' ความรุนแรงในครอบครัว'
คุณเคยเจอเรื่องราวเหล่านี้
มั้ย ถ้าพบ ถ้าเห็น หรือเกิด
กับครอบครัวคุณ ทำยังไง
กันครับ
พ่อตีแม่ พ่อแม่ตีลูก พี่น้อง
ทะเลาะกัน จริงๆก็เป็นปกติ
ของสิ่งมีชีวิตแหละ
มีการขัดแย้ง มีการรอมชอม มีรัก มีเกลียด
ผม..เคยเจอ และผมไม่เคย
คิดว่ามันปกติแม้ใครๆ จะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ
สำเนียง ตัวเอกของเรื่องนี้
กับลูกเล็กๆอีกสองคนของเธอ
บ้านของเธออยู่ภาคอิสาน
เดินทางมาทำงานในจังหวัดหนึ่งของภาคกลาง และได้
สามีจนมีลูกด้วยกันสองคน
ช่วงแรกๆ ก็ดูเหมือนจะดี
แต่พอเริ่มท้องลูกคนที่2
สามีก็เปลี่ยนไป จากเคย
รักลูกเมียก็เริ่มด่า เงินทอง
ไม่ให้ และที่หนักคือติดกัญชา
จากเจ้านายรัก ก็กลายเป็น
เจ้านายเกลียด จนไล่ออกจากงาน ลูกขอเงินกินขนม
ก็ไล่เตะไล่ตี จนต้องหนีไปซ่อนตัวตามป่ารอเวลาแม่
กลับบ้าน
ที่วิเศษกว่านั้นคือ เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์
พากันเพิกเฉย ปล่อยให้
ตาคนนี้ไล่ตีลูก เตะเมีย
แล้วอ้างว่า
"เรื่องของผัวเมีย เค้าดีกัน
เราก็หมา"
ครั้งแรกที่ผมเห็นสองเด็ก
เล็ก คือแกไปแอบอยู่ในป่า
ต้นธูปฤาษี มีร่องรอยไม้ตีตามขาตามตัวหลายรอยและถูกหญ้าบาดตามเนื้อตัวเลือดซิบไปหมด เด็กนะครับ
ตัวพี่ไม่เต็ม6ขวบดีตัวน้อง
4ขวบ หน้ามอมๆตาแป๋วๆ
ตอนผมเข้าไปจูงออกมาจากป่า ป้าเจ้าของห้องเช่า
ที่ผมอยู่แกตะโกนบอกผมว่า
"เจ็ด..อย่าไปยุ่งกับมันนะ
พ่อมันติดยา เดี๋ยวมันมาฆ่าเอา"
พอได้ยินคำนี้ผมตัวสั่นเลย
ครับ กลัว? เปล่า โมโห..
ผมจูงสองเด็กไปห้องผม
แม้จะยังเด็กแต่ตัวพี่ก็ดูรักและห่วงน้องมาก
หาข้าวให้กินแล้วผมก็หายา
มาทาแผลให้ ตัวพี่รอยยับ
แต่ตัวน้องมีแค่รอยหญ้าบาด
"ยังดีนะที่ตัวเล็กไม่โดนตีไปด้วย"
ผมชวนคุยขณะทาแผล
"โดน..พ่อตีไม่เลือกหรอก
แต่หนูกอดน้องไว้ ก็เลยโดนหนูแทน"
คนเล่า เล่าแล้วก็ยิ้มกับผม
แต่คนฟังแบบผมแทบร้องไห้ พ่อแบบไหน ถึงตี
ลูกไม่ยั้งแบบนั้น แม่แบบ
ไหนถึงไม่พยามยามปกป้องลูก และคนโตแบบไหนถึง
มาบอกไม่ให้ผมช่วยเด็ก
"วันหน้าถ้าพ่อตีอีก มาหาลุงนะ อย่าไปซ่อนในป่า งูเงี้ยว มันจะกัดเอา ถึงลุงไม่อยู่ก็มารอได้ ลุงกลับไม่เย็น
หรอก"
ในใจผม..ไม่รู้สึกกลัวพ่อเขาเลยครับ ได้แต่แอบนึก
