เป็นเรื่องที่ดินค่ะ 2 แปลง แปลงที่ 1 จำนวน 2 ไร่ และแปลงที่ 2 จำนวน 25 ไร่
1. (เรื่องเกิดขึ้นปี 2560) แปลงที่ 1 จำนวน 2 ไร่ ราคาประเมินไร่ละ 4 แสน นั้นเป็นมรดกของพ่อซึ่งย่าได้แบ่งไว้จะให้พ่อของดิฉัน แต่พ่อดิฉันมีปัญหากับอาเรื่องเงิน คือ พ่อให้อาค้ำประกันรถแทรกเตอร์ไถนาให้เพื่อพ่อจะได้มาขับรับจ้างไถนา ไถไร่ เพื่อส่งดิฉันเรียนจนจบ แต่มีช่วงหนึ่งพ่อน่าจะมีปัญหาเลยไม่ด้จ่ายหนี้รถไถทำให้หมายศาลไปบ้านอา ซึ่งอาต้องรับผิดชอบใช้หนี้รถไถนาให้พ่อราว ๆ 300,000 บาท และในช่วงนั้นเองนางญาติฝั่งพ่อมีการแบ่งมรดกที่ดินกันพอดี อาดิฉันเลยขอยึดและโอนที่ดินไว้จำนวน 2 ไร่ เป็นชื่ออาไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักประกันว่าถ้าดิฉัน พ่อ แม่ อยากได้ที่ดินต้องหาเงินจำนวน 300,000 กว่าบาทมาให้ก่อน
2. เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ตอนฉันยังเด็ก เป็นที่ดินแปลงที่ 2 นั้นเป็นมรดกทางแม่ของดิฉัน จำนวน 25 ไร่ เป็นชื่อตาของดิฉัน เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงนั้นตาต้องการรถไถนาเดินตาม 1 คัน ราคา 2 แสนบาท ตาเลยมอบอำนาจให้พ่อของดิฉันเอาที่ดินจำนวน 25 ไร่นี้ไปเข้าจำนองไว้กับสหกรณ์การเกษตร จนถึงปัจจุบันหนี้สหกรณ์การเกษตรอยู่ที่ราคา 5 แสน บาท และปัจจุบันตาได้เสียชีวิตลง ซึ่งที่ดินที่พ่อเอาไปจำนองอยู่ 25 ไร่นั้น ถ้าไถ่ถอนออกมาต้องแบ่งมรดกให้ลูกตาดิฉันจำนวน 5 คนรวมแม่ของดิฉันด้วย
*******ตอนนี้ดิฉันทำอาชีพถือว่ามั่นคงมีเงินสดในมือ 5 แสนบาทกู้มา เพราะเพิ่งเริ่มทำงาน ดิฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะบริหารและใช้หนี้ส่วนไหนก่อน เพราะญาตทั้ง 2 ฝ่ายต่างผิดใจกับครอบครัวดิฉัน และมองมาที่ดิฉันคนเดียวว่าเป็นตัวปัญหาทำให้พ่อแม่ต้องสร้างหนี้มาเพื่อให้เรียนจนจบปริญญาตรี และโดนดูถูกว่าไม่ช่วยเหลือพ่อแม่************** ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่าน
*********** ข้อ 1 คือดิฉันไม่ได้อยากได้ที่ดินคืนมานะคะ แต่อยากได้ความสัมพันธ์กับพี่น้องญาติๆ ฝั่งพ่อคืนมาค่ะ
********** ข้อ 2 ก็เหมือนกันค่ะ อยากได้ที่ดินคืนมาแล้วแบ่งให้ญาติพี่น้องฝั่งแม่ให้แล้วเสร็จ ดิฉันได้ไม่ได้ดิฉันไม่เป็นไร
