ทะเลาะกับแฟนเพราะ wfh จนแฟนอยากแยกกันอยู่

ตามหัวข้อเลยค่ะ เราได้มา wfh ประมาณ 3วีค เข้าวีคที่4แล้ว  แต่ตั้งแต่ที่ทำงานที่บ้าน เราเกรงใจแฟนมากนะคะ เราอึดอัดมาก เราต้องทำโปรเจ็คใหม่ แบบที่ตัองติดต่อหาลูกค้าบริการลูกค้าเป็น call center เนื่องจากตอนนี้บริษัทเราให้มาทำงานอันนี้ไปก่อน เพราะสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างหนัก จึงไม่สามารถทำงานในแบบแผนกเดิมได้ เราบอกแฟนแล้ว ตอนแรกเหมือนเค้าจะโอเค แต่
  
        แฟนเรารู้สึกว่าเค้าไม่ได้ใช้วันหยุดเต็มที่ เราทำงานแบบนี้เค้าต้องทำเสียงเบาๆ แล้วเค้าไปคุยกับเพื่อนว่าอยากแยกกันอยู่ เพราะห้องเป็น 1bedroom แฟนเราซื้อคอนโดนี้ เราต้องทำงานวันเสาร์ด้วย เสาร์เว้นเสาร์บ้าง แฟนเราหยุด ส-อา แล้ววันเสาร์ที่ผ่านมาเราทะเลาะกันหนักมาก แฟนเราบอกว่า วันหยุดแทนที่จะได้นอนพักผ่อน เปิดทีวีดู กลับต้องมาไถมือถือเพราะเราทำงาน ควรจะได้พักผ่อนเต็มที่ จะทำอะไรก็ไม่ได้ทำ เราไม่ได้ว่าเรื่องดูทีวีเลยดูแค่รบกวนเปิดเสียงเบาหน่อย แฟนเราก็บอกว่าทำไมจะต้องมาดูแต่ภาพด้วย ประมาณนี้ เค้าอึดอัด เราก็ทำไรไม่ถูก เลยจะแก้ปัญหาด้วยการแยกไปอยู่ที่อื่นก็ได้ เราเสียใจมากที่เค้าไม่เข้าใจ แต่เราก็เข้าใจว่านี่คือบ้านเค้า เราต้องเคารพสถานที่ของเค้า 
        
        ที่ผ่านมาเราดูแลเค้าดีตลอด ทำไมเค้าไม่เห็นใจเราบ้าง เรามารู้สึกได้ว่าเค้าไม่มีความสุขเลยตั้งแต่ wfh ด้วยกัน เราไม่ได้ขอเค้ามาอยู่ เดิมเราอยู่กับครอบครัวที่ระยอง เค้าชวนเรามาอยู่ด้วย เราก็ลองหางานดูก็เลยได้อยู่ด้วย เราช่วยค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ค่ากิน เคยถามแล้วว่าช่วยให้ออกค่าคอนโดไหม ตอนนี้เค้าผ่อนอยู่ เค้าบอกไม่ต้อง ตอนที่เราถามคือเรากลัวเกิดเรื่องแบบนี้นี่แหละค่ะ 
   
        เค้าชอบถามเราบ่อยๆ ว่าไม่ซื้อคอนโดหรอ ช่วงหลังๆ ไม่คิดจะซื้อคอนโดหรอ เราก็ตอบว่าไม่มีเงิน เราก็จุกนะคะ คือเรายังทำงานไม่ถึงปี ตอนนี้บริษัทก็ระส่ำระส่าย เราไม่อยากมีหนี้ในระยะยาวมากขนาดนั้น ในเศรษฐกิจแบบนี้ 
  
        ถ้าเราจะแยกออกมา ส่วนที่อยู่ตอนนี้เราไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นค่ะ เราเป็นเด็กจบปีที่แล้วรุ่นโควิดรอบแรก ทำงานได้ยังไม่ถึงปี ฐานเงินเดือนเราไม่ได้มากขนาดนั้น เราจะไปขอพี่เราอยู่ซักพักก็เกรงใจ เรามืดแปดด้านมาก จะหาที่อยู่แบบปลอดภัยในบางกะปิก็ราคาสูงต่อเดือนเกินไป 

