👨👦 ผัวดีที่ฟ้าประทาน 👨👦
ในวัฒนธรรมโลกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสังคมชายเป็นใหญ่ มักมีคุณธรรมคำสอนหญิง เช่นสุภาษิตสอนหญิง หรือคุณสมบัติแม่ศรีเรือน นั่นคือ สอนผู้หญิงให้เป็นภรรยาที่ดีอย่างไร มากมาย
แต่น่าแปลกเมื่อสอนผู้ชาย กลับไม่เน้นสอนเป็นสามีที่ดี แต่สอนให้ขยันทำงาน ให้ประสบความสำเร็จให้มียศฐาบรรดาศักดิ์ หรือเน้นคุณธรรมอื่นๆที่ให้ผู้ชายออกเก่งและดีอยู่นอกบ้าน มากกว่า
เมื่อวันหนึ่งสังคมเปลี่ยนไป เราจึงเห็นความต่างนี้ชัดเจน เราพบว่า ผู้หญิงจำนวนมาก รู้สึกว่าความสำเร็จในชีวิตของเธอคือการได้รับความรักจากชายคนหนึ่ง ได้แต่งงาน และผดุงความรักนั้นตลอดไป แต่ผู้ชายกลับมีเป้าหมายความสำเร็จไปที่หน้าที่การงานหรือการหาเงินได้มากหรือมีฐานะพิเศษทางสังคมแล้วผู้หญิงมากมายก็จะมาเป็นรางวัลในความสำเร็จของเขา เราจึงพบดราม่าของเส้นขนานที่เป้าหมายของผู้หญิงและผู้ชายอยู่คนละที่กัน แล้วไปสู่ความล้มเหลวในชีวิตแต่งงาน
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่เน้นสอนความรัก มีข้อพระคัมภีร์ชัดเจนที่สอนผู้ชายว่า"ต้องรักภรรยา" มีข้อความในพระคัมภีร์ที่สอนผู้ชายให้เป็นสามีที่ดีอย่างชัดเจนหลายแห่ง ซึ่งถ้าหญิงใดได้สามีที่ยึดถือคุณธรรมเหล่านี้ ก็เหมือนได้รับพรใหญ่ยิ่งจากพระเจ้าเลยที่เดียว สามีที่เป็น"คนชอบธรรม"สำหรับภรรยาสรุปได้5ข้อสำคัญดังนี่
1.สามีต้องให้เกียรติภรรยาของตน
(1 เปโตร 3:7) "สามีทั้งหลายจงอยู่กับภรรยาด้วยความเห็นอกเห็นใจ จงให้เกียรติภรรยา"
💗แม้ในพระคัมภีร์จะมีข้อคำสอนวางอยู่บนมาตรฐานค่านิยมที่สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ก็ย้ำชัดว่าไม่ให้ทำต่อภรรยาอย่างนางทาสหน้าเตาไฟ แต่ต้องให้เกียรติแก่ภรรยา เพราะภรรยาที่มีศักดิ์ศรีก็คือเกียรติของสามีนั่นเอง สามีจึงต้องเป็นคนแรกที่ให้เกียรติภรรยาของตน
2.ต้องอ่อนโยนและไม่ทำร้ายภรรยา
(โคโลสี 3:19) "สามีทั้งหลายจงรักภรรยาของท่านและอย่ารุนแรงต่อนาง"
💗ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทยมาช้านาน ในปี 2561 วิจัยพบว่ามีสูงถึง34.6% กล่าวคือเฉลี่ย 3ครอบครัว มีครอบครัวหนึ่งที่ใช้ความรุนแรง ยิ่งในทุกวันนี้ เราเห็นข่าว รักต้องฆ่าที่มีการฆ่ากันตายในครอบครัวตัวเอง ยิ่งชี้ชัดว่า นี่เป็นวิกฤตครอบครัวของสังคมไทยไม่น้อย
