay ชื่อ บ้านวังริมคอง โฮมสเตย์
- คืน 4 กลับมาพักที่ Stay with Nimman
- เดินทางกลับดอนเมืองด้วย flight  11.00 น.


ไม่ได้เดินทางด้วยเครื่องบินมานาน แอบตื่นเด้นเล็กๆ ปลายเดือนตุลาคม ฝนยังคงตกบ้างในบางวัน ทรรศนะวิสัยก็จะมีเมฆประปราย
เมื่อเราถึงสนามบิน รับรถที่เช่าจากร้าน Piggy rental ราคาดีงามสุดๆ เราเลือกเป็นรถที่ไซส์กลางๆเพื่อเดินทางกัน 2 คนแบบไม่เหนื่อยมาก ราคาเช่า 400 บาท/วัน

รับรถแล้วเอาของไปฝากที่โรงแรม Stay with nimman ราคาที่พักก็ดีมาก 5 ดาว แต่ใช้เราเที่ยวด้วยกันเราเลยจ่ายไปไม่ถึงพันเองอ่ะ
หิวมาก ควบรถกันไปทานอาหารเหนือ ราคาน่ารัก ที่ร้านเฮือนเพ็ญ ร้านประจำเมื่อมาเชียงใหม่

เวลาเหลือเพราะยังเช้าอยู่เลยจะแวะไปไหว้พระ ขอพรให้ทริปนี้แฮปปี้ และกลับไปรับทรัพย์ เราเลยตัดสินใจไปไหว้หลวงพ่อทันใจที่วัดดอยคำ
อากาศกำลังดี แดดไม่แรงไป ขับรถแบบชิลๆ รถไม่แน่นมากไม่เหมือนช่วงก่อน covid

พอออกมาจากวัดก็ประมาณเที่ยงกว่าเกือบจะบ่ายโมง รู้สึกว่าแดดกำลังแรงใช้ได้เลย ว่าจะแวะพักตามคาเฟ่แต่รู้สึกคนจะเยอะอยู่ แดดก็แรง เลยย้อนกลับเข้าที่พัก check-in งีบเอาแรง ตอนเย็นค่อยออกมาใหม่
ไม่ได้ถ่ายรูปที่พักมานะคะ เพราะคิดว่าคนรีวิวกันเยอะแล้ว ส่วนตัวชอบเรานะ ที่พักสะดวกสบาย เดินทางง่าย ใกล้ทุกสิ่ง เซเว่น ร้านอาหาร ร้านทำผม มีสระว่ายน้ำ มีทุกสิ่งรอบเชียว คนไม่มีรถเดินไปไหนๆสบาย มีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ใกล้ๆ แต่ที่จอดรถยนต์ถ้าช่วงเทศกาลอาจจะแอบแน่นแน่ๆ
ตกบ่ายแก่ๆ เราออกมาขี่รถสำรวจเมืองไปเรื่อยๆ ว่าจะเลือกนั่งร้านไหนดี เอาแบบคนไม่แน่น บรรยากาศดี วิวสวยๆ


สุดท้าย เลือกไม่ได้ค่ะ เลยขี่รถรับลมสบายๆ แล้วมาจบที่ร้านกาแฟตรงถนนช้างม่อยเก่า ที่ลืมถ่ายรูปมา
เพราะมัวแต่ไปถ่ายรูปกับร้านของสานๆ ที่อยู่ตรงข้าม และก็ช่วยอุดหนุนร้านค้าของสาน เพราะเราว่าช่วงนี้ร้านรวงเหล่านี้น่าจะขาดรายได้ไปพักใหญ่มากทีเดียว

ออกจากร้านกาแฟ เพราะได้กลิ่นฝน ขี่รถวนรอบๆตัวเมือง แล้วคิดว่าจะไปกินร้านไหนต่อดี จนสุดท้ายก็เลือกร้านประจำ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ที่มากี่เที่ยวก็ต้องหาเวลาไปกินที่นี่ ร้านสีนามิ หรือ tsunami sushi bar

กินอาหารจุ๊บจิ๊บๆ ไปไม่มาก เพราะคิดว่าวันนี้จะนอนเร็ว ถ้าอิ่มเกินไปกว่าจะย่อยคงดึกแหงๆ
ก่อนเข้าที่พัก แอบแวะมนต์นมสด ซะหน่อย ตั้งใจจะกินขนมปังช็อคฯ กับนมร้อนๆ ก่อนนอน บนชั้นดาดฟ้าโรงแรม คงจะได้ฟีลไม่น้อย
พอขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้า ที่นี่มีสระว่ายน้ำ เห็นแล้วอยากโดดลงว่ายเหลือเกิน ติดที่อากาศเย็นเล็กๆ และฝนเริ่มปรอย เราเลยต้องหิ้วขนมเข้าห้องพัก

