ภาพวาดผีเก่าแก่ที่สุดในโลกของชาวบาบิโลน

“ อย่ามองข้างหลังคุณ ”
 
ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์อังกฤษ
ได้ค้นพบภาพวาดผีที่เก่าแก่ที่สุดในในโลก
ที่รู้จักกันบนแผ่นจารึกโบราณ
ของชาวบาบิโลนอายุ 3,500 ปี
ซึ่งรวมถึงคำแนะนำในการขับไล่ผีที่ไม่ต้องการ

ภาพวาดบนแผ่นดินเหนียวแสดงให้เห็นว่า
ผีผู้ชายมีหนวดมีเครา มีหน้าตาดูไม่ค่อยพอใจ
เพราะถูกผู้หญิงคนหนึ่งจับมัดพามาที่ยมโลก
มีคำอธิบายถึงพิธีกรรมที่สลักไว้ข้างภาพ
ได้ระบุถึงวิธีแก้ไขปัญหา/การกำจัดผี
ผีตัวผู้ที่น่ารำคาญ คือ การมอบคนรักให้กับมัน

ขณะตรวจสอบแผ่นจารึกเกี่ยวกับผี
ในห้องนิรภัยของพิพิธภัณฑ์ 
British Museum
Irving Finkel ภัณฑารักษ์อาวุโส
แผนกตะวันออกลาง Middle East department
ได้ค้นพบภาพวาดนี้และแปลพิธีกรรมดังกล่าว
ตามรายงานข่าวของ  The Guardian
 
“ พิธีกรรมนี้ จะใช้ได้ผลกับผี
ผมคิดว่าในกรณีของผี
ที่เป็นคนในบ้านที่ดื้อรั้น
อาจเป็นดวงวิญญาณของ
คนในครอบครัวที่เล่นตลก
ทำให้คนในบ้านหลายคนตกอกตกใจ
และไม่ต้องการให้มันหลอกหลอนอีกต่อไป ”
Irving Finke ให้สัมภาษณ์กับ Livescience 
✲
✲

พิพิธภัณฑ์ British Museum
ได้รับแผ่นดินเหนียวมาในศตวรรษที่ 19 
พร้อมกับแผ่นดินเหนียวแผ่นอื่น ๆ
อีกหลายพันชิ้นจาก บาบิโลน  Babylon
เมืองโบราณที่อยู่ห่างจาก แบกแดด Baghdad
ไปทางใต้ราว 100 กิโลเมตร
ในประเทศ อิรัก Iraq ในปัจจุบัน

แผ่นจารึกนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกว่า
ชีวิตชาวบ้านในบาบิโลนอยู่กันอย่างไร
และทั่วทั้งภูมิภาคที่เรียกว่า เมโสโปเตเมีย  Mesopotamia

แผ่นดินเหนียวดังกล่าว
มีขนาดเล็กพอที่จะถือได้ในมือข้างเดียว
และข้อความอย่างน้อยหายไปครึ่งหนึ่ง
Irving Finkel มีความรู้ดีมากในการอ่าน
ข้อความรูปลิ่มของแผ่นดินเหนียว
ระบบการเขียนแบบโบราณในตะวันออกกลาง
บรรยายถึงพิธีกรรมเกี่ยวกับผี 
แต่ท่านยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างจริงจัง
จนกระทั่งท่านเริ่มทำการวิจัย/เขียนหนังสือ
" The First Ghosts " (Hodder & Stoughton) , 2021) 
ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2021
✲
✲


เมื่อท่านได้ทำการตรวจสอบ
แผ่นดินเหนียวอย่างใกล้ชิด
ท่านก็พบภาพวาดที่สวยงาม
ซึ่งแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
และระบุถึง ผีและผู้หญิงคนนั้นได้ 

" ตัวละครเหล่านี้
เหมือนเดินออกมาจากตำนาน
มันน่าตื่นเต้นมาก

เห็นได้ชัดว่าเป็นผีผู้ชาย
และดูน่าสังเวชมาก
คุณสามารถจินตนาการได้ว่า
ผีตัวสูงผอมมีหนวดมีเครา
เดินไปมาอยู่รอบบ้าน
ทำให้ผู้คนวิตกกังวลและกลัว
การวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย คือ
สิ่งที่ผีต้องการ คือ คนรัก
คุณอาจจะอดคิดไม่ได้
หรือจินตนาการว่า
เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้

