ทุกเส้นทางของ BTS ที่พวกเขาไป มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน มันเป็นการเดินทางที่ไม่รู้ว่าจะหยุดเมื่อไหร่
ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
'Dynamite' ถูกนับว่าเป็นเพลงที่ผู้คนในสหรัฐอเมริกาชอบมากที่สุดของ BTS สำหรับทุกเพลงที่พวกเขาปล่อยออกมา
'Dynamite' ขึ้นอันดับ
#1 บนชาร์ตซิงเกิ้ลหลักของ
Billboard 'Hot 100' ซึ่งเป็นชาร์ตที่วัดความนิยมของเพลงในสหรัฐฯ หลังจากนั้น... Dance Series ของ BTS ก็นำไปสู่การครองอันดับ #1 บน Hot 100 รวม 14 สัปดาห์ เริ่มจาก
Dynamite (3 สัปดาห์),
Savage Love BTS Remix (1 สัปดาห์),
Life Goes On (1สัปดาห์),
Butter (8 สัปดาห์) และ
Permission to Dance (1 สัปดาห์) รวมทั้งหมด 5 เพลง โดยใช้เวลาเพียง 10 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ นี่เป็นสถิติที่สั้นที่สุดต่อจาก
Michael Jackson (9 เดือน 2 สัปดาห์) ราชาเพลงป็อปชาวอเมริกันที่ทำไว้ในปี 1987-88 และ
The Beatles ซูเปอร์แบนด์จากอังกฤษ (6 เดือน) ที่ทำไว้ในปี 1964
ไร้ 'คู่แข่ง'
คู่แข่งเดียวของ
BTS คือ
BTS แม้พวกเขาจะเดบิวต์มาแล้ว 8 ปี
สถานะของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความสำเร็จทั้งหมดนี้ทำให้
BTS ได้รับการไตร่ตรองใหม่อีกครั้ง จากแต่ก่อนพวกเขาถูกเรียกว่า
“เคป๊อปสตาร์จากเกาหลี” “ซูเปอร์สตาร์” หรือ
“บอยแบนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
ปัจจุบันพวกเขากำลังถูกเรียกว่า
“ป๊อปไอคอนแห่งศตวรรษที่ 21”
พวกเขาประสบความสำเร็จแบบที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ไม่เพียงแต่ในวงการเพลงป๊อปเกาหลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในวงการเพลงป๊อปทั่วโลกอีกด้วย
BTS เอาชนะอุปสรรคที่ขวางทางพวกเขาและก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง พวกเขาใช้เส้นทางที่แตกต่างจากสตาร์เคป๊อปรายอื่น พวกเขาไม่ลังเลที่จะรับมือกับความท้าทายที่นอกเหนือไปจากอคติและมุมมองของคนที่ประเมินค่าพวกเขาต่ำเกินไป เหตุผลที่ความสำเร็จของพวกเขากลายเป็นเรื่องอเมซิ่งและข้อความของพวกเขากลายเป็นเสียงของยุคปัจจุบัน เพราะ BTS มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ผู้เชี่ยวชาญยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ตอนนี้ BTS ก้าวไปไกลกว่าวงการเพลงและยืนอยู่ในฐานะ ‘ไอคอนแห่งยุคสมัยนี้’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวเอเชียไม่เคยได้รับในวงการเพลงป๊อป”
BTS ผู้สร้างประวัติศาสตร์บน Billboard
นี่เป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมโดยอิงจากความนิยมในสหรัฐอเมริกาที่ระเบิดออกมาจาก 'Hot 100'
นี่คือความสำเร็จที่จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงเอเชียและ Billboard แม้แต่เจ้าของสถิติศิลปินเอเชียที่มีเพลงขึ้นอันดับ #1 บน 'Hot 100' รายแรกอย่าง
Kyu Sakamoto นักร้องชาวญี่ปุ่นผู้ล่วงลับ ที่สามารถพาเพลง
'Sukiyaki' ครองอันดับ #1 เป็นเวลาสามสัปดาห์ติดต่อกันในปี 1963 ก่อนที่สถิติจะถูกทำลายเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี โดย
BTS
ศิลปินที่ประสบความสำเร็จในการมีเพลงขึ้นอันดับที่ #1 บน Hot 100 แทนที่เพลงเก่าของตัวเอง ได้แก่
The Beatles,
Boyz II Men,
Puff Daddy,
Ja Rule,
Nelly,
OutKast,
Usher,
T.I.,
The Black Eyed Peas,
Taylor Swift,
The Weeknd,
Justin Bieber,
Drake และ
BTS ซึ่งตลอด 63 ปีของชาร์ตมีเพียงแค่ 14 ศิลปินเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จนี้
Forbes นิตยสารธุรกิจชั้นนำของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมว่า BTS ได้พิสูจน์พลังและความนิยมในสหรัฐฯอีกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องยากมากที่เพลงที่อยู่อันดับ #1 บน Hot 100 จะถูกแทนที่ด้วยเพลงของตัวเอง
▲ มากกว่าความสำเร็จเชิงตัวเลขคือ... การต่อสู้ที่มีความหมายของ BTS
ความสำเร็จทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะ "เลือด" "หยาดเหงื่อ" และ "น้ำตา"
BTS ต้องเผชิญกับการระบาดใหญ่จาก covid-19 พวกเขาได้ยกเลิกและเลื่อนกำหนดการต่างๆออกไปชั่วคราวในปีที่แล้ว พวกเขามีกำหนด Stadium Tour รอบโลก จึงมีความเสียหายมากมาย เช่นเดียวกับผู้คนทั่วโลก
