ระวังกลโกงประกันสุขภาพสมัยนี้ หลอกให้ทำประกันแต่เคลมไม่ได้ จ่ายค่าเบี้ยฯ ทิ้งฟรีๆ

ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ที่ตัวเองเจอจากการทำประกันสุขภาพแบบไม่ตรวจสุขภาพก่อนทำ 
แต่ขอออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่ฝ่ายสินไหมหรือผู้เชี่ยวชาญนะคะ แค่อยากแชร์สิ่งที่ตัวเองเจอ เผื่อจะเป็นประโยชน์ค่ะ

ประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว จากประสบการณ์ของตัวเอง เวลาจะทำประกันสุขภาพ สมัยนั้น จะต้องทำประกันชีวิตหลัก และเพิ่มประกันสุขภาพพ่วงเข้ามา โดยทางบริษัทประกันจะต้องมีการให้ตรวจสุขภาพก่อน และทางบริษัทประกันจะมีการไปขอประวัติการรักษาจากทางโรงพยาบาลเอง 

ซึ่งถ้าเรามีการรักษาโรคอะไรมาก่อน จะหายขาดแล้ว หรืออาจเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังต่อไปในอนาคต ทางบริษัทประกันก็มีสิทธิ์พิจารณาที่จะไม่คุ้มครองโรคเหล่านั้น เรายอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับได้ก็จะออกเป็นการสลักหลังกรมธรรม์มาให้ หรือไม่รับทำประกันของเราเลยก็ได้ 

มาครั้งนี้ เราไปโรงพยาบาล และวิริยะประกันภัย มาตั้งบูธ เห็นมีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ขอให้ผู้ทำประกันชี้แจงว่าเคยมีประวัติการรักษาโรคอะไรมาก่อนบ้าง ฟังดูง่ายๆ สบายๆ 

ด้วยความด้อยประสบการณ์ของตัวเอง และข้อมูลที่หาส่วนใหญ่จะบอกว่าประกันตัวที่จะทำคุ้มค่าหรือไม่อย่างไร เราก็เลยตัดสินใจสมัครประกันสุขภาพกับ วิริยะประกันภัย แผนประกัน อุ่นใจรักษ์โกลด์ วงเงิน 5.0 ล้านบาท ตอนสมัคร ตัวแทนแนะนำเราว่า ให้บอกไปในใบสมัครว่าเราเคยผ่าตัดอะไรมาบ้าง แล้วมาทราบภายหลังว่าน้องตัวแทน เพิ่งมาทำงานไม่นาน ประสบการณ์ยังน้อยนิด เจ็บ

อันนี้คิดเองว่าการระบุเรื่องประวัติการผ่าตัดมันคือการรักษาแบบหนัก อันนี้เข้าใจได้ถ้าบริษัทประกันจะไม่คุ้มครอง แต่การรักษาแบบแค่พบแพทย์ กินยา เอาจริงๆ บางทีเราก็คิดไม่ออก ถ้าไม่ใช่โรคประจำตัวที่เรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง แบบนี้ 

กรณีของเราระบุไปเรื่องการผ่าตัดเนื้องอดมดลูก กับ ผ่าตัดกระดูกสันหลัง ซึ่งผลการพิจารณาการสมัครประกันสุขภาพของเราครั้งนี้ วิริยประกันภัย บอกว่า ยินดีรับประกันสุขภาพ ยกเว้น การคุ้มครอง 
1. การรักษาเนื้องอกและ/หรือ ถุงน้ำที่มดลูก และภาวะแทรกซ้อน
2. การรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
คือ เราก็พาซื่อ วิริยะประกันภัย บอกมาแค่นี้ เราก็ ok รับได้

ครั้งนี้ เราไปพบหมอกระดูกสันหลัง เพราะมีอาการปวดหลังอยู่ คุณหมอวิเคราะห์ไปมาอาจจะต้องผ่าตัดเชื่อมกระดูก SI Joint ทางโรงพยาบาลเลยส่งเรื่องสอบถามบริษัทประกันให้ก่อนว่าคุ้มครองหรือไม่ ผ่านไป 3 วัน ทางวิริยะประกันภัยโทรมาขอประวัติการรักษาตั้งแต่ต้นของเราหมดเลย......อ้าววววววว

เลยทราบข้อมูลจากโรงพยาบาล มาประมาณนี้ (อันนี้เป็นการพูดคุยเพื่อขอความรู้จากโรงพยาบาลที่ทำเรื่องเกี่ยวกับการเคลมประกันให้เรานะคะ)

