ธุรกิจหาดใหญ่ ปิดกิจการแล้ว 70% เงียบหนักที่สุดในรอบ 100 ปี
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6577493
 
 
ปธ.สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวสงขลา เผย ธุรกิจหาดใหญ่ ปิดกิจการแล้ว 70% เงียบหนักที่สุดในรอบ 100 ปี ชี้ทางออกคือวัคซีน แต่ยังไม่ถึงไหน
 
22 ส.ค. 2564 – นายสุรพล กำพลานนท์วัฒน์ ปธ.สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยว จ.สงขลา กล่าวว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจเมืองหาดใหญ่เงียบเหงาในรอบ 100 ปี ร้านค้าปิดกิจการร้อยละ 70 ที่เหลือร้อยละ 30 เปิดกิจการเพราะด้วยหลายเหตุผล เช่น ดีกว่าเสียค่าเช่าปล่อยไว้ดีกว่านอนอยู่เฉย ๆ
 
หากธุรกิจหาดใหญ่จะฟื้นตัว ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี คำตอบที่ภาคเอกชนต้องการคือวัคซีน ต้องฉีดให้ประชาชนได้ร้อยละ 70 เป็นอย่างน้อยที่สุด ขณะนี้ฉีดไปได้ร้อยละ 50 หวังว่าไตรมาส 4 จะได้วัคซีนตามเป้า
 
นายสมชาติ พิมพ์ธนพูนพร ผู้จัดการโรงแรมซากุระบัดแจ๊สหาดใหญ่ กล่าวว่า ธุรกิจโรงแรมเวลานี้ ได้รับผลกระทบหนักสุด ปิดกิจการมาแล้วเกือบปี พนักงานในภาคการท่องเที่ยวตกงานไปแล้วร้อยละ 90 เพราะไม่มีเงินจ่ายเป็นค่าตอบแทน และค่าน้ำค่าไฟรายเดือน มีโรงแรมขนาดเล็ก 4-5 แห่งเปิดกิจการ มีแขกเข้าพักเฉลี่ยวันละ 4 ห้อง และยังไม่เห็นแผนฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวรัฐบาลหลังการแพร่ะบาดโควิด ที่ชัดเจนยิ่งวังเวง
 
ทั้งที่คำตอบสุดท้ายคือวัคซีน ก็ยังไปไม่ถึงไหน เข้ามาลักษณะหยุด ๆ ขาด ๆ เหมือนกับรัฐบาลกำลังขัดแย้งกันเองหรือจากระบบราชการอุ้ยอ้าย จนทำให้โควิดเดินนำหน้ารัฐบาลไปหลายช่วงก้าว หากปลายปียังพบผู้ป่วยไม่ลดจำนวนลง ผมเชื่อว่าธุรกิจการท่องเที่ยวที่เคยสร้างรายได้กับประเทศถึงจุดจบ รายได้ท้องถิ่นรายได้ประเทศได้ตกต่ำกว่าเป้า จะเข้ายุคข้าวอยากหมากแพง
 

---

 
ชาวบ้านผวา ไม่กล้าฉีดซิโนแวค หลังหนุ่มใหญ่ 48 ดับหลังรับเข็มแรก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6577865
 
ครอบครัวคาใจ หนุ่มใหญ่วัย 48 ดับหลังฉีด ซิโนแวคเข็มแรก ไม่ถึง 24 ชม. ไม่เชื่อแพทย์ระบุ หลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจแข้งกระดาง คือสาเหตุ
   
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2564 ที่วัดคลองโป่ง ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี นางกาหลง ณรงค์มี อายุ 72 ปี ชาวจ.อุทัยธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายคือนายสมบูรณ์ ณรงค์มี อายุ 48 ปี เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวค ได้ไม่ถึง 24 ชม. เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา
 
นางกาหลง กล่าวว่า ทางอนามัยหนองอาสา ได้นัดให้ตนเองพร้อมบุตรชายคือนายสมบูรณ์ ให้ไปฉีดวัคซีนเข็มแรก ในวันที่ 20 ส.ค.64 ในเวลา 09.00 น. ที่รพ.หนองฉาง หลังจากฉีดเสร็จก็ได้นั่งพักบริเวณนั้นประมาณ 30 นาที โดยนายสมบูรณ์ ขอกลับมาที่รถก่อนเพราะมีอาการมึนหัว
 
