[SR] รีวิว vivo X70 PRO 5G จัดเต็ม MTK DIMENSITY 1200 จอ 120Hz กล้องเทพ ZEISS Co-Engineered !


 
vivo ได้เปิดตัว X70 Series ได้ไม่นานในตลาดเมืองจีน และ แน่นอนว่าในไทยเองก็ลุยตลาดแบบทันทีครับสำหรับรุ่นเทพของค่ายในซีรีย์ X ที่มาพร้อมกับรุ่น X70 และ X70 Pro ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นที่หลายๆคนให้ความสนใจโดยเฉพาะคนที่รักการถ่ายรูปต่างๆ เพราะว่ารุ่นนี้ได้มีการพัฒนากันอย่างต่อเรื่องร่วมกับทาง ZEISS ที่จะเน้นไปทางกล้องจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปวิวหรือแม้แต่ถ่าย Portrait ซึ่งมีทั้งการช่วยในเรื่อง Hardware ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบหน้าเลนส์ และ Software ที่จะทำให้การเบลอฉากหลังนั้นเนียนและสวยโดยอิงจากเลนส์จริงๆด้วยเช่นกันครับ และแน่นอนว่าสเปกส่วนอื่นๆนั้นก็พัฒนาขึ้นทั้งการชาร์จ 44W รวมถึง หน้าตาระบบ UI ต่างๆพัฒนาใหม่ขึ้นด้วย
 

 

 
vivo X70 Pro 5G ใช้ชิบประมวลผล Dimensity 1200 ของ MediaTek ARM G77 MC9 / ชิบประมวลผล Exynos 1080 5nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G78 มาพร้อมกับ RAM 12 GB  LPDDR4X  และ STORAGE 256 GB  (UFS 3.1)   จัดเต็ม พร้อมกับ หน้าจอ AMOLED ขอบโค้งขนาด 6.56 นิ้ว (2376×1080พิกเซล) Full HD+, 19.8:9, รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz  ทางด้านของกล้อง vivo ได้จับมือกับ Zeiss ในการพัฒนา มีกล้องหลังจำนวน 4 ตัวประกอบด้วย กล้องตัวหลัก 50MP + กล้อง ultra-wide 12MP + กล้อง telephoto + กล้อง 8MP ที่ซูมแบบ optical ได้ 5x และแน่นอนว่ามีฟีเจอร์การถ่ายเยอะมากๆ และที่โดดเด่น การถ่าย Portrait ลูกเล่นเลนส์คลาสสิกของ ZEISS ไม่ว่าจะเป็น Distagon, Planar, Sonnar และ Biotar และเอฟเฟกต์เลนส์ Zeiss  กล้องหน้า 32MP (f/2.45) มาพร้อมกับ แบตเตอรี่  X70 Pro รองรับชาร์จเร็ว 44W และมีความจุ  4,500mAh ถือว่าพัฒนาขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า รวมถึงฝาหลังการออกแบบเลนส์กล้องใหม่ถือว่าสวยลงตัว
 
vivo X70 5G ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Mediatek Dimensity 1200  พร้อม GPU Mali-G77 MC9MC4 RAM (LPDDR4x)  8GB / 12GB และ STORAGE (UFS 3.1) 128GB / 256GB หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2376 x 1080) ขนาด 6.56 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี HDR10+ รีเฟรชเรท 120Hz มีกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลักเซนเซอร์ IMX766V ความละเอียด 40MP (f/1.89) + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 12MP (f/2.2) และกล้อง Telephoto ความละเอียด 12MP (f/1.98) ที่ซูมแบบ Optical 2x พร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ 32MP (f/2.45) X70 5G ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยคุณภาพกล้อง Gimbal แบบ Ultra-Sensing และอัลกอริธึมขั้นสูง ให้ได้ภาพวิดีโอที่สว่างและชัดเจนในสภาพแวดล้อมกลางคืนที่มืด พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4400 mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 44W อีกทั้งยังได้รับการรับรอง SGS Eye Care Display และ SGS Seamless เปิดโลกทัศน์ใหม่ เพลิดเพลินกับการใช้หน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนและสบายตา
 