แม้จะยังไม่รู้ว่าโรคระบาดนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แม้จะไม่มีอะไรที่ชัดเจน แต่
BTS สัญญาว่าจะรวมตัวกับแฟนๆทั่วโลกด้วยการร้องเพลง
เมื่อการระบาดครั้งใหญ่สิ้นสุดลง จะมีเด็กผู้ชาย 7 คนที่ยังไม่ลืมความตั้งใจและแก่นแท้ดั้งเดิมของพวกเขาในฐานะนักร้องและผู้ที่ประสบความสำเร็จในปี 2020, ปี 2021 และปีที่ดีที่สุดสำหรับ
BTS
Source:
https://n.news.naver.com/article/016/0001868721
〖 Icon of the times 〗คู่แข่งของ BTS คือ BTS "ไอคอนแห่งยุคสมัยนี้"
ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว 'Dynamite' ถูกนับว่าเป็นเพลงที่ผู้คนในสหรัฐอเมริกาชอบมากที่สุดของ BTS สำหรับทุกเพลงที่พวกเขาปล่อยออกมา
'Dynamite' ขึ้นอันดับ #1 บนชาร์ตซิงเกิ้ลหลักของ Billboard 'Hot 100' ซึ่งเป็นชาร์ตที่วัดความนิยมของเพลงในสหรัฐฯ หลังจากนั้น... Dance Series ของ BTS ก็นำไปสู่การครองอันดับ #1 บน Hot 100 รวม 14 สัปดาห์ เริ่มจาก Dynamite (3 สัปดาห์), Savage Love BTS Remix (1 สัปดาห์), Life Goes On (1สัปดาห์), Butter (8 สัปดาห์) และ Permission to Dance (1 สัปดาห์) รวมทั้งหมด 5 เพลง โดยใช้เวลาเพียง 10 เดือนกับอีก 2 สัปดาห์ นี่เป็นสถิติที่สั้นที่สุดต่อจาก Michael Jackson (9 เดือน 2 สัปดาห์) ราชาเพลงป็อปชาวอเมริกันที่ทำไว้ในปี 1987-88 และ The Beatles ซูเปอร์แบนด์จากอังกฤษ (6 เดือน) ที่ทำไว้ในปี 1964
ไร้ 'คู่แข่ง'
คู่แข่งเดียวของ BTS คือ BTS แม้พวกเขาจะเดบิวต์มาแล้ว 8 ปี
สถานะของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ความสำเร็จทั้งหมดนี้ทำให้ BTS ได้รับการไตร่ตรองใหม่อีกครั้ง จากแต่ก่อนพวกเขาถูกเรียกว่า “เคป๊อปสตาร์จากเกาหลี” “ซูเปอร์สตาร์” หรือ “บอยแบนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
BTS เอาชนะอุปสรรคที่ขวางทางพวกเขาและก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง พวกเขาใช้เส้นทางที่แตกต่างจากสตาร์เคป๊อปรายอื่น พวกเขาไม่ลังเลที่จะรับมือกับความท้าทายที่นอกเหนือไปจากอคติและมุมมองของคนที่ประเมินค่าพวกเขาต่ำเกินไป เหตุผลที่ความสำเร็จของพวกเขากลายเป็นเรื่องอเมซิ่งและข้อความของพวกเขากลายเป็นเสียงของยุคปัจจุบัน เพราะ BTS มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
BTS ผู้สร้างประวัติศาสตร์บน Billboard
นี่เป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมโดยอิงจากความนิยมในสหรัฐอเมริกาที่ระเบิดออกมาจาก 'Hot 100'
นี่คือความสำเร็จที่จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของวงการเพลงเอเชียและ Billboard แม้แต่เจ้าของสถิติศิลปินเอเชียที่มีเพลงขึ้นอันดับ #1 บน 'Hot 100' รายแรกอย่าง Kyu Sakamoto นักร้องชาวญี่ปุ่นผู้ล่วงลับ ที่สามารถพาเพลง 'Sukiyaki' ครองอันดับ #1 เป็นเวลาสามสัปดาห์ติดต่อกันในปี 1963 ก่อนที่สถิติจะถูกทำลายเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี โดย BTS
ศิลปินที่ประสบความสำเร็จในการมีเพลงขึ้นอันดับที่ #1 บน Hot 100 แทนที่เพลงเก่าของตัวเอง ได้แก่
The Beatles, Boyz II Men, Puff Daddy, Ja Rule, Nelly, OutKast, Usher, T.I., The Black Eyed Peas, Taylor Swift, The Weeknd, Justin Bieber, Drake และ BTS ซึ่งตลอด 63 ปีของชาร์ตมีเพียงแค่ 14 ศิลปินเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จนี้
Forbes นิตยสารธุรกิจชั้นนำของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมว่า BTS ได้พิสูจน์พลังและความนิยมในสหรัฐฯอีกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องยากมากที่เพลงที่อยู่อันดับ #1 บน Hot 100 จะถูกแทนที่ด้วยเพลงของตัวเอง
▲ มากกว่าความสำเร็จเชิงตัวเลขคือ... การต่อสู้ที่มีความหมายของ BTS
แม้จะยังไม่รู้ว่าโรคระบาดนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แม้จะไม่มีอะไรที่ชัดเจน แต่ BTS สัญญาว่าจะรวมตัวกับแฟนๆทั่วโลกด้วยการร้องเพลง
เมื่อการระบาดครั้งใหญ่สิ้นสุดลง จะมีเด็กผู้ชาย 7 คนที่ยังไม่ลืมความตั้งใจและแก่นแท้ดั้งเดิมของพวกเขาในฐานะนักร้องและผู้ที่ประสบความสำเร็จในปี 2020, ปี 2021 และปีที่ดีที่สุดสำหรับ BTS
Source:
https://n.news.naver.com/article/016/0001868721