        เราเสียใจที่ต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับเรา เราคิดว่าแค่มีงานก็ดีใจแล้วตอนนี้ แต่แฟนเราไม่ซัพพอร์ตให้กำลังใจเลย เราก็ไม่ได้อยากทำงานนี้ แต่เราตัองทำหน้าที่ของเรา เค้าด่าเราว่าเห็นแก่เงินสารพัดที่ทำงานวันเสาร์ เราโกรธมาก จนผ่านมาวันนึงแล้ว ยังสะบัดเรื่องนี้ออกไม่ได้ ถ้าเราจะออกไปเราคงต้องเลิกกับเค้า แต่เค้าไม่ยอมเลิก ไม่อยากเลิก เค้าแค่อยากแยกกันอยู่ เราเลือกไม่ได้ ถ้าเราออกไปเราคงได้อยู่ในที่ๆแออัด ค่าเช่าถูกๆไปก่อนอะไรจะดีขึ้น เราไม่อยากใช้เงินเก็บ เพราะต้องเซฟเงินไว้ในอนาคตช่วงโควิดหนัก เราอายที่ต้องบอกเค้าว่าเราไปอยู่ในที่แบบนั้น ชีวิตเราไม่เคยตกต่ำขนาดนี้ เราเลือกที่จะเลิกดีกว่าให้เค้ารู้ว่าเราอยู่ที่แบบไหน เพราะต่อให้คืนดีกัน เราก็ไม่กล้าที่จะโทรหาลูกค้าช่วงอยู่กับเค้า มันอึดอัดกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เค้าไม่ยอมปล่อยเราไป เค้าบอกจะเปลี่ยนมายเซ็ทตัวเอง แต่เรายังคิดว่าเค้าคิดแบบนั้นไปแล้ว มันแก้อะไรไม่ได้ นอกจากเราจะออกมาจากคอนโดเค้า 
  
       เราควรจะทำยังไงดี เราร้องไห้ทุกวัน เราเหนื่อยทั้งงาน เงิน ชีวิตตอนนี้ แทบไม่อยากทำอะไร อยากสะบัดทุกอย่างออก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 44
นี้ login เพื่อเข้ามาตอบกระทู้นี้เลยนะคะ
เพราะอยากให้คำแนะนำที่คิดว่า สมควรจริงๆ

เห็นหลาย comment เด่วนี้หาทางแก้ไม่ได้ ก็เลิก อย่างเดียว การเลิกควรเป็นสิ่งสุดท้ายที่ควรทำถ้าเราพยามแก้ไขแล้วมันไม่ได้จริงๆมากกว่า

แต่นี้ดูจากกระทู้แล้ว ปัญหาพึ่งเกิด แต่ยังไม่ได้ลองแก้ไขเลยด้วยซ้ำ เลยอยากเสนอความคิดเห็นค่ะ

อย่างแรก จขกท เข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้อาศัยอยู่ ถูกต้อง แล้วค่ะที่เข้าใจแบบนั้น

อย่างสองที่คิดว่า จขกท กำลังเข้าข้างตัวเองอยู่ คือการบอกที่ตอนอยู่กับเขาก็ดูแลทุกอย่าง ทำไมตอนนี้เขาไม่เห็นใจเรา
เราคิดว่าส่วนนี้ จขกท มองแต่ตัวเองมากไปหน่อยค่ะ เรามองว่ารักกันการดูแลกันคือเรื่องปกติของทุกคู่ค่ะ แล้วเราไม่ควรคาดหวังว่าเมื่อเราให้เขาไปแล้วเราต้องได้อะไรกลับมา เพราะถ้าคิดแบบนั้นเราว่ามันไม่ใช่ความรักค่ะ มันคือความเห็นแก่ตัว แล้วเมื่อเราไม่ได้สิ่งที่หวังเราผิดหวัง ก็ช้ำกันไปเปล่าๆค่ะ คิดเสมอว่า สิ่งที่ทำให้เขาคือเราอยากทำให้นะ แค่นั้นพอค่ะ

มาเข้าประเด็นเรื่องปัญหาค่ะ
อยากบอกว่า ปัญหาที่ จขกท เจอ คุณแฟนของคุณ อาจจะคิดน้อยไปนิดนึงตอนชวน จขกท มาอยู่ด้วย แต่นั้นก้ก่อน wfh
ตอนนี้ในเมื่อปัญหามันพึ่งเกิด เราก็ต้องแก้โจทย์ตรงหน้าไปค่ะ
เรามองว่าดีซะอีกนะคะ ที่เรารู้ว่าเขารู้สึกยังไงอยู่เพื่อที่ได้รู้ว่าปัญหามันเกิดขึ้นทัน ก่อนที่คุณแฟนของคุณจะเลิกกับคุณไปก่อน
ถามว่า จขกท ผิดไหม ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แค่คุณแฟน ไม่ได้เป็นหรือแสดงออกอย่างที่คุณ จขกท คาดหวังไว้