 

 
PRICE
 
- VIVO X70 PRO 5G เปิดตัวมาพร้อมกับ ราคา 27,999 บาท  ในความจุ 256GB RAM 12GB 
- VIVO X70 5G เปิดตัวมาพร้อมกับ ราคา 21,999 บาท  ในความจุ 128GB RAM 8GB 
 

 

 
UNBOX 
 
ตัวกล่องยังคงมีความสวยพรีเมี่ยมและออกแบบได้ดีครับเมื่อเปิดเข้ามาข้างในจะเห็นการเขียนชื่อรุ่นพร้อมระบบกันสั่นให้เข้ามาด้านในพร้อมกับตัวเครื่องวางสวยๆอยู่ด้านในเป็นกล่องที่สวยงามและใส่ใจมากๆตัวนึงในคู่แข่งด้วยกันส่วนอุปกรณ์เองนั้นให้มาครบๆทั้ง หูฟัง ตัวแปลง ที่ชาร์จ และ สายครบพร้อมใช้งานรวมถึงตัวเคสใสแบบพลาสติกแข็ง
 
- ตัวเครื่อง vivo X70Pro 5G
- เคสใสแข็ง vivo X70Pro 5G
- ที่ชาร์จ USB-A รองรับชาร์จไว 44W
- สาย USB-C
- หูฟัง IN-EAR 3.5 มม.
- ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม.
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
 

 

 

 
ที่ชาร์จนั้นยังคงให้มาพร้อมกับชาร์จไว vivo Flashcharge ที่ 44W ครับแน่นอนว่าเหลือๆในการใช้งานทั่วไปแล้ว พร้อมกับหัวแบบ USB-A ส่วนทางด้านหูฟังเองนั้นเป็นแบบ IN-EAR พรีเมี่ยมพร้อมกับสายแบบ 3.5 มม. รวมถึงให้ตัวแปลง USB-C ไป 3.5 มม. เสริมเข้ามาให้ แม้จะตัดรูหูฟังไปแต่ก็ให้อุปกรณ์มาครบๆเลยแหละ ส่วนเคสนั้นเป็นแบบนิ่มแล้ว TPU บอกเลยว่าปกป้องได้ดีกว่าแบบแข็งในรุ่น X60 Pro พอสมควรครับและเรียบๆเน้นใช้งานได้ดีมาก
 

 
DESIGN 
 
งานออกแบบเรียบหรู พัฒนาต่อยอดจากเดิมได้ดีพร้อมกับเลนส์ขนาดใหญ่และแน่นอนว่ามีโลโก้ ZEISS โดดเด่นเข้ามาให้มุมซ้ายบนของเครื่อง ทั้งนี้สีต่างๆมีการออกแบบใหม่ทั้งหมดจะมาพร้อมกับ สีดำ Cosmic Black ที่สื่อถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาล และเป็นวัสดุคล้ายกับหนังดุดันสวยงาม และ สีที่รีวิว Aurora Dawn คล้ายกับ แสงออโรร่าบนท้องฟ้าในช่วงเวลารุ่งอรุณ ซึ่งในรุ่นนี้ถือว่ามีความบางแค่ 8.08 และ หนัก 184 กรัมเท่านั้น และยังได้หน้าจอขอบโค้งเต็มตาแน่นอนว่าสวยและทำให้การจับถือนั้นถนัดมือและดูภาพเต็มตามากกว่าจอปกติ แต่สำหรับใครอาจจะไม่ถนัดจอโค้งก็มีตัวเลือก X70 อีกรุ่นที่หน้าจอจะไม่โค้งเท่าก็ถือว่าจัดเข้ามาให้ทั้ง 2 รุ่นสำหรับการขายในประเทศไทยด้วย
 

 
หน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว ใช้งานหน้าจอแบบ AMOLED ที่มี Refresh Rate 120 Hz, Touch Sampling Rate ที่ 240Hz รองรับสีสันแบบ HDR10+ ในความละเอียด FHD+ ครับ รวมถึงการออกแบบขอบหน้าจอกระจกแบบ 3D โค้งลงเยอะในด้านข้างทั้ง 2 สวยงามและพรีเมี่ยม และ ใช้งาน E5 AMOLED ที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ
 

