ยาวนิด น่าศึกษา ; คดีดังจากนิวซีแลนด์ (และเกาหลีใต้) ที่ศาลเพิ่งตัดสิน โกดังที่ค้างค่าเช่า ความลับในกระเป๋าเดินทาง

คดีดังจากนิวซีแลนด์ (และเกาหลีใต้) ที่ศาลเพิ่งตัดสิน

—————

โกดังที่ค้างค่าเช่า
ความลับในกระเป๋าเดินทาง
สามีผู้เป็นทุกอย่าง
การตายที่เปลี่ยนชีวิตคนเป็น
แม่ผู้ทิ้งกระเป๋าเดินทาง 2 ใบไว้ข้างหลัง
ฆ่าเพื่อปลดปล่อย ?

—————
โกดังที่ค้างค่าเช่า
:
1- ที่เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ มีบริษัทชื่อ Safe Store ให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับเก็บของ (คล้ายโกดัง) ลูกค้าจะเช่าไว้เก็บของส่วนตัว สินค้า หรือยานพาหนะก็ได้ และจะเก็บไว้นานแค่ไหนก็ได้ตราบใดที่ยังจ่ายค่าเช่า
2- ในเดือนสิงหาคม 2022 พบว่าลูกค้ารายหนึ่งเช่าโกดังเก็บของมานาน 4 ปี แต่ภายหลังค้างค่าเช่าติดต่อกันหลายเดือน ทางบริษัทจึงต้องนำของที่อยู่ในโกดังมาประมูลขายออนไลน์ เพื่อนำเงินมาชดเชยค่าเช่า
3- พบว่าข้าวของในโกดังของลูกค้ารายนี้มีทั้งโต๊ะ เตียง เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เสื้อผ้า ของเล่นเด็ก กระเป๋าเดินทาง 2 ใบ ฯลฯ


—————

ความลับในกระเป๋าเดินทาง
:
4- ชายคนหนึ่งในเมืองโอ๊คแลนด์ได้ประมูลข้าวของทั้งหมดในโกดังนี้ไป หวังนำไปขายต่อเป็นชิ้น ๆ เพื่อทำกำไรเล็กน้อย
5- แต่พอไปรษณีย์ส่งของไปที่บ้าน เขาได้กลิ่นเหมือนหนูตายจากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง พอเปิดดูก็ถึงกับผงะ เพราะพบศพแห้งกรังอยู่ในนั้น คาดว่าเป็นเด็กผู้ชาย สวมเสื้อผ้าครบ จึงรีบแจ้งตำรวจทันที
6- ตำรวจเปิดกระเป๋าเดินทางอีกใบดูก็พบศพที่สอง คราวนี้เป็นเด็กผู้หญิง คาดว่าทั้งคู่เป็นเด็กวัยประถม จากการชันสูตรพบว่าศพถูกเก็บมานานอย่างน้อย 4 ปี ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ แต่พบยาต้านโรคซึมเศร้าในร่างกายเด็ก
เด็ก 2 คนนี้เป็นใคร เราจะไปค้นหาความจริงกัน


—————

สามีผู้เป็นทุกอย่าง
:
7- “อีจีอึน” (Lee Ji-eun) เกิดเมื่อปี 1980 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ พออายุได้ 13 ปี พ่อแม่ก็พาเธอย้ายไปอยู่นิวซีแลนด์เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า
8- จีอึนเรียนจบการโรงแรมและได้ทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ส่วนวันอาทิตย์ไปเป็นครูสอนที่โบสถ์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมชาวเกาหลีที่นับถือศาสนาคริสต์ในเมืองนั้น
9- ที่โบสถ์แห่งนี้เอง จีอึนได้พบรักกับ “เอียน โจ“ (Ian Jo) หนุ่มเกาหลีซึ่งเกิดและโตที่นิวซีแลนด์ เขาเป็นประธานกลุ่มเยาวชนของโบสถ์ และทำงานเป็นหัวหน้าแผนกที่สนามบินโอ๊คแลนด์
10- ทั้งคู่แต่งงานกันตอนอายุ 26 และมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาวชื่อ “ยูนา” (Yuna) อายุ 8 ขวบ ลูกชายชื่อ “มินู” (Minu) อายุ 6 ขวบ ครูบอกว่าทั้งคู่เป็นเด็กดีและชอบไปโรงเรียนมาก
11- พอตั้งท้องลูกคนแรก จีอึนก็ออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว เอียนเป็นพ่อและสามีที่สมบูรณ์แบบ เขารักลูกมาก ทำงานหนักเพื่อครอบครัว มีแต่ความรักความเข้าใจให้ภรรยา ทั้งคู่จึงไม่เคยทะเลาะกันเลย
12- แต่ในขณะเดียวกันเอียนก็กลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของจีอึน เธอกลายเป็นคนที่พึ่งพิงสามีอย่างมาก ทั้งในแง่การเงิน การใช้ชีวิต และจิตใจ


