เรามาดูกันค่ะ โดยปรกตินั้น เรากินอาหารจานเดียว ข้างทางนั้น ราคาจะอยู่ประมาณ 35-70 บาท/จาน ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว อาหารบ้านเรานั้นราคาถูกมากๆ แต่เดี๋ยวก่อน เราลองมาดูกันว่าที่มาของอาหารราคา 35-70 บาทนั้น ส่วนใหญ่มีที่มาของอาหารมันเป็นยังไรบ้าง
1. เริ่มจากแหล่งวัตถุดิบ มีการรักษาสุขลักษณะ อนามัย หรือไม่ ถ้าไม่ จะทำให้ถูกหลักอนามัยเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ต้นทุนจะต้องเพิ่มมาเท่าไร?
2. การขนส่งอาหารล่ะ มีการควบคุมอณหภูมิที่ถูกต้องหรือไม่ และถ้ามีการควบคุมอุณภูมิแบบประเทศพัฒนาแล้ว ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าไร?
3. ตลาดสด แหล่งซื้อหาหารจากพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลาย อาหารที่วางขายนั้นคือ อุณหภูมิห้องเลยใช่ไหม และถ้าจะให้มันถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียละ ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นมาเท่าไร ?
 จากข้อที่ 2 และ ข้อที่ 3 อ่านดูที่นี่ 
https://www.health.act.gov.au/sites/default/files/2018-09/Food%20Safety%20Guide%20-%20Thai.pdf
เอาคำพูดจาก link นี้มาบางส่วน
"เชื้อแบคทีเรียสวนใหญ่ที่เป็นสาเหตุให้ เกิดโรคอาหารเป็นพิษในอาหารที่อาจเป็นอันตราย เติบโตได้ ดี ที่อุณหภูมิระหว่าง  5 องศาเซลเซียส และ 60 องศาเซลเซียส ชวงอุณหภูมินี้ เรียกว่า ‘โซนอุณหภูมิ อันตราย’"
ซึ่งสรุปไว้ว่าขนาดอยู่ในตู้เย็นยังให้อยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ที่เหลือต้อง ช่องแข็ง
แล้วที่วางขายอาหารสดกันในอุณหภูมิห้องหละ ? และเหตุผลนี้คนไทยจึงมีโรคทางเดินลำไส้ค่อนข้างเยอะ ไปโหลดสาธารณะสุข และยิ่งอากาศบ้านเรานี่อย่างร้อน แล้วถ้าจะทำให้ถูกต้องละ ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าไร ??
4. มาถึงร้านอาหารละ ครัวนั้น ได้มาตราฐานไหม เป็นเครื่องครัวสแตนเลสหรือเปล่าเพื่อความสะอาด ทำความสะอาดง่าย ในต่างประเทศ บังคับนะคะ
การจัดเก็บอาหารเป็นอย่างไร  ถ้าทำให้ถูกต้อง ต้นทุนเท่าไร
5. มีระบบน้ำร้อนไว้ทำความสะอาดครัวไหม
6. เครื่องแต่งกายผู้ประกอบอาหารและผู้ช่วย ปกปิด เหงื่อ เส้นผม น้ำลาย ลงอาหารหรือไม่ แล้วถ้าจะทำให้ถูกต้อง ต้นทุนเพิ่มขึ้นมาเท่าไร ??
7. น้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารใช้ซ้ำกี่ครั้ง
8. การล้างจานเป็นอย่างไร ถูกสุขลักษณะอนามัยหรือไม่
9. น้ำแข็งที่เสริฟเข้าร้านสะอาดหรือไม่
ยังมีอื่นๆอีกนะคะที่ในประเทศพัฒนาแล้ว เขาเป็นข้อบังคับในการจะเปิดร้านอาหารเลย ทีนี้ ถ้าทำตามนี้ ราคาอาหารจะยังอยู่ที่ 35-70 บาท หรือไม่ 
อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงค่าแรงนะคะ นี่เอาแค่เรื่องวัตถุดิบ และกระบวนการ สุดท้ายอาหารถูก แต่ไปเสียค่ารักษาพยาบาลแทน หรือ อายุสั้นลงโดยไม่รู้ตัวแทน หรือโรคตามมา ให้โหลดสาธารณะสุขแทน 
เอาละค่ะ ถ้าลองทำให้มันได้มาตราฐานแบบประเทศพัฒนาแล้วเมื่อไร ถึงจะสะท้อนได้ว่า อาหารบ้านเรานั้นถูกหรือแพงกันแน่ ถ้าดูจากสิ่งที่ต้องปรับปรุงแล้ว ตัวเลขจะดีดไปเท่าไรกัน ??
ดังนั้นการที่สินค้าใดๆก็ตาม ถ้าจะให้ราคาลงได้ ส่วนใหญ่ที่ทำกันคือ ลดคุณภาพ ลดปริมาณ ลดกระบวนการผลิต ลด... เพื่อให้ได้ราคานั้นเสมอ 
อีกอย่างค่ะ ส่วนใหญ่อาหารจานเดียวบ้านเราถ้าวิเคราะห์กันจรริงๆ ยกตัวอย่างเมนูกระเพราก็ได้ ข้าวนั้นซัดไปกี่% และมีเนื้อจริงๆอยู่สักกี่% กัน ดีงนั้นจึงมีแนวโน้มจะอิ่มข้าวมากกว่าอิ่มกับเสียอีก																																	
  
							 
						
คุณคิดว่าราคาอาหารบ้านเราจริงๆแล้วนั้นมันถูกกว่าประเทศพัฒนาแล้วจริงๆหรือไม่ เรามาดูกัน
1. เริ่มจากแหล่งวัตถุดิบ มีการรักษาสุขลักษณะ อนามัย หรือไม่ ถ้าไม่ จะทำให้ถูกหลักอนามัยเหมือนประเทศที่พัฒนาแล้ว ต้นทุนจะต้องเพิ่มมาเท่าไร?
