***อาจจะยาวหน่อยนะคะ***
เราอายุ 40 แล้ว เพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน เราเป็นคนรักเด็ก อยากมีลูก แต่มีปัญหามีบุตรยาก เมื่อ 3 ปีที่แล้วเคยทำ IUI (ฉีดน้ำเชื้อ) มีครั้งนึง ผลออกมาว่าท้อง แต่ตอนหลังไข่ฟ่อ (ท้องลม) เราร้องไห้เสียใจมาก สุดท้ายจึงตัดสินใจทำ ICSI (เด็กหลอดแก้ว) ในที่สุดเราก็ท้อง เราดีใจมาก จะได้มีลูกแล้ว
ช่วงท้องเราได้แต่คิด อยากคลอด อยากเห็นหน้าลูก คิดว่าจะเลี้ยงอย่างนั้น อย่างนี้ มีแต่เรื่องคิดบวก ไม่มีความกังวลอะไรเลย
ถึงตอนคลอดลูกออกมาจริง ๆ ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เราก็เลี้ยงลูกปกติ ไม่มีอาการอะไร แต่พอเข้าสัปดาห์ที่ 3 ลูกเราเริ่มเลี้ยงยาก กลางคืนไม่นอน ร้องไห้ งอแง เราก็เครียด ได้แต่คิดว่า ไม่น่ามีลูกเลย เราเหนื่อยกับเลี้ยงลูกมาก เราพูดกับแม่ ว่าเราไม่น่าไปทำลูกเลย อยู่เฉยๆ ก็ดีแล้ว แม่เราก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าเดี๋ยวเด็กก็โต เดี๋ยวก็น่ารัก เราก็อดทน ปกติแม่เราก็ช่วยเลี้ยงลูกอยู่แล้ว ทีนี้ พอเห็นอาการเราเหนื่อย ตอนกลางคืนแม่เลยมานอนด้วย เพื่อช่วยเลี้ยงหลาน ลูกเราตอนกลางคืนจะตื่นทุก 2 ชั่วโมงเลย เราก็เลยได้แต่คิดว่า ถ้าไม่มีลูก ชีวิตคงสบายเหมือนเมื่อก่อน ได้นอนหลับ ได้พักผ่อน วันหยุดได้ตื่นสายๆ
ผ่านมา ตอนนี้ลูกเราได้ 2 เดือนแล้ว เริ่มเลี้ยงง่ายขึ้นกว่าเดิม แล้วเราก็กลับมาทำงาน แม่เลี้ยงลูกให้เราตอนกลางวัน ตอนเย็นเราเลิกงานกลับไป เราก็เลี้ยงลูกเหมือนเดิม ตามปกติ // อะไรๆ ก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ความรู้สึก ความคิดเรา แทนที่มันจะดีขึ้นตาม แต่มันกลับดำดิ่งไปในทางลบ
เวลาที่เราทำงาน เราได้แต่คิดว่า ถ้าเราไม่มีลูก เวลาที่เราทำงานไม่เสร็จ อยากอยู่ทำต่อหลัง 5 โมงเย็นก็อยู่ได้เลย หรือบางครั้งเมื่อเราเลิกงาน อยากไปเดินเล่น อยากไปซื้อของก็ไปได้ แต่พอตอนนี้ เรากลับต้องรีบกลับบ้านไปเลี้ยงลูก // เวลาวันหยุด ถ้าเป็นแม่คนอื่น เขาคงคิดว่า วันหยุดได้อยู่บ้านเลี้ยงลูกดีจัง แต่ในใจเรากลับคิดว่า ถ้าไม่มีลูก วันหยุด เราคงได้ไปไหนต่อไหนแล้ว // เรื่องค่าใช้จ่ายเหมือนกัน บ้านเราไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่เรากลับคิดว่า เงินที่ต้องจ่ายค่านม ค่าแพมเพิท มันก็หลายบาท ถ้าไม่มีลูก เงินพวกนี้เราคงเอาไปทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ
และที่หนักสุดในตอนนี้ คือ เวลาที่มองหน้าลูก ถ้าเป็นแม่คนอื่นเขาคงนึกถึงแต่เรื่องดี ๆ // แต่เรากลับคิดในใจว่า ทำยังไงจะให้ลูกไม่มีชีวิตอยู่ จะได้จบๆ ไปซะ หรือแม้แต่ตัวเราเอง อยากจะตายๆ ไปซะ จะได้จบ คิดกระทั่งว่าถ้าเราจะฆ่าตัวตาย เราต้องเอาลูกไปด้วย เราจะไม่ทิ้งลูกไว้ให้เป็นภาระคนอื่น ตอนเย็นกลับบ้านไป ในหัวเรามีแต่ภาพ ที่คิดไปว่าตัวเองจะตายด้วยวิธีไหน ผูกคอตายตรงนั้น ตรงนี้
