เอาเรื่องเบรคก่อนนะ
- สัปดาห์ที่แล้ว ล้าง CR-V เรียบร้อย ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนสงกรานต์ รู้สึกรถจะกินน้ำมันมากไปนิด แล้วก็ เบรคหนักๆมีดึงขวา ก็เลยเอาแม่แรงท้ายรถนี่แหละ ยกรถเล่น เพื่อหมุนล้อดู ปรากฎว่า เจอล้อหลังขวา มันฝืด มีเสียงผ้าเบรคสีกัน
แน่นอนว่า ไม่ใช่ผ้าเบรคชุดหลักติดแน่นอน เพราะ ล้างรถไม่มีฝุ่นจากเบรคมากผิดปกติไปกว่าล้ออื่น ดังนั้น ก็เหลือตัวการเดียวคือ ชุดเบรคมือ ตั้งผ้าดรัมชิดเกินไป (ระบบมันเป็นชุดดรัมสำหรับเบรคมือ ซ่อนในชุดดิสค์อีกที)
- ว่าแล้ว ก็ขับรถไปร้านแถวบ้านนี่แหละ สั่งเค้าให้ตั้งเบรคมือเฉพาะหลังขวาใหม่ ให้ลื่นเท่าซ้าย โดยไม่ต้องยุ่งกับซ้าย (เดี๋ยวล้อเป็นรอย) ซึ่งก็แป้บเดียวเสร็จ คิดตังค์ 100 เดียว ขับออกมาก็ปกติละ ลื่นกว่าเดิม
ไหนๆก็ไหนๆละ เอา city ไปเปลี่ยนผ้าเบรคดีกว่า เพราะไม่รู้ว่า จะได้เข้า กทม เมื่อไหร่ (ผ้าเบรค สั่งมาตั้งแต่ก่อนได้รถอีก)
ใส่ผ้าเบรค
- Dixcel เหมือนเดิมครับ แต่เป็นตัวถูกสุด Premium ซึ่งคิดว่า น่าจะเพียงพอ กับ ลักษณะการใช้งานของคันนี้ ที่ไม่น่าจะไปซ่าส์ ไปซัดกับใครเค้าได้ (เพราะช่วงล่างย้วยเหลือเกิน)
ล้อหน้าซ้าย .. ผมก็เห็นเค้าใส่ปกตินะ ไม่ติดอะไร แต่ตอนดันลูกสูบกลับ แทนที่จะใช้ C-Clamp ดันเข้า พวกก็เล่น ประแจคอม้า เลย .. แต่ก็ไม่มีอะไร
ล้อหน้าขวา .. ใส่ผ้าเบรคตัวในไม่เข้าครับ เห็นยัดกันตั้งนาน แล้วก็เอาตะไบ มานั่งตะไบออก บอกว่า สีพ่นมาหนา
ไล่น้ำมันเบรค
- หิ้ว ATE TYP 200 ไปให้เค้าจัดการครับ ตอนที่เอา CRV ไปทำ ก็ถาม พูดหลักการดีเลิศ (เลยหลงเอา City มาไง)
วิธีการ ..
- เปิดน้อตไล่ลม แล้วให้คนในรถปั๊มแป้นไป .. เชื่อป่ะ ทีแรก พวกไม่สตาร์ทเครื่องด้วย จนผมเดินไปถาม ช่างในรถบอกว่า ไม่ต้อง เลยหันไปถามช่างที่ไล่ลมว่า "ไม่ต้องสตาร์ทเครื่องเหรอ" พวกถึงตะโกนด่าช่างในรถ ให้สตาร์ท
- เห็นไล่ผิดวิธี แถมเปลืองน้ำมันเบรคผมด้วย ก็เลยเดินไปบอกว่า
ผม : ช่าง ไล่ แบบนี้มันไม่ถูกไม่ใช่เหรอ ลมมันเข้านะ
ช่าง : (ขึ้นเสียง อารมณ์เสียใส่ผม) ผมเป็นช่างมา 25 ปี ไม่เคยมีปัญหา จบนะ !!!
