
เมื่อถามว่าโรงแรมที่หัวหินหลักร้อยแต่คุณภาพหลักพันมีจริงไหม? สำหรับผมแล้ว ibis ถือเป็นคำตอบของนักเดินทางทุกเพศทุกวัยและเป็นทางเลือกที่ดีเลิศ สำหรับผู้ที่มาเยือนหัวหิน ในราคาที่ทุกคนสัมผัสได้ ในรีวิวนี้ก็พักกันในเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ซึ่งประเทศไทยเองกำลังประสบกับภาวะวิกฤตเรื่องของโควิด19 ทำให้คนที่มาพักค่อนข้างจะบางตา (เงียบสุด ๆ ไปเลย)
เมื่อเราขับรถเข้ามาแล้วก็จะพบกับลานจอดรถขนาดใหญ่และยังเห็นป้ายที่เขียนว่ามีร้านจอดรถแห่งที่สองในฝั่งตรงข้าม ซึ่งสามารถรองรับแขกผู้เข้าพักได้จำนวนมาก

ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ราคาประหยัด ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สะดวกต่อการสัญจร แต่เมื่อพูดถึงทำเลที่ตั้งแล้วต้องถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียว เพราะเพียง 200 เมตร ก็สามารถเดินไปก็จะถึงชายหาดของหัวหินได้แล้ว เลยไปนิดเดียวเป็นตลาดชิเคด้าที่คึกคัก (ช่วงเวลาปกติ) ใกล้ห้าง Market Village และถ้าขับรถไปอีกไม่ไกลก็จะถึงเขาตะเกียบอันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของหัวหิน

เราเริ่มต้นด้วยการเช็คอิน พนักงานผู้หญิงน่ารักให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี รวมถึงมีมาตรการในการป้องกันการระบาดโควิดที่รัดกุมเป็นที่น่าพอใจ หลังจากเราได้รับคีย์การ์ดแล้ว เราเดินไปกดลิฟต์ ระหว่างนั้นแอบเห็นมีป้ายโฆษณาอาหารเช้า ราคาเพียง 150 บาท เท่านั้น (คือถ้าเราไม่พักก็สามารถเข้ามาทานได้ด้วย พนักงานยังบอกว่าถ้าเป็น Member ลดได้มากสุดถึง50%) แต่เราโชคดีห้องพักเรารวมอาหารเช้าแล้ว

เมื่อขึ้นลิฟต์มาจะได้เห็นว่าโรงแรมนี้มีห้องไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทั้งตึกคงมีหลักร้อยห้อง ห้องที่เราพักเป็นแบบเริ่มต้น มีขนาดกระทัดรัด 21 ตารางเมตร แต่ได้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้จะเล็กก็สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งแอลซีดีทีวี ระเบียง ตู้เสื้อผ้า มีมุมนั่งเล่นเล็กๆ พร้อมกับชุดชงชากาแฟ ที่นอนบอกเลยว่าดีเกินคาด ไม่ยุบไม่ยวบ ไม่แข็งไปนุ่มกำลังดี โรงแรมก็มีให้เลือกทั้งห้องที่เป็นแบบเตรียมเดี่ยวและเตียงคู่ด้วย

สำหรับห้องน้ำก็มี สบู่ แชมพูแบบ All in one หมวกคลุมผม และไดร์เป่าผมมให้ น้ำอุ่น สุขภัณฑ์สะอาดสะอ้านไม่มีปัญหา
ห้องน้ำไม่ใหญ่ แต่ก็มีความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ เช่น มีการเดินหินอ่อนรอบๆกระเบื้อง ตกแต่งด้วยไฟและกระเบื้องโมเสกน่ารักๆ
บริการอื่นๆของโรงแรม ก็จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่เพิ่งปรับปรุงใหม่มีความสะอาดและทันสมัย รวมถึงห้องอาหารนานาชาติ ราคาไม่ต่างจากร้านทั่วไป ซึ่งก็ถือว่าครบวงจร
นอกจากนี้โรงแรมจะมีบริการเครื่องดื่มฟรีสำหรับสมาชิกอีกด้วย (แอบได้มา2แก้ว)

