วันนั้น..เมื่อฉันถูกบอกรัก ตอน 2

กระทู้สนทนา
“ ตะเองชอบแนวเราแต่งตัวเหรอ  แต่ตะเองก็แต่งซะหล่อแบบนี้  เราไม่กล้าเดินด้วยเลยนะ”  ฉันพูดดักคอหนุ่มคนนั้น  จะดูว่าเขาสนใจฉันจริงหรือเปล่า  ไม่ใช่ทำท่าไปแบบนั้น

         “จริงครับ  เพราะรดาแต่งแล้ว  ดูเท่เหมาะกับรดามากครับ  จอยกับปอมแต่งก็ดูไม่เท่เหมือนรดาครับ” 

         หนุ่มชมใหญ่  ฮ่าๆๆ  จริงใจหรือเปล่าต้องพิสูจน์

        วันนี้ก็ดื่มเบียร์ไป 2 ขวดเพราะหนุ่มชวนดื่มตลอด  คุยไปดื่มไป  ถูกคอกันดี  ได้ขำได้หัวเราะกันไปพอเพลินๆ  แต่รู้สึกเริ่มเมา  ฮ่าๆๆ

       “  ตอนนี้ทุกคนช่วยเช็คเพื่อนรหัสที่ติดกับเราด้วยว่ามาครบกันหรือยัง” รุ่นพี่คณะตะโกนบอกน้องใหม่ทุกคน  

       “เหลือใครอีกไหมครับที่ยังไม่มา  ช่วยบอกด้วยครับ  เพราะรถบัสเราพร้อมออกแล้ว  ถ้าไปช้าเกินเวลา  น้ำที่ห้วยจะขึ้นสูงถ้าไปสาย”

       รถบัสมีทั้งหมด 3 คัน  คันที่รุ่นน้องมาครบไปก่อนล่วงหน้า  เหลือคันสุดท้ายที่ต้องรอ  เพราะฉันยังไปไม่ถึง  

       วิ่งอย่างเดียวตอนนี้  เวลาผ่านไปเร็วมาก  เพราะเมื่อคืนเมามาก  ตื่นสาย  

       “ เราจะรออีก 5 นาที  ถ้าเธอไม่มา  ต้องไปหละครับ  แล้วให้เธอตามไปเอง” 

       รุ่นพี่เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียว  เพราะรอมา 15 นาทีแล้ว  ฉันยังไปไม่ถึง  รถบัสกำลังเคลื่อนที่กำลังจะออกไปที่ห้วยแก้ว  

       ฉันเห็นรถบัสกำลังจะออกไป  ฉันตะโกนสุดเสียงและวิ่งตามรถบัสไป

      “ มาแล้ว...รอด้วย...รอด้วย”  วิ่งสุดชีวิต

      “ เพื่อนผมมาแล้วครับ  กำลังวิ่งมา  จอดด้วยครับ”  ธงไทยตะโกนบอกคนขับรถบัส  ด้วยความตื่นเต้น  กลัวฉันตกรถบัส  

        พอฉันขึ้นรถบัส  ด้วยความรีบร้อนขึ้น  และเหนื่อยตอนที่วิ่ง  พร้อมเมาค้างด้วย 

        ขาอ่อน ไปสะดุดขาเพื่อนคนหนึ่งที่ยื่นออกมา  ล้มและเซไปนั่งบนตักของเพื่อนอีกคนหนึ่งอย่างไม่ได้  ตั้งใจ  เขาก็สะดุ้งสุดตัว 
     
        ฉันก็ตกใจสุดขีด  เหงื่อปนน้ำจากผมที่ฉันสระตอนเช้าแล้ว  และไม่ทันได้เช็ด  หยดไปบนขนมปังที่เขากำลังกินอยู่

        “ขอโทษ  ขอโทษมากๆ  ตะเองเป็นอะไรไหม”  ฉันรีบกล่าวขอโทษเขาทันที

          “ ไม่เป็นไรครับ  เธอมีที่นั่งหรือยัง  พอดีเราก็มาสายเหมือนกัน  เลยได้นั่งด้านหลัง”

        “ เดี๋ยวไปนั่งด้านหลังตะเองละกัน  ขอบคุณมาก”  ฉันไปนั่งด้านหลังถัดที่นั่งเขาไป

          รถบัสจอดตอนไหนไม่รู้เรื่องเลย  แต่ได้ยินเสียงปลุกเบาๆ

          “เธอ..เธอ  รถบัสถึงแล้วนะ  เขาลงกันหมดแล้ว”  ฉันลืมตาขึ้นมา  

         เห็นเขาคนนั้นก้มลงมาปลุก  ทำให้ฉันตกใจร้องเสียงหลง  เขาหัวเราะที่เห็นฉันเผลอหลับไปเพราะเหนื่อยวิ่งตามรถบัส  ฉันงัวเงียเดินลงมา  ธงไทยรีบเข้ามาดูแลเพราะเห็นสภาพฉันแล้วน่าเป็นห่วง