ผม : ไม่เป็นไร ก็เดี๋ยวก็ลองดู ละกัน
- ไล่จบ ผมเดินขึ้นรถ สตาร์ทเครื่อง กดแป้นเบรค จมมิดครับ ไม่มีแรงต้านเลย ... เรียกช่างมาดู เงียบกริบ !!! เลยบอกให้ไล่ใหม่ วิธีปกติ แต่น้ำมัน มันหมดไป 1 กระป๋องละ เหลือเศษๆอีก 1/4 กระป๋อง ที่ผมหยิบมาเผื่อด้วย พวกก็ไล่แบบเสียไม่ได้ ล้อละ 2 ที
ผลก็ตามนั้น
- ตอนนั้นคิดในใจ เอาให้รถมันพอวิ่งได้ละกัน สุดท้าย ตรูก็ต้องไปหา พี่เสว (กิจเจริญชัย) อยู่ดีแหละ .. ขับออกมา อาการมันแปลกๆ
น้ำหนักแป้น
- มันกดลึก ลองขับที่ 100 แล้วกระทืบเบรคอยู่ 2 - 3 รอบ พวงมาลัยหักซ้ายทันที .. โอเค จบ มีลมที่เบรคหน้าขวาแน่นอน (อาการเหมือน pulsar ที่เจอฝีมือการไล่ ของ ร้านเบรคดังย่านพระโขนง)
ฟิลลิ่ง
- เหมือนเบรคมันไม่จาก คือ พอกดเบรค แล้วเรายกเบรค เหมือนเบรคยังจับอยู่ แถมกลับถึงบ้าน ได้กลิ่นไหม้โชยอีก .. เฮ้ยย ไม่ใช่ละ ผมใช้ dixcel มาเยอะมาก ถึงจะต่างรุ่น แต่มันจะมีนิสัยประจำยี่ห้ออยู่ ไม่ใช่แบบนี้แน่ รวมกับ ขึ้นลูกระนาด ล้อหน้าขวา มีเสียงดังอีก
......................
ตอนนั้น คิดว่า พวกคงประกอบผ้าเบรคไม่ดี กับ มีลมในระบบแน่นอน เดี๋ยวให้พี่เสว ไล่ใหม่ก็น่าจะจบ

ไปถึงแต่เช้า 7.30 น.ครับ ขึ้นไปจอด นอนรอ อยู่บนฟุตบาทแหละ พอใกล้ 8 โมง ก็ได้เข้าร้านละ สั่งช่าง เช็คเบรค ถอดผ้าเบรคดูหน่อย มีเสียงดัง กับ ไล่น้ำมันเบรค ATE TYP200 ใหม่
สักพัก เห็นช่างตั้งดรัมเบรคหลัง
ผม : อ้าว เบรคหลังผมเป็นไรครับ มาตั้งทำไม ?
ช่าง : เค้าตั้งมาไม่เท่ากันครับ เลยปรับให้เท่ากัน ?????
เบรคหลังไม่ได้แตะต้องเลยนะ เพ่ HONDA !!!!
สักพัก ช่างถอดคาลิปเปอร์เบรคหน้า
และช่างก็เรียกผมไปดู นี่คือ สิ่งที่เห็น

ลูกยางกันฝุ่นเบรคหน้าซ้ายขาด !!! แถมเศษ ตกอยู่ในลูกสูบด้วย !!!
แว้บแรก ... นึกด่า HONDA ก่อนละ
แต่ .. ช่างบอกว่า ไม่ใช่ครับ น่าจะเกิดจาก เปลี่ยนผ้าเบรค แล้วดันลูกสูบกลับไม่หมด หรือ ดันผิดวิธี ยางกันฝุ่นปลิ้น แล้วก็งับคาลิปเปอร์ลง !!!!
