โลกทึ่ง! ไต้หวัน พัฒนาระบบติดตามใหม่ ใน 3 วัน ประสิทธิภาพ-ปลอดภัยสูงมาก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6409881
โลกทึ่ง! ออเดรย์ ถัง รมว.ดิจิทัลไต้หวัน รับฟังเสียงประชาชน ตัดสินใจพัฒนาระบบติดตามใหม่ ภายใน 3 วัน จุดเด่น ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพเยี่ยม ความปลอดภัยสูงมาก
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 สำนักข่าว ไทเป ไทมส์ รายงานว่า ไต้หวันได้ออกระบบติดตามโควิดแบบใหม่ ที่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศแทบในทันที หลังแถลงการณ์ โดยสามารถใช้งานได้ง่าย ผู้สูงอายุหรือโทรศัพท์แบบเก่าก็สามารถใช้ได้ มีประสิทธิภาพสูง และมีความเป็นส่วนตัวสูง จึงมีความปลอดภัยอย่างยิ่ง
ในวันที่ 20 พ.ค.64
ออร์เดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของไต้หวัน ร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งไต้หวัน ทั้ง 2 ระบบขนส่ง (TRA /HRA) ได้แถลงการณ์แนะนำ ระบบติดตามใหม่ เพื่อใช้ติดตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว
ออเดรย์ ถัง ได้เปิดเผยว่า ระบบการติดตามนี้ ได้แก้ปัญหาความยุ่งยากและมีความปลอดภัยสูง ทำให้ประชาชนมั่นใจในการใช้งาน โดยมีจุดเด่น ได้แก่ ไม่จำเป็นต้องโหลดแอพพลิเคชัน ไม่เสียค่าส่งข้อความทางโทรศัพท์ ใช้เวลา 5 วินาทีในการลงชื่อ มีความปลอดภัยสูง ไม่มีโฆษณาแอบแฝง หรือการส่งข้อมูลให้กับกลุ่มธุรกิจ มีการลบข้อมูลอัตโนมัติใน 28 วัน โทรศัพท์ทุกรุ่นสามารถใช้ได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาร์ทโฟน สามารถส่งรหัสเลขแทนได้ และระบบนี้สามารถใช้ได้ทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นระบบเดียว
ทั้งนี้ทางผู้พัฒนาระบบดังกล่าว เปิดเผยว่า ใช้เวลาพัฒนาระบบใหม่นี้เพียง 3 วัน และ สถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น ร้านค้า สามารถดาวน์โหลด คิวอาร์ โค้ด ของสถานที่ของตนได้ที่เว็บไซต์ของรัฐได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.64 ที่ผ่านมา และประชาชนใช้เวลาลงทะเบียนเพียง 5 วินาที สะท้อนถึงประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของรัฐบาลไต้หวันอย่างยิ่ง จนสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกต่างพากันชื่นชมถึงประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อประชาชนของรัฐบาลไต้หวัน
โดยก่อนหน้านี้
ออเดรย์ ถัง ได้รับเสียงตอบรับของประชาชน ที่วิจารณ์ว่าการลงชื่อเพื่อใช้ระบบติดตามนั้น มีความยุ่งยาก ต้องมีการสแกนก่อนเข้าร้านต่าง ๆ พร้อมพิมพ์ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง ผู้สูงวัยที่ไม่สะดวกในการใช้โทรศัพท์ ต้องใช้วิธีเขียน ซึ่งทำให้ร่างกายต้องสัมผัสกับปากกาที่ใช้ร่วมกับคนอื่น ๆ จึงเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
จากการรับฟังเสียงของประชาชน
ออเดรย์ ถึง จึงตัดสินใจคิดหาวิธีในการแก้ปัญหา และออกมาเป็นระบบใหม่ดังกล่าว ซึ่งประชาชนสามารถเลือกใช้วิธีการลงทะเบียนได้ทุกวิธี ไม่มีการบังคับ แล้วแต่ความสะดวก เช่น การสแกนคิวอาร์ โค้ด การพิมพ์ตัวเลข การลงทะเบียนด้วยบัตรโดยสาร เป็นต้น
ทั้งนี้
ออเดรย์ ถัง เป็นโปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์อิสระชาวไต้หวัน เธอเป็นคนข้ามเพศคนแรกที่ได้รับแต่งการตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของไต้หวัน และ ยังเป็นรัฐมนตรีดิจิทัลที่อายุน้อยที่สุด
ห่วงทำเลวร้ายลงกว่าเดิม! ACT จี้นายกฯพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯอีกรอบ
https://www.isranews.org/article/isranews/98748-isranews-news-78.html
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ออกจดหมายเปิดผนึก จี้นายกรัฐมนตรีแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯใหม่ หลังพบร่างกฎหมายที่เตรียมเสนอให้สภาพิจารณา มีเสียงคัดค้านจากสังคม พร้อมแสดงความเป็นห่วงว่าจะยิ่งทำให้ปัญหาความไม่โปร่งใสในภาครัฐเลวร้ายลงกว่าเดิม
