เอกเป็นนักศึกษาพื้นเพจากต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในเมืองใหญ่ทั่วไป ไม่ได้ถึงกับลำบากข้นแค้นหากก็ไม่ได้มีจนเหลือเกินเหลือใช้ เจ้าตัวเลือกที่จะทำ "ไลน์แมน" เป็นงานเสริม เมื่อเลิกจากการเรียน การเรียนที่แม่นวลย้ำอยู่เสมอว่าให้เรียนสูง ๆ เข้าไว้จะได้ไม่ต้องลำบากหน้าเตา เรียนสูง ๆ เข้าไว้ญาติเราเขาเป็นนายธนาคาร เป็นข้าราชการ ผ่อนบ้านได้แล้วนะ ดู typical หน่อย ๆ สำหรับแนวคิดของแม่นวล จะว่าผิดก็ไม่ใช่จะว่าถูกก็ไม่เชิง ในฐานะบุคลากรสายการศึกษา การเรียนในระดับอุดมศึกษาไม่ถึงขั้นการันตีว่าได้งานทำเต็มร้อย แต่มีก็ดีกว่าไม่มี ณ เวลานี้ อย่างไรก็ดี กระแสธารของสายงานในโลกนี้เริ่มเปิดกว้างขึ้นการศึกษาชั้นสูงในบางกรณีอาจไม่จำเป็นเท่าการลงมือปฏิบัติอย่างชำนาญด้วยใจรัก
ความสนใจลึก ๆ ของเอก คือ การทำอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวสามารถทำได้ดี ทั้งรสมือชนิดหนึ่งไม่มีสองและรสชาติที่แม่นยำสมดุลย์เป็นพรสวรรค์ติดตัว ไม่ว่าจะอาหารไทยกลาง หรือ ไทยเหนือ แม้ไม่ได้ร่ำเรียนมาเป็นเชฟก็ตามที หากเจ้าตัวก็รู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ในเส้นทางนี้คงเป็นได้เพียงงานอดิเรกเล็ก ๆ ยามว่างเว้นจากการเรียน หรือ หากเป็นในอนาคตก็คงเป็นว่างจากการงาน สมุดบันทึกความทรงจำสีอ่อนจางจากความเก่าเป็นเครื่องยืนยันอดีตอันงดงาม หากความทรงจำก็คือความทรงจำไม่ใช่ปัจจุบันที่กำลังดำเนินไป
หลังเลิกเรียนในวันหนึ่ง เอกปลีกตัวไปทำงานพิเศษเช่นเคย "ร้านอิ่มเอื้อ" ในวันนี้คิวยาวยิ่งกว่าหางว่าว ไลน์แมนนับสิบนั่ง ยืน เดิน รอ กันขวักไขว่ คิวแรกผ่านไป คิวที่สอง สามสี่ ค่อย ๆ ผ่า่นไป จนความร้อนอกร้อนใจเริ่มมาเยือนหนุ่มไลน์แมนหน้าใส โชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลย ขณะที่ยืนลุ้นกลัวลูกค้าจะโทรมาเฉ่ง ออเดอร์ชุดใหญ่ก็ส่งผ่านมาพอดี ใบหน้าคมคายภายใต้ชุดเชฟสีดำสนิท เขาคนนั้นคงเป็นเชฟ หากเอกก็ยังไม่ได้สนใจมาก เพราะ งานตรงหน้าแลจะวิกฤตมากกว่า จนกระทั่งกลิ่นกระชายฟุ้งขึ้นเตะจมูกให้เจ้าตัวปรารภเบา ๆ
ห้วงเวลานั้นเองที่ดวงตาของเชฟหนุ่มแวววาวด้วยความสนใจที่พุ่งขึ้นมาแทนที่ความลุแก่โทษที่น้องไลน์แมนต้องรอนาน ในฐานะคนทำอาหาร หัวหน้าเชฟ และ เจ้าของร้าน คนธรรมดาจะรู้ได้ยังไงว่าในพริกแกงที่ตำละเอียดขนาดนั้นมีกระชายผสมอยู่ด้วย ชิมก็ยังไม่ได้ชิม ไม่ต้องทดสอบก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องเป็นคนมีความสามารถ และ อีกสิ่งในใจที่วาดไว้ก็คือ ... ถ้าน้องเขามาอีก บอกผมนะครับ เชฟเอื้อกล่าว อยากจะคิดว่าเป็นเพียงความสงสัยใคร่รู้ตามอาชีพตามสายงาน หากดวงตาดำสนิทลึกลับกับน้ำเสียงนุ่มนวลดูเหมือนจะสื่อนัยยะบางอย่างแทรกเข้ามาด้วย