Day 2 ตื่นเช้ามา แพลนของวันนี้คือจะไปพักที่เชียงดาว และพักกลางทางที่สวนดอกไม้แม่ริม แล้วกินผัดไทร้านอาละดินที่เค้าว่าเด็ดๆ ก่อนเข้าที่พัก
เช้านี้เลยตื่นมาฝากของกับโรงแรมไว้ในส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อให้สัมภาระเบาที่สุดและเราจะไปนอน homestay ใช้ชีวิตง่ายๆ กัน
เราเริ่มจากกินอาหารเช้า ร้านก๋วยจั๊บฟ้าธานี ร้านอร่อยย่านนิมมาน และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรมพอดี

รองท้องอิ่มแล้ว ก็เริ่มค่ะ ออกเดินทางกัน
แพลนของวันนี้คือ แวะไปถ่ายรูปกับสวนดอกไม้ที่มีหมอกปกคลุม ณ แม่ริม ที่ยิ่งยงสวนดอกไม้ แล้วแวะจิบกาแฟตอนสายๆ ก่อนจะดิ่งรถไปยังเชียงดาวเพื่อไปกินผัดไทอาละดิน และเข้าที่พัก
เดินทางกันค่ะ

ระยะทางจากที่พักไปยังยิ่งยงสวนดอกไม้ ประมาณ 40 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และเราแอบเอ้อระเหยแวะจอดถ่ายรูปเลยใช้เวลาเกินไปเล็กน้อย เราเลือกเดินทางเส้นเลาะริมเขาเพราะวันนี้เมฆครึ้มๆ อากาศน่าจะสดชื่น แต่ก็แอบเสี่ยงฝนเล็กๆ (แต่ทริปนี้เตรียมตัวมาดี พกเสื้อกันฝนแบบจริงจังพร้อมท้าฝนมากจร้า) เราทำความเร็วไม่ค่อยมาก ซึมซับอากาศดีๆ เห็นเมฆครึ้มๆอยู่เบื้องหน้า แต่พยายามมองแง่ดีว่าไม่ร้อนไม่เหนื่อย ชิลๆ

จอดแวะถ่ายรูปข้างทาง ด้วยวิวทุ่งนาเขียวๆสดๆ มาปลายฝนก็ดีตรงนี้แหล่ะ สดชื่นตลอดทาง แต่พอสตาร์ทรถมองไปข้างหน้า ฟ้าครึ้มมาก เห็นแล้วว่ามีฝนข้างหน้า คนขับถามเอางัยดี เราบอกลุยยยย เจอฝนก็รีบจอดเอาเสื้อใส่ บางทีไม่ลุยก็ไม่รู้ เพราะเราหวังมีฝนบ้างก็ดีหมอกจะได้ยังไม่จาง ถ้าฟ้าใสนี่สิ อาจจะไม่มีหมอกเลยก็ได้ 
และแล้วเหมือนสวรรค์โปรด ทางที่เราขึ้นไปฝนหายไปต่อหน้าทิ้งแค่ร่องรอยฝนชุ่มที่พื้น เจอละอองฝนเล็กๆบ้าง
เมื่อเรามาถึงยิ่งยงสวนดอกไม้ ทางขึ้นชันเล็กๆ เราเห็นหมอกปกคลุมสวนดอกไม้นี้อยู่ เลยรีบจอดรถ จ่ายค่าเข้าชมคนละ 50 บาท แล้วไปตะลุยถ่ายรูป


ลืมถ่ายวิวมาค่ะ ไม่ได้เตรียมมาทำรีวิว เลยมีพวกเราบังวิวบ้างนะคะ
เราถ่ายรูปได้สักพัก แดดก็ค่อยๆมาเยือน หมอกค่อยๆหายไป มองเวลาประมาณเกือบ 11 โมงแล้ว
ตอนนี้อยากหาอะไรรองท้อง เราเลยตัดสินใจไปไร่ mori natural farm เพื่อไปจิบชาบนสวนสวยๆ ฟีลญี่ปุ่นๆหน่อย
วิวระหว่างทางที่จะผ่านไปทางม่อนแจ่ม 


สายขนาดนี้แล้วหมอกยังสวยสดอยู่เลย
ขับมาเรื่อยๆ ตามทางม่อนแจ่ม ม่อนจ๊อด เราก็มาถึง farmstay น่ารักๆ วิวสวยอลังของ Mori natural farm ที่ๆเราตั้งใจอยากพักที่นี่ตั้งแต่ต้น แต่อยากคงคอนเซ็ปต์นอนแบบ homestay เลยวางแพลนจะมาจิบชาที่นี่


ตอนแรกที่มาถึง เห็นคนค่อนข้างเยอะเชียว ถ้าปกติเราคงเดินหนีไปเข้าร้านอื่น แต่พลังดึงดูดของวิว และการบริการของเจ้าของ farmstay ที่นี่ทำเอาเรารอได้ ค่อยๆรอที่นั่ง รอชิมชา ขนม ซึ่ง โอ้โห ดีอ่ะ ดีเกินคาดมากกกก เราสั่งชานมซากุระ คือกลิ่นหอม หวานนัวๆ ส่วนแฟนสั่งชาเขียว ก็รสดีแต่ออกขมนิดๆ ขนมก็ใช้ได้นะ บวกกับวิวสวยๆ ต้นไม้ดอกไม้ ที่บรรจงเลือกให้ดูเป็นสวนญี่ปุ่นแบบไม่ดูประดิษฐ์ทำให้รู้สึกรักวิวที่นี่จับใจ ถ้ามาช่วงบ่ายๆที่แดดร่ม หรือเช้าๆที่มีแดดอ่อนๆ น่าจะดีกว่านี้มากๆแน่ๆ
เราอำลาร้านและซื้อขนมปังกระเทียมเป็นเสบียงเผื่อคืนนี้หรือคืนต่อๆไป เกิดดึกๆออกไปหาอะไรไม่ได้ ถ้าหิวก็มีของรองท้อง