การไม่ใช่ความรุนแรงไม่เพียงการไม่ตบตีเท่านั้น แต่ต้องหยุดตั้งแต่เริ่มคือ ความรุนแรงทางวาจาด้วยเพราะวาจาที่รุนแรงก็บ่อนทำลายความรักความผูกพันได้ จนแม้แต่นำไปสู่ความรุนแรงทางกายได้เช่นกันทั้งสามีและภรรยาจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้อย่างยิ่ง พระคัมภีร์จึงมีคำสอนชัดว่า ห้ามสามีใข้ความรุนแรงกับภรรยาแต่ให้รักเธอ
3.ชื่นชมในตัวภรรยาไม่เสื่อมคลาย
(สุภาษิต 5:18-19)
"จงให้ธารน้ำพุของเจ้าได้รับพร
จงปีติยินดีในภรรยาคู่ชีวิตที่ได้มาในวัยหนุ่ม
ดั่งนางกวางที่น่ารัก เลียงผาที่น่าชม
จงให้อ้อมอกของนางเป็นที่หนำใจเจ้าเสมอ
จงหลงใหลในความรักของนางตลอดไป"
💗เป็นสัจธรรมที่กาลเวลาอาจพาทุกสิ่งเปลี่ยนไป อาจนำความโรยรา ความชรา หรือแม้แต่ความจืดจางแต่พระเจ้าไม่ต้องการให้ความรักของเราโรยราตามยถากรรมเช่นนั้น แต่หนุนนำใจเราให้ปลุกฟื้นความรักที่เคยมีแก่กันเสมอ ในวัยสาว หญิงคนหนึ่งอาจตกแต่งตนเองให้สวยงามเพื่อให้ชายมากมายหมายปองและหลงใหล แต่เมื่อเธอเป็นภรรยา การบำรุงความงามของเธอก็เพื่อชายคนเดียว และหวังให้สามีนั่นแหละชื่นชมเธอมากกว่าใคร สามีที่ภรรยาใฝ่ฝัน คือสามีที่เห็นภรรยาสวยเสมอ สวยกว่าใคร และสวยที่สุดในใจสามีเท่านั้นก็เพียงพอ
4.ยกย่องภรรยา
(สุภาษิต 30:29-31)
ลูกๆ ของนางยืนขึ้นกล่าวยกย่อง
สามีของนางก็ชมเชยนางว่า
“สตรีจำนวนมากทำสิ่งดีเลิศ
แต่เธอล้ำเลิศยิ่งกว่าพวกเขาทั้งหมด”
เสน่ห์เป็นสิ่งหลอกลวง และความสวยงามไม่จีรังยั่งยืน
แต่สตรีที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการสรรเสริญ
จงยกย่องนางเพราะทุกสิ่งที่นางทำ
ให้ประชาชนที่ประตูเมืองสรรเสริญนางเพราะการงานของนาง
💗สามีบางคนไม่ชอบชมภรรยาซ้ำร้ายชอบว่ากล่าวตำหนิ แนวว่าข่มไว้ก่อน ไม่เคยขอบคุณในอะไรที่ทำให้เห็นเป็นหน้าที่
ภรรยามากมายเมื่ออยู่ในบ้านเป็นคน ตื่นก่อน นอนที่หลัง เพราะต้องดูแลทุกคนในบ้านทั้งลูกและสามีจากเช้าจนค่ำ งานในบ้านต่างจากงานนอกบ้าน งานนอกบ้านทำดีมีคนชม แต่งานบ้านมีแต่คนในบ้านที่เห็นถ้าคนในบ้านไม่ชม กำลังใจจะมาจากไหน
พระคัมภีร์สอนชัดเจนว่า คนในบ้านคือคนที่ต้องยกย่องชื่นชมแม่บ้าน อาหารที่อร่อย บ้านที่เรียบร้อยลูกๆที่อยู่ในระเบียบ เธอผู้ที่ทำให้บ้านเป็นที่อบอุ่น เป็นที่พักสงบ เป็นที่ปลอดภัย ต้องได้รับการเห็นค่าและชื่นชม
5.ซื่อสัตย์ต่อภรรยา
(ฮบ.13:4) “จงให้การสมรสเป็นที่นับถือแก่คนทั้งปวง และให้เตียงสมรสปราศจากมลทิน เพราะคนที่ประพฤติผิดทางเพศ และคนที่ล่วงประเวณีนั้นพระเจ้าจะทรงพิพากษา”
(สุภาษิต 5:20-23)
"ลูกเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงไปหลงใหลภรรยาของชายอื่น?
เหตุใดเจ้าจึงไปซบอกหญิงแพศยา?
