สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
ต้องล็อกอินเข้ามาตอบเลยค่ะ เราไม่เคยตอบกระทู้ไหนเลย 😂
เราอยากมาแชร์จากในแง่มุมของเรานะคะ ที่บ้านเราขัดสนเรื่องเงินมาตลอดค่ะ แต่ไม่ได้ลำบากถึงขั้นไม่มีอะไรจะกิน แต่ก็ไม่ใช่ชนชั้นกลาง พ่อแม่เราค้าขายแบบหาเช้ากินค่ำค่ะ
เรากับน้องได้ยินคำว่าไม่มีเงินมาตลอดทั้งชีวิตค่ะ เด็กๆเราไม่ได้รู้สึกอะไรมากค่ะ เพราะว่ายังเด็กไม่ต้องใช้เงินอยู่แล้ว พอเริ่มโตก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ เริ่มเห็นว่าเราต่างจากเพื่อนคนอื่น เช่น เพื่อนไปเรียนพิเศษกัน เราไม่ได้เรียน เราต้องขอทุนเรียนเพื่อจ่ายค่าเทอม (สำหรับวัยเด็กเป็นเรื่องที่น่าอายมากค่ะ กลัวเพื่อนๆไม่ยอมรับถ้ารู้ว่าเราจน) เกือบจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยเพราะแม่ไม่มีเงินส่งเรียนค่ะ ฯลฯ
เรารู้สึกว่ามันมีผลกระทบสองด้านค่ะ ด้านดีคือเรารู้ว่าที่บ้านไม่มีเงิน ไม่มีอะไรทิ้งไว้ให้ เราต้องพยายามทุกๆทางเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ห่างเหินกับที่บ้านมากๆค่ะ คิดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองด้วย เพราะที่บ้านเราเค้าไม่ได้อธิบายให้เข้าใจตั้งแต่เด็กๆค่ะ ส่วนมากเค้าจะพูดด้วยความโมโห ความหงุดหงิดค่ะ อารมณ์แบบอย่ามาเซ้าซี้ได้มั้ย รู้บ้างรึเปล่าว่าแม่ลำบากแค่ไหน ที่บ้านไม่มีเงินนะจะเรียกร้องเอาอะไรนัก ทำนองนี้ค่ะ
โตขึ้นเราถึงได้มาเข้าใจว่าตัวเองสะสมความเก็บกดเอาไว้ตั้งแต่เด็กค่ะ และคำว่าไม่มีเงินนี่มันติดตัวเรามากค่ะ 😂😂 คือถึงตอนนี้เราทำงานหาเงินเองแล้วก็ยังรู้สึกว่าเราจนอยู่ดีค่ะ เหมือนเป็นปมในใจไปเลย ตอนนี้ก็กำลังแก้ไขอยู่ค่ะ อีกเรื่องนึงที่รู้สึกเสียดายคือ เราปิดโอกาสอนาคตตัวเองไปเยอะเลยค่ะ เพราะคำว่าที่บ้านไม่มีเงิน ตอนเด็กเราไม่มีความฝันอยากจะไปเมืองนอกเลย ไม่เคยคิดจะลองสอบชิงทุนเพราะรู้ว่าต่อให้ได้ทุน เราก็ไม่ได้ไปอยู่ดีค่ะ ตอนนี้แอบเสียดายหน่อยๆค่ะ ว่าน่าจะลองดูสักนิด เผื่อมีโอกาสบ้าง
ส่วนน้องสาวเราเค้าเป็นเด็กที่ไม่กล้าเรียกร้อง ไม่กล้าขออะไรเลยค่ะ ตอนหลังการเงินทางบ้านดีขึ้น แม่ขึ้นค่าขนมให้เค้ายังเกรงใจไม่กล้ารับเลยค่ะ คือเหมือนไม่ค่อยเชื่อใจว่าที่บ้านมีเงินจริงๆใช่มั้ย ไม่ใช่ส่งเงินมาให้เค้าหมดอะไรแบบนี้ค่ะ น้องเคยเครียดเรื่องกลัวไม่มีเงินเรียนจนต้องปรึกษานักจิตวิทยามาแล้วด้วยค่ะ
พิมพ์ซะยาวเลย แต่อยากแบ่งปันอีกแง่มุม เผื่อคุณแม่เอาไปปรับใช้ดูนะคะ เราคิดว่าเด็กๆเค้าเข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่ค่ะ แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจและห้ามใช้อารมณ์ค่ะ ขอบคุณคุณแม่แทนน้องด้วยนะคะ ที่เป็นห่วงความรู้สึกน้องขนาดนี้ น่าดีใจจังค่ะ😊
