สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ของผมเอง หนุ่มหน้าหวานเบาหวานเรียกพี่55555 แต่ก่อนผมอะคิดมาตลอดว่าโรคเบาหวานเป็นโรคของคนอ้วน คนแก่ เราอายุยังแค่นี้ไม่ต้องไม่ต้องไปกังวลหรอก จนกระทั่งวันที่ผมได้ไปตรวจสุขภาพ ผลสรุปออกมาว่าผมเป็นเบาหวานครับ!!!! ตอนแรกพอผลออกมาก็ยังนิ่งนอนใจอยู่ เพราะคิดว่าคนที่จะเป็นเบาหวานตอนอายุน้อยๆมันคงไม่ร้ายแรงหรอก หลังจากนี้เดี๋ยวกินเบียร์ให้มันน้อยลงก็ได้ (ประโยคบอกเล่าที่ไม่สามารถทำจริงได้ครับ55555)
แล้วยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ โรคโควิด19ระบาดอีก ใครที่เป็นเบาหวานอยู่ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษเลยนะ เพราะโรคเบาหวานถือเป็นโรคที่ความเสี่ยงสูง ถ้าติดโควิดขึ้นมาล่ะงานเข้าเลยครับ เพราะคนทึ่เป็นเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดมันจะสูงจนทำให้ร่างกายกำจัดเชื้อไวรัสได้น้อยกว่าคนทั่วไป อาการจะรุนแรงและเสี่ยงที่จะตายก่อนเป็นอันดับต้นๆเลยนะ แล้วยิ่งถ้ามีโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมาอีกยิ่งอันตราย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ช่วงที่ไปตรวจแล้วเจอเบาหวาน หมอให้ผมปรับพฤติกรรมแล้วรอไปตรวจอีกรอบนึง หมอก็บอกตั้งแต่ครั้งแรกแล้วนะว่าให้ผมดึงสติกลับมาดูแลสุขภาพ เราอะโชคดีนะที่ตรวจแล้วเจอตอนที่อายุยังน้อย เพราะผมยังเพิ่งเป็นในระยะแรก มีโอกาสที่จะอาการดีขึ้นไว และรักษาให้อาการเป็นปกติได้ แต่ผมเองแหละที่ไม่ได้เคร่งครัด และยังคงประมาท ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ กินเหล้า สูบบุหรี่ พักผ่อนน้อย ก่อนนอนผมก็ต้องกินเบียร์อย่างน้อยวันละ1ขวดถึงจะหลับสบาย กลับแกล้มห้ามขาดคุณภรรยาก็ตามใจ อยากกินอะไรทำให้หมด เพราะรู้ว่าผมกลับมาจากที่ทำงานเหนื่อยๆก็อยากที่จะให้ผมได้กินของอร่อย
จนในที่สุดผมก็ได้กลับไปตรวจอีกรอบตามที่หมอนัด สรุปว่าผมนั้นได้เป็นเบาหวานไปแล้วจริงๆ คราวนี้เรื่องจริง ไม่เล่นแล้วครับ หมอพูดถึงความเสี่ยงต่างๆและเล่าให้ฟังว่าหลังจากนี้ชีวิตของผมจะเป็นยังไงถ้าผมไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ฟังหมอแแล้วขนลุกจริง โรคนี้เหมือนว่ามันจะไม่น่ากลัวนะแต่พอหมอเล่าเท่านั้นแหละ กลัวแล้วครับคุณหมอ ครั้งนี้จึงทำให้ผมเริ่มสนใจตัวเองแล้ว... เริ่มหาข้อมูล ถามคนรอบตัวที่เป็นเบาหวานว่าเค้าใช้ชีวิตกันยังไงบ้าง หลักๆเรื่องที่อยากรู้ก็คือเบาหวานมันร้ายแรงแค่ไหน พออ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มกลัว แต่ก็เอาวะเมื่อเป็นแล้วก็ต้องอยู่กับมัน สู้กับมัน ไม่ให้มันร้ายแรง ลึกๆแล้วผมก็ยังอยากมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้ ผมไปอ่านเจอมา คนที่อายุน้อยๆตายเพราะเบาหวานกันก็มีเยอะมาก...