เมื่อถึงบ้านนายสมบูรณ์ มีอาการคลื่นใส และท้องเสีย ตามมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ และแน่นหน้าอก ตลอดทั้งคืนกระทั่งช่วงเช้ายังมีอาการแน่นหน้าอก  และมีอาการหอบเหนือยมาก ญาติ ๆ เห็นอาการไม่ดีจึงพานายสมบูรณ์ ไปรพ.หนองฉาง ในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 21 ส.ค. 64
 
ทางโรงพยาบาลได้ซักถามประวัติทางญาติก็นำใบฉีดวัคซีนเข็มแรกให้เจ้าหน้าทีดู หลังจากก็นำนายสมบูรณ์ เข้าห้องฉุกเฉินทันที ประมาณ 30 นาทีแรก ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเอกซเรย์ รอบแรก แต่ร่างกายนายสมบูรณ์ นั้นอ่อนล้ามาก จึงปล่อยให้พักระยะหนึ่ง ก่อนจะนำเข้าห้องเอกซเรย์อีกครั้ง นายสมบูรณ์ ไม่ตอบสนองแล้ว จึงพาเข้าฉุกเฉินอีกครั้งก่อนจะเสียชีวิต
 
นางกาหลง กล่าวต่อว่า ญาติพี่น้องทุกคน พร้อมภรรยาของผู้ตาย และลูก ๆ ติดใจในการเสียชีวิต เนื่องจากสาเหตุนั้นมาจากนายสมบูรณ์ ได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อชิโนแวค และทางรพ.หนองฉาง นั้นได้นำตัวผู้ตายส่งผ่าตัดชันสูจน์พลิกศพที่รพ.สวรรค์ประชารักษ์ อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการตายให้แน่ชัด ซึ่งผลชันสูตรออกมาว่า “หลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจแข้งกระดางทำให้เสียชีวิต”
 
ด้านนายขวัญชัย ณรงค์มี พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ตายมีสุขภาพแข็งแรง ประกอบอาชีพทำไร่อ้อยกว่า 50 ไร่ ด้วยตัวคนเดียว แต่ผู้ตายก็มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และความดัน แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับร่างกาย หลังจากที่ผู้ตายไปฉีดวัคซีนได้ไม่ถึง 24 ชม. ก็มาเสียชีวิต
 
โดยทางครอบครัวยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของนายสมบูรณ์ อยากร้องขอความเป็นธรรมกับหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ควบคุมโรคระบาดโควิด หาสาเหตุการตายให้แน่ชัด และชาวบ้านต.เมืองการุ้ง นั้นก็หวาดผวากับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้
 

---

รพ.ให้ญาตินำศพโควิด-19 ไปเผาเอง แจ้งคนไม่พอ
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/154651

คุณตาวัย 90 ปีเสียชีวิตจากโควิด โรงพยาบาลแจ้งญาติว่าเป็นวันหยุด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินการนำศพไปเผาเอง โดยจัดหาชุด PPE ให้ใส่ แต่ญาติไม่มีใครกล้าทำ สุดท้ายพยาบาลต้องมาช่วยแบกโลง
 
เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ช่วยกันนำร่างชายอายุ 90 ปี ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ขึ้นฌาปนกิจ โดยมีญาติมาร่วมพิธีเพียง 4-5 คน เนื่องจากลูกๆอยู่กรุงเทพฯไม่สามารถมาร่วมงานศพได้
 
แต่ปัญหากว่าจะนำร่างผู้เสียชีวิตมาดำเนินการได้ ต้องใช้เวลานาน เพราะวันนี้เป็นวันหยุดอาทิตย์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทำงานน้อย ทางโรงพยาบาลจึงประสานให้ญาติมารับศพไปดำเนินการเอง  โดยจะหาชุด PPE ให้ใส่
 
แต่ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าดำเนินการเอง จึงประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสรรคบุรี จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านไทย จัดหาเจ้าหน้าที่มาดำเนินการให้ โดยเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยกันแบกโลงขึ้นเมรุครั้งนี้เป็นผู้หญิง 2 คน
 
ญาติผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลแจ้งญาติให้ช่วยนำศพคุณตาไปทำการฌาปนกิจเอง โดยจะหาชุด PPE ให้ใส่  ซึ่งตามที่ตนเคยเห็นในข่าวทางโรงพยาบาลต้องดำเนินการให้  ก็รู้สึกแปลกใจ  แต่ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าไม่มีคนจริง ๆ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
โดยญาติของผู้เสียชีวิตมองว่า ระบบการจัดการของโรงพยาบาลน่าจะดำเนินการให้ดีกว่านี้ เพราะการจะให้ญาติเป็นคนแบกศพผู้เสีนชีวิตไปเผาศพเอง มองว่าจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่