เพราะว่าทางทั้งสิ้นของมนุษย์อยู่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงพิเคราะห์ดูทุกวิถีของเขา
คนชั่วติดกับเพราะบาปของตน
และบาปนั้นก็เป็นบ่วงรัดเขาไว้แน่น
เขาจะตายเพราะขาดวินัย
และหลงเตลิดไปเพราะความโง่มหันต์ของตน"
💗ข้อสุดท้ายนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ภรรยาจำนวนมากเพียงสามียึดมั่นคำปฏิญาณในการสมรส ก็รู้สึกว่าตนเองโชคดีมีบุญแล้ว ผู้หญิงบางคนถึงกับบอกว่าไม่ขออะไรมาก ขอแค่นี้ แต่ก็ยังมีผู้ชายไม่น้อยทำให้ไม่ได้ และสุดท้ายครอบครัวก็พังพินาศ บ้านแตกสาแหรกขาด และทุกคนตกในความทุกข์ ดังนั้นความซื่อสัตย์จึงเป็นหัวใจสำคัญแรกสุดในชีวิตสมรส เพราะเมื่อชายจะแต่งงาน คือเขารู้แล้วว่า เขาจะต้องซื่อสัตย์ต่อหญิงคนนี้นับจากนี้ตลอดไป ความซื่อสัตย์จึงเป็นคุณธรรมสูงสุดที่สามีต้องรักษาในชีวิตสมรสตลอดไป
💗ดังนั้นจึงสำคัญมาก ในชีวิตคริสตชนและการสมรสที่แม้การแต่งงานต่างศาสนา ต้องให้คู่สมรสรู้ว่าคุณธรรมที่คริสตศาสนายึดถือคืออะไร เพราะการแต่งงานจะเป็นนรกหรือเป็นสวรรค์ ท่านเลือกเอง และทำให้มันเป็นได้เอง
(1โครินธ์ 13:4-7)
“ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตนฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติชอบ ความรักนั้นทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง”
cr. www.facebook.com/holysmn
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับ
ความรัก การสมรส กามรมณ์ ในคริสตศาสนา
ได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.770397702988047&type=1&l=9fed8c22ba
CR. : จิต ศรัทธา
👨👦 ผัวดีที่ฟ้าประทาน 👨👦
ในวัฒนธรรมโลกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสังคมชายเป็นใหญ่ มักมีคุณธรรมคำสอนหญิง เช่นสุภาษิตสอนหญิง หรือคุณสมบัติแม่ศรีเรือน นั่นคือ สอนผู้หญิงให้เป็นภรรยาที่ดีอย่างไร มากมาย
แต่น่าแปลกเมื่อสอนผู้ชาย กลับไม่เน้นสอนเป็นสามีที่ดี แต่สอนให้ขยันทำงาน ให้ประสบความสำเร็จให้มียศฐาบรรดาศักดิ์ หรือเน้นคุณธรรมอื่นๆที่ให้ผู้ชายออกเก่งและดีอยู่นอกบ้าน มากกว่า
เมื่อวันหนึ่งสังคมเปลี่ยนไป เราจึงเห็นความต่างนี้ชัดเจน เราพบว่า ผู้หญิงจำนวนมาก รู้สึกว่าความสำเร็จในชีวิตของเธอคือการได้รับความรักจากชายคนหนึ่ง ได้แต่งงาน และผดุงความรักนั้นตลอดไป แต่ผู้ชายกลับมีเป้าหมายความสำเร็จไปที่หน้าที่การงานหรือการหาเงินได้มากหรือมีฐานะพิเศษทางสังคมแล้วผู้หญิงมากมายก็จะมาเป็นรางวัลในความสำเร็จของเขา เราจึงพบดราม่าของเส้นขนานที่เป้าหมายของผู้หญิงและผู้ชายอยู่คนละที่กัน แล้วไปสู่ความล้มเหลวในชีวิตแต่งงาน
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่เน้นสอนความรัก มีข้อพระคัมภีร์ชัดเจนที่สอนผู้ชายว่า"ต้องรักภรรยา" มีข้อความในพระคัมภีร์ที่สอนผู้ชายให้เป็นสามีที่ดีอย่างชัดเจนหลายแห่ง ซึ่งถ้าหญิงใดได้สามีที่ยึดถือคุณธรรมเหล่านี้ ก็เหมือนได้รับพรใหญ่ยิ่งจากพระเจ้าเลยที่เดียว สามีที่เป็น"คนชอบธรรม"สำหรับภรรยาสรุปได้5ข้อสำคัญดังนี่
