สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามีเรื่องจะมาแชร์เพื่อเป็นประสบการณ์ให้กับทุกคนในช่วงเวลานี้ เผื่อไว้ให้ทุกคนทราบถึงขั้นตอนการถูกบอกเลิกจ้างกระทันหันค่ะ
เราทำงานที่บริษัทนี้เกือบปีคะ
วันเลิกจ้างก็มาถึงค่ะเค้าก็คุยกับเราว่าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงระบบบุคคลากรทำให้ไม่สามารถจ้างเราต่อได้ ก็จ่ายชดเชยตามกฏหมายกำหนดค่ะและให้เราเซ็นต์เอกสารยินยอมซึ่งเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะค่ะ และหลังจากเซ็นต์เราต้องได้เงินทันทีที่บอกกล่าว
*ห้ามเซ็ตน์เอกสารที่มีข้อความ **ลูกจ้างขอสละสิทธิ์ฟ้องร้องหรือเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าปรับใดๆภายใต้กฏหมายไทย* เราเซ็นต์เนื่องจากเราคิดว่าเราสามารถไปฟ้องได้เพราะไม่ทราบเรื่องข้อความดังกล่าวและเนื่องจากเป็นภาษาอังกฤษที่แปลไม่ค่อยออกค่ะ
การดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม
- เราไปที่กรมแรงงานก่อนค่ะ ขอคำปรึกษาในแผนกร้องเรียนซึ่งเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาดีมาก โดยเจ้าหน้าที่ให้เราไปศาลเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายในการถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมและไปขึ้นทะเบียนว่างงานเลยระบบจะได้คำนวนวันที่ว่างงานเพื่อจ่ายเงินว่างงาน ปล.หากขึ้นทะเบียนช้าคุณก็จะเสียสิทธิ์วันก่อนนั้นไปเช่นถูกเลิกจ้างวันที่ 10 วันที่ 11ควรไปขึ้นทะเบียนเลยถ้าไปช้าระบบจะคำนวนจากวันที่เราไปแจ้งทำให้เสียสิทธิวันนั้นๆไป
- และหลังจากนั้นเราก็ไปที่ศาลแรงงานค่ะสิ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพส์สุดคือทนายที่ศาลแรงงานแจ้งว่าให้เราไปแปลภาษาอังกฤษมาและถ้าหากในหนังบอกเลิกจ้างมีคำว่า**ลูกจ้างขอสละสิทธิ์ฟ้องร้องหรือเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าปรับใดๆภายใต้กฏหมายไทย** จะไม่สามารถฟ้องได้เพราะถือว่าเราสละสิทธิ์ไม่ฟ้องเราเลยถามทนายกลับไปว่าเราถูกเลิกจ้างครั้งแรกเราไม่ทราบว่าจะต้องระวังข้อความนี้ทนายก็แจ้งว่าไม่ได้จะบอกไม่รู้ไม่ได้ เราก็พูดอะไรไม่ออกที่เราดูยูทูปอ่านคำวินิจฉัยมาไม่เคยมีบอกเรื่องนี้ เนื่องจากภาษาอังกฤษค่อนข้างยากเราเลยจ้างแปลหมดไปสองพันใช้เวลา 5 วันค่ะพอแปลเสร็จอ่านจบสรุปเราฟ้องบริษัทไม่ได้เพราะติดที่ข้อความนี้. ทนายบอกฟ้องไปเราก็แพ้เพราะเราเซนต์ไปแล้วอ้างเป็นภาษาอังกฤษหรือว่าไม่รู้เงื่อนไขนี้มาก่อนไม่ได้สุดท้ายแล้วเราก็คิดว่าศาลก็ไม่ได้ช่วยอะไรเรามาก เราต้องมีความรู้พวกนี้ติดตัวไว้บ้างครั้งนั้เราถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ
การถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมนอกจากเงินชดเชยที่บริษัทจ่ายให้แล้วยังมีค่าความเสียหายอีกค่ะที่เราสามารถฟ้องร้องบริษัทได้โดยชี้แจ้งถึงภาระของลูกจ้างแต่มากน้อยก็ตามที่ศาลจะพิจารณา
