เวลาถูกกระตุ้นให้อารมณ์พุ่งถึงขีดสุดควรทำอย่างไร ชีวิตที่เหมือนกระสอบทราย

จริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากพูดเรื่องนี้เท่าไหร่หรอก การพูดถึงครอบครัวในเรื่องที่ไม่ดีทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเสมอ

แม่ผมเป็นผู้ใหญ่คนนึงที่บางครั้งความคิดความอ่านและคำพูดก็ไม่ได้เป็นผู้ใหญ่ไปตามวัยสักเท่าไหร่ คืออารมณ์สามารถขึ้นได้ง่ายจากสถานการณ์ และบางครั้งแสดงอารมณ์มากกว่าที่คนคนนึงจะแสดงต่อสถานการณ์นั้นนั้น และในเรื่องของการใช้คำพูดก็ไม่เคยคิดก่อนพูด แถมยังเป็นคนที่เวลาโมโหจะเสียงดังมากๆคนนึง ที่นี้คนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกับเขาตลอดเวลานั่นก็คือผม มันส่งผลให้ผมรู้สึกเหมือนระเบิดเวลา บางครั้งระแวงว่าจะโดนต่อว่าหรือถูกโมโหใส่ตอนไหน คือผมไม่สามารถโต้ตอบด้วยการเสียงดังใส่ได้ เพราะกฎของแม่คือแม่ทำได้ แต่ลูกทำไม่ได้ แม่ถูกเสมอ คนเป็นลูกต้องเชื่อฟัง/กตัญญู แม่ผมเติบโตมาด้วยกรอบศีลธรรมพื้นๆแบบนั้นเลยครับ มีครั้งนึงไม่นานมานี้ผมเคยตอบโต้ไม่เชิงว่าจะประชด(ตอนนั้นผมถูกไล่ออกจากบ้าน ไม่มีทางออกอื่นที่พอจะคิดได้แล้ว ประกอบกับผมมีภาวะทางอารมณ์ที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายด้วยครับ) ด้วยการกินยาเกินขนาด แต่ผมก็โทรเรียกรถฉุกเฉินของรพ.มาได้ทันเวลา ต้องสอดท่อล้างท้องและอัดชาร์โคล,มอร์นิเตอร์ EKG ฯลฯ และยังต้องต่อสายน้ำเกลือรักษาตัวเป็นเวลาหลายวัน ตอนนั้นผมก็ยังนึกน้อยใจว่า เป็นขนาดนี้ยังถูกต่อว่าซ้ำเติม แถมยังไม่คิดจะถามไถ่อาการหรือดูดำดูดีกันบ้างเลย แต่ให้หาทางออกด้วยวิธีนี้อีกก็คงไม่ทำแล้วล่ะครับ บางครั้งก็พยายามทำใจคิดว่าเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึง แต่คิดไปคิดมา ถ้ามันต้องทนขนาดนี้มันก็ไม่ธรรมดาแล้วอะครับ ซึ่งเขาก็ไม่ได้มีปัญหาแค่กับการอยู่ร่วมกับเราเพียงอย่างเดียว กับคนอื่นๆเช่น เพื่อนร่วมงาน ก็มีปัญหาเช่นกันครับ

ปล. ทั้งจขกท.และแม่ของจขกท.ต่างก็ป่วยเหมือนกันทั้งคู่ แต่พฤติกรรมการแสดงออกจะต่างกันออกไปครับ ผมพบแพทย์อย่างน้อยเดือนละครั้ง ขณะที่แม่ผมรับยาเดิมกับพยาบาลตลอด อีกทั้งความถี่ยังเป็นสามเดือนครั้ง นั่นเท่ากับว่าแม่ผมไม่ได้ปรับยามาเป็นระยะเวลาหลายเดือนมากๆแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่