เราเพิ่งสมัครบัตรเครดิตไปเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้มีแผนกประกันจากธ.หนึ่ง เบอร์ 02 โทรมาแจ้งว่าจะมีแพ็คเกตประกันความคุ้มครอง2ล้าน เข้ามาต่ออายุให้ประกันเดิมที่ได้จากการสมัครบัตรเครดิต ซึ่งคุ้มครอง3แสน
เราก็งงว่าไปสมัครประกันไว้ตอนไหน
Me : เดี๋ยวนะคะ หนูมีประกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เรื่องเลย
Bank : ตัวนี้ธ.ให้ลูกค้าที่สมัครบัตรเครดิตใหม่ทุกคนอยู่แล้วอ่าค่ะ ไม่ได้เสียเบี้ยประกัน
แล้วนางก็เล่ารายละเอียดกรมธรรน์ตั่งๆ เราก็ฟังๆไปได้จะรีบวาง เปิดเกมค้างไว้อยู่
จนมาสดุดที่ "เบี้ยประกันคงที่เดือนละ650บาท"
Me : ต้องเสียเดือนละ 650หรอคะ ไม่เอาได้มั้ยคะ จำได้ว่าไม่เคยสมัครประกันนะ
Bank : ตัวนี้ลูกค้าบัตรเครดิตจะได้ทุกคนอยู่แล้วอ่าค่ะ ของลูกค้าคุ้มครองมาตั้งแต่ พ.ค.แล้ว ค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ 650ตลอดไปค่ะ ไม่ว่าลูกค้าจะอายุเพิ่มขึ้น หรือเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น อันนี้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเลยค่ะ แค่ชำระบิลบัตรเครดิตตามปกติทุกเดือน
ในสมองเราก็พยายามคิดว่ามันหักกูมาตลอดหรอวะ กูก็เช็คบิลตลอดไม่มียอดนี้นะ เอ๊ะยังไงวะ หักไปยังวะ
ในขณะที่นางก็พูดข้อดี อย่างโน้น อย่างนี้ ให้เฉพาะลูกค้าใหม่นะคะ ลูกค้าทุกคนไม่มีใครปฏิเสธเลยนะคะ
ละก็ขอข้อมูลตั่งๆเราไปในขณะที่สมองเรากำลัง loading... ชื่อ ที่อยู่ อายุ ผู้รับผลประโยชน์ จนมาที่เลขบัตรเครดิต เราก็ว่าเอ๊ะ เหมือนมันกำลังจะหักเงินกูนะ
Me : เดี๋ยวนะคะพี่ ขออีกที สมมุติเดือนนี้หนูไม่ได้รูดบัตรเครดิตเลย ยอดก็จะมาที่ 650ถูกมั้ยคะ
Bank : ใช่ค่ะ ประกันตัวนี้จะไม่มีขายข้างนอกนะคะ ให้เฉพาะลูกค้าใหม่เท่านั้นค่ะ บางคนก็มาเสียดายทีหลังนะคะ เพราะเบี้ยประกันตกแค่วันละ 21บาทเท่านั้นคะ ได้ชดเชยนอนรพ.วันละ2,000 บลาๆ
คุยไปคุยมาได้ฟามว่า บัตรเครดิตแถมประกันมาให้ฟรี3เดือน ไม่เสียเบี้ยประกัน เรายังไม่โดนหักไป และนางก็โทรมาเพื่อจะให้ต่อประกันที่เสียเดือนละ650บาท โดยจะบวกมาในบิลเครดิตที่เราจ่ายทุกเดือน สะดวกและ easyมากๆ (แต่กูไม่ต้องการไง)
Me : งั้นไม่ต่อค่ะ ไม่สะดวกจ่ายเดือนละ650
Bank : ลูกค้าติดปัญหาตรงไหนคะ เบี้ยประกันแพงไปหรอ วันละ21บาทเองนะคะ ถ้าเอาเงิน21ไปเซเว่นก็ได้แค่น้ำเปล่า ...