สมัยนี้ที่คนอายุน้อยๆเป็นเบาหวานกันเยอะ ก็เพราะว่า อาหารในยุคปัจจุบันมันชั่งเย้ายวนใจ ชาไข่มุกเอย ขนมหวานเอย เค้ก หมูกะทะ ชาบู พวกนี้เป็นอาหารที่กระตุ้นเบาหวานมากถ้าเราไม่กินแบบยับยั้งชั่งใจ อีกทั้งยังไม่ค่อยออกกำลังกาย เลิกงานเสร็จกินข้าวเย็นแล้วก็นอน ตอนทำงานก็ไม่ได้ลุกขึ้นเลย ร่างกายเผาผลาญน้อยมาก นาฬิกาผมแจ้งเตือนให้ลุกทุกชั่วโมง แต่ผมก็ไม่ลุกครับ55555 นี่แหละครับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเราเองในทุกๆวัน ใครมันจะไปรู้เนอะผมก็เหมือนคนเมืองทั่วไปที่นั่งทำงาน กินอะไรตามใจปากพอๆกับคนอื่น แต่ดันโชคร้ายเฉยเลย555555 ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆที่ผมรู้ว่าปู่ผมเป็นโรคเบาหวาน ผมนี่ร้องไห้เลยนะ เพราะตอนนั้นยังเด็กมากเลยรู้สึกว่าโรคนี้มันน่ากลัวจัง แต่ทำไมตอนโตผมกลับไม่ค่อยกลัวมันแหะ จนมาเกิดขึ้นกับตัวเองนี่แหละ เลยรู้ซึ้งแล้วครับ
เท่าที่ผมรู้มาตอนนี้เบาหวานพบได้จากคนที่อายุไม่ถึง20ปีก็เป็นกันได้แล้วนะ ตอนนี้ผมอายุ 25 ผมรู้ตัวว่าผมเป็นเบาหวานตอนอายุ 23 ช่วงที่ผมเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมสัญญากับตัวเองและก็เลิกสิ่งกระตุ้นต่างๆมันทั้งหมดเลยพวก เหล้า บุหรี่ หันมาสนใจเรื่องอาหารการกินเป็นอันดับ1 เพราะหมอบอกว่าเรื่องอาหารการกินคนที่เป็นโรคนี้จะต้องสนใจมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ จะมาตามใจปาก ตามใจท้องแบบคนอื่นไม่ได้
อีกอย่างที่รู้สึกแย่คือโรคนี้เป็นแล้วไม่หาย ต้องกินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ถึงเรารักษาจนระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงมาเท่ากับคนปกติแล้ว แต่ถ้าอะไรไปกระตุ้น มันก็จะกลับมาหาเราได้อีก เอาจริงอย่างกับหนัง A Quiet Place ที่ห้ามเสียงดังไม่งั้นตาย แต่อันนี้คือห้ามกินหวานไม่งั้นตาย 5555 แฟนผมร้องไห้ใหญ่เลยเพราะกลัวผมตายอะ5555 ในตอนนั้นก็เข้าใจความรู้สึกแฟนนะ คิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่เหมือนตอนที่ผมรู้ว่าปู่เป็นเบาหวาน…
และนี่คือยาเบาหวานที่ผมกินในตอนนั้น... กลายเป็นคนมียาประจำตัวกินซะละ จริงๆมีอีกนะ555
มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆผมถึงรู้ตัวว่าเป็นเบาหวาน ผมจะเล่าอาการแรกเริ่มที่ทำให้ผมตัดสินใจไปตรวจ เผื่อทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะได้ลองสังเกตุอาการดูครับว่าเป็นแบบผมมั้ย อาการมันเริ่มมาจาก ก่อนไปหาหมอผมมีอาการ หิวน้ำ คอแห้ง หิวบ่อย ฉี่บ่อย ยิ่งกลางคืนยิ่งต้องลุกมาฉี่หลายครั้งครับ จนแฟนผมรำคานเพราะตื่นมันทั้งคืน สุดท้ายแฟนขอร้องว่าให้ไปหาหมอเถอะ มันเป็นอาการที่แปลกๆละ ผมก็รู้สึกเหมือนแฟนนะ แต่ก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้เลย พอไปหาหมอ ปรากฏว่าน้ำตาลในเลือดเกือบ 400 ครับ หมอบอกว่า เห้ยนี่มันสูงมากเลยนะ ปล่อยให้เป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว หมอขู่อีกว่ามันมีภาวะช็อคจากน้ำตาลในเลือดสูงด้วยนะ คืออยู่ๆตายไปเลยแบบนี้ก็มี...