เราอยากมาแชร์จากในแง่มุมของเรานะคะ ที่บ้านเราขัดสนเรื่องเงินมาตลอดค่ะ แต่ไม่ได้ลำบากถึงขั้นไม่มีอะไรจะกิน แต่ก็ไม่ใช่ชนชั้นกลาง พ่อแม่เราค้าขายแบบหาเช้ากินค่ำค่ะ
เรากับน้องได้ยินคำว่าไม่มีเงินมาตลอดทั้งชีวิตค่ะ เด็กๆเราไม่ได้รู้สึกอะไรมากค่ะ เพราะว่ายังเด็กไม่ต้องใช้เงินอยู่แล้ว พอเริ่มโตก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ เริ่มเห็นว่าเราต่างจากเพื่อนคนอื่น เช่น เพื่อนไปเรียนพิเศษกัน เราไม่ได้เรียน เราต้องขอทุนเรียนเพื่อจ่ายค่าเทอม (สำหรับวัยเด็กเป็นเรื่องที่น่าอายมากค่ะ กลัวเพื่อนๆไม่ยอมรับถ้ารู้ว่าเราจน) เกือบจะไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยเพราะแม่ไม่มีเงินส่งเรียนค่ะ ฯลฯ
เรารู้สึกว่ามันมีผลกระทบสองด้านค่ะ ด้านดีคือเรารู้ว่าที่บ้านไม่มีเงิน ไม่มีอะไรทิ้งไว้ให้ เราต้องพยายามทุกๆทางเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ห่างเหินกับที่บ้านมากๆค่ะ คิดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองด้วย เพราะที่บ้านเราเค้าไม่ได้อธิบายให้เข้าใจตั้งแต่เด็กๆค่ะ ส่วนมากเค้าจะพูดด้วยความโมโห ความหงุดหงิดค่ะ อารมณ์แบบอย่ามาเซ้าซี้ได้มั้ย รู้บ้างรึเปล่าว่าแม่ลำบากแค่ไหน ที่บ้านไม่มีเงินนะจะเรียกร้องเอาอะไรนัก ทำนองนี้ค่ะ
โตขึ้นเราถึงได้มาเข้าใจว่าตัวเองสะสมความเก็บกดเอาไว้ตั้งแต่เด็กค่ะ และคำว่าไม่มีเงินนี่มันติดตัวเรามากค่ะ 😂😂 คือถึงตอนนี้เราทำงานหาเงินเองแล้วก็ยังรู้สึกว่าเราจนอยู่ดีค่ะ เหมือนเป็นปมในใจไปเลย ตอนนี้ก็กำลังแก้ไขอยู่ค่ะ อีกเรื่องนึงที่รู้สึกเสียดายคือ เราปิดโอกาสอนาคตตัวเองไปเยอะเลยค่ะ เพราะคำว่าที่บ้านไม่มีเงิน ตอนเด็กเราไม่มีความฝันอยากจะไปเมืองนอกเลย ไม่เคยคิดจะลองสอบชิงทุนเพราะรู้ว่าต่อให้ได้ทุน เราก็ไม่ได้ไปอยู่ดีค่ะ ตอนนี้แอบเสียดายหน่อยๆค่ะ ว่าน่าจะลองดูสักนิด เผื่อมีโอกาสบ้าง
ส่วนน้องสาวเราเค้าเป็นเด็กที่ไม่กล้าเรียกร้อง ไม่กล้าขออะไรเลยค่ะ ตอนหลังการเงินทางบ้านดีขึ้น แม่ขึ้นค่าขนมให้เค้ายังเกรงใจไม่กล้ารับเลยค่ะ คือเหมือนไม่ค่อยเชื่อใจว่าที่บ้านมีเงินจริงๆใช่มั้ย ไม่ใช่ส่งเงินมาให้เค้าหมดอะไรแบบนี้ค่ะ น้องเคยเครียดเรื่องกลัวไม่มีเงินเรียนจนต้องปรึกษานักจิตวิทยามาแล้วด้วยค่ะ
พิมพ์ซะยาวเลย แต่อยากแบ่งปันอีกแง่มุม เผื่อคุณแม่เอาไปปรับใช้ดูนะคะ เราคิดว่าเด็กๆเค้าเข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่ค่ะ แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจและห้ามใช้อารมณ์ค่ะ ขอบคุณคุณแม่แทนน้องด้วยนะคะ ที่เป็นห่วงความรู้สึกน้องขนาดนี้ น่าดีใจจังค่ะ😊
ความคิดเห็นที่ 4
อยู่ที่วิธีพูดค่ะ
แม่เราบอกเราตั้งแต่อนุบาลแล้วค่ะว่าบ้านมีเงินเท่าไร ใช้ได้แค่ไหน ต้องช่วยกันประหยัด
แต่ตอนบอกแม่ไม่ได้เครียด ไม่ได้ฉุนเฉียว
คืออธิบายด้วยเหตุผล
เรากับพี่เข้าใจ และช่วยประหยัด
เราคิดว่าควรจะบอกเด็กๆ