ยืนมึน เอาไงดีฟะ อะไหล่แท้ไม่มี พี่เสว เสนอว่า เปลี่ยนแต่ยางกันฝุ่นหน้าซ้ายตัวเดียวก็พอ ใช้งานได้ .. ครับ ก็ต้องตามนั้น เห็น made in japan จับดูงานก็ใช้ได้ น่าจะโอเคแหละ
ลองรถ
- ทำเสร็จเอารถไปลอง พร้อมเอา Handheld ไปดูค่าต่างๆของรถด้วย (คันนี้ยังไม่ได้ติด เพราะเกจ์ที่อ่าน temp เกียร์ได้แม่นแบบไม่มั่ว ตัวนึงร่วม 5 พันแน่ะ)
Engein Coolant Temp : 103 - 110 C .. ถ้ารถติดไฟแดงนานหน่อย ก็มี 110 ล่ะครับ (วันที่ลอง ฝนตกด้วยนะ)
CVT Temp : 99 - 105 C
สูงเอาเรื่องเลยแฮะ .. ไว้ปลายเดือน ค่อยหาเรื่องติด Oil Cooler ให้เกียร์สักหน่อย
กลับมาที่เบรค
- เหมือนปกติ นิสัยของ Dixcel ละ เหมือน CR-V / Pulsar ละ แต่ City เบรคจะตื้นกว่า ไวกว่าครับ ขับ City มาทั้งวัน วันนี้ขับ Pulsar / CR-V อ้าวว เบรคตรูลึกจังฟะ
ความเร็วต่ำ
- การตอบสนอง จะไวน้อยกว่าของติดรถ คือ ของติดรถ สะกิดปุ๊บ หัวทิ่ม ผงกหัวทันที แต่เจ้านี่ จะตอบสนองช้าหน่อย กดแล้วหัวแทบไม่ทิ่ม พอผ้าเริ่มจับ มันจะจับแบบต่อเนื่อง จะหนัก จะเบา จะย้ำ ตามเท้าเราสั่งเลย นี่คือ นิสัยของผ้าเบรคยี่ห้อนี้ครับ แต่บอกก่อนว่า มันไม่ดูดเท้าแบบพวก EBC รุ่นบนๆ หรือ Danblock นะ
- ที่ความเร็วสูง ถ้าผ้าเบรคเดิม เบรคไปเถอะ ด้วยแรงที่คิดว่า น่าจะอยู่ แต่ ไม่อยู่ครับ ไหลยาวๆ ให้เหวอเล่น แถมคุมน้ำหนักไม่ได้ ผมชอบเรียกว่า ผ้าเบรค ON/OFF คือ ทำเป็นแค่ จับ กับ ไม่จับ ครับ
- ส่วน Dixcel ไร้ปัญหา ที่ความเร็วสูงก็ยังจับดี หน่วงดี คุมได้ตามเท้า แถมด้วยดรัมหลังที่ปรับตั้งอย่างถูกต้อง ทำให้มีแรงดึงจากท้ายมาช่วยด้วย ครับ
.................
ก็คิดว่า เหลือเฟือ กับ การใช้งานทั่วไป อาจจะมีออก ตจว บ้าง แต่คงไม่ซัด หรือ สาดแบบ Pulsar หรือ CR-V แน่ครับ
* * * วิบากกรรม กับ ร้านเบรคที่ นิคม 304 และ อัพเกรดเครื่องเสียงให้ City HB นิดนึง * * *
- สัปดาห์ที่แล้ว ล้าง CR-V เรียบร้อย ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนสงกรานต์ รู้สึกรถจะกินน้ำมันมากไปนิด แล้วก็ เบรคหนักๆมีดึงขวา ก็เลยเอาแม่แรงท้ายรถนี่แหละ ยกรถเล่น เพื่อหมุนล้อดู ปรากฎว่า เจอล้อหลังขวา มันฝืด มีเสียงผ้าเบรคสีกัน
แน่นอนว่า ไม่ใช่ผ้าเบรคชุดหลักติดแน่นอน เพราะ ล้างรถไม่มีฝุ่นจากเบรคมากผิดปกติไปกว่าล้ออื่น ดังนั้น ก็เหลือตัวการเดียวคือ ชุดเบรคมือ ตั้งผ้าดรัมชิดเกินไป (ระบบมันเป็นชุดดรัมสำหรับเบรคมือ ซ่อนในชุดดิสค์อีกที)
- ว่าแล้ว ก็ขับรถไปร้านแถวบ้านนี่แหละ สั่งเค้าให้ตั้งเบรคมือเฉพาะหลังขวาใหม่ ให้ลื่นเท่าซ้าย โดยไม่ต้องยุ่งกับซ้าย (เดี๋ยวล้อเป็นรอย) ซึ่งก็แป้บเดียวเสร็จ คิดตังค์ 100 เดียว ขับออกมาก็ปกติละ ลื่นกว่าเดิม
ไหนๆก็ไหนๆละ เอา city ไปเปลี่ยนผ้าเบรคดีกว่า เพราะไม่รู้ว่า จะได้เข้า กทม เมื่อไหร่ (ผ้าเบรค สั่งมาตั้งแต่ก่อนได้รถอีก)
ใส่ผ้าเบรค
- Dixcel เหมือนเดิมครับ แต่เป็นตัวถูกสุด Premium ซึ่งคิดว่า น่าจะเพียงพอ กับ ลักษณะการใช้งานของคันนี้ ที่ไม่น่าจะไปซ่าส์ ไปซัดกับใครเค้าได้ (เพราะช่วงล่างย้วยเหลือเกิน)
ล้อหน้าซ้าย .. ผมก็เห็นเค้าใส่ปกตินะ ไม่ติดอะไร แต่ตอนดันลูกสูบกลับ แทนที่จะใช้ C-Clamp ดันเข้า พวกก็เล่น ประแจคอม้า เลย .. แต่ก็ไม่มีอะไร
ล้อหน้าขวา .. ใส่ผ้าเบรคตัวในไม่เข้าครับ เห็นยัดกันตั้งนาน แล้วก็เอาตะไบ มานั่งตะไบออก บอกว่า สีพ่นมาหนา
ไล่น้ำมันเบรค
- หิ้ว ATE TYP 200 ไปให้เค้าจัดการครับ ตอนที่เอา CRV ไปทำ ก็ถาม พูดหลักการดีเลิศ (เลยหลงเอา City มาไง)
วิธีการ ..