เราอยากจะฝากไว้เพื่อเป็นความรู้กับทุกคนค่ะ หวังว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดกับใครนะค่ะ
ข้อควรระวังการถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม
เราทำงานที่บริษัทนี้เกือบปีคะ
วันเลิกจ้างก็มาถึงค่ะเค้าก็คุยกับเราว่าบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงระบบบุคคลากรทำให้ไม่สามารถจ้างเราต่อได้ ก็จ่ายชดเชยตามกฏหมายกำหนดค่ะและให้เราเซ็นต์เอกสารยินยอมซึ่งเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะค่ะ และหลังจากเซ็นต์เราต้องได้เงินทันทีที่บอกกล่าว
*ห้ามเซ็ตน์เอกสารที่มีข้อความ **ลูกจ้างขอสละสิทธิ์ฟ้องร้องหรือเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าปรับใดๆภายใต้กฏหมายไทย* เราเซ็นต์เนื่องจากเราคิดว่าเราสามารถไปฟ้องได้เพราะไม่ทราบเรื่องข้อความดังกล่าวและเนื่องจากเป็นภาษาอังกฤษที่แปลไม่ค่อยออกค่ะ
การดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรม
- เราไปที่กรมแรงงานก่อนค่ะ ขอคำปรึกษาในแผนกร้องเรียนซึ่งเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาดีมาก โดยเจ้าหน้าที่ให้เราไปศาลเพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายในการถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมและไปขึ้นทะเบียนว่างงานเลยระบบจะได้คำนวนวันที่ว่างงานเพื่อจ่ายเงินว่างงาน ปล.หากขึ้นทะเบียนช้าคุณก็จะเสียสิทธิ์วันก่อนนั้นไปเช่นถูกเลิกจ้างวันที่ 10 วันที่ 11ควรไปขึ้นทะเบียนเลยถ้าไปช้าระบบจะคำนวนจากวันที่เราไปแจ้งทำให้เสียสิทธิวันนั้นๆไป
- และหลังจากนั้นเราก็ไปที่ศาลแรงงานค่ะสิ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพส์สุดคือทนายที่ศาลแรงงานแจ้งว่าให้เราไปแปลภาษาอังกฤษมาและถ้าหากในหนังบอกเลิกจ้างมีคำว่า**ลูกจ้างขอสละสิทธิ์ฟ้องร้องหรือเรียกร้องค่าเสียหายหรือค่าปรับใดๆภายใต้กฏหมายไทย** จะไม่สามารถฟ้องได้เพราะถือว่าเราสละสิทธิ์ไม่ฟ้องเราเลยถามทนายกลับไปว่าเราถูกเลิกจ้างครั้งแรกเราไม่ทราบว่าจะต้องระวังข้อความนี้ทนายก็แจ้งว่าไม่ได้จะบอกไม่รู้ไม่ได้ เราก็พูดอะไรไม่ออกที่เราดูยูทูปอ่านคำวินิจฉัยมาไม่เคยมีบอกเรื่องนี้ เนื่องจากภาษาอังกฤษค่อนข้างยากเราเลยจ้างแปลหมดไปสองพันใช้เวลา 5 วันค่ะพอแปลเสร็จอ่านจบสรุปเราฟ้องบริษัทไม่ได้เพราะติดที่ข้อความนี้. ทนายบอกฟ้องไปเราก็แพ้เพราะเราเซนต์ไปแล้วอ้างเป็นภาษาอังกฤษหรือว่าไม่รู้เงื่อนไขนี้มาก่อนไม่ได้สุดท้ายแล้วเราก็คิดว่าศาลก็ไม่ได้ช่วยอะไรเรามาก เราต้องมีความรู้พวกนี้ติดตัวไว้บ้างครั้งนั้เราถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ
การถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมนอกจากเงินชดเชยที่บริษัทจ่ายให้แล้วยังมีค่าความเสียหายอีกค่ะที่เราสามารถฟ้องร้องบริษัทได้โดยชี้แจ้งถึงภาระของลูกจ้างแต่มากน้อยก็ตามที่ศาลจะพิจารณา
เราอยากจะฝากไว้เพื่อเป็นความรู้กับทุกคนค่ะ หวังว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดกับใครนะค่ะ