(ซึ่งความคาดหวังนั้นเกิดที่ตัวเราเองค่ะ ไม่ใช่ใครสร้าง เจ็บก็เจ็บเพราะเราคาดหวังเอง ไม่ใช่คนที่ทำเราผิดหวัง)

เราเข้าใจ แฟนของคุณนะคะ เพราะแฟนเราก็เป็นแบบนั้นค่ะ คือ โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง อยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง เวลาพักก้อยากพักผ่อนอยากอยู่ในห้องคนเดียวแบบไม่มีสิ่งรบกวน (คอนโดของแฟนเราก็เป็น 1 ห้องนอนเหมือนกันค่ะ)(แต่เรามีห้องของตัวเองด้วยเหมือนกันค่ะ) ปกติเราจะไปอยู่กับแฟนอาทิตย์ละ 3-4 วัน ทำกับข้าว ดูหนัง ออกกำลังกาย มีกิจกรรมที่ให้ทำร่วมกัน มีวันที่เป็นโลกของเรา และมีวันที่ต่างคนต่างมีโลกของตัวเอง

ขออณุญาติท้าวความนิดนึงค่ะ ว่าเราก้เคยทะเลาะกับแฟน แฟนบอกว่าอยากอยู่คนเดียว อยากมีเวลาส่วนตัวบ้างค่ะ ไม่อยากตัวติดกันตลอดเวลามันอึดอัด ตอนนั้นได้ยินเราก้ไม่เข้าใจสิ่คะ ฟีลน้อยใจน่าจะคล้ายๆ จขกท เลยค่ะ

แต่สุดท้ายเราก้เข้าใจเขานะคะ เพราะโลกของเรากับแฟนไม่เหมือนกันค่ะ
คำถามคือ ถ้าเราไม่สนใจที่แฟนพูดว่าแฟนอึดอัด เรายังดึงดันที่จะอยู่กับแฟน สุดท้ายคนที่อึดอัดคือใครคะ? แฟนของเราค่ะ แล้วผลลัพธ์ของการกระทำแบบนี้คือ จบที่การเลิกลาแน่นอนค่ะ
แต่ถ้าเราเข้าใจ และลองคิดในสิ่งที่แฟนจะสื่อดีดี เขาพูดก็เพื่อความรักของเราด้วยถ้าเราเข้าใจและให้ในสิ่งที่เขาต้องการได้ ทั้ง2ฝ่ายก็ แฮปปี้ ค่ะ
การไม่ได้อยู่กับเขาทุกวันไม่ใช่ว่าเราจะไม่รักกันหรือเรารักกันน้อยลงเลยนะคะ ความรักไม่ใช่แค่การที่ต้องอยู่ด้วยกันค่ะ แต่คือความเข้าใจกันในสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นมากกว่าค่ะ

มาเข้าเรื่องวิธีการแก้ปัญหานี้ของ จขกท ดีกว่าค่ะ
เป็นแค่ข้อคิดเห็น ข้อเสนอนะคะ
จขกท น่าจะควรต้องคุยกันกับแฟนค่ะ
ปัญหาเรื่องโควิดนี้มันเกิด ยังไงมันต้องมีความลำบากขึ้นย่อมแน่นอนค่ะ
นี้คิดว่า จขกท อาจจะต้องยอมเสียเงินเพื่อไปอยู่ รร หรือ เช่าที่พักค่ะ
การที่ จขกท ยังอยากอยู่ห้องเดียวกับแฟนนั้นเราว่า จขกท เห็นแก่ตัวนึงนึงค่ะ (เพราะตัวเองไม่ต้องเสียอะไรเลย แต่แฟนต้องเสียอิสระความเป็นส่วนตัวและเวลาพักผ่อน) ขออภัยนะคะหากพูดตรงเกินไป แต่นี้อยากให้เห็นข้อเท็จจริงค่ะ

