เล่ห์รักหัวใจ ตกกระไดพลอยโจน ตอนที่ 21

“โอ้โฮ ไปเป็นชาวเกาะได้ไม่กี่นาน คล้ำไปเยอะเลยว่ะเพื่อน” แก้วสุดาเดินมาคว้าตัวเพื่อนรักไปกอด

“จริงๆ เหรอเนี่ย” ฉันทำเสียงตกอกตกใจจนเพื่อนสาวหัวเราะเสียงดัง

“ไม่จริงหรอกแก ฉันหยอกเล่น” แก้วสุดายื่นหน้าไปทางชายหนุ่มที่เดินตามหลังฉันมา

“พี่หมอเลี้ยงเพื่อนของก้อยดีมากต่างหากค่ะ หน้าตาสดใส ดูมีน้ำมีนวล”

“อย่างนั้นหรือครับคุณก้อย ไม่รู้ว่าเพื่อนของคุณจะคิดอย่างเดียวกับคุณหรือเปล่า บางทีเขาอาจจะคิดว่า ผมเอาเธอไปทรมานอยู่บนเกาะซะมากกว่า” จักรินทร์กล่าวกับแก้วสุดา ก่อนที่จะหันมองภรรยาตัวเอง

“คุณจักร พูดเป็นเล่นไปเรื่อยเปื่อย” ฉันหันไปตีแขนคล้ำๆ ของคนที่ได้ชื่อว่าสามี ก่อนที่จะหันไปพูดกับเพื่อนสนิท

“ฉันสบายดี”

“ผมคิดไว้อยู่แล้วว่านายจักร ไม่ปล่อยคุณมาคนเดียวแน่ๆ ผมเลยเปิดห้องใหญ่ไว้ให้คุณ จะได้ทำงานสะดวกๆ” คุณใหญ่เดินมาสมทบ ก่อนที่จะตบบ่าญาติผู้น้องอย่างรักใคร่

“ไม่ได้สิครับพี่ใหญ่ เมียผมทั้งที ให้มาคนเดียวได้ยังไง ผมห่วงของผมนะ”

ฉันสบตาคนพูดก่อนที่จะค้อนให้เขาวงใหญ่ ก่อนที่เจ้าตัวจะขอตัว แล้วเดินจากไปพร้อมกับญาติผู้พี่ ที่เสนอตัวเป็นบ๋อย ช่วยน้องชายขนกระเป๋าเสื้อผ้าเดินตามเขาไป

“ห้องเดิมใช่ไหมครับพี่ใหญ่ เดี๋ยวผมขอตัวทำหน้าที่บ๋อย เอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บก่อนนะครับ”

“ถามจริงๆ แก เป็นยังไงบ้างกับชีวิตคุณนายผู้พัน” แก้วสุดา ดึงตัวฉันลงนั่ง ที่เก้าอี้ชุดรับแขก ที่ล็อบบี้ รอจนพนักงานหญิงสาวเสิร์ฟน้ำชามะนาว แล้วจึงเอ่อถาม

“ก็โอเคนะแก” ฉันดื่มน้ำชามะนาวลงคอรวดเดียวเกือบหมดแก้วอย่างกระหาย ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า

“วันๆ ฉันก็ทำงานโปรเจ็กการประชุมการลงทุน งานนี้เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าเบื่อๆ ก็ช่วยเด็กๆ ที่เกาะสมัครเรียน กศน. และก็สอนหนังสือเด็กๆ บ้าง คุณจักรช่วยเกณฑ์ทหารมาช่วย สร้างโรงเรือนเล็กๆ ไว้เป็นที่เรียนสำหรับเด็กๆ ที่เกาะของหมู่บ้านชาวประมง ที่ไม่มีโอกาส ไปโรงเรียนเหมือนเด็กทั่วไป”

“ก็ดีนะแก ได้ช่วยเหลือเด็กๆ ทำงานการกุศล สมเป็นแม่บ้านทหารเรือ” แก้วสุดากล่าวก่อนที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

"แล้วบางวันก็ตามคุณจักรไปดู เขาตรวจคนไข้ตามเกาะต่างๆ และก็ได้เล่นไล่จับขโมย..." 

"ว่ายังไงนะ... ไล่จับขโมย อย่างนั้นเหรอ" แก้วสุดาเอ่ยอย่างตกใจ

"อืม.. มีนายทหารสามนาย เข้าไปขโมยอาวุธ ที่ห้องเก็บอาวุธ พอดีฉันไปเห็นเข้าก่อนก็เลย.. เลี่ยงไม่ได้.." ฉันทำท่ายักไหล่ จนเพื่อนสนิท ต้องกลอกตาไปมา 

"ตายแล้วยัยหมอก.. ทำไมถึงได้ซ่า ได้แสบแบบนี้... นี่เราไม่ได้อยู่ที่หนองนกพิราบอีกแล้วนะ.. แล้วนี่เป็นอะไรหรือเปล่า"

"ไอ้ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่ไอ้หัวขโมยหน้าแหก เพราะโดยฉันตีแสกหน้าหงายเงิบไปเลย.." 