เช้าวันต่อมา ตื่นสาย ๆ ลงไปรับประทานอาหารเช้าที่ทางโรงแรม เปิดตั้งแต่ เวลา 06.00-11.00น.ปกติแล้วจะบริการอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่แต่ว่าสถานการณ์โควิดในตอนนี้ จึงให้เราเลือกรายการอาหารและพนักงานนำอาหารมาบริการถึงที่โต๊ะ ไม่ว่าจะทานแบบฝรั่ง ก็จะมีไข่ ไส้กรอก ส่วนแบบไทยก็จะมีอาหารยอดนิยมอย่างกระเพรา ไข่ดาว หากใครชอบสไตล์จีน ก็จะมีข้าวต้มที่ให้เราเลือกได้ไม่ว่าจะเป็นไก่หรือหมูตามแต่ใจชอบ (ส่วนตัวแอบชอบมากกว่าแบบตัก)
ตอนที่ไปทั้งห้องอาหารมีเราโต๊ะเดียว 555 รออาหารไม่นาน ประมาณ 10 นาที โรงแรมก็แสนใจดีให้เราทานได้ไม่อั้น เพิ่มได้ตลอดจนกว่าจะอิ่ม เราจึงทานต่อไม่รอละนะ ควบสองมื้อเลยทีเดียวทั้งมื้อสายควบมื้อถึงเที่ยง ชนิดที่เรียกว่าอิ่มยาวๆ
จากนั้นก็ลองใช้เวลาที่เหลือมากางแผนที่กันดูว่าบริเวณรอบๆ นั้นใกล้แหล่งที่ท่องเที่ยวได้บ้าง ก็มีทั้งเขาตะเกียบมีทั้งแหล่ง Shopping ต่างๆ รวมถึงตลาดโตรุ่งของหัวหินก็ไม่ได้ไกลจากที่ตั้งของโรงแรมขับรถก็ไม่เกิน 15 นาที เราจึงใช้เวลาของเย็นวันนี้ ในการสำรวจหัวหินในช่วงโควิด ว่าจะเงียบเหงาเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆหรือไม่ ซึ่งก็ไม่เกินคาดครับปรากฏว่าเงียบมากเลยทีเดียวชนิด กริ๊บ...
ดังนั้นสำหรับผมแล้วจึงคิดว่าโรงแรมหลักร้อยอย่าง ibis ถือว่าคุ้ม เพราะสิ่งที่เขาให้นั้นคุณภาพคับแก้วจริงๆ ในครั้งต่อไปคอยติดตาม “นอนให้ฟิน กินให้โปร” ไปไหนจะคอยมา Update สถานการณ์ล่าสุดของแต่ละโรงแรมกันนะครับ
[CR] [CR] รีวิว โรงแรม ibis หัวหิน Update ปี2021 ราคาหลักร้อย คุณภาพเกินคุ้ม
เมื่อถามว่าโรงแรมที่หัวหินหลักร้อยแต่คุณภาพหลักพันมีจริงไหม? สำหรับผมแล้ว ibis ถือเป็นคำตอบของนักเดินทางทุกเพศทุกวัยและเป็นทางเลือกที่ดีเลิศ สำหรับผู้ที่มาเยือนหัวหิน ในราคาที่ทุกคนสัมผัสได้ ในรีวิวนี้ก็พักกันในเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ซึ่งประเทศไทยเองกำลังประสบกับภาวะวิกฤตเรื่องของโควิด19 ทำให้คนที่มาพักค่อนข้างจะบางตา (เงียบสุด ๆ ไปเลย)
เมื่อเราขับรถเข้ามาแล้วก็จะพบกับลานจอดรถขนาดใหญ่และยังเห็นป้ายที่เขียนว่ามีร้านจอดรถแห่งที่สองในฝั่งตรงข้าม ซึ่งสามารถรองรับแขกผู้เข้าพักได้จำนวนมาก
ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ราคาประหยัด ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สะดวกต่อการสัญจร แต่เมื่อพูดถึงทำเลที่ตั้งแล้วต้องถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียว เพราะเพียง 200 เมตร ก็สามารถเดินไปก็จะถึงชายหาดของหัวหินได้แล้ว เลยไปนิดเดียวเป็นตลาดชิเคด้าที่คึกคัก (ช่วงเวลาปกติ) ใกล้ห้าง Market Village และถ้าขับรถไปอีกไม่ไกลก็จะถึงเขาตะเกียบอันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของหัวหิน
เราเริ่มต้นด้วยการเช็คอิน พนักงานผู้หญิงน่ารักให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี รวมถึงมีมาตรการในการป้องกันการระบาดโควิดที่รัดกุมเป็นที่น่าพอใจ หลังจากเราได้รับคีย์การ์ดแล้ว เราเดินไปกดลิฟต์ ระหว่างนั้นแอบเห็นมีป้ายโฆษณาอาหารเช้า ราคาเพียง 150 บาท เท่านั้น (คือถ้าเราไม่พักก็สามารถเข้ามาทานได้ด้วย พนักงานยังบอกว่าถ้าเป็น Member ลดได้มากสุดถึง50%) แต่เราโชคดีห้องพักเรารวมอาหารเช้าแล้ว