-------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2564 นาย
วิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรื่อง การแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 โดยเนื้อหาในจดหมาย ระบุว่า
ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศย้ำต่อสาธารณชนให้การต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งนโยบายนี้จะสำเร็จได้ จำต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อแก้ไข พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 แล้ว แต่มีเสียงคัดค้านจากสังคมว่าแนวทางที่รัฐบาลเสนอนั้นไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดกับแผนการปฏิรูปประเทศฯ และหลักสากล จนน่าเป็นห่วงว่าจะยิ่งทำให้ปัญหาความไม่โปร่งใสในภาครัฐกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นด้วยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ ตามข้อเรียกร้องจากองค์กรสื่อมวลชน นักวิชาการและภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษาจัดเตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมไว้แล้วโดย สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ แต่ทั้งหมดกลับไม่ถูกนำมาใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอเป็นตัวแทนสังคมเรียนเสนอความเห็นต่อท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้
1. ควรนำร่างกฎหมายที่จัดทำไว้โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมาใช้ หรือตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำร่างกฎหมายขึ้นใหม่โดยมีตัวแทนจากประชาชน สื่อมวลชน และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนที่สังคมยอมรับร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม
2. กฎหมายฉบับใหม่ต้องเคร่งครัดตามหลักการที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอของ สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ล้วนเห็นสอดคล้องกันแล้ว
ในตอนท้ายของจดหมายเปิดผนึกยังระบุด้วยว่า วันนี้การต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันและการแก้ไข พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ จะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความตั้งใจจริงของท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยหวังว่าจะเกิดสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย
พิษโควิด! เกษตรกรฟักทอง ถูกยกเลิกออเดอร์ 120 ตัน จำใจขายกิโลละ 5 บาท
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6409174
พิษโควิด! เกษตรกรฟักทอง ถูกยกเลิกออเดอร์ 120 ตัน จำใจขายกิโลละ 5 บาท ซึ่งก็ยังขายไม่ค่อยออก โอดคงต้องปล่อยทิ้งไปเลย
20 พ.ค. 2564 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในตำบลนาโยงเหนือและตำบลนาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมแปลงปลูกฟักทอง ซึ่งทุกปีจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวนในราคากิโลกรัมละ 20-23 บาท ทำให้มีรายได้คนละไม่ต่ำกว่า 100,000-200,000 บาทต่อปี
แต่ปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้พ่อค้าแม่ค้ายกเลิกออเดอร์ทั้งหมดที่มีกว่า 120 ตัน ส่งผลให้ฟักทองล้นตลาด ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังแปลงปลูก บางรายจึงจำเป็นต้องปล่อยให้น้ำท่วมและเป็นอาหารของหนูตามท้องนา ขณะที่บางรายเก็บขายในราคาที่ต่ำกว่าทุน
โดยฟักทองที่มีน้ำหนักน้อยกว่าลูกละ 5 กิโลกรัมขายกิโลกรัมละ 2-3 บาท หากเกิน 5 กิโลกรัมขายกิโลกรัมละ 5 บาทหรือเหมาขายลูกละ 20 บาท แต่ก็ยังมีผลผลิตอีกกว่า 100 ตัน ที่ยังขายไม่ออก ทำให้เกษตรกรต้องผ่าขายเป็นชิ้น ๆ ละ 1 กิโลกรัมราคา 5 บาท ทำฟักทองเชื่อมขายบ้าง แจกและแถมไปบ้าง เพื่อให้สินค้าไม่กองอยู่เต็มบ้าน
นาง