โอ้พระเจ้า  ลุงเฮนรี่กลับมาแล้ว   
บางทีลุงเฮนรี่อาจเสียภรรยาไปสามคนแล้ว
สิ่งที่ทุกคนรู้ดีคือ วิธีกำจัดคนเฒ่าคนแก่(ผี)
คือ ให้ผีแต่งงานกับผี
ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันที่จะอ่านเรื่องนี้ 
นี่เป็นข้อความที่ชัดเจน
เป็นงานเขียนคุณภาพสูง
และงานเขียนที่ไร้ที่ติ

(ธรรมเนียมจีนกับไทยบางแห่งในอดีตก็มี 
การให้คนตายแต่งงานกับคนตายด้วยกัน
มีพิธีหมั้น ขอขันหมาก และแต่งงานกัน)

การที่ใครสักคนคิดว่า
พวกเขาสามารถกำจัดผีได้
ด้วยการให้เพื่อนข้างเตียงนั้น
เป็นเรื่องตลกดี " 
Irving Finkel กล่าวสรุป

Irving Finkel คือ ผู้ชำนาญระดับโลก
เกี่ยวกับตัวอักษรคิวนิฟอร์ม Cuneiform
ซึ่งเป็นระบบการเขียนที่ใช้กัน
ในตะวันออกกลางโบราณ

ท่านตระหนักว่า แผ่นดินเหนียวได้รับ
การถอดรหัสอย่างไม่ถูกต้องก่อนหน้านี้
ภาพวาดนี้พลาดไป เพราะ ผีจะฟื้นคืนชีพ
เมื่อมองจากด้านบนและภายใต้แสงไฟเท่านั้น
ทำให้ภาพนี้ถูกลืมไปตั้งแต่ถูกซื้อมา
โดยพิพิธภัณฑ์ในศตวรรษที่ 19
และแผ่นดินเหนียวแผ่นนี้
ไม่เคยมีการจัดแสดงมาก่อนเลย
บอกเล่าเรื่องราวการค้นพบ
อันน่าสยดสยองของท่าน
ใน The First Ghosts
✲
✲

" คุณอาจไม่เคยคิดมาก่อนเลย
เพราะพื้นที่ที่ภาพวาดดูเหมือนไม่มีการเขียน
แต่เมื่อคุณตรวจสอบ และถือมันไว้ใต้ตะเกียง
ภาพเหล่านั้น จะพุ่งเข้าหาคุณ
อย่างข้ามกาลเวลามา อย่างน่าตกใจที่สุด
มันเป็นวัตถุ Guinness Book of Records
เพราะไม่มีใครสามารถวาดรูปผีที่เก่ากว่านี้ได้ 

แม้ว่าแผ่นดินเหนียวจะหายไปครึ่งหนึ่ง
และแผ่นนี้จะมีมีขนาดเล็ก
พอที่จะวางในมือของคนได้
แต่ด้านหลังก็มีข้อความมากมาย
พร้อมคำแนะนำในการไล่ผี จับตัวมันไว้
และไล่ตามมัน จนไม่สามารถหลุดพ้นได้

พิธีกรรมเกี่ยวข้องกับ
การทำตุ๊กตาชายและหญิง
ให้แต่งตัวผู้ชายในชุดประจำวัน
และจัดเตรียมเสบียงการเดินทางให้
ใส่เสื้อผ้าผู้หญิงคนนั้น
ด้วยเสื้อผ้าสีแดง 4 ตัว
และห่มเธอด้วยผ้าสีม่วง
มอบเข็มกลัดทองคำให้กับเธอ 
จัดเตียง เก้าอี้ เสื่อ ผ้าขนหนู
ให้เธออย่างเต็มที่ 
มอบหวีและกระติกน้ำให้กับเธอด้วย

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นสู่ขอบฟ้าตอนเช้า
ต้องเตรียมทำพิธี
และจัดถังเบียร์คาร์เนเลียนสองใบ
วางภาชนะพิเศษ
วางกระถางต้นไม้ต้นสนชนิดหนึ่ง
ให้วาดม่านเหมือน ของหมอผี
[ใส่] รูปปั้นพร้อมกับอุปกรณ์ของผี 
และวางไว้ในตำแหน่ง…
แล้วพูดดังนี้ Shamash
[ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์
และผู้พิพากษาแห่งยมโลกในตอนกลางคืน ]
ข้อความลงท้ายด้วยคำเตือน
อย่ามองข้างหลังคุณ