(ทำไงจะได้ต่อยปากมันสักที)แค่นึกนะครับ เรื่องจริง
ไม่ได้ทำ
วันนั้นเด็กเล่าให้ผมฟังหลายเรื่อง เป็นต้นว่า ถ้าแม่อยู่ พ่อก็จะตีแม่แทน
และขู่ว่าถ้าแม่พาหนีพ่อจะ
ตามไปฆ่าให้หมด
หลังจากนั้นอีกเล็กน้อย
ผมก็ได้มีโอกาสเจอกับแม่
เด็ก เธอเป็นผู้หญิงร่างใหญ่ แต่ผอมมาก หน้าตาอมทุกข์ เธอมาขอบคุณผม
ที่ช่วยลูกของเธอ
และเธอกล้าเล่าเรื่องราวของครอบครัวตัวเองให้ผม
ฟังแบบเปิดอก
ที่สำคัญเธอเข้มแข็งมาก
เธอไม่ร้องไห้เลย
เธอบอกว่า คนที่นี่ไม่มีใคร
สนใจใยดีเธอกับลูกมานานแล้ว เค้าบอกว่าเธอไม่ขวน
ขวายช่วยตัวเอง ทนให้ผัว
ตีอยู่ได้
เธอเล่าว่า เคยแจ้งตำรวจ
แต่นอกจากตำรวจไม่รับแจ้งแล้ว เธอกับลูกยังถูกตี
หนักกว่าเดิม เธอเคยสู้แต่
สู้ไม่ได้ ถูกตีจนแทบหยอดน้ำข้าวต้ม
ผม...ผู้ไม่เคยอยากยุ่งเรื่อง
ของใคร ผม..ผู้ไม่เคยใส่ใจโลก ผม..ผู้ที่วันทั้งวัน
ไม่คุยกับใครเลยก็อยู่ได้
กลับมานั่งฟังเรื่องราวของ
ผู้หญิงตัวใหญ่ที่ไม่เคยรู้จัก
กัน เล่าถึงเรื่องราวของตัว
เองได้เป็นชั่วโมงๆด้วยความรู้สึกที่..ยิ่งกว่าสงสาร
เธอบอกว่า เธออยากหนี
เธออยากพาลูกไปด้วย
และเธอจะพาลูกไปอยู่กับพี่สาวได้(สามีไม่รู้จักพี่สาวเธอ)แต่เธอไม่เคยมีเงินเลย
(ได้เห็นแค่ตอนเงินออกเพราะสามีกดatmไม่เป็น)
หลังจากนั้น อีก1อาทิตย์
เธอกับลูกก็หายไปจากบ้าน
พร้อมบัตรกดเงิน
สามีเธอมาถามกับผม(เราได้เจอกันแบบจังหน้า และ
ถ้าแหยมเข้ามาผมจะต่อยให้ตาแตกเลย ยิ่งเกลียดขี้หน้าอยู่)
ผมถูกขู่อาฆาตว่าเป็นต้น
เหตุให้เมียเขาหาย
และรู้ไช่ไหมครับว่าผมไม่
กลัว ผมแจ้งตำรวจให้บันทึกประจำวันไว้ ว่าถ้าผม
เป็นอะไรไปคือ ไอ้คนเนี้ย
ฆ่าผม เขาหน้าซีดลงจาก
โรงพักแล้วก็ไม่มาตอแย
ผมอีกเลย
ผมยอมรับครับ ว่าผมช่วย
เมียเขาหนีไปพร้อมลูกจริง
ผมทำให้สองเด็กกำพร้าพ่อ
ทำครอบครัว เขาแตกแยก
และผมก็ไม่สำนึกผิดมาจน
ป่านนี้แหละ เพราะสำเนียง
โทรศัพท์มาหาผม เล่าว่า
ตอนนี้เธอกับลูกมีความสุข
ดี ลูกได้เรียนหนังสือแล้ว
เธอทำงานเป็นแม่บ้านและทำน้ำพริกขายเป็นรายได้
พิเศษ
ผมว่า..ผมก็คงมีกรรมแหละ
ที่ทำครอบครัวคนอื่นแตกแยก
ผมเชื่อเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และผล มาจากเหตุครับ
แต่ผมคงเสียใจจนวันตาย
เลยถ้าไม่ช่วยเธอกับลูก
ในวันนั้น
...เสียใจ...