หนูคล่อง สังข์ยวน อายุ 57 ปี กล่าวว่า ก่อนโควิดมีพ่อค้าสั่งให้เก็บฟักทองไว้ แต่ไม่ได้มาเอา ตอนนี้ยังขายไม่คุ้มทุนยังไม่ได้ถึงครึ่ง แต่ละปีจะได้ 2 ตันต่อไร่ ปีที่แล้วขายกิโลกรัมละ 20-23 บาท แต่ปีนี้ขาย 5 บาทขายบ้างแถมบ้าง แต่ถ้าไม่มีใครมาซื้อก็ทิ้งไปเลย
JJNY : 4in1 ไต้หวันพัฒนาระบบติดตามใหม่│ACTจี้นแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ│ฟักทองถูกยกเลิก120 ตัน│พิมรี่พายตอกแรงส.ส.สอบตก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6409881
โลกทึ่ง! ออเดรย์ ถัง รมว.ดิจิทัลไต้หวัน รับฟังเสียงประชาชน ตัดสินใจพัฒนาระบบติดตามใหม่ ภายใน 3 วัน จุดเด่น ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพเยี่ยม ความปลอดภัยสูงมาก
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.64 สำนักข่าว ไทเป ไทมส์ รายงานว่า ไต้หวันได้ออกระบบติดตามโควิดแบบใหม่ ที่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศแทบในทันที หลังแถลงการณ์ โดยสามารถใช้งานได้ง่าย ผู้สูงอายุหรือโทรศัพท์แบบเก่าก็สามารถใช้ได้ มีประสิทธิภาพสูง และมีความเป็นส่วนตัวสูง จึงมีความปลอดภัยอย่างยิ่ง
ในวันที่ 20 พ.ค.64 ออร์เดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของไต้หวัน ร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งไต้หวัน ทั้ง 2 ระบบขนส่ง (TRA /HRA) ได้แถลงการณ์แนะนำ ระบบติดตามใหม่ เพื่อใช้ติดตามการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว
ออเดรย์ ถัง ได้เปิดเผยว่า ระบบการติดตามนี้ ได้แก้ปัญหาความยุ่งยากและมีความปลอดภัยสูง ทำให้ประชาชนมั่นใจในการใช้งาน โดยมีจุดเด่น ได้แก่ ไม่จำเป็นต้องโหลดแอพพลิเคชัน ไม่เสียค่าส่งข้อความทางโทรศัพท์ ใช้เวลา 5 วินาทีในการลงชื่อ มีความปลอดภัยสูง ไม่มีโฆษณาแอบแฝง หรือการส่งข้อมูลให้กับกลุ่มธุรกิจ มีการลบข้อมูลอัตโนมัติใน 28 วัน โทรศัพท์ทุกรุ่นสามารถใช้ได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาร์ทโฟน สามารถส่งรหัสเลขแทนได้ และระบบนี้สามารถใช้ได้ทั้งประเทศ เนื่องจากเป็นระบบเดียว
ทั้งนี้ทางผู้พัฒนาระบบดังกล่าว เปิดเผยว่า ใช้เวลาพัฒนาระบบใหม่นี้เพียง 3 วัน และ สถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น ร้านค้า สามารถดาวน์โหลด คิวอาร์ โค้ด ของสถานที่ของตนได้ที่เว็บไซต์ของรัฐได้ทันที ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.64 ที่ผ่านมา และประชาชนใช้เวลาลงทะเบียนเพียง 5 วินาที สะท้อนถึงประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของรัฐบาลไต้หวันอย่างยิ่ง จนสื่อต่าง ๆ ทั่วโลกต่างพากันชื่นชมถึงประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อประชาชนของรัฐบาลไต้หวัน
โดยก่อนหน้านี้ ออเดรย์ ถัง ได้รับเสียงตอบรับของประชาชน ที่วิจารณ์ว่าการลงชื่อเพื่อใช้ระบบติดตามนั้น มีความยุ่งยาก ต้องมีการสแกนก่อนเข้าร้านต่าง ๆ พร้อมพิมพ์ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง ผู้สูงวัยที่ไม่สะดวกในการใช้โทรศัพท์ ต้องใช้วิธีเขียน ซึ่งทำให้ร่างกายต้องสัมผัสกับปากกาที่ใช้ร่วมกับคนอื่น ๆ จึงเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19
จากการรับฟังเสียงของประชาชน ออเดรย์ ถึง จึงตัดสินใจคิดหาวิธีในการแก้ปัญหา และออกมาเป็นระบบใหม่ดังกล่าว ซึ่งประชาชนสามารถเลือกใช้วิธีการลงทะเบียนได้ทุกวิธี ไม่มีการบังคับ แล้วแต่ความสะดวก เช่น การสแกนคิวอาร์ โค้ด การพิมพ์ตัวเลข การลงทะเบียนด้วยบัตรโดยสาร เป็นต้น
ทั้งนี้ ออเดรย์ ถัง เป็นโปรแกรมเมอร์ซอฟต์แวร์อิสระชาวไต้หวัน เธอเป็นคนข้ามเพศคนแรกที่ได้รับแต่งการตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของไต้หวัน และ ยังเป็นรัฐมนตรีดิจิทัลที่อายุน้อยที่สุด
ห่วงทำเลวร้ายลงกว่าเดิม! ACT จี้นายกฯพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯอีกรอบ
https://www.isranews.org/article/isranews/98748-isranews-news-78.html