ความอันตรายของโรคเบาหวานอีกอันก็คือ มันเป็นโรคที่เป็นใบเบิกทางให้กับโรคอื่นๆเลย เช่น โรคความดันโลหิตสูง จอประสาทตาเสื่อม และต้อกระจก และอีกหลายโรคมากๆ แต่ละโรคที่ผมลองเสิร์ชเข้าไปศึกษาดู โอโหไม่ใช่เล่นๆเลยนะครับเนี่ยยยย เรียกได้ว่าอ่านแล้วกลัวเลย ที่อ่านแล้วหลอนสุดคือมีคนเป็นแผลที่ขาแล้วมันลามจนสุดท้ายต้องตัดขาทิ้ง เอาหละใครมันจะไม่หลอนล่ะครับ อีกอย่างที่ผมรู้สึกเลยคือช่วงหลังๆผมเป็นแผลง่ายมาก แล้วเป็นทีกว่าจะหายก็นานเลย นี่แหละอาการเหล่านี้ใครเป็นแบบผมไปปรึกษาแพทย์ด่วน
มาเข้าถึงประเด็นการกลับมาดูแลตัวเองในฉบับของผม หมออธิบายกับผมว่า สิ่งแรกที่ควรปรับเลยคือพวกอาหารการกิน ให้ผมลดแป้งเพราะแป้งกินมากเกินไปมันจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ข้อมูลแบบนี้ทุกคนคงรู้แหละ แล้วก็หันไปกินพวกผักเยอะๆ ผลไม้หวานๆก็งดไปเลย ถ้าอยากกินให้กินพวก ฝรั่ง แอปเปิ้ลเขียว ส่วนพวกกะทิ อาหารน้ำมันเยอะจัดๆก็เลี่ยงให้ได้มากที่สุดหรือใช้น้ำมันดีๆที่ไขมันไม่เยอะ รวมไปถึงพวกชาเครื่อมดื่ม กาแฟ ชาต่างๆ ตอนแรกผมนี่ใจจะขาด เพราะทุกวันต้องกิน พวกกาแฟ ลาเต้ แต่ตอนนี้บอกเลยว่าผมเซียนมาก ผมรู้หมดว่าอันไหนกินได้อันไหนไม่ดี พักก่อนไอชายยยย
ลองดูจากในผังนี้ก็ได้ครับ จะได้เลือกกินได้ถูก ผมหาข้อมูลมาจากอินเตอร์เน็ตมาอีกที
ส่วนเรื่องอาหารที่กิน ผมจะขอมาอธิบายและยกตัวอย่างตรงนี้ครับว่า กินยังไงให้เหมาะ กินยังไงให้ปลอดภัยไกลจากเบาหวาน5555 ในสไตล์ของผมเอง ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า ผมก็เป็นคนที่รักการกินนะถ้าอ่านๆมาก็น่าจะรู้ ถ้าจะให้ผมมากินอาหารจืดๆชืดๆก็ไม่ไหวหรอก ถึงจะรักสุขภาพก็เถอะ ยังไงก็ขอควบคู่กับการกินอย่างมีความสุขบ้างละกัน ไม่งั้นภารกิจพิชิตเบาหวานของผมมันต้องไม่สำเร็จแน่ๆ เริ่มจากอย่างแรกเลยคือ ผมงดน้ำหวานแล้ว งดนี่คือไม่ซื้อ แต่หันมาทำเองครับ พูดตรงๆผมนี่อย่างติดกินน้ำหวานเลย อย่างตอนแรกที่ผมบอก ผมชอบกินกาแฟ ลาเต้ คาปูชิโน่ โอเลี้ยง ยกล้อ อะไรก็มาหมด ยิ่งช่วงนั้นแฟนชวนไปคาเฟ่ ไปที 1-2 ร้านต่อวัน ทุกร้านผมก็ต้องสั่งเครื่องดื่มมากิน แล้วไอคาเฟ่เนี่ยเมนูมันน่าก็กินทุกอย่าง สั่งแค่น้ำอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ ต้องมีขนมมาเป็นพร็อพ ถามว่าแฟนกินมั้ย ไม่ครับแล้วผมเป็นคนรับจบให้เอง เชื่อว่าผู้ชายหลายคนก็คงต้องเคยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับผม 555555

