ถ้าคนในครอบครัวไขกุญแจเข้าห้องเราโดยพลการตลอดเป็นคุณจะโกรธมั้ย?????

คือเรื่องมีอยู่ว่า เราเรียนออนไลน์ เราทำการบ้านอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนจนดึกบางวันก็เช้าเพราะเราเรียนตามเพื่อนไม่ค่อยทันบวกกับว่าสาขาที่เราเรียนนั้นไม่ถนัดเลยต้องศึกษามากกว่าคนอื่น เราก็ต้องไปหาเวลานอนตอนเรียนออนไลน์ คืออันนี้คือเราไม่ได้ทิ้งเรียนนะ คือเราจะนอนก็ต่อเมื่อเราเรียนเสร็จเพราะอาจารย์ก็สอนไม่ครบคาบอยู่แล้วเหลือเวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ แล้วเราก็ทำแบบนี้มานานแล้ว ประมาณ1เดือน ผลการเรียนเราก็ไม่ได้แย่ด้วย แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าเราไม่ค่อยออกจากห้องเท่าไหร่ ไม่ค่อยได้เห็นหน้าคนในครอบครัว คือบ้านเราจะมีน้องสาวอยู่คนนึงซึ่งดื้อมากๆๆๆๆๆอายุเกือบ3ขวบ คือน้องชอบกรี๊ดเสียงดังมากๆๆ  กรี๊ดจนเราประสาท-บางวันเราต้องปวดหัวเพราะเด็กคนนี้กรี๊ด มันทำให้เรากลัวที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะเรามีปัญหาเรื่องการควบคุมตัวเองและตอนนี้กำลังรักษาอยู่  ซึ่งมันทำให้เราไม่ค่อยอยากออกไปเจอสักเท่าไหร่  ระหว่างที่เราเรียนออนไลน์ที่บ้านก็จะแบบใช้ทำนู่นทำนี่ทำนั่นตลอด ซึ่งเราก็ปฎิเสธตลอด เพราะเราเรียนไม่ค่อยรู้เรื่อง ทีนี้พอเราเรียนคาบเช้าอะไรเสร็จเราเลยกะว่าจะนอนสักหน่อยแล้วค่อยออกไป แต่กลับกันพอเวลาเราจะงีบเท่านั้นแหละ คือเราล็อกประตูด้วยเพราะไม่อยากให้น้องมากวนเวลาที่เรามาเรียน  ทีนี้พอเราลงนอนงีบไปไม่ถึง30นาที ย่าเราก็ไขกุญแจมาด่ามาว่าเรา ว่าเอาแต่นอนๆๆๆๆทั้งวัน งานการไม่ทำเลย ซึ่งมันทำให้เราโมโหมากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุด คือเราหงุดหงิดมากๆๆๆ  คือเราไม่ได้นอน เราแค่จะงีบบ้างเพราะเรียนและใช้สมองมาทั้งวันทั้งคืนแล้วเลยแค่จะพักบ้าง แต่ดันมาทำแบบนี้คือเราขอเรียกว่ามันคือการรุกร้ำความเป็นส่วนตัวของเราสุดๆ ซึ่งมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา เราเป็นคนชอบอยู่ในโลกส่วนตัวด้วย  แล้วเค้าก็ด่าๆๆเรา นั่นจึงทำให้เราเกิดอารมณ์ที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้จึงทำให้เราตะคอกเขาออกไปแรงๆ แต่ไม่ได้มีคำหยาบอะไรนะ แค่บอกว่า"ก็อ่านหนังสือทำการบ้านทั้งคืนอ่ะ!!!นอนหน่อยไม่ได้หรอคนมันปวดหัว!!"เขาก็ไม่พอใจเรามากๆ ซึ่งตอนนั้นเราไม่ง้อเราไม่สนเราจะนอนอย่างเดียวเพราะล้ามากๆ  พอเรานอนไปได้1ชม.แล้วคาบบ่ายเราก็เรียนต่อ คือเราจะยังไม่หิวข้าว คือเราทำIFด้วยว่าจะกินข้าวเย็นๆไปเลย คาบบ่ายเราก็เรียนยาวถึง5โมงเย็นเลย แต่อาจารย์จะชอบปล่อยก่อน1ชม. เราก็เอาเวลาที่อาจารย์ปล่อยก่อนตรงนี้มางีบอีกสักหน่อย แล้วก็อีกเช่นเดิม ตอนทำงานนั่งเรียนไม่เปิดมาดูพอเรานอนก็ไขกุญแจเข้ามา เหมือนจะจับผิดเราตลอดกลัวเราไม่ตั้งใจเรียนกลัวเรานอนอย่างเดียว ทั้งด่าว่าเรา ว่าไม่กินข้าวบ้าง ไม่ทำงานทำการอะไรเลย กูเหนื่อยนะรู้มั้ย ลำเลิกบุญคุญสารพัด ซึ่งเราก็แบบอิหยังว่ะ คือแกน้อยใจเราหรอที่เราไม่ออกไปข้างนอก