อยากรวย ต้องรู้ - วิธี ส่งมอบคุณค่า ของสินค้าและบริการอย่างไรให้ธุรกิจปัง #2
👉จากบทความที่แล้ว ที่ว่าถ้าคุณอยากรวยคุณต้อง “สร้างคุณค่า” ซึ่งการสร้างคุณค่าสามารถแบ่งตามประสาททั้ง 6 คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ทว่าถ้าคุณสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งคุณก็จะขายสินค้าหรือบริการของคุณออกไปได้ ดังนั้น ถ้าคุณไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรเลย คุณก็จะขายไม่ได้เลยเช่นเดียวกัน และถ้าคุณสร้างคุณค่าโดยส่งมอบได้แค่คนไม่กี่คนล่ะ⁉️ คุณจะรวยได้ยังไง มีกลยุทธ์ไหนให้ประสบความสำเร็จได้เร็วบ้าง❓
❤️❤️ลูกค้าคือปัจจัยที่สำคัญอย่างมากที่สุดในการขายของ หากไม่มีลูกค้าก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกท่านคงรู้อยู่แล้วว่าปัจจัยหลักในการทำธุรกิจคือ ต้องทำสินค้าและบริการออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด รวมไปถึงการมอบคุณค่าจากสินค้าหรือบริการจากกิจการสู่ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ลูกค้าเกิดประทับใจและพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด ฉะนั้น เมื่อคุณรู้อยู่แล้วว่าต้องทำสินค้าออกมาแบบไหนให้ลูกค้าได้รับคุณค่าจากประสาททั้ง 6 คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะมาดูว่าทักษะไหนเทคนิคใดสามารถจะช่วยให้คุณรวยและประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยวันนี้ผมจะมาแชร์การสร้างคุณค่าให้คุณมีรายได้มากขึ้นอยู่ 2 ประเภท ดังนี้✌️✌️
✅ประเภทแรก การสร้างคุณค่าเชิงคุณภาพ : ให้คุณลองจินตนาการหรือเปรียบเทียบจากอาชีพกรรมกรที่เขาขายการบริการโดยใช้แรงงานเป็นหลัก ซึ่งแสดงว่ารายได้ที่เขาได้รับก็อาจจะเป็นแรงงานขั้นต่ำต่อวันอยู่ที่ 320 บาท ทว่าตรงกันข้ามกับอาชีพหมอเมื่อเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพหรือความสามารถในการทำงาน คุณรู้หรือไม่ว่าการตรวจรักษาคนไข้หนึ่งคนเท่ากับหรือมากกว่ากรรมกรที่ใช้แรงงานในหนึ่งวันและทั้งวันเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอาชีพหมอไม่ได้ตรวจคนไข้เพียงแค่คนเดียวแสดงว่าในหนึ่งวันอาชีพหมอก็อาจจะตกเฉลี่ยวันละ 10,000 – 20,000 บาทก็เป็นไปได้ แต่ผมต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า การยกตัวอย่างนี้เป็นเพียงแค่อยากให้คุณเห็นภาพชัดเจนในการทำสินค้าและบริการเพียงเท่านั้น หากคุณทำสินค้าและบริการออกมาให้มีคุณภาพมากแค่ไหน โอกาสที่คุณจะเพิ่มคุณค่าทางสินค้าและบริการก็มากขึ้นเท่านั้น เช่นบริษัท Apple จำกัด ที่ได้ผลิตสินค้าอย่าง iPhone iPad หรือMacbook ที่มีการทำการตลาดทุกช่องทางอย่างหนักหน่วงเพื่อสร้างอารมณ์ให้กับลูกค้าได้เห็นคุณค่าของโปรดักส์ทุกชิ้นที่บริษัทมี จึงทำให้สินค้าของเขาสามารถที่จะขายได้เรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าสินค้าจะมีราคาที่แพงแค่ไหนก็ตาม จนกลายเป็นว่าราคาไม่ใช่ปัญหาของผู้ขายอีกต่อไป เพราะเกิดมาจากการทำการตลาดที่ดีและการมีคุณภาพสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนได้นั่นเอง