********** ดิฉันไม่อยากให้เป็นกรรมตามและมาลงที่ดิฉันผู้เป็นลูกค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ดิฉันควรจะตัดสินใจอย่างไรดีคะมันสำคัญทั้ง 2 ฝ่าย
1. (เรื่องเกิดขึ้นปี 2560) แปลงที่ 1 จำนวน 2 ไร่ ราคาประเมินไร่ละ 4 แสน นั้นเป็นมรดกของพ่อซึ่งย่าได้แบ่งไว้จะให้พ่อของดิฉัน แต่พ่อดิฉันมีปัญหากับอาเรื่องเงิน คือ พ่อให้อาค้ำประกันรถแทรกเตอร์ไถนาให้เพื่อพ่อจะได้มาขับรับจ้างไถนา ไถไร่ เพื่อส่งดิฉันเรียนจนจบ แต่มีช่วงหนึ่งพ่อน่าจะมีปัญหาเลยไม่ด้จ่ายหนี้รถไถทำให้หมายศาลไปบ้านอา ซึ่งอาต้องรับผิดชอบใช้หนี้รถไถนาให้พ่อราว ๆ 300,000 บาท และในช่วงนั้นเองนางญาติฝั่งพ่อมีการแบ่งมรดกที่ดินกันพอดี อาดิฉันเลยขอยึดและโอนที่ดินไว้จำนวน 2 ไร่ เป็นชื่ออาไว้ก่อนเพื่อเป็นหลักประกันว่าถ้าดิฉัน พ่อ แม่ อยากได้ที่ดินต้องหาเงินจำนวน 300,000 กว่าบาทมาให้ก่อน
2. เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ตอนฉันยังเด็ก เป็นที่ดินแปลงที่ 2 นั้นเป็นมรดกทางแม่ของดิฉัน จำนวน 25 ไร่ เป็นชื่อตาของดิฉัน เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงนั้นตาต้องการรถไถนาเดินตาม 1 คัน ราคา 2 แสนบาท ตาเลยมอบอำนาจให้พ่อของดิฉันเอาที่ดินจำนวน 25 ไร่นี้ไปเข้าจำนองไว้กับสหกรณ์การเกษตร จนถึงปัจจุบันหนี้สหกรณ์การเกษตรอยู่ที่ราคา 5 แสน บาท และปัจจุบันตาได้เสียชีวิตลง ซึ่งที่ดินที่พ่อเอาไปจำนองอยู่ 25 ไร่นั้น ถ้าไถ่ถอนออกมาต้องแบ่งมรดกให้ลูกตาดิฉันจำนวน 5 คนรวมแม่ของดิฉันด้วย
*******ตอนนี้ดิฉันทำอาชีพถือว่ามั่นคงมีเงินสดในมือ 5 แสนบาทกู้มา เพราะเพิ่งเริ่มทำงาน ดิฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะบริหารและใช้หนี้ส่วนไหนก่อน เพราะญาตทั้ง 2 ฝ่ายต่างผิดใจกับครอบครัวดิฉัน และมองมาที่ดิฉันคนเดียวว่าเป็นตัวปัญหาทำให้พ่อแม่ต้องสร้างหนี้มาเพื่อให้เรียนจนจบปริญญาตรี และโดนดูถูกว่าไม่ช่วยเหลือพ่อแม่************** ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่าน
*********** ข้อ 1 คือดิฉันไม่ได้อยากได้ที่ดินคืนมานะคะ แต่อยากได้ความสัมพันธ์กับพี่น้องญาติๆ ฝั่งพ่อคืนมาค่ะ
********** ข้อ 2 ก็เหมือนกันค่ะ อยากได้ที่ดินคืนมาแล้วแบ่งให้ญาติพี่น้องฝั่งแม่ให้แล้วเสร็จ ดิฉันได้ไม่ได้ดิฉันไม่เป็นไร
********** ดิฉันไม่อยากให้เป็นกรรมตามและมาลงที่ดิฉันผู้เป็นลูกค่ะ ขอบคุณมากค่ะ