แล้วก็เล่าประโยชน์ตั่งๆ เหมือนกูจะตายพรุ่งนี้ พ่อแม่กูจะได้สบายมีเงินใช้
Me : ไม่สะดวกจ่ายจริงๆค่ะ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย จะตกงานวันไหนก็ไม่รู้
Bank : สถานการ์ณแบบนี้ยิ่งต้องทำนะคะ เหมือนเป็นการออมเงิน เวลาเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ลูกค้าสามารถเบิกชดเชยได้เลย เหมือนเงินกินเปล่า บลาๆๆ
เราปฏิเสธอยู่เกือบครึ่งชม. กว่านางจะยอมวาง ด้วยความที่เราให้ข้อมูลไปหมดแล้วเกือบจะเสร็จการสมัครแล้วแต่เราเอ๊ะก่อน ถ้าเราตัดสายไปเลยกลัวจะเป็นการสมยอมโดยอัตโนมัติ จึงยอมทนฟังและปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ค่ะ!! นางบันทึกเสียงอยู่จะมาโมเมไม่ได้
และตลอดการสนทนานางไม่ได้ถามเราเลยว่า จะต่อหรือไม่ เหมือนมัดมือชก แนะนำประโยชน์ข้อมูลตั่งๆจนเราสับสน แล้วขอข้อมูลการสมัครไป ฟังรวมๆเหมือนจะไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม ยิ่งถ้าเป็นคนมีอายุหน่อยหรือฟังไม่ดี เรียบร้อยจ้า (เช่นแม่เราเป็นต้น)
ฝากเตือนทุกคนถ้าเจอเหตุการ์ณนี้ ฟังดีๆนะคะ อย่าตกเป็นเหยื่อ ถ้าเราไม่ได้ต้องการประกันจริงๆ มันไม่ใช่ปัญจัย4ที่จำเป็นสำหรับทุกคน ยิ่งสถานการ์ณแบบนี้ควรเซฟเงินไว้ก่อน เค้ามาขายเรา เค้าได้ยอด ส่วนเรายังไม่ได้เงินคืนตอนนี้หรอกค่ะ ต้องป่วยแอดมิทก่อน ซึ่งก็ไม่มีใครอยากป่วยถูกมั้ยคะ พส. นส.
ขอแชร์ปสก.สดๆร้อนๆ (เกือบ)โดนหลอกให้ซื้อประกันค่ะ (ยาวหน่อยนะคะ)
เราก็งงว่าไปสมัครประกันไว้ตอนไหน
Me : เดี๋ยวนะคะ หนูมีประกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เรื่องเลย
Bank : ตัวนี้ธ.ให้ลูกค้าที่สมัครบัตรเครดิตใหม่ทุกคนอยู่แล้วอ่าค่ะ ไม่ได้เสียเบี้ยประกัน
แล้วนางก็เล่ารายละเอียดกรมธรรน์ตั่งๆ เราก็ฟังๆไปได้จะรีบวาง เปิดเกมค้างไว้อยู่
จนมาสดุดที่ "เบี้ยประกันคงที่เดือนละ650บาท"
Me : ต้องเสียเดือนละ 650หรอคะ ไม่เอาได้มั้ยคะ จำได้ว่าไม่เคยสมัครประกันนะ
Bank : ตัวนี้ลูกค้าบัตรเครดิตจะได้ทุกคนอยู่แล้วอ่าค่ะ ของลูกค้าคุ้มครองมาตั้งแต่ พ.ค.แล้ว ค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ 650ตลอดไปค่ะ ไม่ว่าลูกค้าจะอายุเพิ่มขึ้น หรือเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น อันนี้ลูกค้าไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเลยค่ะ แค่ชำระบิลบัตรเครดิตตามปกติทุกเดือน