พ่อเราก็มาว่าเราอีกว่าทำไมต้องตะคอกย่าด้วย คือนางก็เอาไปฟ้องพ่อว่าเราพูดไม่ดีๆบลาๆๆ ซึ่งเราขอแค่จันทร์-ศุกร์ ปล่อยเราไปไม่ได้หรอ คือมันเกินไปนะ  แล้วคือเป็นแบบนี้บ่อยมากๆ เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง หรือว่าเราจะปล่อยงานค้างไว้ ไม่ต้องทำ เอาเวลาไปนอนอย่างเดียวตื่นเช้ามาไม่ต้องเรียน ทำแต่งานบ้านดูแลน้องเงี้ยหรอ  ถ้าเป็นเพื่อนๆล่ะ จะทำยังไงแล้วรู้สึกยังไงที่คนในครอบครัวเราไม่เข้าใจในสิ่งที่เรากำลังพยายาม ตอนนี้ที่บ้านทำให้เราไม่อยากอยู่ต่อแล้วอ่ะ คือเหมือนโดนจับผิดตลอด เราบอกว่าเราทำงานจนดึกไม่ได้นอนเค้าก็ไม่เชื่อ เอางานให้ดูแล้วก็ไม่เชื่อ จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เริ่มท้อ เริ่มไม่อยากเรียนต่อแล้ว
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
โอเคทุกคนขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ เราว่าจะเขียนตารางแปะไว้หน้าห้องว่าเวลาไหนเราทำอะไร  เราจะพยายามออกมาทำกิจกกรมให้ได้มากที่สุด  แต่ช่วงนี้งานแน่นจริงๆ ต้องอ่านหนังสือสอบอีก เราไม่ใช่คนอ่านหนังสือสอบตอนก่อนสอบไม่กี่วันไง เพราะเราหัวช้า เราจะทยอยอ่านแต่บทและทำความเข้าใจกับมัน เรามีทั้งงานพาร์ทไทม์ด้วย เอาง่ายๆคือไม่มีวันหยุด เราก็แค่อยากจะขอเวลาส่วนตัวบ้าง แค่จันทร์-ศุกร์ห้ามกวนเรา   เพราะเราไม่ชอบสุงสิงกะคนในครอบครัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คือไม่สนิทใจกันเท่าไหร่ การเข้าห้องโดยที่เราไม่อนุญาติ สำหรับเรายังไงก็คือผิดอยู่ดี เพราะเราไม่ชอบ เคยมีครั้งนึงที่เราเอาแฟนมาอยู่ด้วย คนที่บ้านยังกล้าเข้ามาเลยเลย คือสำหรับไม่ว่ายังไงก็ไม่โอเคจริงๆ ไม่ทำให้เราระแวงจริงๆ  คือเราไม่เล่นยาอะไรอยู่แล้วซึ่งที่บ้านก็รู้ดี  ว่าเราค่อนข้างเกลียดอะไรแบบนี้เพราะขนาดพ่อเราสูบบุหรี่เรายังไม่เข้าใกล้เลย  แล้วอีกอย่างเราก็มีงานอดิเรกที่ค่อนข้างต้องใช้สมาธิและความเป็นส่วนตัวด้วย คือเราชอบทำคลิปพากย์เสียงการ์ตูน หนังด้วย แล้วก็อัดเสียงร้องเพลงตัวเอง ซึ่งเราก็ใช้เวลากะตรงนี้ค่อนข้างเยอะ ไม่เกิน5ชม. คือเราเป็นคนที่งานค่อนข้างเยอะ เราพยายามบอกเขาหลายรอบละ  ว่ามีทั้งเรียนแล้วก็งานที่เป็นความฝันของตัวเอง ซึ่งเค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี อาจเป็นช่วงวัยที่ต่างกัน และบวกกับว่าเค้าไม่สนับสนุนอะไรแบบนี้ มันเลยอาจทำให้เราค่อนข้างกดดัน จนต้องเอามาโพส ยอมรับว่าในกระทู้หลักเราอาจะบอกไม่หมด เพราะตอนเขียนนั้นเขียนด้วยความน้อยใจ ด้วยความโกรธที่เต็มเปี่ยม พอมาคิดๆแล้วเราก็มีส่วนผิดที่ไม่พูดให้ชัดเจน แต่ก็นะ ตอนนี้ได้พูดเค้าก็ไม่รับฟังอยู่ดี ก็เถอะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ  แต่ถ้ามองอีกมุมก็อารมณ์เหมือนแบบว่าเราดูหนังโป๊แล้วกำลังจะช่วยตัวเองอยู่ แล้วที่บ้านดันไขกุญแจพรวดเข้ามาหล่ะ อันนี้น่าจะเห็นภาพกว่ามั้ย นั่นแหละสิ่งที่จะสื่อ หรือว่าเรื่องนี้ ก็ไม่ได้เป็นความลับระดับชาติอีก 5555555555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่