2. การขนส่งอาหารล่ะ มีการควบคุมอณหภูมิที่ถูกต้องหรือไม่ และถ้ามีการควบคุมอุณภูมิแบบประเทศพัฒนาแล้ว ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าไร?
3. ตลาดสด แหล่งซื้อหาหารจากพ่อค้า แม่ค้าทั้งหลาย อาหารที่วางขายนั้นคือ อุณหภูมิห้องเลยใช่ไหม และถ้าจะให้มันถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียละ ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นมาเท่าไร ?
จากข้อที่ 2 และ ข้อที่ 3 อ่านดูที่นี่ https://www.health.act.gov.au/sites/default/files/2018-09/Food%20Safety%20Guide%20-%20Thai.pdf
เอาคำพูดจาก link นี้มาบางส่วน
"เชื้อแบคทีเรียสวนใหญ่ที่เป็นสาเหตุให้ เกิดโรคอาหารเป็นพิษในอาหารที่อาจเป็นอันตราย เติบโตได้ ดี ที่อุณหภูมิระหว่าง 5 องศาเซลเซียส และ 60 องศาเซลเซียส ชวงอุณหภูมินี้ เรียกว่า ‘โซนอุณหภูมิ อันตราย’"
ซึ่งสรุปไว้ว่าขนาดอยู่ในตู้เย็นยังให้อยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน ที่เหลือต้อง ช่องแข็ง
แล้วที่วางขายอาหารสดกันในอุณหภูมิห้องหละ ? และเหตุผลนี้คนไทยจึงมีโรคทางเดินลำไส้ค่อนข้างเยอะ ไปโหลดสาธารณะสุข และยิ่งอากาศบ้านเรานี่อย่างร้อน แล้วถ้าจะทำให้ถูกต้องละ ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าไร ??
4. มาถึงร้านอาหารละ ครัวนั้น ได้มาตราฐานไหม เป็นเครื่องครัวสแตนเลสหรือเปล่าเพื่อความสะอาด ทำความสะอาดง่าย ในต่างประเทศ บังคับนะคะ
การจัดเก็บอาหารเป็นอย่างไร ถ้าทำให้ถูกต้อง ต้นทุนเท่าไร
5. มีระบบน้ำร้อนไว้ทำความสะอาดครัวไหม
6. เครื่องแต่งกายผู้ประกอบอาหารและผู้ช่วย ปกปิด เหงื่อ เส้นผม น้ำลาย ลงอาหารหรือไม่ แล้วถ้าจะทำให้ถูกต้อง ต้นทุนเพิ่มขึ้นมาเท่าไร ??
7. น้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารใช้ซ้ำกี่ครั้ง
8. การล้างจานเป็นอย่างไร ถูกสุขลักษณะอนามัยหรือไม่
9. น้ำแข็งที่เสริฟเข้าร้านสะอาดหรือไม่
ยังมีอื่นๆอีกนะคะที่ในประเทศพัฒนาแล้ว เขาเป็นข้อบังคับในการจะเปิดร้านอาหารเลย ทีนี้ ถ้าทำตามนี้ ราคาอาหารจะยังอยู่ที่ 35-70 บาท หรือไม่
อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงค่าแรงนะคะ นี่เอาแค่เรื่องวัตถุดิบ และกระบวนการ สุดท้ายอาหารถูก แต่ไปเสียค่ารักษาพยาบาลแทน หรือ อายุสั้นลงโดยไม่รู้ตัวแทน หรือโรคตามมา ให้โหลดสาธารณะสุขแทน
เอาละค่ะ ถ้าลองทำให้มันได้มาตราฐานแบบประเทศพัฒนาแล้วเมื่อไร ถึงจะสะท้อนได้ว่า อาหารบ้านเรานั้นถูกหรือแพงกันแน่ ถ้าดูจากสิ่งที่ต้องปรับปรุงแล้ว ตัวเลขจะดีดไปเท่าไรกัน ??
ดังนั้นการที่สินค้าใดๆก็ตาม ถ้าจะให้ราคาลงได้ ส่วนใหญ่ที่ทำกันคือ ลดคุณภาพ ลดปริมาณ ลดกระบวนการผลิต ลด... เพื่อให้ได้ราคานั้นเสมอ
อีกอย่างค่ะ ส่วนใหญ่อาหารจานเดียวบ้านเราถ้าวิเคราะห์กันจรริงๆ ยกตัวอย่างเมนูกระเพราก็ได้ ข้าวนั้นซัดไปกี่% และมีเนื้อจริงๆอยู่สักกี่% กัน ดีงนั้นจึงมีแนวโน้มจะอิ่มข้าวมากกว่าอิ่มกับเสียอีก