เมื่อขึ้นลิฟต์มาจะได้เห็นว่าโรงแรมนี้มีห้องไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทั้งตึกคงมีหลักร้อยห้อง ห้องที่เราพักเป็นแบบเริ่มต้น มีขนาดกระทัดรัด 21 ตารางเมตร แต่ได้จัดสรรพื้นที่ใช้สอยได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้จะเล็กก็สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งแอลซีดีทีวี ระเบียง ตู้เสื้อผ้า มีมุมนั่งเล่นเล็กๆ พร้อมกับชุดชงชากาแฟ ที่นอนบอกเลยว่าดีเกินคาด ไม่ยุบไม่ยวบ ไม่แข็งไปนุ่มกำลังดี โรงแรมก็มีให้เลือกทั้งห้องที่เป็นแบบเตรียมเดี่ยวและเตียงคู่ด้วย
สำหรับห้องน้ำก็มี สบู่ แชมพูแบบ All in one หมวกคลุมผม และไดร์เป่าผมมให้ น้ำอุ่น สุขภัณฑ์สะอาดสะอ้านไม่มีปัญหา
ห้องน้ำไม่ใหญ่ แต่ก็มีความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ เช่น มีการเดินหินอ่อนรอบๆกระเบื้อง ตกแต่งด้วยไฟและกระเบื้องโมเสกน่ารักๆ
บริการอื่นๆของโรงแรม ก็จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่เพิ่งปรับปรุงใหม่มีความสะอาดและทันสมัย รวมถึงห้องอาหารนานาชาติ ราคาไม่ต่างจากร้านทั่วไป ซึ่งก็ถือว่าครบวงจร
นอกจากนี้โรงแรมจะมีบริการเครื่องดื่มฟรีสำหรับสมาชิกอีกด้วย (แอบได้มา2แก้ว)
เช้าวันต่อมา ตื่นสาย ๆ ลงไปรับประทานอาหารเช้าที่ทางโรงแรม เปิดตั้งแต่ เวลา 06.00-11.00น.ปกติแล้วจะบริการอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่แต่ว่าสถานการณ์โควิดในตอนนี้ จึงให้เราเลือกรายการอาหารและพนักงานนำอาหารมาบริการถึงที่โต๊ะ ไม่ว่าจะทานแบบฝรั่ง ก็จะมีไข่ ไส้กรอก ส่วนแบบไทยก็จะมีอาหารยอดนิยมอย่างกระเพรา ไข่ดาว หากใครชอบสไตล์จีน ก็จะมีข้าวต้มที่ให้เราเลือกได้ไม่ว่าจะเป็นไก่หรือหมูตามแต่ใจชอบ (ส่วนตัวแอบชอบมากกว่าแบบตัก)
ตอนที่ไปทั้งห้องอาหารมีเราโต๊ะเดียว 555 รออาหารไม่นาน ประมาณ 10 นาที โรงแรมก็แสนใจดีให้เราทานได้ไม่อั้น เพิ่มได้ตลอดจนกว่าจะอิ่ม เราจึงทานต่อไม่รอละนะ ควบสองมื้อเลยทีเดียวทั้งมื้อสายควบมื้อถึงเที่ยง ชนิดที่เรียกว่าอิ่มยาวๆ
จากนั้นก็ลองใช้เวลาที่เหลือมากางแผนที่กันดูว่าบริเวณรอบๆ นั้นใกล้แหล่งที่ท่องเที่ยวได้บ้าง ก็มีทั้งเขาตะเกียบมีทั้งแหล่ง Shopping ต่างๆ รวมถึงตลาดโตรุ่งของหัวหินก็ไม่ได้ไกลจากที่ตั้งของโรงแรมขับรถก็ไม่เกิน 15 นาที เราจึงใช้เวลาของเย็นวันนี้ ในการสำรวจหัวหินในช่วงโควิด ว่าจะเงียบเหงาเหมือนกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆหรือไม่ ซึ่งก็ไม่เกินคาดครับปรากฏว่าเงียบมากเลยทีเดียวชนิด กริ๊บ...
ดังนั้นสำหรับผมแล้วจึงคิดว่าโรงแรมหลักร้อยอย่าง ibis ถือว่าคุ้ม เพราะสิ่งที่เขาให้นั้นคุณภาพคับแก้วจริงๆ ในครั้งต่อไปคอยติดตาม “นอนให้ฟิน กินให้โปร” ไปไหนจะคอยมา Update สถานการณ์ล่าสุดของแต่ละโรงแรมกันนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น