พ่อของลูกที่ดีเป็นยังไง แล้วแฟนเรานิสัยแบบนี้จะสามารถเป็นพ่อของลูกที่ดีได้ไหม

สวัสดีค่าาาทุกคนนน นี่เพิ่งตั้งเป็นกระทู้ด้วยความจนปัญญาว่าชั้นจะปรึกษาใครเรื่องนี้ดี จะปรึกษาคนรู้จักมากๆบางทีก็คล้ายๆเอาเรื่องของแฟนตัวเองมาพูด ก็เลยเอาวะ พันทิพนี่แหละ ลองดู

เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนนี้เราอายุ27ปี มีแฟน อายุ 29 ปี ตอนนี้คบกันได้ประมาณ 5 เดือน คำถามคือเรารู้สึกว่าเราไม่มั่นใจว่าแฟนของเรา จะเป็นพ่อที่เีได้หรือเปล่า คำถามนี้อาจจะเร็วไปสำหรับคนคบกัน 5 เดือนหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ชี้แนะได้เด้อ แต่เรามั่นใจว่าเราสามารถเป็นแม่ที่ดีได้ ถ้ามีคู่คิดที่ร่วมด้วยช่วยกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ อย่าด่าว่าเรามั่นหน้าเลยเพราะรู้สึกอย่างงั้นจริงๆ

ประเด็นคือ เรารู้สึกว่าแฟนเราเป็นผู้ชายที่เฉื่อย ไม่แอคทีฟ ไม่ขวนขวาย แบบใช้ชีวิตไปเรื่อยๆไม่ค่อยวางแผนชีวิต ตอนนี้เค้ามีรถและบ้านที่ต้องผ่อนพร้อมกัน และมีคอนโดที่เค้าปล่อยเช่าอีก 1 อันนี้เราก็ถือว่าดีอยู่ แต่ชีวิตประจำวันเค้าคือเฉื่อยมาก เลิกงานมาคือเล่นเกม ดูคลิปตลกในยูทูปไปเรื่อยๆ แต่งานของเค้าเค้าก็ทำงานให้เสร็จตามเวลานะคะ ก็ไม่ใช่แบบอู้งานหรือไม่มีงานทำ แต่เค้ามีรายจ่ายค่อนข้างเยอะ ทั้งบ้าน ทั้งรถ ทั้งดูแลแม่ เรารู้สึกว่าแทนที่เค้าจะเอาเวลาที่ปล่อยทิ้ง เล่นเกม ดูคลิป มาศึกษาหาความรู้ หารายได้เพิ่มเติมจะดีกว่าไหม รายจ่ายเค้าจะได้ไม่ปริ่มจนเดือนชนเดือนทุกเดือนแบบนี้ คือเค้าจะอารมณ์แบบว่าอยู่รอดได้ในแต่ละเดือน แต่ถ้าเค้าพยายามหารายได้เพิ่มหรือศึกษาหาความรู้อีกนิดเค้าจะสบายตัวในด้านการเงินกว่านี้มากๆ แต่เค้าไม่ทำ เลือกที่จะเล่นเกม ดูคลิป ในขณะที่เราเป็นผญที่พูดได้เต็มปากว่าชอบทำงานมากกก คือขอให้ได้ทำงานที่เรารักหรือถนัดเราทำเต็มที่ มีpassion ในการทำงานสูง แล้วหาอะไรทำตลอดเวลา เอาง่ายๆคือ ทั้งชีวิตที่ทำงานมา ไม่เคยเอาคำว่าเงินนำ งานไหนที่อยากทำ ทำสุด ไม่คิดเรื่องรายได้ มันเลยส่งผลให้ตอนนี้เรามีรายได้พอสมควร ดูแลตัวเองและที่บ้านได้ดี พอมาเห็นวิถีชีวิตของแฟน มันเลยทำให้รู้สึกว่าเค้าเฉื่อย เราก็ไม่รู้ว่าเราเอาตัวเราไปตัดสินเค้าหรือเปล่า แต่ยอมรับว่ากังวลตลอด เพราะรู้สึกว่าคนที่ไม่แอคทีฟ ไม่วางแผนมันจะมีครอบครัวดีๆได้ยังไง หรือบางทีเรารีบตัดสินเค้าเกินไปไหมใน 5 เดือนที่คบ 

ทั้งหมดที่เล่ามา เราก็พยายามจะกระตุ้นเค้า ให้เค้สหารายได้เพิ่ม โดยที่เรามองเห็นว่าเค้าทำอาหารเก่ง เลยขายอาหารออนไลน์กับเค้า พยายามไปด้วยกัน แต่ก็นั่นแหละ เรานู้สึกว่าเราต้องนำตลอดเลย ต้องตัดสินใจเอง จนกลายเป็นว่า เค้าเหมือนเป็นเชฟในร้านมากกว่า 

แต่ส่วนเรื่องอื่นของเค้าเราคิดว่าโอเค ศีลเสมอกันกับเรา เป็นคนง่ายๆ ติดดิน รักครอบครัว ยอมปรับยอมรับฟัง มีแต่เรื่องนี้ที่เรารู้สึกว่ามันคือเรื่องใหญ่ ที่ถ้าจะใช้ชีวิตคู่ มันต้องพิจารณา

จบแล้วค่ะ ประมาณนี้ ทุกคนคิดว่า ถ้าจะคบกันต่อเพื่อมีครอบครัว มีลูก เค้าจะไหวไหม เราเนี่ยยย จะไหวไหม5555 หรือเรารีบตัดสินเค้าเกินไป หรือเราเอาเค้ามาเทียบกับเราซึ่งแอคทีฟพอสมควร จนปัญญาค่ะ รบกวนแชร์และชี้แนะ555555 กราบบบบบทุกท่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่