ไม่บอก เด็กก็ไม่เข้าใจ ร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่จบ
พอไม่ซื้อให้ ก็หาว่าพ่อแม่ไม่รัก
เพื่อนแม่เรา บอกแม่เราว่าโชคดีที่เรากับพี่ไม่งอแงขออะไร
ลูกเขานี่ พี่ได้อะไร น้องต้องได้ด้วย
พี่ไปเรียนมีรถมอเตอร์ไซค์ขับไปเอง
น้องก็ร้องจะเอาบ้าง ไม่ซื้อให้ก็ร้องไห้
สุดท้ายต้องไปกู้เงินมาซื้อให้
ลูกก็หน้าบาน ได้ของเหมือนพี่ ไม่น้อยหน้าคนอื่น
เป็นแบบนี้บ่อย
ไม่ได้รับรู้เลยว่าพ่อแม่เป็นหนี้หัวโตแล้ว
แม่เราบอกเราตั้งแต่อนุบาลแล้วค่ะว่าบ้านมีเงินเท่าไร ใช้ได้แค่ไหน ต้องช่วยกันประหยัด
แต่ตอนบอกแม่ไม่ได้เครียด ไม่ได้ฉุนเฉียว
คืออธิบายด้วยเหตุผล
เรากับพี่เข้าใจ และช่วยประหยัด
เราคิดว่าควรจะบอกเด็กๆ
ไม่บอก เด็กก็ไม่เข้าใจ ร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่จบ
พอไม่ซื้อให้ ก็หาว่าพ่อแม่ไม่รัก
เพื่อนแม่เรา บอกแม่เราว่าโชคดีที่เรากับพี่ไม่งอแงขออะไร
ลูกเขานี่ พี่ได้อะไร น้องต้องได้ด้วย
พี่ไปเรียนมีรถมอเตอร์ไซค์ขับไปเอง
น้องก็ร้องจะเอาบ้าง ไม่ซื้อให้ก็ร้องไห้
สุดท้ายต้องไปกู้เงินมาซื้อให้
ลูกก็หน้าบาน ได้ของเหมือนพี่ ไม่น้อยหน้าคนอื่น
เป็นแบบนี้บ่อย
ไม่ได้รับรู้เลยว่าพ่อแม่เป็นหนี้หัวโตแล้ว
ความคิดเห็นที่ 15
เครียดค่ะ
มีผลแน่ๆเราคนนึงล่ะ
แบบคิดเสมอว่าแล้วเราควรทำยังไงล่ะ เราผิดรึเปล่าที่ทำให้ที่บ้านไม่มีตัง
ช่วงวัยรุ่นคือเครียดง่าย อารมณ์เสียบ่อย แล้วก็มีความเห็นแก่ตัวนิดนึง เหมือนแบบไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยินคำพวกนั้นเราก็จะเอาตัวเองหนีออกมาเลย ปิดห้องหนีไรงี้
แต่โตแล้วก็พอเข้าใจ เริ่มแก้ไขตัวเองขึ้นมาดีขึ้นแล้ว
แต่อาการเวลาได้ยินคนพูดเรื่องเครียดๆ จะยังมีผลกับเราอยู่ค่ะ ทำให้หงุดหงิดง่ายมาก เพราะมันทำให้เครียดตามอะ
มีผลแน่ๆเราคนนึงล่ะ
แบบคิดเสมอว่าแล้วเราควรทำยังไงล่ะ เราผิดรึเปล่าที่ทำให้ที่บ้านไม่มีตัง
ช่วงวัยรุ่นคือเครียดง่าย อารมณ์เสียบ่อย แล้วก็มีความเห็นแก่ตัวนิดนึง เหมือนแบบไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยินคำพวกนั้นเราก็จะเอาตัวเองหนีออกมาเลย ปิดห้องหนีไรงี้
แต่โตแล้วก็พอเข้าใจ เริ่มแก้ไขตัวเองขึ้นมาดีขึ้นแล้ว
แต่อาการเวลาได้ยินคนพูดเรื่องเครียดๆ จะยังมีผลกับเราอยู่ค่ะ ทำให้หงุดหงิดง่ายมาก เพราะมันทำให้เครียดตามอะ
แสดงความคิดเห็น
พ่อแม่ที่พูดกับลูกบ่อยๆ ว่า "จน, ไม่มีตังค์, ต้องประหยัด" มันจะส่งผลเป็นปมในใจลูกมั้ยคะ?
กังวลใจว่า ลูกจะเก็บไปเครียดมั้ยคะ?
ปล. จริงๆ ไม่ได้จนขนาดนั้นค่ะ อยากกินอะไรกิน อยากซื้ออะไร ซื้อ (ที่ราคาสมเหตุ สมผลนะคะ) ไม่ได้มีหนี้สินอะไรมากมาย ผ่อนบ้านอยู่เหลือไม่ถึง 1 ล้านเเล้วค่ะ แต่รายได้หดลงเยอะ คุณพ่อเค้าเครียดค่ะ ทั้งๆ ที่เราก็ช่วยกันประหยัดหลายๆ อย่างเเล้ว ตัวเราเอง เราโอเคค่ะ แต่แค่กลัวลูกไม่เข้าใจ เราควรสอนอย่างไรดีคะ?