ในสมองเราก็พยายามคิดว่ามันหักกูมาตลอดหรอวะ กูก็เช็คบิลตลอดไม่มียอดนี้นะ เอ๊ะยังไงวะ หักไปยังวะ
ในขณะที่นางก็พูดข้อดี อย่างโน้น อย่างนี้ ให้เฉพาะลูกค้าใหม่นะคะ ลูกค้าทุกคนไม่มีใครปฏิเสธเลยนะคะ
ละก็ขอข้อมูลตั่งๆเราไปในขณะที่สมองเรากำลัง loading... ชื่อ ที่อยู่ อายุ ผู้รับผลประโยชน์ จนมาที่เลขบัตรเครดิต เราก็ว่าเอ๊ะ เหมือนมันกำลังจะหักเงินกูนะ
Me : เดี๋ยวนะคะพี่ ขออีกที สมมุติเดือนนี้หนูไม่ได้รูดบัตรเครดิตเลย ยอดก็จะมาที่ 650ถูกมั้ยคะ
Bank : ใช่ค่ะ ประกันตัวนี้จะไม่มีขายข้างนอกนะคะ ให้เฉพาะลูกค้าใหม่เท่านั้นค่ะ บางคนก็มาเสียดายทีหลังนะคะ เพราะเบี้ยประกันตกแค่วันละ 21บาทเท่านั้นคะ ได้ชดเชยนอนรพ.วันละ2,000 บลาๆ
คุยไปคุยมาได้ฟามว่า บัตรเครดิตแถมประกันมาให้ฟรี3เดือน ไม่เสียเบี้ยประกัน เรายังไม่โดนหักไป และนางก็โทรมาเพื่อจะให้ต่อประกันที่เสียเดือนละ650บาท โดยจะบวกมาในบิลเครดิตที่เราจ่ายทุกเดือน สะดวกและ easyมากๆ (แต่กูไม่ต้องการไง)
Me : งั้นไม่ต่อค่ะ ไม่สะดวกจ่ายเดือนละ650
Bank : ลูกค้าติดปัญหาตรงไหนคะ เบี้ยประกันแพงไปหรอ วันละ21บาทเองนะคะ ถ้าเอาเงิน21ไปเซเว่นก็ได้แค่น้ำเปล่า ...
แล้วก็เล่าประโยชน์ตั่งๆ เหมือนกูจะตายพรุ่งนี้ พ่อแม่กูจะได้สบายมีเงินใช้
Me : ไม่สะดวกจ่ายจริงๆค่ะ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย จะตกงานวันไหนก็ไม่รู้
Bank : สถานการ์ณแบบนี้ยิ่งต้องทำนะคะ เหมือนเป็นการออมเงิน เวลาเจ็บป่วย อุบัติเหตุ ลูกค้าสามารถเบิกชดเชยได้เลย เหมือนเงินกินเปล่า บลาๆๆ
เราปฏิเสธอยู่เกือบครึ่งชม. กว่านางจะยอมวาง ด้วยความที่เราให้ข้อมูลไปหมดแล้วเกือบจะเสร็จการสมัครแล้วแต่เราเอ๊ะก่อน ถ้าเราตัดสายไปเลยกลัวจะเป็นการสมยอมโดยอัตโนมัติ จึงยอมทนฟังและปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ค่ะ!! นางบันทึกเสียงอยู่จะมาโมเมไม่ได้
และตลอดการสนทนานางไม่ได้ถามเราเลยว่า จะต่อหรือไม่ เหมือนมัดมือชก แนะนำประโยชน์ข้อมูลตั่งๆจนเราสับสน แล้วขอข้อมูลการสมัครไป ฟังรวมๆเหมือนจะไม่ต้องเสียอะไรเพิ่ม ยิ่งถ้าเป็นคนมีอายุหน่อยหรือฟังไม่ดี เรียบร้อยจ้า (เช่นแม่เราเป็นต้น)
ฝากเตือนทุกคนถ้าเจอเหตุการ์ณนี้ ฟังดีๆนะคะ อย่าตกเป็นเหยื่อ ถ้าเราไม่ได้ต้องการประกันจริงๆ มันไม่ใช่ปัญจัย4ที่จำเป็นสำหรับทุกคน ยิ่งสถานการ์ณแบบนี้ควรเซฟเงินไว้ก่อน เค้ามาขายเรา เค้าได้ยอด ส่วนเรายังไม่ได้เงินคืนตอนนี้หรอกค่ะ ต้องป่วยแอดมิทก่อน ซึ่งก็ไม่มีใครอยากป่วยถูกมั้ยคะ พส. นส.