1. ประกันที่บอกว่าไม่ตรวจสุขภาพก่อนทำ เมื่อเราเคลมครั้งแรก ทุกบริษัทประกันจะขอประวัติการรักษาทุกเคส ไม่ว่าจะแค่ให้ตรวจสอบสิทธิ์ตามกรมธรรม์ก่อนเข้ารับการรักษา หรือเคลมเมื่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแล้วก็ตาม และกว่าจะตอบกลับก็กินเวลาไปครึ่งวัน คนไข้ก็นอนรอไปค่ะ 

2. ถ้าประกันตรวจสอบ (เพิ่มเติมจากที่เราชี้แจงไปตอนสมัครตอนแรก) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์บริษัทประกันเลย ว่าจะเห็นควรแบบไหน

2.1 อาจจะให้คนไข้สำรองจ่ายไปก่อน แล้วส่งเคลมภายหลัง
      ดาว ซึ่งจากประสบการณ์ที่เคยเจอคือ ส่งเคลมภายหลังก็เคลมไม่ได้ค่ะ เหตุผลที่ให้คือเป็นวิธีการรักษาแบบใหม่ที่ยังไม่มีการรับรอง.....อันนี้ เราเลยโทรไปหาหมอที่ทำการรักษาเลยว่าบริษัทประกันแจ้งแบบนี้ ทางคุณหมอก็บอกว่าถ้าทางบริษัทประกันสงสัยต้องกลับมาถามโรงพยาบาล เราก็แจ้งบริษัทกลับไป ผ่านไปหลายวันเราก็ตรวจสอบไปทางโรงพยาบาล และพบว่าบริษัทประกันไม่ได้สอบถามอะไรไปทางโรงพยาบาลเพิ่มเติมเลย ทางตัวแทนก็ให้เราทำจดหมายชี้แจงเรื่องขอเคลมนี้กลับไปที่บริษัทประกันอีก แบบนี้คือเสียเวลามากๆ ทั้งเรื่องเอกสารที่ต้องทำ เรื่องประสานงานหลายฝ่ายทั้งโรงพยาบาล ตัวแทน และ call center ของประกัน แล้วยังต้องติดตามอีกหลายครั้งผ่าน call center ซึ่ง call center ได้แค่รับเรื่อง ตอบอะไรไม่ได้เลย

2.2 อาจจะไม่คุ้มครองเลย และออกสลักหลังมาให้เพิ่ม แต่ไม่ลดค่าเบี้ยประกัน เป็นภาระคนทำประกันเองที่จะไปฟ้องร้องเรียกหาความยุติธรรมกับ คปภ. หรือฟ้องศาลต่อไป

3. ถ้าทำประกันมานานแล้ว มากกว่า 5 ปีขึ้น หลายบริษัทประกันก็จะไม่ขอประวัติการรักษา เหมือนว่าคนไข้มีสุขภาพดีมาระยะหนึ่ง

เราเพิ่งเคยมีประสบการณ์การทำประกันแบบนี้ครั้งแรก เลยรู้สึกว่าเสียความรู้สึก และเหมือนโดนหลอกกลายๆ ให้ตกลงทำประกันไปก่อน ส่วนตอนเคลมค่อยว่ากัน เสียดายเงินค่าเบี้ยก็ไม่ใช่น้อยๆ ปีหน้าคงไม่ต่อประกันกับ วิริยะประกันภัย แล้วค่ะ 

เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า
1. ทำประกันกับบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีความมั่นคง
2. ทำประกันกับคนรู้จัก เพื่อความสะดวกในการสอบถามข้อมูล และติดต่อประสานงานต่างๆ 
3. อย่าไว้ใจในสิ่งที่บริษัทประกันบอกเราตอนที่เรายังไม่หลงสมัครและชำระค่าเบี้ยประกัน ตราบใดที่บริษัทประกันยังไม่ได้เงินเรา อะไรๆ ก็ดูดีไปหมด แต่พอได้เงินเราไปแล้ว หน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะ
4. จะหาข้อมูลให้เยอะๆ อ่าน pantip เยอะๆ และสอบถามให้มากๆ
5. แข็งแรงเข้าไว้ค่ะ ขออย่าได้เจ็บป่วยหนักเลย

ขอบคุณนะคะ ที่สละเวลาอ่าน หวังว่าประสบการณ์ของเราคงพอจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ ได้บ้าง
ดูแลตัวเองกันด้วยค่ะ 
อมยิ้ม04

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่