นี่ไม่ใช่พิธีกรรมเชิงสัญลักษณ์ 
แต่เป็นพิธีกรรมอย่างแท้จริง
หมอผีตั้งใจที่จะย้ายผีเข้าไปในตุ๊กตา
เพื่อที่ผีจะได้ไปให้พ้น พร้อมกับพร Shamash
บรรทัดสุดท้ายของพิธีกรรม
เตือนว่า อย่ามองข้างหลังคุณ
เชื่อว่าคำเตือนนี้มีขึ้นสำหรับรูปปั้น
เมื่อพวกผีเข้าสู่นรก แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า
บางทีข้อความอาจหมายถึง หมอผี
ขณะที่หมอผีทิ้งรูปตุ๊กตาเอาไว้

แผ่นดินเหนียวแผ่นนี้
น่าจะมาจากห้องสมุดของหมอผี หรือโบสถ์
คนวาดต้องเป็นช่างฝีมือระดับเทพ 
จึงจะสร้างภาพวาดที่หายากมาก
เพราะแผ่นดินเหนียวที่ยังอ่อนนุ่ม
ค่อนข้างยากมาในการวาดภาพ
และคนวาดต้องใช้ทักษะอย่างมากเช่นกัน "
Irving Finkel  กล่าว

Irving Finkel หวังว่าหนังสือเล่มใหม่ของท่าน
จะส่องแสงเกี่ยวกับ เมโสโปเตเมีย
ในเรื่องประวัติศาสตร์ผี
และเน้นว่าวัฒนธรรมเมโสโปเตเมียโบราณ
ที่สามารถจะเข้าถึงได้อย่างไรในปัจจุบัน

" ผู้คนที่ออกมาจากหน้าบันทึก/ตำนาน
ดูไม่เหมือนสิ่งก่อสร้างของพิพิธภัณฑ์
พวกเขาไม่เหมือนคนแปลกหน้าจากดาวดวงอื่น
พวกเขาดูเหมือนคนที่เรารู้จักกันทั่วไป

ผู้คนในทุกวันนี้จะรับรู้ถึงความกลัว
ความสงสัย และพิธีกรรมของพวกเขา
สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดรวมกัน
เป็นภาพที่เราคุ้นเคยมาก
ในแง่ของมนุษยชาติภายใต้ภาพนั้น
ก็เหมือนกับมนุษยชาติในทุกวันนี้ (ต่างกลัวผี) "
Irving Finkel  กล่าว

ท่านยอมรับกับตนเองว่า ท่านไม่เคยเห็นผี
แม้แต่ในห้องใต้ดินที่ร่มรื่นของ British Museum
จะเต็มไปด้วยผี  เพราะในห้องสมุดของกษัตริย์
มีคนมากกว่าหนึ่งคน ที่เห็นศีรษะ/ไหล่เคลื่อนที่
ไปตามความสูงได้อย่างน่าแปลกประหลาด
แต่นั่นถูกปฏิเสธโดยผู้คลางแคลงสงสัย

แต่ปรากฎว่า พื้นเดิมใต้พื้นดินปัจจุบันนั้น
ต่ำจริง  ๆ ซึ่งหมายความว่า เรื่องนี้ถูกต้อง
(ผีต้องปีนขึ้นมาจากชั้นดินเดิมตามความเคยชิน)

ท่านหวังว่า
การจัดแสดงแผ่นจารึกของชาวบาบิโลน
โดยตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้
ทำให้เราใกล้ชิดกับบรรพบุรุษของเรามากขึ้น

“ ความกลัว ความอ่อนแอ
และลักษณะเฉพาะทั้งหมดนี้
ที่ทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีความน่าดึงดูดใจ
ปรากฏอย่างแน่นอนเมื่อ 3,500 ปีก่อน

ผมต้องการให้ ผู้คนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมนี้
อียิปต์ติดอับดับหนังผี ในฮอลลีวูดเสมอ
หากโลกใต้พิภพของชาวบาบิโลน
มีลักษณะตามที่อธิบายไว้ 
แสดงว่า พวกมันทั้งหมดยังคงอยู่ที่นั่น
ดังนั้นจงจำไว้เถิด (ว่าเรื่องผีมีมานานแล้ว) ”
Irving Finkel  สรุป
✲