- เปิดน้อตไล่ลม แล้วให้คนในรถปั๊มแป้นไป .. เชื่อป่ะ ทีแรก พวกไม่สตาร์ทเครื่องด้วย จนผมเดินไปถาม ช่างในรถบอกว่า ไม่ต้อง เลยหันไปถามช่างที่ไล่ลมว่า "ไม่ต้องสตาร์ทเครื่องเหรอ" พวกถึงตะโกนด่าช่างในรถ ให้สตาร์ท
- เห็นไล่ผิดวิธี แถมเปลืองน้ำมันเบรคผมด้วย ก็เลยเดินไปบอกว่า
ผม : ช่าง ไล่ แบบนี้มันไม่ถูกไม่ใช่เหรอ ลมมันเข้านะ
ช่าง : (ขึ้นเสียง อารมณ์เสียใส่ผม) ผมเป็นช่างมา 25 ปี ไม่เคยมีปัญหา จบนะ !!!
ผม : ไม่เป็นไร ก็เดี๋ยวก็ลองดู ละกัน
- ไล่จบ ผมเดินขึ้นรถ สตาร์ทเครื่อง กดแป้นเบรค จมมิดครับ ไม่มีแรงต้านเลย ... เรียกช่างมาดู เงียบกริบ !!! เลยบอกให้ไล่ใหม่ วิธีปกติ แต่น้ำมัน มันหมดไป 1 กระป๋องละ เหลือเศษๆอีก 1/4 กระป๋อง ที่ผมหยิบมาเผื่อด้วย พวกก็ไล่แบบเสียไม่ได้ ล้อละ 2 ที
ผลก็ตามนั้น
- ตอนนั้นคิดในใจ เอาให้รถมันพอวิ่งได้ละกัน สุดท้าย ตรูก็ต้องไปหา พี่เสว (กิจเจริญชัย) อยู่ดีแหละ .. ขับออกมา อาการมันแปลกๆ
น้ำหนักแป้น
- มันกดลึก ลองขับที่ 100 แล้วกระทืบเบรคอยู่ 2 - 3 รอบ พวงมาลัยหักซ้ายทันที .. โอเค จบ มีลมที่เบรคหน้าขวาแน่นอน (อาการเหมือน pulsar ที่เจอฝีมือการไล่ ของ ร้านเบรคดังย่านพระโขนง)
ฟิลลิ่ง
- เหมือนเบรคมันไม่จาก คือ พอกดเบรค แล้วเรายกเบรค เหมือนเบรคยังจับอยู่ แถมกลับถึงบ้าน ได้กลิ่นไหม้โชยอีก .. เฮ้ยย ไม่ใช่ละ ผมใช้ dixcel มาเยอะมาก ถึงจะต่างรุ่น แต่มันจะมีนิสัยประจำยี่ห้ออยู่ ไม่ใช่แบบนี้แน่ รวมกับ ขึ้นลูกระนาด ล้อหน้าขวา มีเสียงดังอีก
......................
ตอนนั้น คิดว่า พวกคงประกอบผ้าเบรคไม่ดี กับ มีลมในระบบแน่นอน เดี๋ยวให้พี่เสว ไล่ใหม่ก็น่าจะจบ
ไปถึงแต่เช้า 7.30 น.ครับ ขึ้นไปจอด นอนรอ อยู่บนฟุตบาทแหละ พอใกล้ 8 โมง ก็ได้เข้าร้านละ สั่งช่าง เช็คเบรค ถอดผ้าเบรคดูหน่อย มีเสียงดัง กับ ไล่น้ำมันเบรค ATE TYP200 ใหม่
สักพัก เห็นช่างตั้งดรัมเบรคหลัง
ผม : อ้าว เบรคหลังผมเป็นไรครับ มาตั้งทำไม ?