คุณเคยเจอเรื่องราวเหล่านี้
มั้ย ถ้าพบ ถ้าเห็น หรือเกิด
กับครอบครัวคุณ ทำยังไง
กันครับ
พ่อตีแม่ พ่อแม่ตีลูก พี่น้อง
ทะเลาะกัน จริงๆก็เป็นปกติ
ของสิ่งมีชีวิตแหละ
มีการขัดแย้ง มีการรอมชอม มีรัก มีเกลียด
ผม..เคยเจอ และผมไม่เคย
คิดว่ามันปกติแม้ใครๆ จะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ
สำเนียง ตัวเอกของเรื่องนี้
กับลูกเล็กๆอีกสองคนของเธอ
บ้านของเธออยู่ภาคอิสาน
เดินทางมาทำงานในจังหวัดหนึ่งของภาคกลาง และได้
สามีจนมีลูกด้วยกันสองคน
ช่วงแรกๆ ก็ดูเหมือนจะดี
แต่พอเริ่มท้องลูกคนที่2
สามีก็เปลี่ยนไป จากเคย
รักลูกเมียก็เริ่มด่า เงินทอง
ไม่ให้ และที่หนักคือติดกัญชา
จากเจ้านายรัก ก็กลายเป็น
เจ้านายเกลียด จนไล่ออกจากงาน ลูกขอเงินกินขนม
ก็ไล่เตะไล่ตี จนต้องหนีไปซ่อนตัวตามป่ารอเวลาแม่
กลับบ้าน
ที่วิเศษกว่านั้นคือ เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์
พากันเพิกเฉย ปล่อยให้
ตาคนนี้ไล่ตีลูก เตะเมีย
แล้วอ้างว่า
"เรื่องของผัวเมีย เค้าดีกัน
เราก็หมา"
ครั้งแรกที่ผมเห็นสองเด็ก
เล็ก คือแกไปแอบอยู่ในป่า
ต้นธูปฤาษี มีร่องรอยไม้ตีตามขาตามตัวหลายรอยและถูกหญ้าบาดตามเนื้อตัวเลือดซิบไปหมด เด็กนะครับ
ตัวพี่ไม่เต็ม6ขวบดีตัวน้อง
4ขวบ หน้ามอมๆตาแป๋วๆ
ตอนผมเข้าไปจูงออกมาจากป่า ป้าเจ้าของห้องเช่า
ที่ผมอยู่แกตะโกนบอกผมว่า
"เจ็ด..อย่าไปยุ่งกับมันนะ
พ่อมันติดยา เดี๋ยวมันมาฆ่าเอา"
พอได้ยินคำนี้ผมตัวสั่นเลย
ครับ กลัว? เปล่า โมโห..
ผมจูงสองเด็กไปห้องผม
แม้จะยังเด็กแต่ตัวพี่ก็ดูรักและห่วงน้องมาก
หาข้าวให้กินแล้วผมก็หายา
มาทาแผลให้ ตัวพี่รอยยับ
แต่ตัวน้องมีแค่รอยหญ้าบาด
"ยังดีนะที่ตัวเล็กไม่โดนตีไปด้วย"
ผมชวนคุยขณะทาแผล
"โดน..พ่อตีไม่เลือกหรอก
แต่หนูกอดน้องไว้ ก็เลยโดนหนูแทน"
คนเล่า เล่าแล้วก็ยิ้มกับผม
แต่คนฟังแบบผมแทบร้องไห้ พ่อแบบไหน ถึงตี
ลูกไม่ยั้งแบบนั้น แม่แบบ
ไหนถึงไม่พยามยามปกป้องลูก และคนโตแบบไหนถึง
มาบอกไม่ให้ผมช่วยเด็ก
"วันหน้าถ้าพ่อตีอีก มาหาลุงนะ อย่าไปซ่อนในป่า งูเงี้ยว มันจะกัดเอา ถึงลุงไม่อยู่ก็มารอได้ ลุงกลับไม่เย็น
หรอก"
ในใจผม..ไม่รู้สึกกลัวพ่อเขาเลยครับ ได้แต่แอบนึก