         “ น้องใหม่ทุกคน  พักแป๊บนะครับ  จากนั้นแล้วให้ยืนเข้าแถว  แยกหญิงแยกชายด้วยครับ  พี่ๆจะเช็คดูว่ามีจำนวนเท่าไหร่ครับ”

         หลังจากพักเรียบร้อยแล้วยืนเข้าแถวเรียงหนึ่ง  เพื่อให้พี่ๆนับจำนวน  

        “ พี่จะให้น้องใหม่ฝ่ายชาย  เข้าไปเลือกน้องใหม่ฝ่ายหญิง  เพื่อเป็นบัดดี้กันตอนลงไปในน้ำนะครับ  พร้อมแล้วเชิญเลือกคู่เลยครับ”

         ฉันยืนอยู่ท้ายสุดเพราะมัวแต่เพลียจากเบียร์และวิ่งเมื่อเช้า  คิดในใจถ้าไม่มีใครมาเป็นบัดดี้ก็ดี  จะได้ไม่ต้องลงน้ำ  ไม่อยากเปียก  ยังไม่ทันคิดจบ  ก็มีมือของชายหนุ่มนายหนึ่งเข้ามาจับมือฉัน  ทำให้ฉันตกใจ  ทำไมมาเร็วจัง  ฉันก็อยู่ซะแถวหลังสุด  และก็วิ่งตามรถบัส  ไม่น่ามีใครอยากจะมาเป็นบัดดี้ด้วย  แต่นี่..อุ๊ย  เร็วจัง

         ฉันหันมามองคนที่มาจับมือเป็นบัดดี้ด้วย  อ๋า..หนุ่มที่ฉันไปเผลอนั่งตักเขานี่เอง ใจคอเขายังคงประทับใจฉันอยู่นะ  ทำให้นึกถึงตอนที่เหงื่อผสมน้ำจากผมของฉันหยดลงไปบนขนมปังที่เขานั่งกินอยู่  คงอร่อยน่าดูนะ  ฮ่าๆๆ  

         เขารายงานตัวทันทีพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจสุดจะทานทน  ใจเริ่มตื่นเต้นในรอยยิ้มที่จริงใจของเขามาก

        “เราชื่อประครองชัยครับ  ยินดีที่รู้จักเธอนะ”  เขายิ้มไม่หยุด  มือเขาก็จับมือฉันแน่น  เหมือนว่ากลัวคนอื่นจะมาแย่งไป  เมื่อฉันมองลงมาที่มือเขาที่จับมือฉันอยู่  เขาจึงปล่อยมือเขาออกและทำท่าอายๆ  ที่เผลอจับมือฉันนานไปหน่อย

      “ เราชื่อชิดรดานะ  ยินดีและขอบคุณที่มาเป็นบัดดี้”  ฉันยิ้มให้เขาบ้าง

        ในระหว่างลงไปในซุ้มกิ่งไม้ในน้ำ  ประครองชัยปกป้องและช่วยเหลือตลอด  เพราะอาการของฉันมันแย่ตั้งแต่เช้าแล้ว  พอได้ลงน้ำรู้สึกเย็นสบาย และมีชายหนุ่มมาช่วย  กิจกรรมจึงดำเนินไปด้วยดี 

     ..... ความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นในระหว่างประครองชัยช่วยในกิจกรรมรับน้องครั้งนี้

        ธงไทยชวนฉันไปดูหนังของคณะจัด  เขาขับมอเตอร์ไซค์ไปรับที่หอพัก  ฉันก็ไม่คิดอะไรเห็นเขาเป็นเพื่อนที่ดี  คอยช่วยเหลือเรื่องการเรียน  งานและการบ้าน  เขาคงอยากให้ฉันไปดูหนังเป็นเพื่อน  แถมซื้อตั๋วให้อีกต่างหาก  ใจดีจริงเพื่อนคนนี้

        พอธงไทยกับฉันเดินเข้าไปในโรงหนัง  เพื่อนๆของเขาก็แซวธงไทย 

      .... ว่าพาใครมาน้า  คนพิเศษเหรอ  ฉันฟังแบบนั้น  รู้สึกไม่ชอบ  เพราะเขากับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน  แค่เพื่อนที่เรียนด้วยกัน หลังดูหนังจบ 

     ..... พอเดินออกมา  เพื่อนของเขาก็พูดอีก  คราวนี้พูดว่าพาแฟนมาดูหนังเหรอ  ฉันมองไปที่เขา  เห็นเขายิ้มอย่างมีความสุข 

    ..... อ้า..อะไรกันเนี่ย  ธงไทยเหมาคิดไปเองอะเปล่าเนี่ย  ไม่ได้การหละนะ  ทำแบบนี้ 

       เขาขับมาส่งที่หอพัก  พอลงจากรถ  ฉันก็เลยบอกเขาไปว่า

      “ ธงไชย  เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ  ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านั้นนะ  ถ้าคิดเป็นอื่นเราไม่เอานะ  หวังว่าคงเข้าใจ  โอเคเปล่า”  พอพูดจบ 

       .....ฉันก็เดินเข้าหอพักไป  ไม่กลับหันมาดูว่าเขาจะทำหน้าอย่างไร ....