ผมไม่รู้จะแก้ตรงไหน ก็เลยมาแก้ที่ตัวเองนี่แหละ ตอนนี้ก็หันมาชงเครื่องดื่มกินเองแล้ว เลิกไม่ได้ก็ทำกินเองมันนี่แหละ ผมลองมาคิดดูนะวันนึงผมกินพวกเครื่องดื่มประมาณสองแก้ว เช้า กลางวัน ซึ่งคนเรามันไม่ควรกินเยอะขนาดนี้แล้วมั้ย แล้วอย่างผมกินแบบนี้มาหลายปีติดต่อกัน... รู้เลยว่าต้นเหตุมาจากอะไร ทั้งเบียร์ทั้งกาแฟทั้งอาหารทุกอย่าง อย่างเครื่อมดื่มตอนนี้ผมเลือกใช้ผงธัญพืชแทนครีมเทียม ผมเปลี่ยนเลยครับ ถ้าไปศึกษาดีๆจะรู้เลยนะว่า ครีมเทียม นมข้นต่างๆเนี่ย มันไม่มีประโยชน์แถมกระตุ้นเบาหวานได้ดีมากๆ ยิ่งถ้าใครกินในปริมาณต่อวันที่เยอะแบบผมนี่ เบาหวานอีสคอลลิ่งแน่นอน ลองเปลี่ยนมากินตัวนี้ดูแล้ว จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลยนะจริงๆ ใครเป็นเบาหวานหรือต้องการอยากลดไขมันเลว ตัวนี้ตอบโจทย์ดีครับ ทำจากธรรมชาติด้วย กะทิฟรีซดราย ถั่วเหลือง แต่ละอย่างไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเลย ไปตรวจสุขภาพดูแล้วจะรู้ว่าพอปรับเปลี่ยนเรื่องการกินทุกๆอย่างมันดีขึ้นมากๆ หมอก็แนะนำมานะว่าถ้ายังอยากจะกินก็ควรเลือกของที่มันดีกับร่างกาย ของดีๆที่อร่อยก็มีเยอะ ถ้ารักตัวเองก็ต้องเปลี่ยนซะ
ส่วนเวลาจะทำกับข้าวก็เปลี่ยนจากน้ำตาลขัดสี มาเป็นหญ้าหวานแทน ผมอยากจะบอกว่า สองอย่างที่ผมเปลี่ยนมาใช้มันเวิร์คมากกับการทำเครื่องดื่มและอาหาร ผงธํญพืชหลักๆผมจะเอามาชงกับกาแฟ หรือบางทีก็เอามาใช้ทำอาหารบ้างพวกเมนูที่ต้องใส่พวกนมข้นจืด กะทิ ก็จะเปลี่ยนเป็นตัวนี้แทน ส่วนน้ำตาลหญ้าหวานผมก็เอามาใช้แทนน้ำตาลขัดสีที่เคยใช้แล้วครับ หลักๆจะเอามาทำอาหารทุกเมนูเลย ผมว่าน้ำตาลหญ้าหวานเอามาทำอาหารอร่อยอยู่ แต่ถ้าเอามาชงกับเครื่องดื่มไม่ค่อยเวิร์คมันไม่อร่อยอะ แฟนผมก็รู้สึกนะ แต่ถ้าเอามาทำอาหารคือดีเลยครับ อูมามิ

นั่นแหละครับรู้แล้วใช่มั้ยว่าเรื่องอาหารคือเรื่องที่สำคัญอันดับ 1 ตอนนี้ผมเลยจะค่อนข้างเลือกครับ ปรุงเองแต่งเองจะได้ดีต่อสุขภาพ ตื่นนอนให้ไวขึ้น จะได้มีเวลาทำกับข้าวกินเองซึ่งจริงๆหลักๆแล้วแฟนก็ทำให้แหละครับ55555 หรือถ้าวันไหนตื่นสายไม่มีเวลาผมก็จะเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ถูกบ้างแพงบ้างแล้วแต่โอกาส ผมทำแบบนี้จนติดเป็นนิสัยไปแล้ว โชคดีที่บ้านเรามีอาหารให้เลือกเยอะ ทั้งอาหารสุขภาพหรืออาหารทั่วไป เลยค่อนข้างที่จะสะดวกแต่ผมก็ไม่ใช่ว่าจะไม่กินอาหารตามใจปากเลยนะ ผมก็กินบ้างกินให้พอหายอยากครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆเราจะรู้สึกได้จริงๆนะว่าสุขภาพเราดีขึ้น ไปเช็คร่างกาย ก็ปกติแข็งแรง นี่แหละครับผลลัพธ์ที่เราตั้งใจทำ ทำให้ผมรู้เลยว่าอาหารที่เรากินนี่แหละเป็นปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงเลย กลายเป็นว่าตอนนี้ห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่าห่วงความอร่อยซะอีก แต่ไม่ได้ทำให้ผมเครียดนะ ผมชิวเลยเพราะผมสามารถทำมันได้ดี ผลพลอยได้ผมกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตมีระบบระเบียบเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นยาที่หมอให้มาก็ต้องกินให้ครบด้วยนะ เพราะยาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยตัวสำคัญที่จะช่วยประคองอาการให้เราให้มันดีขึ้นตามลำดับ