—————

การตายที่เปลี่ยนชีวิตคนเป็น
:
13- พฤศจิกายน 2017 จุดเปลี่ยนของครอบครัวมาถึง เมื่อเอียนเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในวัยเพียง 37 ปี จีอึนหัวใจสลาย เธอไม่ยอมบอกลูกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว เพราะเชื่อว่านั่นคือวิธีปกป้องลูกจากความเจ็บปวด
14- จีอึนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตายตามสามี เธอโดดเดี่ยวตัวเองจากญาติพี่น้องและสังคม แม้แต่แม่ของเธอก็ติดต่อหลานไม่ได้จนต้องแจ้งตำรวจหลายครั้ง
15- เนื่องจากจีอึนพึ่งพาสามีเป็นอย่างมาก ทำให้เธอรู้สึกขาดที่พึ่ง ขาดความมั่นใจที่จะเลี้ยงลูกโดยไม่มีเขา เธอถึงกับบอกเพื่อนว่า “ถ้าลูกตายแทนเอียน ฉันคงเสียใจน้อยกว่านี้”
16- จีอึนได้เงินประกันจากการตายของเอียนราว 10 ล้านบาท เธอใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย พาลูกท่องเที่ยวทริปหรู เช่น เที่ยวออสเตรเลีย 11 วัน, เที่ยวเกาหลี 2 เดือน เธอตั้งใจว่าจะใช้เงินให้เต็มที่แล้วฆ่าตัวตายพร้อมลูก

—————

แม่ผู้ทิ้งกระเป๋าเดินทาง 2 ใบไว้ข้างหลัง
:
17- ในเดือนมิถุนายน 2018 (หลังเอียนเสียชีวิต 7 เดือน) จีอึนไปขอยกเลิกสัญญาเช่าบ้านและเตรียมย้ายออก เธอจะพาลูกไปอยู่ที่ไหนกันนะ ?
18- วันที่ 27 มิถุนายน 2018 จีอึนออกไปซื้อถุงดำ เทปพันสายไฟ และกุญแจ ขณะนั้นลูก ๆ กำลังเล่นเกม Minecraft กันอยู่ และนั่นคือการล็อกอินเข้าเกมครั้งสุดท้ายของเด็ก ๆ
19- คืนนั้นจีอึนบดยาต้านซึมเศร้าผสมน้ำผลไม้ในปริมาณเกินขนาดให้ลูกทั้งสองคน เด็ก ๆ ดื่มแล้วง่วงนอนมาก เดินโซเซไปขึ้นเตียงและหลับเป็นตายทันที
20- จีอึนเอาร่างของลูกใส่ลงในถุงดำซ้อนสามชั้น (ไม่แน่ชัดว่าในเวลานั้นเด็กเสียชีวิตหรือแค่หลับ) ก่อนยัดลงในกระเป๋าเดินทาง คล้องกุญแจ พันด้วยเทปกาวแน่นหนา แล้วเอากระเป๋าใส่ลงในถุงดำอีกที
21- หลังฆ่าลูกแล้วจีอึนไปเช่าโกดังของ Safe Store แล้วจ้างบริษัทขนส่งให้บรรทุกข้าวของไปเก็บไว้ที่นั่น รวมทั้งกระเป๋าเดินทาง 2 ใบที่มีศพลูกอยู่ข้างในด้วย
22- จากนั้นจีอึนไปขอเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “อีฮากยอง” (Lee Ha-kyung) แล้วเข้าร้านเสริมสวยและทำผม หมดเงินไปราว 30,000 บาท เพื่อถ่ายรูปทำเอกสารราชการใหม่หมด
23- กรกฎาคม 2018 จีอึนกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่กรุงโซลโดยไม่มีลูก เธอเข้าคลินิกความงาม เล่นแอปหาคู่ ออกเดท และพยายามแปลงสัญชาติกลับมาเป็นเกาหลี พร้อมกันนั้นก็รักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชไปด้วย เพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรงถึงขั้นทำร้ายตัวเอง

