ญาติปักใจ หนุ่มดับเพราะฉีดซิโนแวค ชี้เป็นนักกีฬา เผยผู้ตายกลัวการฉีดวัคซีนมาก แต่จำเป็น
https://www.matichon.co.th/region/news_2744153
ญาติปักใจเชื่อ หนุ่มดับเพราะฉีดซิโนแวค ชี้เป็นนักกีฬา เผยผู้ตายไม่อยากฉีด แต่จำเป็น
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีมีผู้เสียชีวิตหลังจากเข้ารับบริการฉีดวัคซีน ที่ อ.เมือง จ.พังงา โดย น.ส.
ภรณี งามทรัพย์ อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นาย
ดำ เหมมินทร์ อายุ 65 ปี พ่อ และญาติๆของนาย
วินัย เหมมินทร์ อายุ 43 ปี ผู้เสียชีวิต ท่าทียังคงมีความเศร้าโศกเสียใจ หลังจากนายวินัย เข้าฉีดวัคซีน sinovac ที่หน่วยฉีดวัคซีน ท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 เวลา 16.20 น. กระทั่งช็อคและเสียชีวิต ช่วงเวลา 01.30 น. วันที่ 25 พฤษภาคม โดยทางแพทย์ รพ.พังงา ระบุการเสียชีวิตว่า เกิดอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันรุนแรง พร้อมระบุว่าพบว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติว่า มีไขมันเลวสูงถึง 231 ซึ่งเป็นค่าไขมันเลวไม่ควรเกิน 130 เท่านั้น จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ล่าสุดทางญาติผู้เสียชีวิตได้แสดงความคิดเห็นว่า มั่นใจสาเหตุที่นาย
วินัย เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน เนื่องจากนาย
วินัย เป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายบ่อยครั้ง เป็นนักกีฬาฟุตบอลของชุมชน ทำงานค้าขาย ส่งอาหารทะเลแห้ง ไม่มีอาการว่าจะเจ็บไข้มาก่อนหน้านี้ เป็นที่รักของคนในครอบครัว
จึงปักใจเชื่อว่า สาเหตุการตายเกิดจากการฉีดวัคซีน sinovac จึงต้องการให้ทางสาธารณสุขเร่งตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตเร่งด่วน แม้ทางแพทย์ระบุว่า เกิดจากอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันรุนแรง ยังเชื่อว่า วัคซีนที่ฉีดป้องกันโควิดรั้งนี้มีส่วนเป็นเหตุให้เสียชีวิต พร้อมต้องการให้รัฐบาลหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดผลภาวะไม่พึงประสงค์ต่อผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในรายต่อจากนี้
โดย น.ส.
ภรณี งามทรัพย์ อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นว่า สามีเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน เนื่องจากก่อนเกิดอาการช็อค สามีถามตนเองตลอดว่า ให้ดูอาการว่า ตรงกับข้อสังเกตตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่ได้มาหลังจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ เนื่องจากผู้เสียชีวิตกลัวการฉีดวัคซีนครั้งนี้มาก แต่จำเป็นต้องฉีดเนื่องจากมาตรการเข้มงวดในการเข้า-ออกของจังหวัดภูเก็ต
ด้าน นาย
ดำ เหมมินทร์ อายุ 65 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองและญาติๆของผู้เสียชีวิตต่างเห็นพ้องตรงกันว่า สาเหตุเกิดจากการฉีดวัคซีน sinovac ซึ่งลูกของตนเองไม่มีประวัติป่วยหรือไม่สบายจนต้องนอนโรงพยาบาลมาก่อนหน้านี้ และปักใจเชื่อว่า หากลูกชายไม่ฉีดวัคซีนก็ยังไม่เสียชีวิต อีกทั้งลูกชายเป็นที่พึ่งพาและเสาหลักของ 3 ครอบครัว ทำให้ครัวเรือนในละแวกและบรรดาญาติๆไม่กล้าที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด หากทางรัฐบาลไม่สร้างความมั่นใจให้มากกว่านี้
รัฐเก็บรายได้ 7 เดือน ต่ำกว่าเป้าหมาย
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/80876/
“กระทรวงการคลังเผย รัฐเก็บรายได้ 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.28 แสนล้านบาท”
วันนี้( 26 พ.ค.64) นางสาว
กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 – เมยายน 2564) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,222,401 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 128,854 ล้นบาท หรือร้อยละ 9.5 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 78,284 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.0
โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ต่ำกว่าประมาณการ 74,774 31,927 และ 29,555 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.9 29.3 และ 8.2 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการนั้น เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นสำคัญ
ท้องถิ่นเครียด รัฐชี้นิ้วสั่งลดเก็บภาษี ไม่ปล่อยให้ตัดสินใจ ครวญอาจไม่มีเงินจ่ายพนักงาน
https://www.matichon.co.th/region/news_2743814
เรียกร้องรัฐบาลให้ท้องถิ่นพิจารณาการจัดเก็บภาษีเอง กรณีที่รัฐสั่งการให้ลดการจัดเก็บภาษีโรงเรือนเหลือเพียงร้อยละ 10 นั้น ทำให้จัดเก็บภาษีรายได้ลดลง จนประเมินว่าไม่สามารถจ่ายค่าจ้างพนักงานได้
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ นาย
เกชา เบ็ญจคาร นายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงกรณี รัฐบาลมีหนังสือสั่งการให้ลดการจับเก็บภาษีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเหลือเพียงร้อยละ 10 นั้น มองว่า รัฐบาลควรจะมอบให้ทางท้องถิ่นแต่ละแห่งพิจารณาเองว่าควรจะมีการจัดเก็บภาษีกับธุรกิจไหน อย่างไร เนื่องจากท้องถิ่นจะทราบดีว่า ธุรกิจใดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในขณะที่บางกิจการนั้น ถือว่านอกจากไม่ได้รับผลกระทบแล้วยังได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก อย่างในอำเภอสะเดา มีโรงงานผลิตถุงมือยาง ก็พบว่ามียอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นเพราะต้องใช้ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น โรงงานผลิตกระดาษทิชชู ก็มีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยโรงงานถุงมือยางเฉพาะในอำเภอสะเดา ก็มีการยื่นขออนุญาตตั้งโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง แต่เมื่อรัฐบาลมีคำสั่งออกมาให้ลด ก็ต้องลดเหมือนกันหมดทุกกิจการ ทำให้รายได้ของเทศบาลตำบลสำนักขาม จากเดิม ปีละ 20 ล้านเหลือเพียง 2 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าคงจะไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายโดยเฉพาะในส่วนของค่าจ้างพนักงาน
นาย
เกชากล่าวว่า ในขณะนี้แม้จะยังมีเงินเพียงพอจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงาน แต่ต้องยอมรับว่าปีนี้ไม่เพียงพออย่างแน่นอน ก็ต้องใช้วิธีการนำเงินสะสม ของเทศบาลที่มีอยู่นำมาใช้ ซึ่งค่าจ้างพนักงานถือเป็นเรื่องจำเป็น เพียงแต่ต้องทำเรื่องเสนอขออนุญาตไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอใช้เงินสะสมดังกล่าว โดยเงินสะสมของเทศบาลนั้น มีสำหรับใช้ในช่วงจำเป็น หรือ มีสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เมื่อไม่มีเงินจ่ายค่าตอบแทนพนักงาน ลูกจ้าง ก็ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
“
ดังนั้นแนวทางแก้ไขก็ต้องให้ทางรัฐบาลทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเทศบาลทุกแห่งก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ทำให้โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ต่างได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จึงสมควรที่จะลดการจัดเก็บภาษีต่างๆ แต่ในบางกิจการนั้น ไม่ได้รับผลกระทบ จึงควรมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งพิจารณาเอง ว่าธุรกิจใด ควรจัดเก็บอย่างไร โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างโรงแรม ร้านค้า ก็อาจจะยกเว้นไปเลย แต่มาเก็บในส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบแทน ซึ่งมองว่าเป็นการแก้ปัญหาได้ดีและตรงจุดมากกว่า ซึ่งท้องถิ่นย่อมทราบถึงปัญหาในแต่ละพื้นที่ดีกว่า” นาย