เรียบเรียง/ที่มา
✲

https://bit.ly/3B7UQYs
https://bit.ly/3jvz22V

✲
ในปี 1614
สำนัก Vatican คริตศาสนานิกายโรมันคาทอลิค
ได้ประกาศเรื่องเกี่ยวกับผีและการไล่ผี
และปรับปรุงใหม่ในปี  1999
(According to the U.S. Conference of Catholic Bishops)
สัญญาณของการครอบงำของปีศาจ
รวมถึงความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ 
การเกลียดชังน้ำมนต์ และความสามารถ
ในการพูดในภาษาที่ไม่รู้จัก
สัญญาณที่อาจเป็นไปได้อื่น ๆ
ของการถูกปีศาจครอบงำ
ได้แก่ การถ่มน้ำลาย การสาปแช่ง
และ  การช่วยตัวเองมากเกินไป

ที่มา  https://bit.ly/2XJ9ibI
✲



ในไทยก็มีพิธีกรรมปั้นตัวตุ๊กตาเซ่นไหว้ผี
จริง ๆ ไม่มีการเสียกบาล ต่อยหัวทิ้งแต่อย่างใด
เพราะมักจะวางไว้แถวสามแพร่ง
ที่โคจรของคน สัตว์พาหนะ
โอกาสเหยียบย่ำทำลายจึงมีมากกว่า
คำไทยโบราณ กระบาน คือ
เครื่องเซ่นไหว้ อย่างหนึ่ง
ไม่ได้หมายถึงกบาล
ที่แปลว่า หัวของคนแต่อย่างใด

© ตุ๊กตา “เสียกบาล” หรือ “เสียกระบาน” แบบไหนที่ใช้เซ่นผี

ความเชื่อเรื่องผี คุณไสย คนไทยมีมานานแล้ว
มักจะมีคำพังเพยในวงการนี้ว่า
ลาวทำ ไทยแก้ ไทยทำ เขมรแก้ เขมรทำ แขกแก้
แบบไล่สายครูบาอาจารย์ไปยังที่มาไสยเวท
ถ้าไปไกลกว่านั้น คงต้องไปแถวเทือกเขาหิมาลัย
ดินแดนต้นกำเนิด เทพ อสูร คนธรรม์ ฯลฯ
ของคนแถบอุษาอาคเนย์แถวนี้

สำนักตักศิลาไสยเวทของภาคใต้ คือ
วัดเขาอ้อ ที่ควนขนุน พัทลุง
เจ้าสำนักรุ่นแรกก็เป็น ฤาษีแขกพราหมณ์
ก่อนที่จะแปลงเป็นวัดพุทธในภายหลัง
ที่โด่งดังมากคือ ในสมัยรัชกาลที่ 1
พระมหาช่วย วัดป่าเลไลย์ ศิษย์วัดเขาอ้อ
ได้ช่วยพระยาพัทลุง(ขุน) ในการยันทัพพม่าได้
โดยใช้คาถาอาคมสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้าน
หลังสงครามสงบ
รัชกาลที่ 1 โปรดให้พระมหาช่วย
ลาสิกขาบทมาเป็นผู้ช่วยพระยาพัทลุง(ขุน)
ในตำแหน่ง พระยาทุกขราษฏร์ (วีรบุรุษพัทลุง)
มีอนุสาวรีย์ท่าน ที่สามแยกท่ามิหรำ พัทลุง

เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อในอดีตใช้ชื่อ
นอโม(นะโม) หรือ ทอง นำหน้าชื่อ
หลายรุ่นมากตามตำนาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็น
การเรียกขานชื่อแบบทุกวันนี้ก็หลังยุค พระอาจารย์ทองเฒ่า
เกจิอาจารย์สายเขาอ้อ เช่น
วัดเขาอัอ พระอาจารย์ปาน ปาลธัมโม
วัดดอนศาลา พระอาจารย์เอียด พระอาจารย์ศรีเงิน
พระอาจารย์นำ ชินวโร(แก้วจันทร์) พระครูกาชาด
วัดบ้านสวน พระอาจารย์คง
วัดปากสระ พระอาจารย์ดิษฐ์ ดิสสโร
ตำรวจกับโจร
ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์)
เสือ กลับ คำทอง (ตรัง) คู่ปรับศิษย์พี่ศิษย์น้องในตำนาน
ทั้งคู่ก็เรียนวิชาไสยเวท จากวัดเขาอ้อ