คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.


แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.

แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 20 สิงหาคม 2564

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/389973082621022

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 19,851 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,009,710 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 16,125 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 325 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 3,391 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 223,381 ราย)
เสียชีวิตรวม 8,826 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 240 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 795,805 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 20,478 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 205,079 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 19,516 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,181) ปริมณฑล (3,878) จังหวัดอื่น ๆ (11,457)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 10 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ(1) ภูเก็ต(2) ปัตตานี(2) และ สระแก้ว(5) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศฝรั่งเศส 1 ราย
- จากประเทศอิสราเอล 2 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 5 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 2 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 210.8 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.4 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 188.7 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.53)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 154,917 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 643,112 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 32.3 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 37,312 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31. 5 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 34 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 51 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 365,759 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,004 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 13,945 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,489,460 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 22,948 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 87,723 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,747 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 11,313 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 6,869 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10,654 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 7,150 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/4079763542149187


แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.

แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 20 สิงหาคม 2564

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/389973082621022

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 19,851 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,009,710 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 16,125 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 325 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 3,391 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 223,381 ราย)
เสียชีวิตรวม 8,826 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 240 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 795,805 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 20,478 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 205,079 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 19,516 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,181) ปริมณฑล (3,878) จังหวัดอื่น ๆ (11,457)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 10 ราย และเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ(1) ภูเก็ต(2) ปัตตานี(2) และ สระแก้ว(5) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศฝรั่งเศส 1 ราย
- จากประเทศอิสราเอล 2 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 5 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 2 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 210.8 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.4 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 188.7 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.53)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 154,917 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 643,112 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 32.3 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 37,312 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31. 