สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอพูดถึงตัวเองนิดนึงนะคะ เราเรียนจบมหาวิทยาลัยมาแล้วเกือบ 3 ปีค่ะแล้วตอนที่เราเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ปี 2 เอาเป็นโรคจอประสาทตาหลุดลอก แต่เราเป็นคนที่สายตาสั้นตั้งแต่กำเนิดน่าจะมาจากกรรมพันธุ์ด้วยแหละค่ะเพราะพี่ๆเราก็สายตาสั้นเหมือนกัน
เรารู้จักแฟนและได้คบกันตอนเรียนปี 1 ค่ะเขาเป็นคนที่ดูแลเราดีมากช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเป็นที่พึ่งให้กันเวลาทุกข์ใจ เราสองคนมีอะไรที่คล้ายกันและมกชอบอะไรเหมือนกันแม่เราก็เสียตั้งแต่เราอายุได้ 3 ขวบ แล้วพ่อก็แต่งงานใหม่ บ้านเขาก็เหมือนกับเราเลยค่ะ
ทำให้เราเข้าใจซึ่งกันและกัน
ตอนนี้ก็คบกันมา 6 ปีกว่าแล้ว เขาก็ไปมาหาสู่เราปกติค่ะ แต่พอมาช่วงนี้บ้านเราก็คุยกับเขาส่วนตัวค่ะว่าอยากให้หมั้นหมายกันไว้ก่อนจะได้ไม่โดนชาวบ้านเขานินทา (เราอยู่บ้านนอกค่ะก็คงเป็นปกติที่จะโดนว่า แต่ทำอะไรก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดค่ะ)
ขอตัดมาที่การรักษาเกี่ยวกับอาการของเราต่อนะคะ
เรารักษาอาการนี้เข้าพบหมอตามนัดตลอดตั้งแต่เรียนปี 2 จนถึงปัจจุบัน4 ปีเกือบ 5 ปีได้แล้วค่ะผ่าตัดตาทั้งสองข้างรวมกันก็เกือบ 10 ครั้งได้
โดยรักษาใช้น้ำมันซิลิโคนเข้าไปด่านจอประสาทตา ผ่าตัดเอาต้อกระจกออก ผ่าตัดการใส่เลนส์ตาเทียม
***และในปีนี้เราก็ได้ผ่าตัดจอประสาทตาลอกข้างซ้ายอีกแล้วค่ะ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตในการทำงานของเราแต่เราเองก็ยังจับจุดไม่ได้ว่าควรจะทำงานอะไรดี??? ***
ที่ผ่านมาก็พยายามเรียนรู้กับอะไรใหม่ๆฝันว่าตัวเองจะเจอสิ่งที่ตัวเองถนัดแต่ก็ยังรู้สึกว่าปัญหาเรื่องการมองเห็นมันขัดขวางการใช้ชีวิตในการทำงานมาก
เพราะคิดถึงตัวเองจะนอนแล้วก็ไม่อยากที่จะเป็นภาระให้แฟน ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว
เรารักแฟนมากค่ะแล้วก็อยากใช้ชีวิตคู่กับเขาด้วย
ในวันนี้เราเลยเปิดใจคุยกับเขาเกี่ยวกับอาการที่เราเป็นที่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นไหมแล้วมันจะมีผลในระยะยาวกลับมาใช้ชีวิตของเราไหม
แต่สิ่งที่เราคิดอยู่ก็คือ เราไม่อยากเป็นภาระให้กับเขา ไม่อยากให้เขาต้องมากังวลในการที่จะสร้างครอบครัวไปด้วยกันพวกเรารู้ดีว่าเขาต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัวของเขาด้วย
เราเลยถามไปว่าไปอยู่กับคนอื่นไหมคนที่พร้อมจะดูแลเราก็สร้างครอบครัวที่ตัวอยากให้เป็นแบบไม่ต้องมากังวลเรื่องเขาที่เป็นแบบนี้
พอเราพูดจบเราก็ถามแฟนนะว่าเธอคิดยังไงกับเรื่องนี้ เขาก็ต่อว่า "ก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกันว่าจะดูแลเราได้ดีไหม จะต้องเหนื่อยคนเดียวหรือเปล่า จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันรอดไหมเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากในการตัดสินใจ"
และอีกอย่างเรากับเเฟนก็ยังไม่เคยได้ลองใช้ชีวิตเรียนรู้กันมากกว่านี้เลย
พอฟังแบบนี้เราก็แอบคิดนะคะว่าแฟนเราเหมือนไม่คิดที่จะใช้ชีวิตคู่กับเราเลย จากความไม่มั่นใจของเขา
ถ้าเป็นแบบนี้ทุกคนคิดว่าเราควรที่ช้าออกมาใช้ชีวิตคนเดียวหรือคุยกับแฟนในเรื่องการใช้ชีวิตด้วยการในอนาคตอีกครั้งดีคะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าเราหายทำให้เข้าใจยากไปหน่อย