การที่จู่ ๆ เชฟก็เรียกหนุ่มน้อยไลน์แมนมาสอบถามในห้องส่วนตัวมันก็ค่อนข้างจะน่าแปลกใจอยู่ ดวงตาของเอกจึงเต็มไปด้วยความพิศวงยามรับฟังคำถาม แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่เจ้าตัวถนัดและชอบใจ จึงไม่ได้นึกตะขิดตะขวงใจนักเมื่อยามต้องตอบ สั้น ๆ แต่สะกดใจคนฟัง "กลิ่น" ครับ กลิ่นเครื่องแกง ดวงตาน้องไลน์แมนรื่นรมย์ ส่วนดวงตาของอีกฝ่ายแวววับขึ้นอีกหนหากยามนี้เพิ่มความอ่อนเชื่อมขึ้นมาอีกหน่อย ที่เคยวาดไว้กลายเป็นหมายมาด ยามเอ่ยปากกับมิตรรัก เชฟขนมหวานอย่างเปรม น้องไลน์แมนคนนั้น ไม่สิ น้องเอก เด็กเมื่อวานซืนแต่ไม่วานซืนอย่างปากเชฟเอื้อว่า อยากได้เขา อยากได้เข้ามาร่วมงาน
ชีวิตของคนเราก็มีรสชาติเหมือนขนมหวาน นี่คือปรัชญาจากเชฟเปรม ดูเหมือนเพื่อนจะอ่านนัยยะอะไรบางอย่างภายใต้สายตาและถ้อยคำของเชฟเอื้อออก นี่เพื่อนฝูง นัยยะแห่งถ้อยคำของเชฟเปรมคงจะเป็นว่า มันอาจถึงเวลาที่นายจะต้องปรับสมดุลย์รสชาติชีวิตของตัวเอง รสชาติของขนมหวานที่กำลังเข้ามาในชีวิต เหมือนกับขนมที่หยิบเข้าปากชิมรสชาติอยู่นี่อย่างไร ไม่นานเลยที่โอกาสที่เชฟเอื้อใฝ่หาก็เดินทางมาถึงเมื่อกลุ่มหนุ่มน้อยอร่อยกรุบรวมทั้ง "น้องเอก" มาเยือนถึงถิ่น แล้วมีหรือที่เชฟเอื้อจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือ
หนุ่มน้อยอร่อยกรุบทั้ง 4 หน่อ เห็นแล้วล่ะว่าพี่เชฟสุดหล่อชุดดำดุ่มมาเสิร์ฟเค้ก ฉลาดเฉลียวในการเข้าหา (มั้ง) ดีอยู่ จองมาล่วงหน้ากับวัตถุประสงค์ว่าฉลองวันเกิด เอาเค้กมาให้คงไม่ผิดสังเกต (แหละ) สายตาอบอุ่นจดจ้องไปยัง "น้องเอก" (คนโปรด) พร้อมคำถามมาตรฐานเกี่ยวกับอาหารที่กิน แต่คำตอบของอีกฝ่ายไม่ใสกรุบอย่างหน้าตา เปรี้ยว ... พอตัว หอม อร่อย แต่ไม่กลมกล่อม ทำเอาเพื่อนร่วมโต๊ะจดจ้องด้วยใจระทึก ฤาวันเกิดฉันจะโดยพายุพัดเป็นวันวางมวย แต่ทำไปทำมา อาจเป็นว่าเพื่อนชิน เชฟเอกติได้ทุกร้านยกเว้นร้านแม่นวล
แต่แล้วมวยที่กลัวว่าจะเกิดกลับกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู เมื่อพี่ชายชุดดำส่งสายตาลึกลับ (อีกครั้ง) ชวนเพื่อนรักไปเข้าครัว คนเก่งไม่ต้องเตรียมตัวเยอะหรอกครับ จะว่าน่ากลัวไม่ใช่จะว่าไม่มีอะไรก็ไม่เชิง หากเอกเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในครัวเหมือนต้องมนต์สะกด สเตชั่น เครื่องครัว ของสด ของแห้ง เรียงรายดังภาพฝัน ฝันที่เจ้าตัวคิดว่าไม่มีทางจะเกิดขึ้นจริงได้ แต่บัดนี้มันปรากฏอยู่ตรงหน้า ผ้ากันเปื้อนที่อีกฝ่ายสวมใส่ให้ มือมั่นคงที่ค่อยบรรจงผูกเชือกด้านหลัง ความรู้สึกแปลกประหลาดพุ่งเข้ามาในใจของเอก
อาจเป็นวันนี้ที่รสชาติใหม่ของชีวิตได้เริ่มต้น
ป.ล. หวนคืนวงการรีวิวช่วงปลายปีด้วย bite me
พันทิปคะ ขอแท็ก bite me จ้ะ
Bite me ส่งร้อนเสิร์ฟรัก (กึ่งรีวิว) : The flavor is balanced with good seasoning.