👍👍
✅ประเภทที่ 2 การสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ : เราจะกลับมาเปรียบเทียบจากอาชีพกรรมกรที่เขาขายการบริการด้วยใช้แรงงานเป็นหลักและได้รับค่าแรงงานขั้นต่ำต่อวันวันละ 320 บาท ซึ่งรายได้ที่ได้มานี้เป็นเพียงรายได้ “ต่อคน” หรือรายได้ที่ได้รับมาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ทีนี้เราจะมาพูดถึงมุมมองการสร้างคุณค่าในเชิงปริมาณ ที่ว่ามีอีกคนที่ทำงานด้านการบริการโดยใช้แรงงานเหมือนกันแต่มีข้อที่แตกต่างกันตรงที่เขาไม่ได้ใช้แรงงานตัวเองเป็นหลัก
👍แต่จะใช้วิธีการรวบรวมคนหรือกรรมกรขึ้นมาแล้วก่อตั้งเป็นบริษัทเพื่อให้นายจ้างหรือบริษัทก่อสร้างเป็นคนมาติดต่อขอใช้บริการแรงงานจากกรรมกร ซึ่งเขาเองก็จะได้ค่านายหน้าจากบริษัทก่อสร้างหรือนายจ้างจากการเหมาแรงงานกรรมกรหรือคนที่เขาหามาให้กับบริษัทนั้น ๆ ฉะนั้น เมื่อเปรียบเทียบคุณค่าการทำสินค้าและบริการในเชิงปริมาณแล้ว
💚ก็อาจจะยกตัวอย่างได้จาก บริษัทเสียวหมี่ ที่ผลิตสินค้าเทคโนโลยีราคาถูกและมีคุณภาพขึ้นมา เพื่อผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเป็นบริษัทที่ใช้ต้นทุนการตลาดน้อยมากไม่เท่ากับบริษัท Apple แต่จะเน้นใช้กลยุทธ์ปากต่อปากมากกว่า เพราะในช่องแรกที่ปล่อยสินค้าออกมาในประเทศจีนซึ่งมีประชากรเยอะอยู่แล้วบวกกับสินค้าของบริษัทเสียวหมี่ ก็มีราคาที่ถูกแถมมีคุณภาพอยู่บ้าง
👉จึงทำให้บริษัท เสียวหมี่ สามารถตีตลาดขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศจีนได้
ทีนี้คุณพอเข้าใจในส่วนของเรื่อง การสร้างคุณค่าเชิงคุณภาพ กับ การสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ ต่อไปเราจะมาดูกันว่าเราต้องทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จและรวยเร็วได้👍👍
⭕จากการยกตัวอย่างที่ผมเคยได้รับฟังมาเพื่อที่คุณจะมองเห็นภาพได้ชัดขึ้น โดยมีคนเคยปรึกษาผมเข้ามาว่าตอนนี้เขาเป็นแม่ครัวให้กับโรงงานโรงงานหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าโรงงานส่วนใหญ่จะต้องมีโอที ฉะนั้น แม่ครัวคนนี้จึงจำเป็นที่จะต้องอยู่เวรในการทำงานถึง 12 ชั่วโมง กลับบ้านมาทีก็คงไม่มีเวลาจะทำอะไรแล้วและค่าแรงที่ได้รับก็ดูเหมือนจะไม่คุ้มค่ากับการทำงานเอาเสียเลย
📢ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่าหากคุณไม่อยากเหนื่อยเป็นแม่ครัวคุณก็ต้องเลือกที่จะหาคอนเนกชั่นคนที่เป็นแม่ครัวมาทำแทนและให้คุณค่อย ๆ หาคนที่เป็นเหมือนกับคุณเพื่อส่งให้กับโรงงานต่าง ๆ ที่สนใจอยากรับแรงงานแม่ครัวเพื่อรับค่านายหน้า หรือถ้าคุณคิดว่าไม่สามารถทำได้
