ทำไมเป็นเราที่ต้องเลือกว่าจะเลิกหรือยอมรับ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนก่อปัญหาขึ้นมาเอง

คือเราป่วยเป็นโรค OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) แล้วเรามักจะห้ามความคิดแย่ ๆ ที่พูดออกมาไม่ได้ซึ่งล่าสุดที่เราคิดเรื่องนี้มาจากการที่เราได้ไปคุยกับเพื่อนคนนึง

แล้วเพื่อนคนนั้นจุดประเด็นนี้ขึ้นมาแล้วบอกเราว่าแกรู้ไหม คนเราจะไม่ต้องเสียอะไรเลย ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ถ้าคนรักยอมปรับให้เรา

เพื่อนบอกเราว่าทำไมเค้าต้องเสียข้อดีตั้ง 90% เพียงเพราะว่าแฟนไม่สามารถปรับอีก 10% ได้ทำไมเค้าต้องมาเลือกว่าจะต้องยอมรับ 10% นั้นหรือต้องเสีย 90% นั้นแล้วไปหาคนอื่น

เราก็บอกว่าถ้าไม่ดีก็เลิกดีกว่าไหม แต่เพื่อนถามเรากลับมาว่าเราไม่คิดบ้างหรอว่าสมมุติเราทิ้งคนที่งี่เง่าไปและไปเจอคนที่งี่เง่าและมีข้อเสียยิ่งกว่าคนแรกมันก็เสียดายสิ เราไม่เสียดายข้อดีเค้าบ้างหรอ

แล้วก็ถ้าสมมุติเรื่องที่มันเป็นปัญหามันแก้ให้ได้ก็ไม่ต้องไปเสียเวลาหาคนอื่นหลังจากนั้นหรือไปเสี่ยงเอาข้างหน้าดีกว่าหรือแย่กว่า อะไรที่แก้ได้ก็แก้ให้หน่อยแก้ไม่ได้ก็พยายามแก้ให้ได้ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายข้อดี อะไรประมาณนี้ค่ะ

เพื่อนเราทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ว่า "เราไม่ต้องนอกใจ ไม่ต้องไปหาคนอื่นมาเติมเต็ม ไม่ต้องเสียข้อดีของแฟน ไม่ต้องเสียเวลาหรือเสี่ยงไปหาใหม่ ถ้าแฟนยอมปรับให้ เพราะฉะนั้นมันเป็นความผิดของแฟน เราไม่ควรจะต้องมาเลือกว่าจะอยู่ยอมรับหรือเลิก เพราะมันเป็นปัญหาของแฟน แฟนต้องแก้ให้ได้" มันทำให้เราคิดมากมาก ๆ

เราก็เลยกลับมาคิด + โรคที่เราเป็นอยู่เลยทำให้ความคิดเราฟังและแย่ยิ่งกว่าเดิมเราคิดตามเพื่อนว่าเออใช่ทำไมเราต้องเสียอะไรดีๆไปล่ะหรือไม่ก็ แต่การไปบังคับหรือกดดันให้ใครคนนึงต้องเปลี่ยนมัน toxic มาก ๆ เลยนะ ตีกันวุ่นวายมาก ๆ เลยค่ะ

เรารู้สึกแย่ที่เผลอคิดตามเพื่อนว่าทุกๆอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นเลย เราไม่ต้องไปเสี่ยงว่าคนใหม่ดีไหม เราไม่ต้องไปเสียเวลาเริ่มต้นใหม่ เราไม่ต้องเสียข้อดีที่เราชื่นชอบไป ถ้าเค้าปรับให้เรา ทำไมเราต้องเลือกที่จะเสียหรือต้องยอมรับล่ะเราไม่ยอมรับและเค้าปรับให้ไม่ได้หรอ นั่นคือข้อบกพร่องของแฟน = แฟนผิด = แฟนต้องแก้ อะไรประมาณนี้เลยค่ะ

มีใครมีคำแนะนำดีๆบ้างไหมคะ ตอนนี้รู้สึกแย่มากๆเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่