5 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 34 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 51 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 365,759 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,004 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 13,945 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,489,460 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 22,948 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 87,723 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,747 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 11,313 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 6,869 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10,654 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 7,150 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/4079763542149187
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน⏺วันนี้20ส.ค.ป่วยช่วงขาลง19,851คน รักษาหาย20,478คน 19ส.ค.ฉีดได้651,606โดส/ติดเชื้อ77จว./AZภูฎาน/ไทยผ่านจุดพีค
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 19,851 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 19,526 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 325 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 980,847 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 1,009,710 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 240 ราย เสียชีวิตสะสม 8,826 ราย หายป่วยเพิ่ม 20,478 ราย หายป่วยสะสมระลอกเมษายน 768,379 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 205,079 ราย
https://www.sanook.com/news/8429702/
45 จว.รายใหม่ยังเกินร้อย สูงสุดภาคกลาง ตามด้วยอีสาน ใต้ ตะวันออก ตะวันตก เบาสุดเหนือ พบติดเชื้อใหม่น้อยสุดที่แม่ฮ่องสอนเพียง 1 ราย
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.64 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ข้อมูลวันที่ 20 ส.ค.64 เวลา 01.00 น. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทั้ง 77 จังหวัดของประเทศไทย โดยจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดและยอดสะสมสูงสุดยังคงเป็นกทม. โดยวันนี้อยู่ที่ 4,182 ราย ตามด้วยอีก 3 จังหวัดที่รายใหม่อยู่ในหลักพัน คือ สมุทรสาคร 1,556 ราย แม้ลดลงแต่ยังคงสูงอยู่ ชลบุรี 1,348 ราย สมุทรปราการ 1,055 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานที่หล่นจากหลักพัน ขณะจังหวัดที่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่น้อยที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 1 ราย
ทั้งนี้ พบมี 45 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินร้อย สูงที่สุดยังคงเป็นภาคกลาง 15 จังหวัด ได้แก่ กทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นนทบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม กำแพงเพชร อ่างทอง เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี และนครสวรรค์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบผู้ติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 11 จังหวัดคือ นครราชสีมา ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ชัยภูมิ มหาสารคาม และกาฬสินธุ์
ภาคใต้ ติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 9 จังหวัดคือ สงขลา นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช
ภาคตะวันออก ติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 6 จังหวัดคือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว และจันทบุรี
ภาคตะวันตก ติดเชื้อใหม่เกินร้อยใน 4 จังหวัดคือ ราชบุรี กาญจนบุรี ตาก และเพชรบุรี
https://siamrath.co.th/n/273163
กระทรวงสาธารณสุข เผยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ ศบค.เห็นชอบ หลักการแลกวัคซีนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลภูฏาน 1.5 แสนโดส ถึงไทยเที่ยงวันนี้ พร้อมกระจายให้พื้นที่ฉีดให้กับกลุ่ม 608 เมื่อผ่านการตรวจสอบคุณภาพโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
วันที่ 20 สิงหาคม 2564 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่ ศบค. เห็นชอบหลักการแลกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลภูฏาน จำนวน 1.5 แสนโดส และจะส่งคืนให้กับภูฏานในปลายปี 2564 โดยวันนี้ เวลา 12.40 น. วัคซีนล็อตดังกล่าวได้มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยแล้ว เมื่อผ่านขั้นตอนของกรมศุลกากรและนำวัคซีนออกมาแล้ว ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพวัคซีน คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน และจะกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อฉีดให้กับประชากรกลุ่ม 608 ได้แก่ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไปภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อลดการป่วยหนักและเสียชีวิต
https://siamrath.co.th/n/273197
ยังคงเป็นช่วงลำบาก คาด 2-3 เดือน
หมอกัมปนาทคาดน่าจะผ่านจุดพีค 2.3 หมื่นไปแล้ว เริ่มกลับหัวลง ด้วยหลายปัจจัยร่วม แต่ระบุเมื่อขาขึ้นใช้เวลา 2-3 เดือน ขาลงก็ต้องใช้เวลาประมาณนี้เช่นกัน ยังต้องมีติดเพิ่มและตายเพิ่มเป็นแสนและเป็นพัน อันเป็นธรรมชาติของโรคที่หลายประเทศผ่านความโหดร้ายนี้มาแล้ว ไทยยังต้องอยู่อย่างนี้ไปอีกพักใหญ่ๆ แต่เริ่มมีสัญญาณรำไรให้เห็น ยังต้องระวังตัวให้เคร่งครัด เปรียบโควิดเหมือนฝน ต้องป้องกันไม่ให้ตัวเปียก ชี้เกมนี้ไวรัสเป็นตัวกำหนด
