ถ้าไม่นับโปรโมชั่น เท่าที่ส่องๆดู ราคาตั๋วหนังเรื่องนึง 200 บาทขึ้นไปทั้งนั้น (เก้าอี้ธรรมดา หนังไม่ฟอร์มยักษ์ พื้นที่ กทม.)
เลยเป็นข้ออ้างให้คนบางกลุ่ม อ้างว่าที่โหลดเถื่อนมาดูเพราะค่าตั๋วแพง ซึ่งก็เข้าใจเหตุผลได้ในระดับนึงเพราะเมื่อมองในมุมราคามันก็แพงจริงๆ แต่การโหลดเถื่อนมาดูเพราะค่าตั๋วแพงก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน
เลยคิดต่อไปว่า ถ้าสมมติตั๋วหนังลดราคาลงมาเหลือ 50 ถึง 70 บาท ทุกเรื่องทุกรอบ ไม่ชาร์จราคาเพิ่มด้วยแม้ว่าจะเป็นบล็อคบัสเตอร์
มันจะทำให้การโหลดเถื่อนลดจริงๆเหรอครับ
เพราะเมื่อมองตามความเป็นจริง แม้ว่าตั๋วหนังจะถูกดัมพ์ราคาลงมาถูกมากๆ แต่มันมีต้นทุนอื่นๆในการพาตัวเองไปดูหนัง เช่น ค่าเดินทาง ระยะเวลาที่เสียไปในการพาตัวเองจากจุดนึงเช่นบ้านไปห้างหรือโรงหนัง ซึ่งคนที่เต็มใจรับต้นทุนในส่วนนี้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ในขณะที่การโหลดเถื่อนทำให้ต้นทุนตรงนี้หายไปหมดเลย เพราะตัวเองไม่ต้องไปพาตัวเองจากจุดนึงเช่นบ้านไปห้างหรือโรงหนัง ทำให้ไม่เกิดต้นทุนใดๆ ยกเว้นค่าเน็ตรายเดือน ณ ที่พัก
การโหลดเถื่อนมาดู = คนโหลดมีต้นทุนในคอนเท้นท์เท่ากับ ศูนย์
ซึ่งในขณะเดียวกัน ผู้สร้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะได้รายรับเท่ากับ "ศูนย์" เช่นเดียวกัน ยิ่งโหลดเถื่อนเยอะแค่ไหนกระจายเป็นวงกว้างแค่ไหน จำนวนไฟล์หนังเถื่อนที่ถูกโหลดคูณด้วยรายรับที่เท่ากับศูนย์ สุดท้าย รายได้ของฝั่งผู้ผลิตก็จะยิ่งเท่ากับศูนย์อยู่ดี
ผมเลยไม่เข้าใจคนที่บอกว่า ถ้าการเมืองดี หรือถ้าตั๋วหนังลดราคา หรือถ้าเศรษฐกิจดี(ซึ่งมันไม่ดีมาจะสามสิบปีแล้วและก็เลิกหวังไปนานแล้วครับ) เดี๋ยวการโหลดเถื่อนมาดูก็จะลดลงไปเอง มันจะเกิดขึ้นได้จริงเหรอครับ? หรือมันเป็นแค่ข้ออ้างคลาสสิค เพราะไม่ใช่แค่คนรายได้น้อยที่ใช้ตรรกะนี้นะครับ คนฐานะปานกลางยันรายได้สูงหลายคนก็ใช้ตรรกะนี้และประพฤติเช่นเดียวกันนี้
ถ้าตั๋วหนังลดราคาลงมามากๆ จะทำให้การโหลดเถื่อนลดลงจริงเหรอครับ
เลยเป็นข้ออ้างให้คนบางกลุ่ม อ้างว่าที่โหลดเถื่อนมาดูเพราะค่าตั๋วแพง ซึ่งก็เข้าใจเหตุผลได้ในระดับนึงเพราะเมื่อมองในมุมราคามันก็แพงจริงๆ แต่การโหลดเถื่อนมาดูเพราะค่าตั๋วแพงก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเช่นเดียวกัน
เลยคิดต่อไปว่า ถ้าสมมติตั๋วหนังลดราคาลงมาเหลือ 50 ถึง 70 บาท ทุกเรื่องทุกรอบ ไม่ชาร์จราคาเพิ่มด้วยแม้ว่าจะเป็นบล็อคบัสเตอร์
มันจะทำให้การโหลดเถื่อนลดจริงๆเหรอครับ
เพราะเมื่อมองตามความเป็นจริง แม้ว่าตั๋วหนังจะถูกดัมพ์ราคาลงมาถูกมากๆ แต่มันมีต้นทุนอื่นๆในการพาตัวเองไปดูหนัง เช่น ค่าเดินทาง ระยะเวลาที่เสียไปในการพาตัวเองจากจุดนึงเช่นบ้านไปห้างหรือโรงหนัง ซึ่งคนที่เต็มใจรับต้นทุนในส่วนนี้ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ในขณะที่การโหลดเถื่อนทำให้ต้นทุนตรงนี้หายไปหมดเลย เพราะตัวเองไม่ต้องไปพาตัวเองจากจุดนึงเช่นบ้านไปห้างหรือโรงหนัง ทำให้ไม่เกิดต้นทุนใดๆ ยกเว้นค่าเน็ตรายเดือน ณ ที่พัก
การโหลดเถื่อนมาดู = คนโหลดมีต้นทุนในคอนเท้นท์เท่ากับ ศูนย์
ซึ่งในขณะเดียวกัน ผู้สร้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะได้รายรับเท่ากับ "ศูนย์" เช่นเดียวกัน ยิ่งโหลดเถื่อนเยอะแค่ไหนกระจายเป็นวงกว้างแค่ไหน จำนวนไฟล์หนังเถื่อนที่ถูกโหลดคูณด้วยรายรับที่เท่ากับศูนย์ สุดท้าย รายได้ของฝั่งผู้ผลิตก็จะยิ่งเท่ากับศูนย์อยู่ดี
ผมเลยไม่เข้าใจคนที่บอกว่า ถ้าการเมืองดี หรือถ้าตั๋วหนังลดราคา หรือถ้าเศรษฐกิจดี(ซึ่งมันไม่ดีมาจะสามสิบปีแล้วและก็เลิกหวังไปนานแล้วครับ) เดี๋ยวการโหลดเถื่อนมาดูก็จะลดลงไปเอง มันจะเกิดขึ้นได้จริงเหรอครับ? หรือมันเป็นแค่ข้ออ้างคลาสสิค เพราะไม่ใช่แค่คนรายได้น้อยที่ใช้ตรรกะนี้นะครับ คนฐานะปานกลางยันรายได้สูงหลายคนก็ใช้ตรรกะนี้และประพฤติเช่นเดียวกันนี้