เครื่องดูดควัน เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องครัว แต่จะมีหลักในการเลือกอย่างไรเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองไปดูไอเดียการติดตั้งเครื่องดูดควันในแต่ละประเภทกันว่า ใช้งานแบบไหน รูปแบบห้องครัวมีผลต่อการเลือกเครื่องดูดควันอย่างไร ดังนั้นในการเลือกเครื่องดูดควันจึงไม่ใช่เพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่เรื่องฟังก์ชันการใช้งานก็ต้องมีครบด้วย  
มาดูกันว่าเคล็ดลับในการเลือกเครื่องดูดควัน 4 ประเภทมีอะไรบ้าง
1. เครื่องดูดควันแบบมาตรฐาน 
เหมาะสำหรับ ห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากไม่สามารถติดเครื่องดูดควันขนาดใหญ่ มีทั้งแบบต่อท่ออากาศออกด้านนอกและแบบหมุนเวียนอากาศภายใน
- ระบบท่อ (ducting) คือระบบที่บ้านส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะท่อจะติดตั้งกับเพดานเพื่อปล่อยควัน
ออกไปด้านนอกบ้าน โดยยิ่งท่อมีพลังดูดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้อากาศถ่ายเทออกไปภายนอกได้รวดเร็วเท่านั้น
- ระบบหมุนเวียน (recycle) จะเหมาะกับครัวเล็กในคอนโดหรืออพาร์ทเมนท์ โดยจะมีฟิลเตอร์
คาร์บอน ที่มีหน้าที่ในการดูดซับกลิ่น ควัน และสารเคมีจากการประกอบอาหาร และฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ก่อนปล่อยควันออกไป แล้วหมุนเวียนอากาศบริสุทธิ์เข้ามาภายในห้อง ระบบหมุนเวียนแบบนี้จะติดตั้งง่าย แต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์สม่ำเสมอ 

2. เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง (Chimney Hood)
 เหมาะกับห้องครัวที่มีพื้นที่ส่วนปรุงอยู่ติดผนัง มีประสิทธิภาพและแรงดูดเทียบเท่ากับเครื่องดูดควันกระโจมกลางห้องสร้างความสวยงามให้กับห้องครัวได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีวัสดุหลากหลายทั้งสเตนเลส เหล็กเคลือบสี และแบบกระจก เพียงเลือกให้ตรงกับการใช้งานและดีไซน์ที่เข้ากับชุดครัว

3. เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง (Island Hood)
 เป็น เครื่องดูดควัน ที่ถูกดีไซน์มาให้ใช้สำหรับ ครัวแบบ island ที่มีขนาดห้องกว้าง ลักษณะจะเหมือนกับฮูด Chimney ซึ่งเป็นแบบกระโจมเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่ดีไซน์ โดยแขวนมาจากเพดานห้องครัว ซึ่งจะมีความสวยงาม หรูหรา กว่าแบบกระโจมทั่วไป มีทั้งแบบติดผนังและกลางห้อง ประสิทธิภาพในการดูดควันสูงแล้ว ยังมีดีไซน์ให้เลือกหลายแบบสามารถเลือกเครื่องดูดควันที่มีคุณสมบัติตรงกับการใช้งาน รวมถึงเลือกดีไซน์ที่ชอบให้เหมาะกับชุดครัวได้ตามต้องการ

4. เครื่องดูดควันแบบ slim line (Slim Line)
 
ลักษณะจะเป็นแบบลิ้นชักสามารถเปิดปิดได้ ส่วนใหญ่จะเป็นระบบหมุนเวียนภายใน ซึ่งจะทำให้ประหยัดพื้นที่เหมาะสำหรับคอนโด,อพาร์ทเมนท์หรือครัวชุดเล็กในบ้าน นิยมติดตั้งไว้ใต้ตู้ลอยเหนือเตา ทั้งยังมีการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ เพียงเลื่อนแผงกันควันเครื่องก็จะทำงานทันที
 
เพื่อให้ประสิทธิภาพในการดูดควันนั้นเป็นไปสูงสุด ผู้ใช้ควรเลือกความเร็วของเครื่องดูดควันให้เหมาะสม โดยสามารถคำนวณได้จากพื้นที่ภายในครัว โดยคิดจาก ความยาว X ความกว้าง X ความสูง X 10 = ความเร็วต่ำสุดของเครื่องดูดควันที่ต้องการ แต่ถ้าหากครัวเป็นรูปแบบครัวเปิดหรือครัวที่มีเกาะกลาง (Island) อยู่ตรงกลาง ควรเลือกความเร็วที่เร็วมากขึ้น
สิ่งสำคัญอื่นใดนอกจากรูปแบบของเครื่องดูดควันแล้ว ควรเลือกเครื่องดูดควันที่มีกำลังดูดที่เหมาะสม  1,200ลบ.เมตร / ชม. เพื่อช่วยให้การเข้าครัวทำอาหารของคุณสุนทรียิ่งขึ้น