👉คุณก็สามารถลองเลือกที่จะทำให้ตัวเองมีคุณค่าโดยการเปลี่ยนตัวเองจากเป็นแม่ครัวโรงงานธรรมดา ค่อย ๆ พัฒนายกระดับตัวเองให้มีฝีมือเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ทำแค่อาหารไทย ก็ลองมาฝึกทำอาหารจีน อาหารฝรั่งดูบ้าง ไม่แน่ว่าเมื่อคุณสามารถยกระดับฝีมือในการทำอาหารให้มีรสชาติอร่อยและมีคุณภาพ อย่างไรโอกาสที่คุณจะได้รับงานจากที่ทำงานใหม่และมีค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากที่ทำงานเดิมก็สูงกว่าที่คุณไม่ทำอะไรเลย💪💪
💡💡ดังนั้น ไม่ว่าคุณอยากจะประสบความสำเร็จแบบไหนคุณจำเป็นที่จะต้องมีทักษะหรือพัฒนาตัวเองเป็นพื้นฐาน ซึ่งหากคุณอยากจะทำธุรกิจประเภท “สร้างคุณค่าเชิงคุณภาพ” ให้กับการทำงานหรือธุรกิจของคุณ
🌟ฉะนั้นแล้ว ทักษะที่คุณควรจะมี นั่นก็คือ ทักษะเฉพาะทางอาชีพนั้น ๆ ที่คุณอยากจะทำ เพื่อไปต่อยอดให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ส่วนใครที่อยากจะทำธุรกิจประเภท “การสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ” ให้คุณไปเรียนรู้ทักษะการบริหารธุรกิจ เพราะถ้าคุณไม่มีทักษะอะไรเลยคุณก็ไม่สามารถจัดการบริหารธุรกิจของคุณได้ แล้วการที่คุณจะมีทักษะเหล่านี้ขึ้นมาได้นั้นคุณก็ต้องฝึกฝนและเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์ เพื่อย่นเวลาในการลองผิดลองถูก หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยครับ☺️☺️☺️
=========
วรัทภพ รชตนามวงษ์
อยากรวย ต้องรู้ - วิธี ส่งมอบคุณค่า ของสินค้าและบริการอย่างไรให้ธุรกิจปัง #2
👉จากบทความที่แล้ว ที่ว่าถ้าคุณอยากรวยคุณต้อง “สร้างคุณค่า” ซึ่งการสร้างคุณค่าสามารถแบ่งตามประสาททั้ง 6 คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ทว่าถ้าคุณสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งคุณก็จะขายสินค้าหรือบริการของคุณออกไปได้ ดังนั้น ถ้าคุณไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรเลย คุณก็จะขายไม่ได้เลยเช่นเดียวกัน และถ้าคุณสร้างคุณค่าโดยส่งมอบได้แค่คนไม่กี่คนล่ะ⁉️ คุณจะรวยได้ยังไง มีกลยุทธ์ไหนให้ประสบความสำเร็จได้เร็วบ้าง❓
❤️❤️ลูกค้าคือปัจจัยที่สำคัญอย่างมากที่สุดในการขายของ หากไม่มีลูกค้าก็ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกท่านคงรู้อยู่แล้วว่าปัจจัยหลักในการทำธุรกิจคือ ต้องทำสินค้าและบริการออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด รวมไปถึงการมอบคุณค่าจากสินค้าหรือบริการจากกิจการสู่ลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้ลูกค้าเกิดประทับใจและพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด ฉะนั้น เมื่อคุณรู้อยู่แล้วว่าต้องทำสินค้าออกมาแบบไหนให้ลูกค้าได้รับคุณค่าจากประสาททั้ง 6 คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะมาดูว่าทักษะไหนเทคนิคใดสามารถจะช่วยให้คุณรวยและประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยวันนี้ผมจะมาแชร์การสร้างคุณค่าให้คุณมีรายได้มากขึ้นอยู่ 2 ประเภท ดังนี้✌️✌️