 
ขอบด้านล่างยังคงเป็นการควบคุมมาตรฐานที่สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอได้รวมถึงขอบข้างๆโค้งลงไปทำให้ขอบบางขั้นเต็มตามากกว่าเดิม ส่วนขอบล่างก็ทำพื้นที่ได้ดีครับ สวยงามและเนียนไปกับหน้าจอได้กำลังสวยเลยแหละ
 

 
ขอบด้านบนนั้นเราจะเห็นว่าบางมากๆบางกว่าขอบล่าง แต่ยังใส่ทั้งลำโพง เซนเซอร์ และกล้องหน้ามาให้ครบๆส่วนนี้และกล้องหน้าให้มามากถึง 32MP ในขนาดเล็ก แต่คุณภาพไม่ธรรมดาเลยแหละครับ แต่น่าเสียดายเป็นลำโพงเดี่ยว
 

 
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นเลยว่าฝาหลัง และหน้าจอโค้งเข้าหากันแบบสมมาตรทั้งหมดทำให้การจับถือนั้นมีการโค้งรับมือได้ดี แต่ก็มีข้อเสียในการระวังหรือการจับถืออาจจะโดนขอบจอได้ง่ายขึ้นนั้นเอง มาพร้อมกับปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ปุ่ม Power ที่รองรับการใช้งานได้สบายๆมีการเปลี่ยนเซาะร่องเล็กน้อยในปุ่มเปิดปิดให้จับได้แตกต่างกัน
 

 
ขอบเครื่องทางด้านซ้ายนั้นเรียบๆไม่มีปุ่มหรือถาดซิมอะไรครับเราจะเห็นแค่ ขีดเสาสัญญาณเท่านั้นและการโค้งลงมาของฝาหลัง และกระจกหน้าจอ ส่วนกล้องหลังนั้นนูนกำลังดีไม่ได้เด่นมากนักและปกป้องได้กำลังดีไม่เกะกะมากเกินไป
 

 
ขอบฐานด้านบนนั้นจะมีการใส่วัสดุสีเงาคล้ายกับฝาหลังเข้ามาพร้อมกับรูไมค์ตัดเสียง และ ตรงกลางเครื่องเขียนว่า PROFESSIONAL PHOTOGRAPHY ด้วยนะถือว่าแปลกตาดีเหมือนกันครับ มีลูกเล่นเล็กๆน้อยในส่วนขอบบนนี้
 

 

 
ฐานเครื่องเราจะเห็นลำโพงหลักพร้อมกับ เส้นเสาสัญญาณเพราะว่าตัวขอบนั้นเป็นอลูมิเนียมทั้งหมดแข็งแรงขึ้นรูปสวยงามมีการเว้าเล็กน้อยให้มีมิติครับ ส่วนรู USB-C เป็น 2.0 พร้อมกับรูไมค์หลัก และ ถาดซิมแบบ Dual SIM
 

 
ฝาหลังมีการใช้งานแบบด้านและเล่นพื้นผิวแบบใหม่สวยงามแถมยังใช้งานสี  Aurora Dawn แสงออโรร่าบนท้องฟ้าในช่วงเวลารุ่งอรุณ ซึ่งในไทยเองนั้นจะมี 2 โทนเข้มกับสีที่รีวิวซึ่งแตกต่างกันแล้วแต่ความชอบรวมถึงวัสดุฝาหลังก็จะแตกต่างกันด้วยเช่นกัน จุดเปลี่ยนถ้ามองเทียบกับรุ่นก่อนจะเป็นเรื่องของกล้องและจำนวนกล้องรวมถึงการออกแบบการจัดวางต่างๆเช่นกัน และใช้งานเทคโนโลยี fluorite AG ใหม่ ให้รูปลักษณ์ที่สวยงามรวมถึงความรู้สึกถือใช้งานได้สะดวกสบายและไม่เกิดรอยนิ้วมือและแน่นอนว่ายังคงความพรีเมี่ยมเวลาจับถือได้เป็นอย่างดี และการออกแบบขอบโค้งในด้านหลังทำให้ตัวเครื่องถือได้ง่ายกว่าเดิม แต่สีสันเวลาโดนแสงจะออกไปทางสดใสเหมือนกัน
 