ช่าง : เค้าตั้งมาไม่เท่ากันครับ เลยปรับให้เท่ากัน ?????
เบรคหลังไม่ได้แตะต้องเลยนะ เพ่ HONDA !!!!
สักพัก ช่างถอดคาลิปเปอร์เบรคหน้า
และช่างก็เรียกผมไปดู นี่คือ สิ่งที่เห็น
ลูกยางกันฝุ่นเบรคหน้าซ้ายขาด !!! แถมเศษ ตกอยู่ในลูกสูบด้วย !!!
แว้บแรก ... นึกด่า HONDA ก่อนละ
แต่ .. ช่างบอกว่า ไม่ใช่ครับ น่าจะเกิดจาก เปลี่ยนผ้าเบรค แล้วดันลูกสูบกลับไม่หมด หรือ ดันผิดวิธี ยางกันฝุ่นปลิ้น แล้วก็งับคาลิปเปอร์ลง !!!!
ยืนมึน เอาไงดีฟะ อะไหล่แท้ไม่มี พี่เสว เสนอว่า เปลี่ยนแต่ยางกันฝุ่นหน้าซ้ายตัวเดียวก็พอ ใช้งานได้ .. ครับ ก็ต้องตามนั้น เห็น made in japan จับดูงานก็ใช้ได้ น่าจะโอเคแหละ
ลองรถ
- ทำเสร็จเอารถไปลอง พร้อมเอา Handheld ไปดูค่าต่างๆของรถด้วย (คันนี้ยังไม่ได้ติด เพราะเกจ์ที่อ่าน temp เกียร์ได้แม่นแบบไม่มั่ว ตัวนึงร่วม 5 พันแน่ะ)
Engein Coolant Temp : 103 - 110 C .. ถ้ารถติดไฟแดงนานหน่อย ก็มี 110 ล่ะครับ (วันที่ลอง ฝนตกด้วยนะ)
CVT Temp : 99 - 105 C
สูงเอาเรื่องเลยแฮะ .. ไว้ปลายเดือน ค่อยหาเรื่องติด Oil Cooler ให้เกียร์สักหน่อย
กลับมาที่เบรค
- เหมือนปกติ นิสัยของ Dixcel ละ เหมือน CR-V / Pulsar ละ แต่ City เบรคจะตื้นกว่า ไวกว่าครับ ขับ City มาทั้งวัน วันนี้ขับ Pulsar / CR-V อ้าวว เบรคตรูลึกจังฟะ
ความเร็วต่ำ
- การตอบสนอง จะไวน้อยกว่าของติดรถ คือ ของติดรถ สะกิดปุ๊บ หัวทิ่ม ผงกหัวทันที แต่เจ้านี่ จะตอบสนองช้าหน่อย กดแล้วหัวแทบไม่ทิ่ม พอผ้าเริ่มจับ มันจะจับแบบต่อเนื่อง จะหนัก จะเบา จะย้ำ ตามเท้าเราสั่งเลย นี่คือ นิสัยของผ้าเบรคยี่ห้อนี้ครับ แต่บอกก่อนว่า มันไม่ดูดเท้าแบบพวก EBC รุ่นบนๆ หรือ Danblock นะ
- ที่ความเร็วสูง ถ้าผ้าเบรคเดิม เบรคไปเถอะ ด้วยแรงที่คิดว่า น่าจะอยู่ แต่ ไม่อยู่ครับ ไหลยาวๆ ให้เหวอเล่น แถมคุมน้ำหนักไม่ได้ ผมชอบเรียกว่า ผ้าเบรค ON/OFF คือ ทำเป็นแค่ จับ กับ ไม่จับ ครับ
- ส่วน Dixcel ไร้ปัญหา ที่ความเร็วสูงก็ยังจับดี หน่วงดี คุมได้ตามเท้า แถมด้วยดรัมหลังที่ปรับตั้งอย่างถูกต้อง ทำให้มีแรงดึงจากท้ายมาช่วยด้วย ครับ
.................
ก็คิดว่า เหลือเฟือ กับ การใช้งานทั่วไป อาจจะมีออก ตจว บ้าง แต่คงไม่ซัด หรือ สาดแบบ Pulsar หรือ CR-V แน่ครับ