ภาษีหุ้นถ้าจะจัดเก็บ ฝากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ตามนี้ครับ

ถ้าคลังหรือสรรพากรคิดจะหาเงินเข้ารัฐ ผมก็ขอเสนอให้จัดเก็บ capital gain tax ไปเลยดีกว่า ไม่ต้องเกรงใจคนรวยหุ้น เศรษฐีหุ้น ทำแบบนี้เป็นการรังแกคนส่วนใหญ่ที่เป็นฐานปิรามิดในตลาดที่ขาดทุนอยู่แล้วให้เดือดร้อนหนักเข้าไปอีก และสุดท้ายรัฐจะไม่ได้อะไร เหนื่อยเปล่า เหมือนคุณอยากเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านที่ขาดแคลนอาหาร แต่เอาสวิงไปจับปลาเล็กปลาน้อย เพราะเห็นว่ามีมากกว่าปลาใหญ่ ในแม่น้ำ ทำแบบนี้ คุณกำลังทำลายระบบนิเวศน์ทั้งระบบสุดท้ายปลาใหญ่ก็ตายเพราะไม่มีอาหาร ปลาเล็กก็หนีไปที่แหล่งน้ำอื่น หรือตายไปหมด แต่ถ้าคุณจะเอาแหอวนไปดักปลาใหญ่ๆอ้วนๆ ได้เนื้อได้หนังมากกว่า และตัวเดียวก็อาจเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านได้เลย ระบบนิเวศน์ไม่เสีย เพราะวันนึงปลาเล็กก็จะกลายเป็นปลาใหญ่ให้คุณจับได้อีก หรือคุณเกรงใจเศรษฐีคนมีเงิน กำไรหุ้นเป็นพันล้านซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศ ธรรมชาติของตลาดทุน คน 20% ในตลาดหุ้นนั่นแหละครอบครองเงินอยู่ 80 % คนที่กำไรหุ้นหลักพันล้านหมื่นล้านแล้วขายออก คุณจัดเก็บภาษีเขาไปเลย 35% แค่รายเดียว คุณก็ได้มาแล้ว 350-3500 ล้าน โดยเค้าก็ไม่เดือดร้อนเพราะยังมีกำไรเหลืออีก 750-7500 ล้าน ได้เงินเป็นเนื้อเป็นหนัง ถือว่าเป็นการลดช่องว่างทางสังคม แทนที่จะไปเก็บจากการเทรด ซึ่งส่วนใหญ่ในตลาดคือปลาเล็กปลาน้อย พอร์ตหลักแสนหลักล้าน ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตเขา กลุ่มนี้ไม่ใช่คนรวย ไม่ใช่คนมีเงิน การเทรด 1 ล้านต่อเดือนที่คุณกำหนดมาเมื่อ 30 ปีก่อน ตอนนั้นข้าวจานละ 10 บาท แต่ตอนนี้ 50 บาท ถ้าคิดค่าเงินสมัยก่อนเท่ากับมีเงินแค่หลักหมื่นหลักแสนเท่านั้น ซึ่งเขาก็โดนค่าคอม ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้ว  และส่วนใหญ่ก็ขาดทุนมาแล้วจากตลาดหุ้นไม่น้อย ถ้าคุณทำแบบนี้เขาก็เลิกเทรด บาดเจ็บล้มตาย หรือหนีไปเทรดตลาดต่างประเทศที่เขายกเว้นภาษีข้อนี้ สุดท้ายรัฐจะสูญเสียรายได้อยู่ดี ตลาดจะอยู่ได้อย่างไร สวิงที่คุณเหวี่ยงลงไปมันก็ไม่ได้ปลาหรอก  แต่ปลาใหญ่ที่มีกำไรสะสมมานานเมื่อขายออกทำกำไร ส่วนใหญ่ก็โยนใส่มือรายย่อยทั้งนั้น และกินกำไรพุงกาง คนที่เจ็บก็คือรายย่อยยับที่ต้องขาดทุนต้องออกจากตลาดไปพร้อมภาระหนี้จากภาษีที่คุณไปตามไล่บี้อีก ถ้าคุณถังแตกจริงๆ แล้วจะมาหาเงินในตลาดหุ้น อย่ากั๊กครับ ไปให้สุดทาง เก็บมันทั้งระบบไปเลย เก็บให้แฟร์ครับ

อ้อ ถ้าจัดเก็บภาษี capital gain ให้จัดเก็บพวกรายใหญ่ที่เลี่ยงช่องว่างไปถือ private fund   ด้วยนะครับ และควรเก็บให้หนัก เพราะกลุ่มนี้รายใหญ่ มหาเศรษฐีทั้งนั้น รวมถึงกองทุนทั้งหมดทั้งในและต่างประเทศด้วย กองทุนต่างประเทศก็เอาตามสมควร