 
กล้องหลังเป็นจุดที่โดดเด่นมากที่สุดหลังจากที่รุ่นก่อนหน้าไม่ได้มีเลนส์เทเลใส่เข้ามา แต่รุ่นนี้มีการปรับปรุงให้ครบมากกว่าเดิม และใช้งานกล้องตัวหลัก 50MP (f/1.75) ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX766V, OIS, เลนส์ Zeiss optics, เคลือบ Zeiss T*ช่วยลดการเกิดแสงสะท้อน หรือแสงแฟลร์ ซึ่งเรามักจะเห็นกันได้เวลาถ่ายแสงหลอดไฟนั้นเองครับ แต่น่าเสียดายว่าไม่มีชิพประมวลผลภาพ V1 ในตัวที่ขายทั่วโลกนะครับ ส่วนตัวที่ 2 จะเป็นกล้อง ultra-wide กว้าง 116 องศา 12MP (f/2.2), OIS และ กล้อง portrait ขนาด 50มม. 12MP (f/1.98) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663 รวมถึงตัวเลนส์เทเล กล้อง periscope 5X 8MP (f/3.4), มาพร้อม Laser autofocus ครบจัดเต็ม และยังพัฒนาฟีเจอร์การถ่ายเยอะแยะมากทั้ง Real-Time Extreme Night Vision , Pro Cinematic Mode และการถ่าย Portrait ลูกเล่นเลนส์คลาสสิกของ ZEISS ไม่ว่าจะเป็น Distagon, Planar, Sonnar และ Biotar และเอฟเฟกต์เลนส์ Zeiss สุดคลาสสิกอื่น ๆ ทำให้ตัวกล้องโดดเด่นกว่าคู่แข่งอีกทั้งสกินโทนต่างๆทำได้ดีอย่างมาก
 

 
SPEC
 
- หน้าจอ AMOLED E5 ขนาด 6.56 นิ้ว (2376×1080พิกเซล) Full HD+, 19.8:9, รองรับ HDR10+, รีเฟรชเรท 120Hz
- ชิบประมวลผล MediaTek Dimensity 1200 6nm มาพร้อมการ์ดจอ ARM G77 MC9 / ชิบประมวลผล Exynos 1080 5nm มาพร้อมการ์ดจอ Mali-G78
- RAM LPDDR4X 8GB + storage (UFS 3.1) 128GB,256GB / RAM LPDDR4X 12GB + storage (UFS 3.1) 256GB / 512GB
- Android 11 ที่ครอบด้วย Funtouch OS 12
- ซิมคู่
- กล้องหลังของ X70 Pro
*กล้องตัวหลัก 50MP (f/1.75) ที่ใช้เซ็นเซอร์ IMX766V, OIS, เลนส์ Zeiss optics, เคลือบ Zeiss T*, ไม่มีชิพ V1 ในตัวที่ขายทั่วโลก* 
*กล้อง ultra-wide กว้าง 116 องศา 12MP (f/2.2), OIS
*กล้อง portrait ขนาด 50มม. 12MP (f/1.98) ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX663
*กล้อง periscope 5X 8MP (f/3.4), มาพร้อม Laser autofocus
- กล้องหน้า 32MP (f/2.45)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
- ช่องเสียบหูฟัง USB Type-C, CS43131 AMP (เฉพาะในรุ่น X70 Pro)
- ขนาดตัวเครื่อง X70 Pro : 158.30×73.21×7.99มม.; น้ำหนัก: 185 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G SA/ NSA, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 6 802.11 ax (2.4GHz + 5GHz), Bluetooth 5.1, GPS (L1+L5 Dual Band) + GLONASS, NFC
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4,450mAh (X70 Pro) ที่รองรับชาร์จเร็ว 44W
 
ชื่อสินค้า:   vivo X70 PRO 5G
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่