      ..... บอกตอนนี้ซะเลย  ดีกว่าธงไชยเข้าใจผิด  แล้วเอาฉันไปมโนว่าเป็นแฟน

      .... มันบาปนะแบบนั้น  ทำให้เขาเสียเวลาไปเปล่าๆ  รู้ตอนนี้จะได้ตัดใจ  และไปหาคนใหม่ที่ใจตรงกับเขาจะดีกว่า  ฉันคิดว่าฉันทำถูกที่สุดหละ

       เช้ามาเข้าไปเรียนวิชาภาษาอังกฤษ  วันนี้ไม่ไปสายเพราะใกล้จะสอบกลางภาคหละ  ฉันมองหาธงไชย  เอ..วันนี้เขาไปไหนนะ  ทุกครั้งเขาจะมาก่อนฉันตลอด 

    ..... หรือว่าอกหัก  จนเดินประครองตัวเองมาเรียนไม่ได้หละ

       วันนี้เขามาสาย  คงไม่กล้ามาเจอหน้าฉัน  แต่ฉันก็รู้สึกเห็นใจ  ที่พูดตรงเกินไปวันนั้น 

       “ธงไชย..สบายดีหรือเปล่า  ทำไมวันนี้มาสาย  เป็นอะไรไปเหรอ”  ฉันเข้าไปถามเขาอย่างเห็นใจ  พยายามทำสีหน้าให้เนียนที่สุด  เขาไม่ยอมซบตาฉัน  มองไปทางอื่นตลอด

       “ไม่เป็นไรน่า  มีอะไรก็พูดมา  เราพร้อมรับฟังเธอนะ” ฉันพยายามพูดกับเขาให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากเรื่องเมื่อวาน  และแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า

       “เราไม่หล่อใช่ไหม เธอจึงไม่ชอบเรา”  ฉันอดขำไม่ได้  ยิ้มออกมาแต่พยายามอดกลั้นไม่ให้หัวเราะ  และพูดว่า

      “เราชอบตะเองเหมือนเพื่อนนะ  คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้  ตะเองคงเข้าใจ  เราเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิมตลอด  โอเคไหม” 

      .... ธงไทยนั่งก้มหน้า  ส่ายหน้าไปมา  ฉันจับที่บ่าเขาและบอกว่า

      “ตกลงเราเป็นเพื่อนกันนะ ธงไทย  คนดีของรดา”  คำกล่อมของฉันทำให้เขา 

     ..... เงยหน้าขึ้นมาและทำหน้างอแบบทนสภาพแบบนี้ไม่ไหว  แต่ก็พยักหน้า  ฉันเห็นแล้วรู้สึกโล่งใจที่เพื่อนดีๆคนหนึ่ง  เข้าใจความรู้สึกของฉัน

         ปกติไม่เคยได้เรียนชั้นเดียวกับประครองชัย  จะเจอกันตอนไปที่คณะ  เจอที่ไรเขาจะยิ้มหวานให้ทุกครั้ง  เขาเป็นมิตรที่ดีมาก  หน้าตาหล่อ
เหลา  พูดจาสุภาพ  ลักษณะดูท่าจะเป็นเด็กเรียน  เจอทีไรเขาจะหอบหนังสือหลายเล่มตลอด  แสดงว่าวันๆคงอ่านแต่หนังสือ

         “หวัดดีรดา  เธออยู่หอพักหญิงอะไร  เราอยู่หอพักชาย 6”  ประครองชัยตรงเข้ามาทักทายทันที  ที่เห็นฉันเดินเข้าไป

        “หวัดดีประครองชัย  เราพักอยู่หอหญิง 8”  ฉันรีบตอบ  เผื่อจะหาคนช่วยสอนคณิตศาสตร์  เพราะฉันไม่เก่งคณิตศาสตร์  

        ดูท่าทางประครองชัยจะเรียนเก่ง  

       “ดีเลย  เราพักตรงข้ามกันเลย  ว่างๆก็มากินข้าวใต้ถุนหอ 6 ได้นะ  กับข้าวอร่อย”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่