สามีเราก็ช่วยเลี้ยงลูกตามปกติ บางครั้งเราก็บ่นๆ ว่าเหนื่อย เขาก็ได้แต่ปลอบใจเราว่า เดี๋ยวลูกก็โต เดี๋ยวก็น่ารัก เราก็เลยไม่กล้าบ่นเยอะ // บางทีเราก็สงสารสามีเราเหมือนกัน เพราะเราเหนื่อย เราก็จะหงุดหงิดง่าย เขาทำอะไรก็ไม่ถูกใจเราไปหมด เดี๋ยวนี้เวลานอน ก็จะตัวใครตัวมัน สามีเห็นเราหงุดหงิด ก็ไม่อยากเข้าใกล้ เราเองเมื่อเวลาเหนื่อย ๆ ก็จะนอนเฉยๆ ไม่พูดไม่จา
ทุกอย่างมันดูแย่ไปหมด เราพยายามอดทน ไม่อยากให้ความคิดพวกนี้มันอยู่ในหัว // ย้อนคิดไปว่า เมื่อก่อนไม่มีลูก ก็อยากมี แต่พอมีแล้ว ทำไมเราไม่รักลูก ทำไมเราไม่มีความสุข ชีวิตมันแย่ไปหมด ทำไมเราเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ // คนอื่นที่เขาแย่กว่าเรา เขายังเลี้ยงลูกได้อย่างมีความสุข บางคนเขาลำบากกว่าเรา แต่ยังมีลูก 2-3 คน เขาก็ยังเลี้ยงได้ เรานี่แค่ลูกเดียว ทำไมเราดูแลไม่ได้เลย
ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ อีกนานมั้ยคะ กว่าความรู้สึกแบบนี้ มันจะหายไป // กลัวว่าสักวันนึง ตัวเองจะไม่ได้แค่คิดอย่างเดียว
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ขอพื้นที่ระบาย > กำลังเผชิญภาวะซึมเศร้า หลังคลอด ทำไงดี
เราอายุ 40 แล้ว เพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน เราเป็นคนรักเด็ก อยากมีลูก แต่มีปัญหามีบุตรยาก เมื่อ 3 ปีที่แล้วเคยทำ IUI (ฉีดน้ำเชื้อ) มีครั้งนึง ผลออกมาว่าท้อง แต่ตอนหลังไข่ฟ่อ (ท้องลม) เราร้องไห้เสียใจมาก สุดท้ายจึงตัดสินใจทำ ICSI (เด็กหลอดแก้ว) ในที่สุดเราก็ท้อง เราดีใจมาก จะได้มีลูกแล้ว
ช่วงท้องเราได้แต่คิด อยากคลอด อยากเห็นหน้าลูก คิดว่าจะเลี้ยงอย่างนั้น อย่างนี้ มีแต่เรื่องคิดบวก ไม่มีความกังวลอะไรเลย
ถึงตอนคลอดลูกออกมาจริง ๆ ช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เราก็เลี้ยงลูกปกติ ไม่มีอาการอะไร แต่พอเข้าสัปดาห์ที่ 3 ลูกเราเริ่มเลี้ยงยาก กลางคืนไม่นอน ร้องไห้ งอแง เราก็เครียด ได้แต่คิดว่า ไม่น่ามีลูกเลย เราเหนื่อยกับเลี้ยงลูกมาก เราพูดกับแม่ ว่าเราไม่น่าไปทำลูกเลย อยู่เฉยๆ ก็ดีแล้ว แม่เราก็ได้แต่ปลอบใจ ว่าเดี๋ยวเด็กก็โต เดี๋ยวก็น่ารัก เราก็อดทน ปกติแม่เราก็ช่วยเลี้ยงลูกอยู่แล้ว ทีนี้ พอเห็นอาการเราเหนื่อย ตอนกลางคืนแม่เลยมานอนด้วย เพื่อช่วยเลี้ยงหลาน ลูกเราตอนกลางคืนจะตื่นทุก 2 ชั่วโมงเลย เราก็เลยได้แต่คิดว่า ถ้าไม่มีลูก ชีวิตคงสบายเหมือนเมื่อก่อน ได้นอนหลับ ได้พักผ่อน วันหยุดได้ตื่นสายๆ