อีกอย่างถ้าคุณกำลังตั้งคำถามในหัวว่า "อ้าวแล้วแฟนชั้นหล่ะไม่รักชั้นหรอ ทำไมให้ชั้นลำบากไปหาที่อยู่ที่อื่น" นั้นเท่ากับว่าคุณกำลังคาดหวังให้แฟนต้องเป็นอย่างที่คุณหวังอยู่ค่ะ ถ้าเขาอยากช่วยคุณจริงๆ มีหลายวิธีที่แสดงออกถึงการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ที่ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยกัน

การอยากมี พท ส่วนตัว ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักคุณนะคะ แยกกันค่ะ *มี พท ส่วนตัวก็รักกันได้ค่ะ*
(เพราะรักของแต่ละคนแสดงออกไม่เหมือนกัน อย่าให้รูปแบบความรักที่สวยงาม ตีกรอบว่า นั้นคือสิ่งที่ถูกต้องเสมอไปค่ะ)
ถ้าคุณไม่มีแฟนหล่ะคะ คุณลองคิดว่าคุณจะจัดการกับปัญหานี้ยังไง เพราะเรื่องนี้เอาจริงๆ ประเด็นอยู่ที่ตัวคุณมากกว่าแฟนคุณค่ะ

หรือถ้าคุณอยากให้แฟนคุณช่วยจริงๆ คุณลำบาก คุณก็ขอแฟนคุณเลยค่ะ ช่วยค่าที่พักเราเพิ่มได้ไหม เด่วเวาลาทำงานเราไปทำเช่าหอพักเช่าคราวแบบ 70:30 หรือ 60:40 หรือ 50:50 ก้ว่าไปค่ะ ย้ำนะคะ เอาที่เขาไม่อึดอัดด้วย แต่คุณต้องคิดว่าก่อนนะคะ ว่า ค่าใช้จ่ายนี้คุณต้องออก 100% ค่ะ เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่ผิดหวังอีก ถ้าเขาไม่สามารถช่วยคุณได้
(ปล ห้องพักรายวันถูกๆ ก้มีเยอะนะคะ ลองหาดู)

แต่การย้ายออฟครั้งนี้ถ้าคุณยังอยากอยู่กับแฟนก้อยู่ได้นะคะ มาหาเขาตอนเยนมานอนกับเขาตอนกลางคืน ฟีลแบบไปทำงานอ่ะค่ะ แค่ไปทำงานอีกที่นึงในช่วงกลางวันแค่นั้นเอง

ขอเสริมความคิดเกี่ยวกับการมองว่าอ้าวแล้ว "อนาคตชีวิตคู่แต่งงานกันยังไงมันก็ต้องอยู่ด้วยกันไหม ปัญหาแค่นี้เรื่องนิดเดียว"
อยากให้มองความจริง ณ ปัจจุบันค่ะ ว่าคุณยังไม่ได้แต่งงานกัน คุณทั้งคู่ยังอยู่ในสถานะแฟน ไม่ใช่สามีภรรยา
โจทย์ที่เกิดขึ้นคือ ปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคตค่ะ เมื่อทั้งคู่แต่งงานกันแล้วอาจมีปัจจัยอะไรที่เปลี่ยนแปลงอีกมากมายค่ะ
โจทย์และปัญหาที่เจอก็เปลี่ยนไป พท ส่วนตัวอาจยังคงมี หรือ หายไป หรือ ขยับขยายเป็นบ้าน หรือ มากกว่า 1 ห้องนอน
เพื่อให้เหมาะสมกับชีวิตคู่ของตน

ชีวิตแต่ละช่วงมีปัญหาให้ต้องแก้แตกต่างกันค่ะ มองปัจจุบันนะคะ และมองคู่ของเรา อย่าเปรียบเทียบกับใคร
เราเป็นลูกแม่ เรายังไม่ชอบถูกแม่เอาเราไปเปรียบกับคนอื่นเลยค่ะ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ

หวังว่าความเห็นนี้จะช่วยให้ จขกท มองเห็นอะไรที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นนะคะ

เรามองว่าโจทย์ หรือมุมมองความรักแต่ละคนไม่ได้เหมือนค่ะ ไม่อยากตัดสินว่า
เจอแบบนี้ไม่ใช่แบบนี้ แล้วถ้าเขาไม่ทำแบบนี้ ไม่เหมือนที่เราทำ แล้วจะต้องเลิกกันนะคะ
แต่ละคู่ไม่เหมือนกันค่ะ ปรับๆ กันไปนะคะ
ความคิดเห็นที่ 12
มันก็น่าผิดหวังที่มีแฟนแล้วพึ่งพาไม่ได้ 250%