ความสนใจลึก ๆ ของเอก คือ การทำอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวสามารถทำได้ดี ทั้งรสมือชนิดหนึ่งไม่มีสองและรสชาติที่แม่นยำสมดุลย์เป็นพรสวรรค์ติดตัว ไม่ว่าจะอาหารไทยกลาง หรือ ไทยเหนือ แม้ไม่ได้ร่ำเรียนมาเป็นเชฟก็ตามที หากเจ้าตัวก็รู้ว่าความคิดสร้างสรรค์ในเส้นทางนี้คงเป็นได้เพียงงานอดิเรกเล็ก ๆ ยามว่างเว้นจากการเรียน หรือ หากเป็นในอนาคตก็คงเป็นว่างจากการงาน สมุดบันทึกความทรงจำสีอ่อนจางจากความเก่าเป็นเครื่องยืนยันอดีตอันงดงาม หากความทรงจำก็คือความทรงจำไม่ใช่ปัจจุบันที่กำลังดำเนินไป
หลังเลิกเรียนในวันหนึ่ง เอกปลีกตัวไปทำงานพิเศษเช่นเคย "ร้านอิ่มเอื้อ" ในวันนี้คิวยาวยิ่งกว่าหางว่าว ไลน์แมนนับสิบนั่ง ยืน เดิน รอ กันขวักไขว่ คิวแรกผ่านไป คิวที่สอง สามสี่ ค่อย ๆ ผ่า่นไป จนความร้อนอกร้อนใจเริ่มมาเยือนหนุ่มไลน์แมนหน้าใส โชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลย ขณะที่ยืนลุ้นกลัวลูกค้าจะโทรมาเฉ่ง ออเดอร์ชุดใหญ่ก็ส่งผ่านมาพอดี ใบหน้าคมคายภายใต้ชุดเชฟสีดำสนิท เขาคนนั้นคงเป็นเชฟ หากเอกก็ยังไม่ได้สนใจมาก เพราะ งานตรงหน้าแลจะวิกฤตมากกว่า จนกระทั่งกลิ่นกระชายฟุ้งขึ้นเตะจมูกให้เจ้าตัวปรารภเบา ๆ
ห้วงเวลานั้นเองที่ดวงตาของเชฟหนุ่มแวววาวด้วยความสนใจที่พุ่งขึ้นมาแทนที่ความลุแก่โทษที่น้องไลน์แมนต้องรอนาน ในฐานะคนทำอาหาร หัวหน้าเชฟ และ เจ้าของร้าน คนธรรมดาจะรู้ได้ยังไงว่าในพริกแกงที่ตำละเอียดขนาดนั้นมีกระชายผสมอยู่ด้วย ชิมก็ยังไม่ได้ชิม ไม่ต้องทดสอบก็รู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องเป็นคนมีความสามารถ และ อีกสิ่งในใจที่วาดไว้ก็คือ ... ถ้าน้องเขามาอีก บอกผมนะครับ เชฟเอื้อกล่าว อยากจะคิดว่าเป็นเพียงความสงสัยใคร่รู้ตามอาชีพตามสายงาน หากดวงตาดำสนิทลึกลับกับน้ำเสียงนุ่มนวลดูเหมือนจะสื่อนัยยะบางอย่างแทรกเข้ามาด้วย