(ทำไงจะได้ต่อยปากมันสักที)แค่นึกนะครับ เรื่องจริง
ไม่ได้ทำ
วันนั้นเด็กเล่าให้ผมฟังหลายเรื่อง เป็นต้นว่า ถ้าแม่อยู่ พ่อก็จะตีแม่แทน
และขู่ว่าถ้าแม่พาหนีพ่อจะ
ตามไปฆ่าให้หมด
หลังจากนั้นอีกเล็กน้อย
ผมก็ได้มีโอกาสเจอกับแม่
เด็ก เธอเป็นผู้หญิงร่างใหญ่ แต่ผอมมาก หน้าตาอมทุกข์ เธอมาขอบคุณผม
ที่ช่วยลูกของเธอ
และเธอกล้าเล่าเรื่องราวของครอบครัวตัวเองให้ผม
ฟังแบบเปิดอก
ที่สำคัญเธอเข้มแข็งมาก
เธอไม่ร้องไห้เลย
เธอบอกว่า คนที่นี่ไม่มีใคร
สนใจใยดีเธอกับลูกมานานแล้ว เค้าบอกว่าเธอไม่ขวน
ขวายช่วยตัวเอง ทนให้ผัว
ตีอยู่ได้
เธอเล่าว่า เคยแจ้งตำรวจ
แต่นอกจากตำรวจไม่รับแจ้งแล้ว เธอกับลูกยังถูกตี
หนักกว่าเดิม เธอเคยสู้แต่
สู้ไม่ได้ ถูกตีจนแทบหยอดน้ำข้าวต้ม
ผม...ผู้ไม่เคยอยากยุ่งเรื่อง
ของใคร ผม..ผู้ไม่เคยใส่ใจโลก ผม..ผู้ที่วันทั้งวัน
ไม่คุยกับใครเลยก็อยู่ได้
กลับมานั่งฟังเรื่องราวของ
ผู้หญิงตัวใหญ่ที่ไม่เคยรู้จัก
กัน เล่าถึงเรื่องราวของตัว
เองได้เป็นชั่วโมงๆด้วยความรู้สึกที่..ยิ่งกว่าสงสาร
เธอบอกว่า เธออยากหนี
เธออยากพาลูกไปด้วย
และเธอจะพาลูกไปอยู่กับพี่สาวได้(สามีไม่รู้จักพี่สาวเธอ)แต่เธอไม่เคยมีเงินเลย
(ได้เห็นแค่ตอนเงินออกเพราะสามีกดatmไม่เป็น)
หลังจากนั้น อีก1อาทิตย์
เธอกับลูกก็หายไปจากบ้าน
พร้อมบัตรกดเงิน
สามีเธอมาถามกับผม(เราได้เจอกันแบบจังหน้า และ
ถ้าแหยมเข้ามาผมจะต่อยให้ตาแตกเลย ยิ่งเกลียดขี้หน้าอยู่)
ผมถูกขู่อาฆาตว่าเป็นต้น
เหตุให้เมียเขาหาย
และรู้ไช่ไหมครับว่าผมไม่
กลัว ผมแจ้งตำรวจให้บันทึกประจำวันไว้ ว่าถ้าผม
เป็นอะไรไปคือ ไอ้คนเนี้ย
ฆ่าผม เขาหน้าซีดลงจาก
โรงพักแล้วก็ไม่มาตอแย
ผมอีกเลย
ผมยอมรับครับ ว่าผมช่วย
เมียเขาหนีไปพร้อมลูกจริง
ผมทำให้สองเด็กกำพร้าพ่อ
ทำครอบครัว เขาแตกแยก
และผมก็ไม่สำนึกผิดมาจน
ป่านนี้แหละ เพราะสำเนียง
โทรศัพท์มาหาผม เล่าว่า
ตอนนี้เธอกับลูกมีความสุข
ดี ลูกได้เรียนหนังสือแล้ว
เธอทำงานเป็นแม่บ้านและทำน้ำพริกขายเป็นรายได้
พิเศษ
ผมว่า..ผมก็คงมีกรรมแหละ
ที่ทำครอบครัวคนอื่นแตกแยก
ผมเชื่อเรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และผล มาจากเหตุครับ
แต่ผมคงเสียใจจนวันตาย
เลยถ้าไม่ช่วยเธอกับลูก
ในวันนั้น