—————

ฆ่าเพื่อปลดปล่อย ?
:
24- หลังย้ายไปอยู่เกาหลีได้ 4 ปี เงินทองเริ่มร่อยหรอ ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าโกดัง บริษัทจึงเปิดเอาของออกไปประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 จนพบศพเด็ก 2 คนดังกล่าว
25- ตำรวจตรวจ DNA จนระบุตัวเด็กได้ จากนั้นประสานตำรวจเกาหลีจนสามารถจับกุมจีอึนได้ที่เมืองอุลซาน ขณะที่เธอกำลังหลบซ่อนตัวในอพาร์ตเมนต์ของคนรู้จักหลังทราบข่าวว่าศพของลูกถูกพบแล้ว เกาหลีส่งตัวผู้ต้องหากลับนิวซีแลนด์ทันที โดยใช้เวลาเพียง 3 เดือนนับจากวันพบศพ
26- จีอึนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เธอโกหกว่าฝากลูกไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในนิวซีแลนด์ และไม่รู้ว่าลูกตายได้อย่างไร “ลูกเสียพ่อไปแล้ว พวกเขาเหลือแต่แม่ ฉันจะฆ่าลูกตัวเองได้อย่างไร”
27- ต่อมาจีอึนยอมรับในศาลว่าเป็นคนฆ่าลูกจริง แต่ขอให้ยกฟ้องด้วยเหตุวิกลจริต เธออ้างว่าขณะนั้นเจ็บป่วยทางจิตจนไม่รู้ว่าการกระทำของตนผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม เธอเชื่อว่าเธอกำลังปลดปล่อยลูก ให้ลูกตายเสียดีกว่าอยู่อย่างลำบากเพราะไม่มีพ่อ
28- การต่อสู้ในชั้นศาลจึงไม่ใช่การพิสูจน์ว่าจีอึนฆ่าลูกหรือไม่ แต่คือการพิสูจน์ว่าขณะลงมือฆ่าลูกเธอมีสติสัมปชัญญะและสามารถแยกแยะผิดถูกได้หรือไม่
29- ศาลเชื่อว่าจีอึนเจ็บป่วยทางจิตจริง แต่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนและรู้ว่าทำสิ่งที่ผิด เพราะหลังก่อเหตุเธอวางแผนอำพรางศพ เปลี่ยนแปลงตัวตน และจองตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจไปเกาหลีเพื่อหนีความผิด
30- ศาลจึงเชื่อว่า จีอึนฆ่าลูกไม่ใช่เพื่อปลดปล่อยลูกจากความทุกข์อย่างที่อ้าง แต่เพราะต้องการปลดเปลื้องภาระจากการต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง และเธอเชื่อว่าการเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีลูกนั้นง่ายกว่า
31- วันที่ 26 พฤศจิกายน 2025 อีจีอึน (หรืออีฮากยอง) ในวัย 45 ปี ขึ้นฟังคำพิพากษา ศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต (ให้ขอพักโทษได้หลังติดคุกอย่างน้อย 17 ปี) พร้อมขอให้เธอได้รับการรักษาทางจิตระหว่างรับโทษในฐานะผู้ป่วยพิเศษ

—————

สรุปและเรียบเรียงจาก RNZ, Stuff, Newstalk ZB, Lawyer Monthly, 1News, BBC
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่