“ตัดในสิ่งที่ไม่ดีแล้วเติมสิ่งที่ดีลงไป”
แชร์วิธีสู้กับโรคเบาหวาน จนสามารถหยุดยาได้ภายใน 2 ปี
แล้วยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ โรคโควิด19ระบาดอีก ใครที่เป็นเบาหวานอยู่ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเป็นพิเศษเลยนะ เพราะโรคเบาหวานถือเป็นโรคที่ความเสี่ยงสูง ถ้าติดโควิดขึ้นมาล่ะงานเข้าเลยครับ เพราะคนทึ่เป็นเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดมันจะสูงจนทำให้ร่างกายกำจัดเชื้อไวรัสได้น้อยกว่าคนทั่วไป อาการจะรุนแรงและเสี่ยงที่จะตายก่อนเป็นอันดับต้นๆเลยนะ แล้วยิ่งถ้ามีโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมาอีกยิ่งอันตราย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ช่วงที่ไปตรวจแล้วเจอเบาหวาน หมอให้ผมปรับพฤติกรรมแล้วรอไปตรวจอีกรอบนึง หมอก็บอกตั้งแต่ครั้งแรกแล้วนะว่าให้ผมดึงสติกลับมาดูแลสุขภาพ เราอะโชคดีนะที่ตรวจแล้วเจอตอนที่อายุยังน้อย เพราะผมยังเพิ่งเป็นในระยะแรก มีโอกาสที่จะอาการดีขึ้นไว และรักษาให้อาการเป็นปกติได้ แต่ผมเองแหละที่ไม่ได้เคร่งครัด และยังคงประมาท ยังคงใช้ชีวิตแบบเดิมๆ กินเหล้า สูบบุหรี่ พักผ่อนน้อย ก่อนนอนผมก็ต้องกินเบียร์อย่างน้อยวันละ1ขวดถึงจะหลับสบาย กลับแกล้มห้ามขาดคุณภรรยาก็ตามใจ อยากกินอะไรทำให้หมด เพราะรู้ว่าผมกลับมาจากที่ทำงานเหนื่อยๆก็อยากที่จะให้ผมได้กินของอร่อย
จนในที่สุดผมก็ได้กลับไปตรวจอีกรอบตามที่หมอนัด สรุปว่าผมนั้นได้เป็นเบาหวานไปแล้วจริงๆ คราวนี้เรื่องจริง ไม่เล่นแล้วครับ หมอพูดถึงความเสี่ยงต่างๆและเล่าให้ฟังว่าหลังจากนี้ชีวิตของผมจะเป็นยังไงถ้าผมไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ฟังหมอแแล้วขนลุกจริง โรคนี้เหมือนว่ามันจะไม่น่ากลัวนะแต่พอหมอเล่าเท่านั้นแหละ กลัวแล้วครับคุณหมอ ครั้งนี้จึงทำให้ผมเริ่มสนใจตัวเองแล้ว... เริ่มหาข้อมูล ถามคนรอบตัวที่เป็นเบาหวานว่าเค้าใช้ชีวิตกันยังไงบ้าง หลักๆเรื่องที่อยากรู้ก็คือเบาหวานมันร้ายแรงแค่ไหน พออ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มกลัว แต่ก็เอาวะเมื่อเป็นแล้วก็ต้องอยู่กับมัน สู้กับมัน ไม่ให้มันร้ายแรง ลึกๆแล้วผมก็ยังอยากมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้ ผมไปอ่านเจอมา คนที่อายุน้อยๆตายเพราะเบาหวานกันก็มีเยอะมาก...