"ต๊าย.. แสบไม่ทิ้งลาย.. หัวหน้าแห่งหนองนกพิราบ" คนพูดหัวเราะออกมาย่างชอบใจ 

"แต่เสียดาย พวกมันหนีไปได้ซะนี่... ตอนนี้ทางเกาะหน้า กับทางฐานทัพใหญ่ก็กำลังตามหาตัวกันอยู่" 

"ยิ่งฟัง ยิ่งน่ากลัวนะ หมอกเธอก็ระวังตัวไว้ด้วยนะ" แก้วสุดากล่าวเตือน 

“สวัสดีค่ะคุณม่านหมอก” เสียงทักทายเบาๆ นั้น ทำให้เราทั้งสองจะหันไปหาต้นเสียง ที่เจ้าของเป็นหญิงสาว ร่างโปร่งอยู่ในชุดเสื้อและกางเกงติดกันในชุดสีฟ้า สดใส

“สวัสดีค่ะคุณอ่อน” ฉันกล่าวทักทาย

“พี่จักรมากับคุณหมอกด้วยหรือเปล่าคะ” อรุณฉายเอ่ยถาม

“มาค่ะ พอดีว่ากำลังเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องค่ะ และอาจจะเลยไปคุยกับคุณใหญ่ด้วยค่ะ” ฉันตอบเบาๆ

“คุณอ่อนมาถึงนานหรือยังคะ ไม่ทราบว่าเช็กอินหรือยังคะ” แก้วสุดาเอ่ยถาม พร้อมทำหน้าที่เจ้าของบ้าน

“คุณภาคภูมิกำลังเช็กอินอยู่ทางด้านโน้นค่ะ พอดีอ่อนเห็นคุณหมอก เลยเข้ามาทักก่อนค่ะ”

“พอดีคุณใหญ่ไม่ได้บอกก้อยว่า คุณอ่อนกับคุณภาค จะมาก่อนการประชุมตั้งอาทิตย์นึง ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าเกิดมีอะไรขัดข้อง”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พอดีอ่อนอยากมาพักผ่อนค่ะ ส่วนเรื่องการประชุมมันเป็นเรื่องของคุณภาคค่ะ อ่อนไม่สนใจ” อรุณฉายตอบเรื่อยๆ แต่ในน้ำเสียงมีแววถือตัวยิ่งนัก

“คุณอ่อนอยู่ที่นี่เอง ผมเดินตามหาจนทั่ว” ภาคภูมิเดินมาสมทบกับภรรยา ก่อนที่จะหันมามองฉันอย่างเต็มตา

“เอ่อคือว่าคุณนี่หน้าคุ้นมากเลยนะครับ เราเคยเจอกันไหมครับ”

“คุณม่านหมอก ภรรยาพี่จักรค่ะ” อรุณฉายชิงตอบก่อนเรียบๆ

“อ้อ ผมจำได้แล้ว ผมเคยเจอคุณที่บ้านคุณย่า” ภาคภูมิเอ่ยปากเมื่อเรียกความจำคืนมาได้

“สวัสดีค่ะคุณภาคภูมิ” ฉันยกมือไหว้เขาอย่างนอบน้อม เพราะอย่างไรเสีย เขาดูอายุมากกว่าฉัน อายุอาจจะประมาณคุณผู้พันหมอก็ได้

“คุณแก้วสุดาใช่ไหมครับ ไม่พบกันเสียนานเลย” ภาคภูมิเอ่อทักอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับไหว้จากแก้วสุดา

“อีกตั้งหลายวันกว่าการประชุมจะเริ่มขึ้นไม่ทราบว่า คุณภาคอยากให้ทางเราจัดเตรียมอะไรให้เป็นพิเศษไหมคะ เพราะเห็นคุณอ่อนว่าเธออยากจะมาพักผ่อน ถ้าสนใจจะไปเยี่ยมชม สปาของคุณเพชรก็ได้นะคะ เดี๋ยวก้อยจะจัดคนพาไปคะ หรือว่าจะออกทริปดำน้ำ ดีไหมคะ ช่วงนี้ทะเลสงบ ไม่มีพายุค่ะ” แก้วสุดาเปลี่ยนเรื่องคุย

“คุณภาคอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะค่ะ อ่อนแค่อยากมาพักผ่อนเฉยๆ” อรุณฉายหันไปบอกสามี หลังจากที่หันรีหันขวาง เหมือนจะมองหาใคร ก่อนที่จะขอตัวเดินจากไป

“อ่อนขอตัวก่อนนะคะ”

