ในคดียาเสพติด การจำหน่ายไม่ใช่แค่การซื้อขาย แต่รวมถึง จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้
ดังนั้น หากกัญชาไปอยู่ในมือสายคนนั้นย่อมต้องถือว่าเป็นการจำหน่ายยาเสพติดตามกฎหมายแล้ว

เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาเรื่องหนึ่งคือจำเลยและเพื่อนรวมเงินกันไปซื้อยาบ้ามาเสพ
จำเลยไปซื้อยาบ้ามาแล้ววางไว้ต่อหน้าเพื่อน เพื่อนต่างคนก็ต่างเข้ามาหยิบไปกันเสพเอง (ไม่มีการวางใส่มือให้)
แบบนี้ศาลฎีกาถือว่าเป็นการทำให้ยาเสพติดแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นแล้ว ถือเป็นการจำหน่ายยาเสพติด

ดังนั้น
1. แนวทางการสู้คดีสามารถสู้ได้ไหม
- ถ้ายาเสพติดยังไม่อยู่ในความครอบครองของสายลับ จะถือว่าจำหน่ายคงยังไม่ได้ แต่อย่างน้อยอาจโดนข้อหาพยายามจำหน่าย

2. พี่เราโดนยึดโทรศัพท์ไป2เครื่องซึ่ง1เครื่องพี่เราไว้ใชทำงานส่งอาหารจะได้คืนไหม
- เครื่องไหนที่ใช้ติดต่อสายลับ เครื่องนั้นโดนริบ ถ้าใช้ทั้งสองเครื่อง โดนทั้งสองเครื่อง

3.บัญชีพี่เราถูกอาญัติถ้าสู้คดีแล้วชนะบัญชีจะกลับมาเหมือยเดิมไหม
- ถ้าสู้คดีแล้วชนะ หน่วยงานที่อายัดต้องถอนการอายัดให้หรือคืนทรัพย์ที่ยึดให้ เพราะถือว่าพี่ชายคุณบริสุทธิ์แล้ว
แต่หากแพ้คดี ที่จะโดนตามมาคือมาตรการยึดทรัพย์ ทรัพย์สินใดๆ ก็ตามที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดจะถูกยึดเข้ากองทุน ปปส.
แต่อันนี้สามารถคัดค้านได้หากแสดงให้เห็นได้ว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด
หรือทรัพย์สินนั้นไม่ใช่ของจำเลย

4. แต่ถ้าไม่สามารถสู้ได้พี่เราจะติดคุกกี่ปี
- อันนี้เป็นดุลพินิจศาล แต่กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 โทษเบาหวิว เผลอๆ ได้รอการลงโทษ