เกชากล่าว
JJNY : 4in1 ญาติปักใจหนุ่มดับเพราะฉีดซิโนแวค│เก็บรายได้7ด.ต่ำกว่าเป้า│ท้องถิ่นเครียดรัฐสั่งลดเก็บภาษี│พท.อัดวาระเงินกู้
https://www.matichon.co.th/region/news_2744153
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีมีผู้เสียชีวิตหลังจากเข้ารับบริการฉีดวัคซีน ที่ อ.เมือง จ.พังงา โดย น.ส.ภรณี งามทรัพย์ อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นายดำ เหมมินทร์ อายุ 65 ปี พ่อ และญาติๆของนายวินัย เหมมินทร์ อายุ 43 ปี ผู้เสียชีวิต ท่าทียังคงมีความเศร้าโศกเสียใจ หลังจากนายวินัย เข้าฉีดวัคซีน sinovac ที่หน่วยฉีดวัคซีน ท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 เวลา 16.20 น. กระทั่งช็อคและเสียชีวิต ช่วงเวลา 01.30 น. วันที่ 25 พฤษภาคม โดยทางแพทย์ รพ.พังงา ระบุการเสียชีวิตว่า เกิดอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันรุนแรง พร้อมระบุว่าพบว่า ผู้เสียชีวิตมีประวัติว่า มีไขมันเลวสูงถึง 231 ซึ่งเป็นค่าไขมันเลวไม่ควรเกิน 130 เท่านั้น จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ล่าสุดทางญาติผู้เสียชีวิตได้แสดงความคิดเห็นว่า มั่นใจสาเหตุที่นายวินัย เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน เนื่องจากนายวินัย เป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายบ่อยครั้ง เป็นนักกีฬาฟุตบอลของชุมชน ทำงานค้าขาย ส่งอาหารทะเลแห้ง ไม่มีอาการว่าจะเจ็บไข้มาก่อนหน้านี้ เป็นที่รักของคนในครอบครัว
จึงปักใจเชื่อว่า สาเหตุการตายเกิดจากการฉีดวัคซีน sinovac จึงต้องการให้ทางสาธารณสุขเร่งตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตเร่งด่วน แม้ทางแพทย์ระบุว่า เกิดจากอาการโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันรุนแรง ยังเชื่อว่า วัคซีนที่ฉีดป้องกันโควิดรั้งนี้มีส่วนเป็นเหตุให้เสียชีวิต พร้อมต้องการให้รัฐบาลหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดผลภาวะไม่พึงประสงค์ต่อผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในรายต่อจากนี้
โดย น.ส.ภรณี งามทรัพย์ อายุ 32 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองเชื่อมั่นว่า สามีเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน เนื่องจากก่อนเกิดอาการช็อค สามีถามตนเองตลอดว่า ให้ดูอาการว่า ตรงกับข้อสังเกตตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่ได้มาหลังจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ เนื่องจากผู้เสียชีวิตกลัวการฉีดวัคซีนครั้งนี้มาก แต่จำเป็นต้องฉีดเนื่องจากมาตรการเข้มงวดในการเข้า-ออกของจังหวัดภูเก็ต
ด้าน นายดำ เหมมินทร์ อายุ 65 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองและญาติๆของผู้เสียชีวิตต่างเห็นพ้องตรงกันว่า สาเหตุเกิดจากการฉีดวัคซีน sinovac ซึ่งลูกของตนเองไม่มีประวัติป่วยหรือไม่สบายจนต้องนอนโรงพยาบาลมาก่อนหน้านี้ และปักใจเชื่อว่า หากลูกชายไม่ฉีดวัคซีนก็ยังไม่เสียชีวิต อีกทั้งลูกชายเป็นที่พึ่งพาและเสาหลักของ 3 ครอบครัว ทำให้ครัวเรือนในละแวกและบรรดาญาติๆไม่กล้าที่จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด หากทางรัฐบาลไม่สร้างความมั่นใจให้มากกว่านี้
รัฐเก็บรายได้ 7 เดือน ต่ำกว่าเป้าหมาย
https://www.tnnthailand.com/news/wealth/80876/
“กระทรวงการคลังเผย รัฐเก็บรายได้ 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 ต่ำกว่าเป้าหมาย 1.28 แสนล้านบาท”
วันนี้( 26 พ.ค.64) นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563 – เมยายน 2564) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,222,401 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 128,854 ล้นบาท หรือร้อยละ 9.5 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 78,284 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.0
โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต ต่ำกว่าประมาณการ 74,774 31,927 และ 29,555 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.9 29.3 และ 8.2 ตามลำดับ
ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการนั้น เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นสำคัญ
ท้องถิ่นเครียด รัฐชี้นิ้วสั่งลดเก็บภาษี ไม่ปล่อยให้ตัดสินใจ ครวญอาจไม่มีเงินจ่ายพนักงาน
https://www.matichon.co.th/region/news_2743814
เรียกร้องรัฐบาลให้ท้องถิ่นพิจารณาการจัดเก็บภาษีเอง กรณีที่รัฐสั่งการให้ลดการจัดเก็บภาษีโรงเรือนเหลือเพียงร้อยละ 10 นั้น ทำให้จัดเก็บภาษีรายได้ลดลง จนประเมินว่าไม่สามารถจ่ายค่าจ้างพนักงานได้
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ นายเกชา เบ็ญจคาร นายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงกรณี รัฐบาลมีหนังสือสั่งการให้ลดการจับเก็บภาษีโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเหลือเพียงร้อยละ 10 นั้น มองว่า รัฐบาลควรจะมอบให้ทางท้องถิ่นแต่ละแห่งพิจารณาเองว่าควรจะมีการจัดเก็บภาษีกับธุรกิจไหน อย่างไร เนื่องจากท้องถิ่นจะทราบดีว่า ธุรกิจใดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในขณะที่บางกิจการนั้น ถือว่านอกจากไม่ได้รับผลกระทบแล้วยังได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก อย่างในอำเภอสะเดา มีโรงงานผลิตถุงมือยาง ก็พบว่ามียอดสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นเพราะต้องใช้ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น โรงงานผลิตกระดาษทิชชู ก็มีคำสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น โดยโรงงานถุงมือยางเฉพาะในอำเภอสะเดา ก็มีการยื่นขออนุญาตตั้งโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง แต่เมื่อรัฐบาลมีคำสั่งออกมาให้ลด ก็ต้องลดเหมือนกันหมดทุกกิจการ ทำให้รายได้ของเทศบาลตำบลสำนักขาม จากเดิม ปีละ 20 ล้านเหลือเพียง 2 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าคงจะไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายโดยเฉพาะในส่วนของค่าจ้างพนักงาน
นายเกชากล่าวว่า ในขณะนี้แม้จะยังมีเงินเพียงพอจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงาน แต่ต้องยอมรับว่าปีนี้ไม่เพียงพออย่างแน่นอน ก็ต้องใช้วิธีการนำเงินสะสม ของเทศบาลที่มีอยู่นำมาใช้ ซึ่งค่าจ้างพนักงานถือเป็นเรื่องจำเป็น เพียงแต่ต้องทำเรื่องเสนอขออนุญาตไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอใช้เงินสะสมดังกล่าว โดยเงินสะสมของเทศบาลนั้น มีสำหรับใช้ในช่วงจำเป็น หรือ มีสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เมื่อไม่มีเงินจ่ายค่าตอบแทนพนักงาน ลูกจ้าง ก็ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
“ดังนั้นแนวทางแก้ไขก็ต้องให้ทางรัฐบาลทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเทศบาลทุกแห่งก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ทำให้โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ต่างได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน จึงสมควรที่จะลดการจัดเก็บภาษีต่างๆ แต่ในบางกิจการนั้น ไม่ได้รับผลกระทบ จึงควรมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งพิจารณาเอง ว่าธุรกิจใด ควรจัดเก็บอย่างไร โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างโรงแรม ร้านค้า ก็อาจจะยกเว้นไปเลย แต่มาเก็บในส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบแทน ซึ่งมองว่าเป็นการแก้ปัญหาได้ดีและตรงจุดมากกว่า ซึ่งท้องถิ่นย่อมทราบถึงปัญหาในแต่ละพื้นที่ดีกว่า” นายเกชากล่าว