การที่จู่ ๆ เชฟก็เรียกหนุ่มน้อยไลน์แมนมาสอบถามในห้องส่วนตัวมันก็ค่อนข้างจะน่าแปลกใจอยู่ ดวงตาของเอกจึงเต็มไปด้วยความพิศวงยามรับฟังคำถาม แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่เจ้าตัวถนัดและชอบใจ จึงไม่ได้นึกตะขิดตะขวงใจนักเมื่อยามต้องตอบ สั้น ๆ แต่สะกดใจคนฟัง "กลิ่น" ครับ กลิ่นเครื่องแกง ดวงตาน้องไลน์แมนรื่นรมย์ ส่วนดวงตาของอีกฝ่ายแวววับขึ้นอีกหนหากยามนี้เพิ่มความอ่อนเชื่อมขึ้นมาอีกหน่อย ที่เคยวาดไว้กลายเป็นหมายมาด ยามเอ่ยปากกับมิตรรัก เชฟขนมหวานอย่างเปรม น้องไลน์แมนคนนั้น ไม่สิ น้องเอก เด็กเมื่อวานซืนแต่ไม่วานซืนอย่างปากเชฟเอื้อว่า อยากได้เขา อยากได้เข้ามาร่วมงาน
ชีวิตของคนเราก็มีรสชาติเหมือนขนมหวาน นี่คือปรัชญาจากเชฟเปรม ดูเหมือนเพื่อนจะอ่านนัยยะอะไรบางอย่างภายใต้สายตาและถ้อยคำของเชฟเอื้อออก นี่เพื่อนฝูง นัยยะแห่งถ้อยคำของเชฟเปรมคงจะเป็นว่า มันอาจถึงเวลาที่นายจะต้องปรับสมดุลย์รสชาติชีวิตของตัวเอง รสชาติของขนมหวานที่กำลังเข้ามาในชีวิต เหมือนกับขนมที่หยิบเข้าปากชิมรสชาติอยู่นี่อย่างไร ไม่นานเลยที่โอกาสที่เชฟเอื้อใฝ่หาก็เดินทางมาถึงเมื่อกลุ่มหนุ่มน้อยอร่อยกรุบรวมทั้ง "น้องเอก" มาเยือนถึงถิ่น แล้วมีหรือที่เชฟเอื้อจะปล่อยโอกาสให้หลุดมือ
หนุ่มน้อยอร่อยกรุบทั้ง 4 หน่อ เห็นแล้วล่ะว่าพี่เชฟสุดหล่อชุดดำดุ่มมาเสิร์ฟเค้ก ฉลาดเฉลียวในการเข้าหา (มั้ง) ดีอยู่ จองมาล่วงหน้ากับวัตถุประสงค์ว่าฉลองวันเกิด เอาเค้กมาให้คงไม่ผิดสังเกต (แหละ) สายตาอบอุ่นจดจ้องไปยัง "น้องเอก" (คนโปรด) พร้อมคำถามมาตรฐานเกี่ยวกับอาหารที่กิน แต่คำตอบของอีกฝ่ายไม่ใสกรุบอย่างหน้าตา เปรี้ยว ... พอตัว หอม อร่อย แต่ไม่กลมกล่อม ทำเอาเพื่อนร่วมโต๊ะจดจ้องด้วยใจระทึก ฤาวันเกิดฉันจะโดยพายุพัดเป็นวันวางมวย แต่ทำไปทำมา อาจเป็นว่าเพื่อนชิน เชฟเอกติได้ทุกร้านยกเว้นร้านแม่นวล
แต่แล้วมวยที่กลัวว่าจะเกิดกลับกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู เมื่อพี่ชายชุดดำส่งสายตาลึกลับ (อีกครั้ง) ชวนเพื่อนรักไปเข้าครัว คนเก่งไม่ต้องเตรียมตัวเยอะหรอกครับ จะว่าน่ากลัวไม่ใช่จะว่าไม่มีอะไรก็ไม่เชิง หากเอกเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในครัวเหมือนต้องมนต์สะกด สเตชั่น เครื่องครัว ของสด ของแห้ง เรียงรายดังภาพฝัน ฝันที่เจ้าตัวคิดว่าไม่มีทางจะเกิดขึ้นจริงได้ แต่บัดนี้มันปรากฏอยู่ตรงหน้า ผ้ากันเปื้อนที่อีกฝ่ายสวมใส่ให้ มือมั่นคงที่ค่อยบรรจงผูกเชือกด้านหลัง ความรู้สึกแปลกประหลาดพุ่งเข้ามาในใจของเอก