ยังไงก็ comment อยู่นะคะขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ
การที่เรายังไม่มีจุดหมายในอนาคต แต่ที่บ้านเราอยากให้หมั้นกับแฟนไว้ก่อน
เรารู้จักแฟนและได้คบกันตอนเรียนปี 1 ค่ะเขาเป็นคนที่ดูแลเราดีมากช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเป็นที่พึ่งให้กันเวลาทุกข์ใจ เราสองคนมีอะไรที่คล้ายกันและมกชอบอะไรเหมือนกันแม่เราก็เสียตั้งแต่เราอายุได้ 3 ขวบ แล้วพ่อก็แต่งงานใหม่ บ้านเขาก็เหมือนกับเราเลยค่ะ
ทำให้เราเข้าใจซึ่งกันและกัน
ตอนนี้ก็คบกันมา 6 ปีกว่าแล้ว เขาก็ไปมาหาสู่เราปกติค่ะ แต่พอมาช่วงนี้บ้านเราก็คุยกับเขาส่วนตัวค่ะว่าอยากให้หมั้นหมายกันไว้ก่อนจะได้ไม่โดนชาวบ้านเขานินทา (เราอยู่บ้านนอกค่ะก็คงเป็นปกติที่จะโดนว่า แต่ทำอะไรก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ตลอดค่ะ)
ขอตัดมาที่การรักษาเกี่ยวกับอาการของเราต่อนะคะ
เรารักษาอาการนี้เข้าพบหมอตามนัดตลอดตั้งแต่เรียนปี 2 จนถึงปัจจุบัน4 ปีเกือบ 5 ปีได้แล้วค่ะผ่าตัดตาทั้งสองข้างรวมกันก็เกือบ 10 ครั้งได้
โดยรักษาใช้น้ำมันซิลิโคนเข้าไปด่านจอประสาทตา ผ่าตัดเอาต้อกระจกออก ผ่าตัดการใส่เลนส์ตาเทียม
***และในปีนี้เราก็ได้ผ่าตัดจอประสาทตาลอกข้างซ้ายอีกแล้วค่ะ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตในการทำงานของเราแต่เราเองก็ยังจับจุดไม่ได้ว่าควรจะทำงานอะไรดี??? ***
ที่ผ่านมาก็พยายามเรียนรู้กับอะไรใหม่ๆฝันว่าตัวเองจะเจอสิ่งที่ตัวเองถนัดแต่ก็ยังรู้สึกว่าปัญหาเรื่องการมองเห็นมันขัดขวางการใช้ชีวิตในการทำงานมาก
เพราะคิดถึงตัวเองจะนอนแล้วก็ไม่อยากที่จะเป็นภาระให้แฟน ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว
เรารักแฟนมากค่ะแล้วก็อยากใช้ชีวิตคู่กับเขาด้วย
ในวันนี้เราเลยเปิดใจคุยกับเขาเกี่ยวกับอาการที่เราเป็นที่เราเองก็ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นไหมแล้วมันจะมีผลในระยะยาวกลับมาใช้ชีวิตของเราไหม
แต่สิ่งที่เราคิดอยู่ก็คือ เราไม่อยากเป็นภาระให้กับเขา ไม่อยากให้เขาต้องมากังวลในการที่จะสร้างครอบครัวไปด้วยกันพวกเรารู้ดีว่าเขาต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัวของเขาด้วย
เราเลยถามไปว่าไปอยู่กับคนอื่นไหมคนที่พร้อมจะดูแลเราก็สร้างครอบครัวที่ตัวอยากให้เป็นแบบไม่ต้องมากังวลเรื่องเขาที่เป็นแบบนี้
พอเราพูดจบเราก็ถามแฟนนะว่าเธอคิดยังไงกับเรื่องนี้ เขาก็ต่อว่า "ก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกันว่าจะดูแลเราได้ดีไหม จะต้องเหนื่อยคนเดียวหรือเปล่า จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันรอดไหมเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ยากในการตัดสินใจ"
และอีกอย่างเรากับเเฟนก็ยังไม่เคยได้ลองใช้ชีวิตเรียนรู้กันมากกว่านี้เลย
พอฟังแบบนี้เราก็แอบคิดนะคะว่าแฟนเราเหมือนไม่คิดที่จะใช้ชีวิตคู่กับเราเลย จากความไม่มั่นใจของเขา
ถ้าเป็นแบบนี้ทุกคนคิดว่าเราควรที่ช้าออกมาใช้ชีวิตคนเดียวหรือคุยกับแฟนในเรื่องการใช้ชีวิตด้วยการในอนาคตอีกครั้งดีคะ
ต้องขอโทษด้วยนะคะถ้าเราหายทำให้เข้าใจยากไปหน่อย
ยังไงก็ comment อยู่นะคะขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