✅ประเภทแรก การสร้างคุณค่าเชิงคุณภาพ : ให้คุณลองจินตนาการหรือเปรียบเทียบจากอาชีพกรรมกรที่เขาขายการบริการโดยใช้แรงงานเป็นหลัก ซึ่งแสดงว่ารายได้ที่เขาได้รับก็อาจจะเป็นแรงงานขั้นต่ำต่อวันอยู่ที่ 320 บาท ทว่าตรงกันข้ามกับอาชีพหมอเมื่อเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพหรือความสามารถในการทำงาน คุณรู้หรือไม่ว่าการตรวจรักษาคนไข้หนึ่งคนเท่ากับหรือมากกว่ากรรมกรที่ใช้แรงงานในหนึ่งวันและทั้งวันเสียด้วยซ้ำ ซึ่งอาชีพหมอไม่ได้ตรวจคนไข้เพียงแค่คนเดียวแสดงว่าในหนึ่งวันอาชีพหมอก็อาจจะตกเฉลี่ยวันละ 10,000 – 20,000 บาทก็เป็นไปได้ แต่ผมต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า การยกตัวอย่างนี้เป็นเพียงแค่อยากให้คุณเห็นภาพชัดเจนในการทำสินค้าและบริการเพียงเท่านั้น หากคุณทำสินค้าและบริการออกมาให้มีคุณภาพมากแค่ไหน โอกาสที่คุณจะเพิ่มคุณค่าทางสินค้าและบริการก็มากขึ้นเท่านั้น เช่นบริษัท Apple จำกัด ที่ได้ผลิตสินค้าอย่าง iPhone iPad หรือMacbook ที่มีการทำการตลาดทุกช่องทางอย่างหนักหน่วงเพื่อสร้างอารมณ์ให้กับลูกค้าได้เห็นคุณค่าของโปรดักส์ทุกชิ้นที่บริษัทมี จึงทำให้สินค้าของเขาสามารถที่จะขายได้เรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าสินค้าจะมีราคาที่แพงแค่ไหนก็ตาม จนกลายเป็นว่าราคาไม่ใช่ปัญหาของผู้ขายอีกต่อไป เพราะเกิดมาจากการทำการตลาดที่ดีและการมีคุณภาพสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนได้นั่นเอง
👍👍
✅ประเภทที่ 2 การสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ : เราจะกลับมาเปรียบเทียบจากอาชีพกรรมกรที่เขาขายการบริการด้วยใช้แรงงานเป็นหลักและได้รับค่าแรงงานขั้นต่ำต่อวันวันละ 320 บาท ซึ่งรายได้ที่ได้มานี้เป็นเพียงรายได้ “ต่อคน” หรือรายได้ที่ได้รับมาเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ทีนี้เราจะมาพูดถึงมุมมองการสร้างคุณค่าในเชิงปริมาณ ที่ว่ามีอีกคนที่ทำงานด้านการบริการโดยใช้แรงงานเหมือนกันแต่มีข้อที่แตกต่างกันตรงที่เขาไม่ได้ใช้แรงงานตัวเองเป็นหลัก
👍แต่จะใช้วิธีการรวบรวมคนหรือกรรมกรขึ้นมาแล้วก่อตั้งเป็นบริษัทเพื่อให้นายจ้างหรือบริษัทก่อสร้างเป็นคนมาติดต่อขอใช้บริการแรงงานจากกรรมกร ซึ่งเขาเองก็จะได้ค่านายหน้าจากบริษัทก่อสร้างหรือนายจ้างจากการเหมาแรงงานกรรมกรหรือคนที่เขาหามาให้กับบริษัทนั้น ๆ ฉะนั้น เมื่อเปรียบเทียบคุณค่าการทำสินค้าและบริการในเชิงปริมาณแล้ว
💚ก็อาจจะยกตัวอย่างได้จาก บริษัทเสียวหมี่ ที่ผลิตสินค้าเทคโนโลยีราคาถูกและมีคุณภาพขึ้นมา เพื่อผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเป็นบริษัทที่ใช้ต้นทุนการตลาดน้อยมากไม่เท่ากับบริษัท Apple แต่จะเน้นใช้กลยุทธ์ปากต่อปากมากกว่า เพราะในช่องแรกที่ปล่อยสินค้าออกมาในประเทศจีนซึ่งมีประชากรเยอะอยู่แล้วบวกกับสินค้าของบริษัทเสียวหมี่ ก็มีราคาที่ถูกแถมมีคุณภาพอยู่บ้าง
👉จึงทำให้บริษัท เสียวหมี่ สามารถตีตลาดขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศจีนได้
ทีนี้คุณพอเข้าใจในส่วนของเรื่อง การสร้างคุณค่าเชิงคุณภาพ กับ การสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ ต่อไปเราจะมาดูกันว่าเราต้องทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จและรวยเร็วได้👍👍
⭕จากการยกตัวอย่างที่ผมเคยได้รับฟังมาเพื่อที่คุณจะมองเห็นภาพได้ชัดขึ้น โดยมีคนเคยปรึกษาผมเข้ามาว่าตอนนี้เขาเป็นแม่ครัวให้กับโรงงานโรงงานหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าโรงงานส่วนใหญ่จะต้องมีโอที ฉะนั้น แม่ครัวคนนี้จึงจำเป็นที่จะต้องอยู่เวรในการทำงานถึง 12 ชั่วโมง กลับบ้านมาทีก็คงไม่มีเวลาจะทำอะไรแล้วและค่าแรงที่ได้รับก็ดูเหมือนจะไม่คุ้มค่ากับการทำงานเอาเสียเลย
📢ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่าหากคุณไม่อยากเหนื่อยเป็นแม่ครัวคุณก็ต้องเลือกที่จะหาคอนเนกชั่นคนที่เป็นแม่ครัวมาทำแทนและให้คุณค่อย ๆ หาคนที่เป็นเหมือนกับคุณเพื่อส่งให้กับโรงงานต่าง ๆ ที่สนใจอยากรับแรงงานแม่ครัวเพื่อรับค่านายหน้า หรือถ้าคุณคิดว่าไม่สามารถทำได้
👉คุณก็สามารถลองเลือกที่จะทำให้ตัวเองมีคุณค่าโดยการเปลี่ยนตัวเองจากเป็นแม่ครัวโรงงานธรรมดา ค่อย ๆ พัฒนายกระดับตัวเองให้มีฝีมือเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ทำแค่อาหารไทย ก็ลองมาฝึกทำอาหารจีน อาหารฝรั่งดูบ้าง ไม่แน่ว่าเมื่อคุณสามารถยกระดับฝีมือในการทำอาหารให้มีรสชาติอร่อยและมีคุณภาพ อย่างไรโอกาสที่คุณจะได้รับงานจากที่ทำงานใหม่และมีค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นจากที่ทำงานเดิมก็สูงกว่าที่คุณไม่ทำอะไรเลย💪💪
💡💡ดังนั้น ไม่ว่าคุณอยากจะประสบความสำเร็จแบบไหนคุณจำเป็นที่จะต้องมีทักษะหรือพัฒนาตัวเองเป็นพื้นฐาน ซึ่งหากคุณอยากจะทำธุรกิจประเภท “สร้างคุณค่าเชิงคุณภาพ” ให้กับการทำงานหรือธุรกิจของคุณ
🌟ฉะนั้นแล้ว ทักษะที่คุณควรจะมี นั่นก็คือ ทักษะเฉพาะทางอาชีพนั้น ๆ ที่คุณอยากจะทำ เพื่อไปต่อยอดให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ส่วนใครที่อยากจะทำธุรกิจประเภท “การสร้างคุณค่าเชิงปริมาณ” ให้คุณไปเรียนรู้ทักษะการบริหารธุรกิจ เพราะถ้าคุณไม่มีทักษะอะไรเลยคุณก็ไม่สามารถจัดการบริหารธุรกิจของคุณได้ แล้วการที่คุณจะมีทักษะเหล่านี้ขึ้นมาได้นั้นคุณก็ต้องฝึกฝนและเรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์ เพื่อย่นเวลาในการลองผิดลองถูก หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยครับ☺️☺️☺️
=========
วรัทภพ รชตนามวงษ์