หลังจากเกิดกรณี 25-9 ทำให้หลายคนออกมาวิจารณ์ทีมไทย
โดยเฉพาะเหตุผลหนึ่ง คือ ทีมไทยไม่ได้มีเวลาซ้อมแค่ 3 วัน
เพราะจากวันเรียกตัว เดินทาง จนถึงวันนี้เวลาผ่านมามากกว่านั้น

อยากเรียนว่า ทีมไทยไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติและไม่ได้เล่นในบ้าน
การซ้อมในช่วงเวลาของการแข่งขันแบบปกติจากที่ได้เคยสัมผัสมา
นักกีฬาในแต่ละทีมมีเวลาซ้อมในสนามอย่างมาก 2 ชม./วัน
และซ้อมเวทเทรนนิ่ง 1-2 ชม. / วัน นอกจากนั้นทำกายภาพ ประชุมทีม

ถ้าเป็นวันแข่ง ไม่สามารถซ้อมทีมได้หนักในช่วงก่อนหรือหลังแข่ง
ส่วนหนึ่งเพราะนักกีฬาไม่ได้มีสภาพร่างกายที่พร้อม 100%
และยิ่งต้องแข่งติดกัน 3 วันรวด ยิ่งต้องลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ คือ พยายามถนอมร่างกายให้ปกติที่สุด
ไม่ว่าจะส่งทีมชุดไหนก็ต้องทำแบบนี้

ส่วนในวันพัก สิ่งสำคัญที่พึงระลึกถึง คือ การแข่งขันอยู่ในช่วงโควิด
นั่นหมายถึงแต่ละทีมไม่สามารถเดินทางเข้าออกหรือหาสนามซ้อมเพิ่ม
(แบบที่ป้าหลางเคยทำตอนที่จีนไปแข่งโอลิมปิกที่ริโอ)
นักกีฬามีเวลาซ้อมในแต่ละวันที่จำกัด ดังนั้น จะเทียบว่ารวมตัวเพิ่มขึ้นกี่วันไม่ได้
เพราะต่อให้อยู่กันจนจบการแข่งขัน การซ้อมที่ได้ก็อาจจะแค่ 30-40% เท่านั้น

สุดท้ายนี้ ทุกคนที่เป็นหนึ่งในทีมเฉพาะกิจล้วนเป็นคนที่เสียสละ
เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้วในสถานการณ์วิกฤติและข้อจำกัดมากมาย
หลายคะแนนที่ได้ก็มาจากประสบการณ์และการเล่นร่วมกันมานาน
เพียงแต่สภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปส่งผลต่อการตัดสินใจในบางครั้ง
หรือหลายครั้งรู้ว่าคู่ต่อสู้จะรุกอย่างไร แต่พละกำลังมีขีดจำกัดที่จะป้องกัน

เชื่อว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ไม่ใช่สมาคม ล้วนทำงานกันอย่างหนัก
ดังที่กัปตันแขกเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเมื่อต้องแข่งก็ไม่มีใครอยากแพ้
แต่เมื่อแพ้ก็ต้องพยายามแก้เกมกันต่อไปท่ามกลางความไม่พร้อม
หลังจากนี้ต่อให้แพ้ด้วยสกอร์ที่ขาดกว่า ก็ต้องอดทนและมีความหวัง

เราในฐานะกองเชียร์ชุดเฉพาะกิจจึงควรประเมินด้วยใจเป็นธรรม
อย่าเปรียบเทียบ 6 เซียนกับผลงานในอดีตที่ผ่านมา
เชื่อว่านักกีฬาทุกคนล้วนสู้อย่างเต็มความสามารถที่มี
เป็นคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าศักดิ์ศรีเซียนจะลดลงเพราะแพ้รวด
แต่กลับคิดว่าพวกเขานี่แหละ คือ ตำนานอย่างแท้จริง