นพ.กัมปนาท พรยศไกร ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ เจ้าของเพจ Sarikahappymen โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุ "อัพเดตข่าวดีเล็กๆ ในวันที่ยอด Covid ไทยครบ 1 ล้าน เมื่อเช้าหลายคนคงเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่และหลายเพจก็ลงสรุปให้ว่าถึงหนึ่งล้านแล้ว ก็คงขวัญหนีดีฝ่อกันไปและคิดว่ามันจะยังไงต่อนะครับ
หลายคนคงจำได้ว่าเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนที่ผมเคยเขียนไว้เรากำลังจะมาถึงจุดพีคของเวฟแล้วใช่ไหมครับ ที่ว่าให้เกาะเสาเรือนกันให้ดี ๆ จากนั้นผ่านมา 2 อาทิตย์ ผมว่าเราเริ่มจะเห็นข่าวดีบ้างแล้วหละครับ
จากตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 2 สัปดาห์ รวมกับสถิติในหลายประเทศ และธรรมชาติของโรค เมื่อเอามาทำกราฟเทียบ ผมว่าเราน่าจะผ่านจุดพีคของเวฟเดลต้านี้ไปแล้วหละครับที่ 23,000 เมื่อสัปดาห์ก่อนและจากนี้กราฟมันก็จะเริ่มสัญญาณกลับหัวลงแล้วครับ
หลายคนก็คงสงสัยว่าลงจากอะไร อันนี้ก็ต้องบอกว่าจากหลายๆ ปัจจัยร่วมกันครับ ตั้งแต่
1.ธรรมชาติของโรค คือทุกอย่างในโลกนี้มันไม่มีอะไรสูงสุดตลอดกาลหรอกครับ มีพีคก็มีแผ่ว โรคระบาดก็เช่นกันมันก็จะบุกเราเป็นระลอก มีช่วงหนัก ช่วงเบา ดูอย่างอินเดีย อินโด ที่ยอดติดวันละ 4 แสน ตายกันเต็มแม่น้ำคงคา พอถึงเวลามันจะซา ยอดก็ลดลงไปดื้อ ๆ นั่นแหละครับ
2.การฉีดวัคซีน ถึงเห็นว่าระบบจัดสรรจะมั่วซั่วขนาดไหน แต่สุดท้ายเห็นเงียบๆ ฉีดเพียบนะครับ คือตอนนี้เรามีคนไทยที่ได้วัคซีนเข็มแรกกันไปแล้วถึง 18 ล้านคน หรือก็ 1 ใน 4 ของประเทศแล้ว และก็ยังฉีดเพิ่มกันทุกวันเฉลี่ยวันละ 4-5 แสนคน คือก็ฉีดข้ามหัวเราไปมานี่แหละครับ ซึ่งแต่ละคนภูมิก็อาจขึ้นสูงบ้างต่ำบ้างตามแต่ละชนิดหรือจำนวนโดสที่ได้ แต่มันก็ขึ้น ไม่ใช่ถึงขนาดฉีดน้ำเปล่านะครับ
3.ยอดคนติด ตอนนี้เรามียอดคนติดเชื้อล้านคน ก็เท่ากับคนกลุ่มนี้ก็จะมีภูมิธรรมชาติอยู่แล้วล้านนึง และยิ่งสมมติที่เราบอกกันว่าตรวจน้อยกว่าความเป็นจริง 10 เท่า ก็แปลว่าข้างนอกก็ต้องมีคนติดเชื้อแบบไม่มีอาการอยู่ 10-20 ล้านคน ก็เท่ากับคนกลุ่มนี้ก็ต้องเริ่มมีภูมิด้วยเช่นกันนั่นแหละครับ และถ้ารวมกับยอดคนฉีดวัคซีนด้วยก็แปลว่าเรามีคนที่มีภูมิอย่างน้อยเกือบ 1 ใน 3 หรือบางทีเกือบครึ่งประเทศแล้วนะครับ
ซึ่งจากหลาย ๆ อย่าง รวมถึงที่คนส่วนใหญ่ก็ยังช่วยกันระมัดระวังตัวเองอยู่ ยังใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง รวมถึงมาตรการล๊อคดาวน์ที่ถึงแม้จะทำแบบโคตะระหลวมแต่ก็ช่วยชะลอยอดใหม่ได้บ้างไม่มากก็น้อย ก็เลยทำให้เราน่าจะผ่านจุดพีคของมันไปได้แล้วหละครับ
แล้วจะเป็นยังไงต่อ จบเลยไหม
ก็ต้องบอกว่าเราแค่ผ่านจุดพีคครับ แต่มันยังไม่จบ กราฟไม่หลอกใคร เราขึ้นเขาจากเดลต้ามา 2-3 เดือน ขาลงก็ต้องใช้เวลา 2-3 เดือนเช่นกัน ก็คือจะต้องมีผู้ติดเชื้อวันละ 19,000 > 18,000 >17,000 ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะราบเรียบ ก็คืออย่างน้อยจะต้องมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 3-4 แสนคนนั่นแหละครับ
และเช่นเดียวกัน จากสถิติทุกประเทศ ยอดพีคผู้เสียชีวิตก็มักจะเกิดตามหลังพีคผู้ติดเชื้อประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็แปลว่ากว่าจะจบเวฟในอีก 2-3 เดือน เราจะต้องเห็นยอดผู้เสียชีวิตอีก 2-3 พันคนเช่นกันครับ
ที่พูดถึงไม่ใช่ไม่มีความรู้สึกหรือมองว่ามันเป็นแค่ตัวเลขนะครับ แต่มันคือธรรมชาติที่โหดร้ายของโรคที่มันเกิดกับทุกประเทศ ทุกที่ผ่านแบบนี้มาหมด เมกาตายไป 6 แสน อังกฤษตายไปแสนสาม เยอรมันตายไป 9 หมื่น และประเทศเรากำลังพยายามกดมันให้ดีที่สุดที่หมื่นต้นๆ นี่แหละครับ
ก็เป็นภาพรวมคร่าว ๆ ที่มาอัพเดตให้ในรอบ 2 สัปดาห์นะครับ ย้ำเหมือนเดิมว่าตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ลำบาก และเราต้องอยู่ไปอีกพักใหญ่ๆ แต่มันเริ่มมีสัญญาณรำไรว่ามันจะค่อย ๆ ดีขึ้นแล้ว ก็ยังต้องระวังตัวกันอย่างเคร่งครัด ให้คิดว่า Covid มันคือฝน มันมีทั้งช่วงหนักและเบา และเราต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเราเปียก การสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ก็เหมือนเรากางร่ม การฉีดวัคซีนก็เหมือนใส่เสื้อกันฝน การล๊อคดาวน์ก็เหมือนเราเข้าไปหลบฝนในตึก คือมันต้องทำทุกอย่างร่วมกันแหละครับ ทำอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่รอด เพราะเกมส์นี้เราไม่ได้เป็นคนกำหนดแต่เป็นไวรัสที่มันคิดกติกาและมันไม่ต่อรอง ถ้าพลาดหรือเผลอก็ติดจริง ป่วยจริงไม่ใช่การแสดงครับ
ก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง มีสติที่เข้มแข็งนะครับ หากเครียดหรือเริ่มดาวน์ก็อาจจะเลิกเล่น Social หรือสนใจข่าวไปซักพักและหันมาระมัดระวังตัวเองและคนรอบตัวให้ดีสุดก็พอ เราต้องอยู่แบบมีความหวังครับและเชื่อว่าถึงมันจะเลวร้ายแค่ไหนเดี๋ยวมันก็ผ่านไป ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยกันทุกคนนะครับ"
ข่าวดีเล็กๆ วันทะลุล้าน ไทยผ่านจุดพีค แต่ไม่จบเวฟ ยังคงเป็นช่วงลำบาก
หมอกัมปนาทคาดน่าจะผ่านจุดพีค 2.3 หมื่นไปแล้ว เริ่มกลับหัวลง ด้วยหลายปัจจัยร่วม แต่ระบุเมื่อขาขึ้นใช้เวลา 2-3 เดือน ขาลงก็ต้องใช้เวลาประมาณนี้เช่นกัน ยังต้องมีติดเพิ่มและตายเพิ่มเป็นแสนและเป็นพัน อันเป็นธรรมชาติของโรคที่หลายประเทศผ่านความโหดร้ายนี้มาแล้ว ไทยยังต้องอยู่อย่างนี้ไปอีกพักใหญ่ๆ แต่เริ่มมีสัญญาณรำไรให้เห็น ยังต้องระวังตัวให้เคร่งครัด เปรียบโควิดเหมือนฝน ต้องป้องกันไม่ให้ตัวเปียก ชี้เกมนี้ไวรัสเป็นตัวกำหนด
https://siamrath.co.th/n/273206