ออกเดินทางกันต่อค๊า มุ่งสู่เชียงดาวแบบจริงจัง ระยะทาง 76 กม. บนถนนทั้งเลาะชายเขา และถนนใหญ่ที่รถบรรทุกแล่นขนานตลอดทาง
เราใช้เวลาถึงเชียงดาว แบบไม่จอดเลย ประมาณชั่วโมงครึ่ง ด้วยความที่แดดไม่แรง ขับขี่สบายๆ เลยไปได้เรื่อยๆ
เราปักหมุดไปที่ร้านผัดไท อาละดิน พอไปถึงเกือบจะบ่าย3 แล้ว เราหาร้านไม่เจอ ไม่เห็นร้านอาหารแถวนั้น บวกกับไม่ได้อยู่ริมถนน ทำให้พวกเรางงๆ หาอยู่พักใหญ่จนตัดสินใจโทรหาร้าน ซึ่งสรุปว่าของหมดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ และเรามาถูกที่แล้ว เพียงแต่ร้านผัดไทนั้นอยู่ในบ้านของพี่เชฟเจ้าของร้าน และเมื่อของหมด ร้านก็เลยปิดรั้ว เราก็เลยงงๆว่าไหนคือร้านว๊า 555
ออกจากร้าน จะพุ่งตรงเข้าที่พัก แต่น้ำมันก็ดูแล้วเหลือขีดเดียว ลืมเติมขับกันเพลินเลยจร้า แต่จากตรงนี้ต้องขับกลับไปอีก 5 กม. ถึงจะมีปั๊ม
เราก็เลยตัดสินใจแวะกินก๋วยเตี๋ยวง่ายๆตรงทางเข้าที่พักเชียงดาว ซึ่งก็เป็นทางมุ่งตรงไปเมืองคองด้วยเช่นกัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยออกไปเติมน้ำมัน

เอ้ย ไม่อยากเชื่อ ร้านนี้ก๋วยเตี๋ยวอร่อยอ่ะ มีไก่-เนื้อ-หมู ตุ๋น และข้าวหลายเมนู ดูร้านนี้จะถูกใจคนท้องถิ่นอยู่ด้วย เพราะบ่ายแก่ๆแล้ว เหลือแค่ก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น เรานั่งกินไป ก็มีคนท้องถิ่นเข้ามาสั่งเรื่อยๆ

อิ่มแล้วก็เข้าที่พักกันค่ะ

มาถึงแล้ว เล คอ ที โฮมสเตย์ หรือ Le cor te ณ เชียงดาว ที่พักมี 2 แบบ แบบกางเต้นท์นอนภายในกระต็อบ ห้องน้ำรวม และแบบบ้านหลัง 
ของเราไปกัน 2 คน แต่กลัววันหยุดยาวคนจะเยอะๆหน่อยเลยจองที่พักแบบบ้านหลัง จะได้ใช้ห้องน้ำส่วนตัวได้
เราเลือกพักบ้านหลังนี้ค่ะ ชื่อบ้านยุ้ง ราคา 1,300 บาท จริงๆนอนได้ 4-5 คน เพราะในตัวห้องมีชั้นใต้หลังคานอนได้อีก 2 คน สบายๆ

เอาของเก็บ นั่งพักชิลๆ พอแสงหมด เราเลยตัดสินใจเดินเล่นถ่ายรูปที่พักไปเรื่อยๆค่ะ

และพอเริ่มเย็นแล้วจะได้ยินเสียงคนรอบๆข้างทำอาหารกินกัน และส่วนใหญ่เค้ามากันเป็นกลุ่มๆค่ะ
ส่วนเราสายชิลๆ ก็เลยออกไปหาร้านอาหารข้างนอกทาน
จนมาเจอร้านนี้ ร้านลับกลางป่า แห่งเชียงดาว The cave bar

ร้านดูไม่น่าเงียบเหงา มีครอบครัวฝรั่งนั่งทานอยู่โต๊ะนึง ร้านนี้มีเมนูตั้งแต่ อาหารไทย อีสาน ฝรั่ง และขอบอกอร่อยทุกเมนูจริงๆ
เรานั่งสักพัก ก็ชวนพี่เจ้าของร้านคุยกันถูกคอ ตกดึกๆ มีทั้งขาประจำชาวต่างชาติ และคนท้องที่มานั่งทานอาหาร สนุก อากาศดี จนนั่งถึงดึกเลย
ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่ - เชียงดาว - เมืองคอง - เชียงใหม่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่