ผ่านมา ตอนนี้ลูกเราได้ 2 เดือนแล้ว เริ่มเลี้ยงง่ายขึ้นกว่าเดิม แล้วเราก็กลับมาทำงาน แม่เลี้ยงลูกให้เราตอนกลางวัน ตอนเย็นเราเลิกงานกลับไป เราก็เลี้ยงลูกเหมือนเดิม ตามปกติ // อะไรๆ ก็เหมือนจะดีขึ้น แต่ความรู้สึก ความคิดเรา แทนที่มันจะดีขึ้นตาม แต่มันกลับดำดิ่งไปในทางลบ
เวลาที่เราทำงาน เราได้แต่คิดว่า ถ้าเราไม่มีลูก เวลาที่เราทำงานไม่เสร็จ อยากอยู่ทำต่อหลัง 5 โมงเย็นก็อยู่ได้เลย หรือบางครั้งเมื่อเราเลิกงาน อยากไปเดินเล่น อยากไปซื้อของก็ไปได้ แต่พอตอนนี้ เรากลับต้องรีบกลับบ้านไปเลี้ยงลูก // เวลาวันหยุด ถ้าเป็นแม่คนอื่น เขาคงคิดว่า วันหยุดได้อยู่บ้านเลี้ยงลูกดีจัง แต่ในใจเรากลับคิดว่า ถ้าไม่มีลูก วันหยุด เราคงได้ไปไหนต่อไหนแล้ว // เรื่องค่าใช้จ่ายเหมือนกัน บ้านเราไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่เรากลับคิดว่า เงินที่ต้องจ่ายค่านม ค่าแพมเพิท มันก็หลายบาท ถ้าไม่มีลูก เงินพวกนี้เราคงเอาไปทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ
และที่หนักสุดในตอนนี้ คือ เวลาที่มองหน้าลูก ถ้าเป็นแม่คนอื่นเขาคงนึกถึงแต่เรื่องดี ๆ // แต่เรากลับคิดในใจว่า ทำยังไงจะให้ลูกไม่มีชีวิตอยู่ จะได้จบๆ ไปซะ หรือแม้แต่ตัวเราเอง อยากจะตายๆ ไปซะ จะได้จบ คิดกระทั่งว่าถ้าเราจะฆ่าตัวตาย เราต้องเอาลูกไปด้วย เราจะไม่ทิ้งลูกไว้ให้เป็นภาระคนอื่น ตอนเย็นกลับบ้านไป ในหัวเรามีแต่ภาพ ที่คิดไปว่าตัวเองจะตายด้วยวิธีไหน ผูกคอตายตรงนั้น ตรงนี้
สามีเราก็ช่วยเลี้ยงลูกตามปกติ บางครั้งเราก็บ่นๆ ว่าเหนื่อย เขาก็ได้แต่ปลอบใจเราว่า เดี๋ยวลูกก็โต เดี๋ยวก็น่ารัก เราก็เลยไม่กล้าบ่นเยอะ // บางทีเราก็สงสารสามีเราเหมือนกัน เพราะเราเหนื่อย เราก็จะหงุดหงิดง่าย เขาทำอะไรก็ไม่ถูกใจเราไปหมด เดี๋ยวนี้เวลานอน ก็จะตัวใครตัวมัน สามีเห็นเราหงุดหงิด ก็ไม่อยากเข้าใกล้ เราเองเมื่อเวลาเหนื่อย ๆ ก็จะนอนเฉยๆ ไม่พูดไม่จา
ทุกอย่างมันดูแย่ไปหมด เราพยายามอดทน ไม่อยากให้ความคิดพวกนี้มันอยู่ในหัว // ย้อนคิดไปว่า เมื่อก่อนไม่มีลูก ก็อยากมี แต่พอมีแล้ว ทำไมเราไม่รักลูก ทำไมเราไม่มีความสุข ชีวิตมันแย่ไปหมด ทำไมเราเป็นแม่ที่ดีไม่ได้ // คนอื่นที่เขาแย่กว่าเรา เขายังเลี้ยงลูกได้อย่างมีความสุข บางคนเขาลำบากกว่าเรา แต่ยังมีลูก 2-3 คน เขาก็ยังเลี้ยงได้ เรานี่แค่ลูกเดียว ทำไมเราดูแลไม่ได้เลย
ใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ อีกนานมั้ยคะ กว่าความรู้สึกแบบนี้ มันจะหายไป // กลัวว่าสักวันนึง ตัวเองจะไม่ได้แค่คิดอย่างเดียว
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