เพื่อนสนิทจะช่วยเราในยามลำบากจริงหรอ?

สวัสดีทุกวันนี้เรามีเรื่องที่จะถามทุกคนเลยว่าทุกคนคิดยังไงกับเรื่องที่เราจะพูดต่อไปนี้
เรามีเพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่เรียนม.1คนหนึ่ง ให้นามสมมุติว่าเจน เจนเป็นเพื่อนคนแรกที่เราสนิทที่โรงเรียนแห่งนี้ ต้องบอกทุกคนก่อนว่าตอนนั้นเราเป็นเด็กหน้านิ่งๆเลยไม่มีคนเข้ามาคุยกับเราเลย วันแรกที่เข้าห้องเรียนไม่มีใครมานั่งข้างเราสักคน เราไม่ค่อยรู้จักใครด้วยเพราะคนส่วนใหญ่ที่มาเรียนที่นี้ส่วนมากมาจากโรงเรียนเดียวกันหมด ส่วนเรามาจากที่อื่น เพื่อนจากโรงเรียนเก่าก็ไม่มีสักคน แต่เจนเป็นคนแรกที่เลือกมานั่งข้างเราด้วยเหตุผลที่ว่าหน้าตาเราดูเป็นเด็กเรียน แล้วเราก็มีกลุ่มที่มีสมาชิกประมาณ7คนได้ (แต่เราจะพูดถึงเจนคนที่สนิทกับเราที่สุดนะ) เราคบกันมา3ปีอยู่ห้องเดียวกัน นั่งข้างกันตลอด มีอะไรก็ช่วยหลือกันตลอด จนกระทั่งเราต้องขึ้นม.4 ทุกคนก็แยกสายกันเรียน แต่เจนก็มาเรียนสายเดียวกับเรา นั่งข้างเราเหมือนเดิม ตอนแรกทุกอย่างก็ดีแหละ แต่ก็มีเรื่องให้ข้องใจอยู่ดี อันดับแรก เรื่องไปเข้าห้อง ปกติเราเป็นคนปวดฉี่บ่อย เวลาเราชวนเจนไปเจนก็ไปด้วยตลอด แต่พักหลังเจนเริ่มไม่ไป มีครั้งนึงเราไปชวนเจนแต่เจนไม่ไป พอเรากลับขึ้นมาบนห้องเราเห็นเพื่อนอีกคนมาชวนเจนไปเจนก็ไป แต่ระยะเวลาและความห่างมันไม่ต่างกันเท่าไหร่ เราก็งงว่าทำไมเจนไม่ไปกับเรา เป็นแบบนี้หลายครั้งจนเราก็น้อยใจ ละก็เลือกที่จะไปห้องน้ำคนเดียวหรือไปกับเพื่อนคนอื่นแทน หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยพูดกับเจนและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับแฟนมากกว่า แต่ว่าเจนก็ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่อยู่แล้วเพราะส่วนใหญ่เจนจะเล่นแต่โทรศัพท์ ซึ่งเราชอบคุยกับเพื่อนมากกว่า เราก็ต้องไปคุยกับเพื่อนคนอื่นแทน เรารู้สึกไม่อยากเดินกลับบ้านพร้อมกับเจน อยากแยกตัวเร็วๆ แล้วเราก็เปิดใจคุยกันแล้วเจนก็ขอโทษ เราก็โอเคแต่ต้องบอกว่า ความรู้สึกมันเปลี่ยนไปนิดหน่อย เรารู้สึกอึดอัดไม่รู้จะคุยอะไรกับเจนเวลาไปห้องน้ำกัน2คน ตอนหลังเราเลยไปคนเดียวจนชินหรือไปกับเพื่อนคนอื่นมากกว่าคือเราไม่คิดจะไปกับเจนเลย พอไปกับคนอื่นเราดันรู้สึกสบายไม่อึดอัด แต่เรื่องนี้เรายังไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่เรื่องต่อไปเป็นจุดเปลี่ยนความคิดของเราเลย
ทุกคนคงเคยได้ยินคำนี้ "เพื่อนแท้ จะช่วยเราในยามลำบาก" เรื่องที่เราพูดถึงต่อไปนี้คือเรื่องที่ทำให้เราคิดว่าคนนี้ไม่ใช่เพื่อนแท้เรา และเราพึ่งอะไรเขาไม่ได้
วันสอบปลายภาค เราต้องใช้ดินสอ2B เราก็คิดว่าเราเอามาแล้วแต่สรุปว่าเราลืม ซึ่งจริงๆเราไม่ควรลืมด้วยซ้ำ แต่เจนมีดินสอ2Bสองแท่งและมีกบเหลา ซึ่งเราก็มีกบเหลา เราขอยืมดินสอเจนแต่เจนกลับบอกว่า "เรามีแค่2แท่งเอง" สรุปว่าเจนไม่ให้ยืมเรายืม แล้วตอนนั้นเขาเรียกเข้าห้องสอบแล้ว เราต้องไปขอยืมเพื่อนคนอื่นแทนซึ่งเขาช่วยเรา นี่ขนาดเราสอบห้องเดียวกันแถมเลขที่ก็ติดกันด้วยนะ ตั้งแต่ตอนโดนปฎิเสธเรารู้เลยว่าคนนี้ไม่ใช่เพื่อนแท้เราเพราะในยามที่เราต้องการความช่วยเหลือ เรากับไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนคนนี้ ถ้าเหตุการณ์มันกลับกันเราก็คงให้เจนยืมดินสอ2B ซึ่งเรื่องเราก็คุยกันแล้วเจนก็ขอโทษเหมือนเดิม แต่เราไม่ไว้ใจเจนอีกเลย  ตั้งแต่วันนั้นมาเรารู้สึกว่าเราไม่ควรให้ใจกับใครไปมากเลย หลังจากนั้นเราก็ไม่อยากให้ใจใครไปเต็มร้อยเลยอีกเลย เวลาสอบเจนรู้อะไรเจนไม่เคยบอกเรา แต่เราบอกทุกอย่างที่เป็นความรู้สำหรับสอบ เราก็เลยรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ ตอนนี้เราใกล้เข้ามหาลัยกันแล้ว เจนชอบมาถามว่าจะเข้าที่ไหน เรียนพิเศษที่ไหน  ถามไปหมดแต่เราไม่อยากบอกสักอัน เราไม่อยากให้เขามารู้เเผนในชีวิตของเรา ไม่อยากเรียนมหาลัยเดียวกันและคณะเดียวกัน (คือตอนแรกเราคิดจะไปที่เดียวกัน) แต่ตอนนี้เราไม่เอาดีกว่า เรารู้สึกว่าเรา2คนเเข่งกันเรียนอะ ถ้าเรียนเหมือนกัน2คนมันจะยิ่งแข่งกันอีก เจนจะออกแนวหวงความรู้ รู้อะไรไม่บอกส่วนเราบอกทุกอย่างที่รู้ แต่ตอนนี้ก็คือเราต้องกั๊กอ่ะ เราอ่ะเป็นคนไม่ฉลาดเเกมโกง ละไม่ค่อยทันคน พอเรายิ่งโตยิ่งเห็นทุกคนต่างเห็นแก่ตัวเพื่อให้ตัวเองรอด ซึ่งแต่ก่อนเราจะซื่อสัตย์มากผิดก็ผิดไปเลย แต่เรารู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบเราเลยเริ่มเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนแนวคิดใหม่ว่าเราก็ต้องเอาตัวรอดเหมือนกัน
เราเลยคิดว่าเราจะหาเพื่อนใหม่ตอนเข้ามหาลัยและเปิดใจกับเขาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะบอกว่าเราให้เขาเต็ม100นะ จริงใจด้วย
เรามีแฟนตอนม.3 (เราเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ม.1 แต่พึ่งคบกันตอนม.3) ซึ่งเราสนิทกันมากในตอนนี้เราไว้ใจเขามากกว่าเพื่อน เราบอกทุกอยากรวมถึงบอกเรื่องพวกนี้ที่เรากล่าวข้างต้น เขาก็บอกนะว่าเรื่องดินสอ2Bมันเห็นได้ชัดเลยว่าเจนคิดยังไง แฟนเราบอกว่าทุกคนอ่ะเอาตัวรอดหมดแหละ เขาก็เล่าสังคมในในห้องเขาให้ฟังซึ่งต้องยอมรับว่าทุกคนในห้องเขาเห็นแก่ตัวกว่าห้องเรามาก ตอนนั้นเราก็เริ่มรับรู้ความจริงของโลกใบนี้ว่าไม่มีใครที่จะยินดีช่วยเราจริงๆอ่ะ ซึ่งมันก็อาจจะมี แต่มันเป็นส่วนน้อย ขนาดแฟนเราก็ยังบอกว่าเขาไม่สามารถไว้ใจใครในห้องได้เลย เขาไว้ใจเรามากที่สุดแล้วและต้องบอกตามตรงว่าเรากับไม่มีเพื่อนสนิทที่รู้สึกสนิทใจเลย เราไว้ใจกันเเค่เราสอง เราไปไหนมักไปกับแฟนมากกว่าขนาดไปซื้อหนังสือเตรียมสอบเราก็ไปกับเเฟนเรา
อย่างว่าใครมีเพื่อนดีก็ต้องมาบอกว่าเพื่อนดีกว่าแฟน แต่ถ้าใครมีเพื่อนไม่ดีละ คุณจะคิดยังไง?  เรื่องเขาเราทั้งหมดนี้เราไม่รู้ว่าเราคิดมากไปเองรึเปล่า แต่เราไม่ได้อยากตัดขาดกับเจนขนาดนั้นให้คุยก็คุยได้แต่ถ้าให้สนิทแบบเมื่อก่อนคงไม่ได้อีกแล้ว เรื่องนี้อยู่ในใจเรามานานมาก คือเราเคยคุยกับเจนเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ความรู้สึกมันก็ไม่ดีเท่าไหร่ เราไม่ยากยกประเด็นมาพูดซ้ำเพราะมันทำอะไรไม่ได้แล้ว เราเลือกแล้ว แล้วทุกคนมีความเห็นยังไงกับเรื่องนี้คะ?
เราผิดไหมที่คิดกับเพื่อนแบบนั้น?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่