-------------------------------------------
ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศย้ำต่อสาธารณชนให้การต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งนโยบายนี้จะสำเร็จได้ จำต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อแก้ไข พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 แล้ว แต่มีเสียงคัดค้านจากสังคมว่าแนวทางที่รัฐบาลเสนอนั้นไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดกับแผนการปฏิรูปประเทศฯ และหลักสากล จนน่าเป็นห่วงว่าจะยิ่งทำให้ปัญหาความไม่โปร่งใสในภาครัฐกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นด้วยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ ตามข้อเรียกร้องจากองค์กรสื่อมวลชน นักวิชาการและภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษาจัดเตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมไว้แล้วโดย สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ แต่ทั้งหมดกลับไม่ถูกนำมาใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอเป็นตัวแทนสังคมเรียนเสนอความเห็นต่อท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้
1. ควรนำร่างกฎหมายที่จัดทำไว้โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมาใช้ หรือตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำร่างกฎหมายขึ้นใหม่โดยมีตัวแทนจากประชาชน สื่อมวลชน และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนที่สังคมยอมรับร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม
2. กฎหมายฉบับใหม่ต้องเคร่งครัดตามหลักการที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอของ สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ล้วนเห็นสอดคล้องกันแล้ว
ในตอนท้ายของจดหมายเปิดผนึกยังระบุด้วยว่า วันนี้การต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันและการแก้ไข พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ จะเป็นอย่างไร คงขึ้นอยู่กับความเข้าใจและความตั้งใจจริงของท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยหวังว่าจะเกิดสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศไทย
พิษโควิด! เกษตรกรฟักทอง ถูกยกเลิกออเดอร์ 120 ตัน จำใจขายกิโลละ 5 บาท
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6409174
พิษโควิด! เกษตรกรฟักทอง ถูกยกเลิกออเดอร์ 120 ตัน จำใจขายกิโลละ 5 บาท ซึ่งก็ยังขายไม่ค่อยออก โอดคงต้องปล่อยทิ้งไปเลย
20 พ.ค. 2564 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในตำบลนาโยงเหนือและตำบลนาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมแปลงปลูกฟักทอง ซึ่งทุกปีจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวนในราคากิโลกรัมละ 20-23 บาท ทำให้มีรายได้คนละไม่ต่ำกว่า 100,000-200,000 บาทต่อปี
แต่ปีนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้พ่อค้าแม่ค้ายกเลิกออเดอร์ทั้งหมดที่มีกว่า 120 ตัน ส่งผลให้ฟักทองล้นตลาด ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้มีน้ำท่วมขังแปลงปลูก บางรายจึงจำเป็นต้องปล่อยให้น้ำท่วมและเป็นอาหารของหนูตามท้องนา ขณะที่บางรายเก็บขายในราคาที่ต่ำกว่าทุน
โดยฟักทองที่มีน้ำหนักน้อยกว่าลูกละ 5 กิโลกรัมขายกิโลกรัมละ 2-3 บาท หากเกิน 5 กิโลกรัมขายกิโลกรัมละ 5 บาทหรือเหมาขายลูกละ 20 บาท แต่ก็ยังมีผลผลิตอีกกว่า 100 ตัน ที่ยังขายไม่ออก ทำให้เกษตรกรต้องผ่าขายเป็นชิ้น ๆ ละ 1 กิโลกรัมราคา 5 บาท ทำฟักทองเชื่อมขายบ้าง แจกและแถมไปบ้าง เพื่อให้สินค้าไม่กองอยู่เต็มบ้าน
นางหนูคล่อง สังข์ยวน อายุ 57 ปี กล่าวว่า ก่อนโควิดมีพ่อค้าสั่งให้เก็บฟักทองไว้ แต่ไม่ได้มาเอา ตอนนี้ยังขายไม่คุ้มทุนยังไม่ได้ถึงครึ่ง แต่ละปีจะได้ 2 ตันต่อไร่ ปีที่แล้วขายกิโลกรัมละ 20-23 บาท แต่ปีนี้ขาย 5 บาทขายบ้างแถมบ้าง แต่ถ้าไม่มีใครมาซื้อก็ทิ้งไปเลย