“ผมไม่มีโปรแกรมอะไรพิเศษหรอกครับ เห็นคุณอ่อนบ่นๆ ว่าอยากมาทะเล เลยคิดว่าจะพามาพักผ่อนก่อนการประชุมแค่นั้นเอง ถ้าคุณอ่อนอยากทำอะไร ผมคงต้องรบกวนขอคำแนะนำจากคุณก้อย ที่หลังแล้วล่ะกัน ตอนนี้คงต้องพาคุณอ่อนไปห้องพักก่อนครับ” ชายหนุ่มกล่าวขอตัว ก่อนที่เขาจะเดินจากไป

“เอาแล้ว ไอ้หมอกเอ๊ย ... งานนี้... แกคงไม่ได้เตรียมงานการประชุมอย่างสบายใจแล้วว่ะ” ฉันมองสบดวงตาเพื่อนที่มองมาอย่างให้กำลังใจ

__________________________

ฉันทรุดลงนั่งตรงปลายเตียงหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องพักที่ว่างเปล่า ไร้วี่แววของ “สามี” ในหัวสับสนไปมา เมื่อคิดทบทวนไปว่า จักรินทร์จะรู้หรือไม่ ถึงการมาของน้องสาวคนละสายเลือด ที่เขาแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาห่วงใยเธอคนนั้นเสียมากมาย

จักรินทร์และอรุณฉาย สองคนนี้ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน และที่แน่ๆ ก็คือทุกๆ คน ในที่แห่งนี้ ดูเหมือนว่าจะรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มีมากมาย ลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าพี่น้อง ของสองคนนี้ 

และยังจดหมายหลายฉบับที่สองคนนั้นเขียนหากัน ที่ฉันได้อ่านไปไม่นานมานี้ ก็เป็นที่ยืนยันในความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของสองคนนั้น แต่ทำไม และด้วย
เหตุผลอะไร ที่ทำให้อรุณฉายถึงแต่งงานไปกับภาคภูมิ ฉันมองแหวนทองในนิ้วนางข้างซ้ายของฉัน ในใจกระหวัดคิดไปถึงเสียงทุ้ม... 

...ผมคิดว่าจะใช้แหวนนี้ขอใครบางคนแต่งงาน... 

ฉันยังจำใบหน้าของเขา ในคืนวันนั้น ใบหน้าเศร้าๆ เหงาๆ ตอนที่เขาพูดถึงแหวนวงนี้ได้... 

“มานั่งทำอะไรอยู่ครับเมียจ๋า” เสียงออดอ้อนดังอยู่ข้างหู ก่อนที่วงแขนอบอุ่นจะดึงฉันไปกอด ฉันถอนหายใจยาวซบอกกว้าง

“ถอนใจยาวอย่างนี้ มีอะไรไม่สบายใจใช่ไหม ไหมบอกผมสิ ว่าอะไรทำให้คุณไม่สบายใจ” เขาเชยคางของฉัน บังคับให้สบตาสวยของเขา ที่จ้องมาอย่างเอาอกเอาใจ

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เพียงแต่คิดถึงเรื่องงานแค่นั้นค่ะ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานแล้ว”

... ใช่.. ฉันจงใจพูดปด ไม่ใช่เพราะฉันอยากจะปิดบังเขาว่าที่แท้จริงแล้ว ฉันคิดถึงเรื่องของเขากับ... คุณอรุณแฉะ.. เอ๊ย... อรุณฉาย...  
... แต่ถ้าฉันบอกเขาไป ฉันกลัวใจตัวเอง ที่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไร หากฉันรู้ว่าแท้จริงแล้ว... จักรินทร์รักอรุณฉาย... และแต่งงานกับฉันเพียงเพื่อ ต้องการประชดอรุณฉายเท่านั้นเอง... 

“พี่ใหญ่พาผมไปเดินดูสถานที่จัดงานต่างๆ แล้วนะ ก็เห็นว่ากำลังดำเนินการไปได้ดี ตามแผนที่คุณส่งมาให้ เอาน่า อย่ากังวลใจไปเลย” เขาดันตัวฉันออกห่างมองหน้าฉันอย่างเต็มตา

"เอ๊ะหรือว่าคุณจะไม่สบาย” เขาเอามือมาแตะที่หน้าผากของฉัน

“นั่งเรือมาตั้งหลายชั่วโมง ผมนี่ไม่ทันได้คิด”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันสบายดี” ฉันจับมือของเขา แล้วฝืนยิ้มให้

“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ เห็นก้อยว่าคุณใหญ่ คุณเล็ก คุณเพชร จะเลี้ยงอาหารเย็นเราด้วยคืนนี้”

“ผมไปเจอเชฟกันต์มาแล้ว เขาบอกว่าเขาทำของพิเศษ เลี้ยงคุณด้วยนะ เอาล่ะ... คุณไปอาบน้ำเถอะ ผมจะออกไปดูว่าพี่เล็กมาหรือยัง”

ฉันมองดูแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินออกจากประตูห้องพักไป แล้วหันมองตัวเองในกระจกก่อนจะบอกกับตัวเองเบาๆ ว่า

... ม่านหมอก... เธอคือคนที่เขาเลือก... จำไว้!... 

__________________________
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่