น้องสาวเป็นคนไม่เอาไหนเลย ทำยังไงดีครับ?

คนโลกสวยกรุณาผ่านไปก่อนนะครับ ผมไม่อยากได้ยินแบบว่า ยังไงเค้าก็เป็นน้องเรา สายเลือดเดียวกัน บลาๆๆๆ เข้าใจตรงกันนะครับ

น้องสาวถูกพ่อแม่เลี้ยงมาอย่างตามใจ (ผมเป็นพี่ชายคนโต มีลูกสองคน คือผมและน้องสาว) เวลาน้องไม่พอใจอะไร ก็จะชักสีหน้าให้เห็นอย่างชัดเจน

น้องไม่สามารถอดทนกับอะไรได้เลย ไม่ว่าจะทั้งร่างกายและอารมณ์ เช่น ไม่สามารถทำงานหนักได้ ไม่สามารถโดนดุด่าได้ เพราะพ่อแม่ตามใจจนเคยตัว

ตอนนี้น้องอายุ 24 แล้ว ไม่ใข่เด็กแล้ว ควรจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ ผมก็ยอมรับว่าไม่ได้เป็นพี่ชายที่ดีอะไร แต่อย่างน้อยผมรู้สีกว่าผมยังเป็นคนเอาไหนทำอะไรต่อมิอะไรเป็น ทำงานหนักเข้าสังคม อ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้ใหญ่เป็น ไม่ได้ก้าวร้าวหรือประพฤติไม่ดีอะไร

เรื่องที่พีคอยู่ตรงนี้ครับ แม่ของผมและน้องสาว ผลตรวจโควิดออกมาเป็นบวก ผมเป็นพี่ชาย ทำงานอยู่ไกลบ้าน ที่บ้านมีแค่แม่กับน้องสาวอยู่กันสองคน

โดยปกติ คนที่จะต้องดูแลพ่อแม่ ก็คือลูกๆ ซึ่งในกรณีนี้ ควรจะเป็นน้องสาวผม เพราะตัวผมอยู่ไกล ไม่สามารถขับรถไปๆมาๆได้ตลอดทุกวัน

ผมจึงบอกให้น้องออกไปซื้อยา สมุนไพร อะไรต่างๆมาให้แม่ทาน ส่วนผมก็ทำหน้าที่ติดต่อทุกฝ่ายทุกช่องทางบนอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ (ติดต่อแทบทุกเพจ โทรแทบทุกเบอร์ เพื่อหาเตียง)

เรื่องก็คือ หลังจากที่ผมโทรไปบอกให้น้องสาวออกไปซื้อยา (น้องไม่ติดโควิด แม่ติดคนเดียว) สมุนไพรอะไรต่างๆมาให้แม่ทาน ผมก็รอน้องโทรกลับมาบอกว่าซื้อมาให้แม่แล้ว และให้แม่ทานยาเรียบร้อยแล้ว แต่.... ไม่มีสัญญาณอะไรเลย จนผ่านมาเกือบ2ชั่วโมง ผมก็เลยโทรกลับไปถามว่าแม่เป็นไง ให้ยาแม่รึยัง
น้องผมกลับตอบมาว่า "น้องไม่อยากลงไปข้างล่างอ่ะ กลัวติดโควิดจากแม่" ผมนี่อึ้งไปเลย ไม่นึกว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้จากน้องสาวแท้ๆของตัวเอง

ผมก็เริ่มอารมณ์เสียแล้ว ก็เลยตอบกลับไปว่า "แล้วน้องไม่ไปซื้อให้แม่ แล้วแม่จะทำยังไง แม่เค้าออกไปไหนไม่ได้ พี่ก็อยู่ไกล จะให้พี่ขับรถจากที่นี่ไปที่บ้านเพื่อแค่ซื้อยาไปให้แค่นี้หรอ ทำไมน้องไม่ออกไปซื้อให้แม่ ร้านยาก็อยู่ใกล้บ้าน จะรอพี่ทำไม แม่ตายพอดี"

น้องสาวพอได้ยินผมพูดแบบนั้นก็ไม่กล้าเถียง แต่ผมฟังแล้วก็รู้ว่าน้องไม่พอใจ ซึ่งผมก็รู้สึกว่า สถานการณ์แบบนี้ มันไม่ควรเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ควรจะทำทุกอย่างเพื่อดูแลแม่ให้หายป่วยก่อน

จนสุดท้ายน้องไปซื้อมา แทนที่จะเอายาสมุนไพรไปให้แม่ทานเลย น้องกลับเอายาไปวางไว้ห่างๆจากตัวแม่ที่นอนหลับอยู่ แล้วตัวน้องก็วิ่งขึ้นห้อง เพราะกลัวติดโควิดจากแม่แท้ๆของตัวเอง... ผมเข้าใจนะครับว่าโควิดมันติดกันได้ง่ายแค่ไหน แต่ถ้าถามผม ผมว่าถ้าเราป้องกันดีๆ ก็ไม่ได้ติดง่ายขนาดนั้น แค่ปลุกแม่ให้ทานยาที่วางไว้แล้วค่อยขึ้นห้องก็ได้ แต่นี่มันเหลือเกินจริงๆ

ตอนนี้แม่ผมก็ยังติดโควิด รอเตียงที่บ้าน อยู่ในขั้นสีเหลืองแล้ว (พิกัด ม.ธรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพ รังสิต เผื่อพี่ๆคนไหนอยากช่วยเหลือแม่ผมนะครับ)

ผมเหนื่อยใจมากเลยครับพี่ๆพันทิป ผมไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีน้องสาวที่แย่ขนาดนี้ คือก่อนหน้าจะมีโควิด น้องก็แย่พอสมควรอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้อะไร เพราะต่างคนต่างใช้ชีวิต ทำงานทำการ แต่นี่มันไม่ใช่ มันเกินไป ผมอึดอัดใจมากเลยครับ

พี่ๆคนไหนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หรือมีคำแนะนำ จะขอบคุณมากครับ

ปล. หากอยากช่วยเหลือหาเตียงหรือส่งยาสมุนไพรให้แม่ผม หลังไมค์ได้เลยครับ พิกัด ม.ธรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพ รังสิต

ปล2. ช่วยตอบให้ตรงประเด็น ผมถามว่าควรทำอย่างไรดี ไม่ใช่มาจับผิดเรื่องราวหรือประโยคอะไรที่ผมพิมไปนะครับ ผมก็ไม่ได้จะเล่าจะพิมทุกอย่างละเอียดขนาดนั้น เข้าใจตรงกันนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่