สมัยนี้ที่คนอายุน้อยๆเป็นเบาหวานกันเยอะ ก็เพราะว่า อาหารในยุคปัจจุบันมันชั่งเย้ายวนใจ ชาไข่มุกเอย ขนมหวานเอย เค้ก หมูกะทะ ชาบู พวกนี้เป็นอาหารที่กระตุ้นเบาหวานมากถ้าเราไม่กินแบบยับยั้งชั่งใจ อีกทั้งยังไม่ค่อยออกกำลังกาย เลิกงานเสร็จกินข้าวเย็นแล้วก็นอน ตอนทำงานก็ไม่ได้ลุกขึ้นเลย ร่างกายเผาผลาญน้อยมาก นาฬิกาผมแจ้งเตือนให้ลุกทุกชั่วโมง แต่ผมก็ไม่ลุกครับ55555 นี่แหละครับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเราเองในทุกๆวัน ใครมันจะไปรู้เนอะผมก็เหมือนคนเมืองทั่วไปที่นั่งทำงาน กินอะไรตามใจปากพอๆกับคนอื่น แต่ดันโชคร้ายเฉยเลย555555 ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆที่ผมรู้ว่าปู่ผมเป็นโรคเบาหวาน ผมนี่ร้องไห้เลยนะ เพราะตอนนั้นยังเด็กมากเลยรู้สึกว่าโรคนี้มันน่ากลัวจัง แต่ทำไมตอนโตผมกลับไม่ค่อยกลัวมันแหะ จนมาเกิดขึ้นกับตัวเองนี่แหละ เลยรู้ซึ้งแล้วครับ
เท่าที่ผมรู้มาตอนนี้เบาหวานพบได้จากคนที่อายุไม่ถึง20ปีก็เป็นกันได้แล้วนะ ตอนนี้ผมอายุ 25 ผมรู้ตัวว่าผมเป็นเบาหวานตอนอายุ 23 ช่วงที่ผมเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมสัญญากับตัวเองและก็เลิกสิ่งกระตุ้นต่างๆมันทั้งหมดเลยพวก เหล้า บุหรี่ หันมาสนใจเรื่องอาหารการกินเป็นอันดับ1 เพราะหมอบอกว่าเรื่องอาหารการกินคนที่เป็นโรคนี้จะต้องสนใจมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ จะมาตามใจปาก ตามใจท้องแบบคนอื่นไม่ได้
อีกอย่างที่รู้สึกแย่คือโรคนี้เป็นแล้วไม่หาย ต้องกินยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ถึงเรารักษาจนระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงมาเท่ากับคนปกติแล้ว แต่ถ้าอะไรไปกระตุ้น มันก็จะกลับมาหาเราได้อีก เอาจริงอย่างกับหนัง A Quiet Place ที่ห้ามเสียงดังไม่งั้นตาย แต่อันนี้คือห้ามกินหวานไม่งั้นตาย 5555 แฟนผมร้องไห้ใหญ่เลยเพราะกลัวผมตายอะ5555 ในตอนนั้นก็เข้าใจความรู้สึกแฟนนะ คิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกที่เหมือนตอนที่ผมรู้ว่าปู่เป็นเบาหวาน…