แต่เอาจริงๆคุณเองก็มีความเห็นแก่ตัวตรงที่ไม่ยอมขยับ(เงิน)ตัวเอง

ถ้าเป็นเรา คงย้ายไปเช่าหอพักนานแล้ว  ไม่รอให้เค้าไล่ทางอ้อม(ด้วยการถามว่าซื้อคอนโดมั้ย)

ดูแล้วแฟนคุณเป็นคนมีพื้นที่ส่วนตัวประมาณหนึ่งนะ

ที่ยอมให้คุณมาอยู่ด้วยช่วงแรก  อาจจะเป็นช่วงโปรฯ และผลประโยชน์เรื่องเซ็กส์

แต่ตอนนี้คุณทำให้เค้าไม่มีพื้นที่รีแล็กซ์ส่วนตัวแล้ว  ก็เลยอยากจะดีดคุณออกแล้ว

ย้ายออกก่อน  แล้วทบทวนความสัมพันธ์กับคนคนนี้อีกทีก็แล้วกัน
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้ามองในแง่ร้ายสุดๆคือ

1.วันเสาร์เป็นวันที่เค้าอาจจะไปเจอกิ๊กได้ เลยหงุดหงิดสุดๆอยากไล่ๆให้คุณออกไปจากห้องซะ
2.แฟนคุณใจแคบมาก เรื่องแค่นี้เล็กมากๆสำหรับคนที่จะมีครอบครัว คิดสิคิด ถ้าวันนึงมีลูกมีครอบครัว มีพ่อแม่มาเยี่ยมบ้างไรบ้างไม่บ้านแตกเลยรึ
3.ไปคิดๆดีนะครับว่าผู้ชายคนนี้ เป้นคนที่คุณสามารถฝากชีวิตไว้ได้ไหม ผมเป็นผู้ชาย ผมไม่มีปัญหาเลยเรื่องคนที่เรารักจะคุยจะทำอะไรเสียงดัง
เพราะถ้าเป็นเมียกันจริงๆแล้ว เสียงคุยยังดีกว่าเสียงบ่นเสียงด่าเยอะเลย เสนาะหูกว่าแน่นอน
4.ที่เค้ายังเลิกไม่ได้ก็คงติดใจอะไรบางอย่างจากคุณ แต่คงไม่ใช่ความรักแท้แน่นอน อาจจะยังไม่แน่ใจกับคนใหม่ รึเสียดายความรักของคุณ รึว่าเค้าคิดว่าเค้าคงไม่สามรถหาใครดีเท่าคุณได้ โดยที่เค้าไม่รู้ตัวว่าทำแบบนี้กำลังทำให้คุณเสียใจและเสียความรักดีๆไปจากคุณ

คิดดีๆนะครับ ถามตัวเองและตัวเค้าให้แน่ใจ ถ้ายังอยู่กันอีกนานเป็นครอบครัวเรื่องแค่นี้ขี้ๆเลยครับ
จบ สวัสดี
ความคิดเห็นที่ 59
หลายความเห็นบอกว่า ผช ปกติดี ไม่เห็นแก่ตัว แต่เราว่าเห็นแก่ตัวนะ เพราะ

1.สถานการณ์โควิดแบบนี้ ใช่ว่าทุกคนจะมีทางเลือกในการเลือกงาน หลายคนเขาทำอะไรได้ก็ต้องทำไปก่อน
2.จขกท ทำงานหาเงิน แฟน จขกท จะสละความสุขวันเสาร์วันเดียวไม่ได้เลยหรอ แค่เสาร์เว้นเสาร์ด้วยซ้ำ วันอาทิตย์ก็ไม่ได้ถูกรบกวนนะ
3.การถามว่าไม่คิดจะซื้อคอนโดหรอ = อนาคตไม่ได้อยากใช้ชีวิตร่วมกัน ถ้าอยากใช้ชีวิตด้วยต้องถามว่า เราจะซื้อบ้านหรือคอนโดร่วมกันดีมั้ย
4.เรื่องแค่นี้ยังเอามาเป็นประเด็นทะเลาะได้ขนาดนี้ ทั้งที่เหตุผลของ จขกท ก็รับฟังได้ ต่อไปแต่งงานกันจริงๆ จขกท จะไม่สามารถทำงานที่บ้านได้เลยสินะ
ความคิดเห็นที่ 2
เข้าไปทำงานในห้องนอนได้ไหมครับ แฟนก็อยู่ห้องรับแขก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่