1.สามีต้องให้เกียรติภรรยาของตน
(1 เปโตร 3:7) "สามีทั้งหลายจงอยู่กับภรรยาด้วยความเห็นอกเห็นใจ จงให้เกียรติภรรยา"
💗แม้ในพระคัมภีร์จะมีข้อคำสอนวางอยู่บนมาตรฐานค่านิยมที่สามีเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ก็ย้ำชัดว่าไม่ให้ทำต่อภรรยาอย่างนางทาสหน้าเตาไฟ แต่ต้องให้เกียรติแก่ภรรยา เพราะภรรยาที่มีศักดิ์ศรีก็คือเกียรติของสามีนั่นเอง สามีจึงต้องเป็นคนแรกที่ให้เกียรติภรรยาของตน
2.ต้องอ่อนโยนและไม่ทำร้ายภรรยา
(โคโลสี 3:19) "สามีทั้งหลายจงรักภรรยาของท่านและอย่ารุนแรงต่อนาง"
💗ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมไทยมาช้านาน ในปี 2561 วิจัยพบว่ามีสูงถึง34.6% กล่าวคือเฉลี่ย 3ครอบครัว มีครอบครัวหนึ่งที่ใช้ความรุนแรง ยิ่งในทุกวันนี้ เราเห็นข่าว รักต้องฆ่าที่มีการฆ่ากันตายในครอบครัวตัวเอง ยิ่งชี้ชัดว่า นี่เป็นวิกฤตครอบครัวของสังคมไทยไม่น้อย
การไม่ใช่ความรุนแรงไม่เพียงการไม่ตบตีเท่านั้น แต่ต้องหยุดตั้งแต่เริ่มคือ ความรุนแรงทางวาจาด้วยเพราะวาจาที่รุนแรงก็บ่อนทำลายความรักความผูกพันได้ จนแม้แต่นำไปสู่ความรุนแรงทางกายได้เช่นกันทั้งสามีและภรรยาจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้อย่างยิ่ง พระคัมภีร์จึงมีคำสอนชัดว่า ห้ามสามีใข้ความรุนแรงกับภรรยาแต่ให้รักเธอ
3.ชื่นชมในตัวภรรยาไม่เสื่อมคลาย
(สุภาษิต 5:18-19)
"จงให้ธารน้ำพุของเจ้าได้รับพร
จงปีติยินดีในภรรยาคู่ชีวิตที่ได้มาในวัยหนุ่ม
ดั่งนางกวางที่น่ารัก เลียงผาที่น่าชม
จงให้อ้อมอกของนางเป็นที่หนำใจเจ้าเสมอ
จงหลงใหลในความรักของนางตลอดไป"
💗เป็นสัจธรรมที่กาลเวลาอาจพาทุกสิ่งเปลี่ยนไป อาจนำความโรยรา ความชรา หรือแม้แต่ความจืดจางแต่พระเจ้าไม่ต้องการให้ความรักของเราโรยราตามยถากรรมเช่นนั้น แต่หนุนนำใจเราให้ปลุกฟื้นความรักที่เคยมีแก่กันเสมอ ในวัยสาว หญิงคนหนึ่งอาจตกแต่งตนเองให้สวยงามเพื่อให้ชายมากมายหมายปองและหลงใหล แต่เมื่อเธอเป็นภรรยา การบำรุงความงามของเธอก็เพื่อชายคนเดียว และหวังให้สามีนั่นแหละชื่นชมเธอมากกว่าใคร สามีที่ภรรยาใฝ่ฝัน คือสามีที่เห็นภรรยาสวยเสมอ สวยกว่าใคร และสวยที่สุดในใจสามีเท่านั้นก็เพียงพอ
4.ยกย่องภรรยา
(สุภาษิต 30:29-31)
ลูกๆ ของนางยืนขึ้นกล่าวยกย่อง
สามีของนางก็ชมเชยนางว่า
“สตรีจำนวนมากทำสิ่งดีเลิศ
แต่เธอล้ำเลิศยิ่งกว่าพวกเขาทั้งหมด”
เสน่ห์เป็นสิ่งหลอกลวง และความสวยงามไม่จีรังยั่งยืน
แต่สตรีที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับการสรรเสริญ
จงยกย่องนางเพราะทุกสิ่งที่นางทำ
ให้ประชาชนที่ประตูเมืองสรรเสริญนางเพราะการงานของนาง
💗สามีบางคนไม่ชอบชมภรรยาซ้ำร้ายชอบว่ากล่าวตำหนิ แนวว่าข่มไว้ก่อน ไม่เคยขอบคุณในอะไรที่ทำให้เห็นเป็นหน้าที่
ภรรยามากมายเมื่ออยู่ในบ้านเป็นคน ตื่นก่อน นอนที่หลัง เพราะต้องดูแลทุกคนในบ้านทั้งลูกและสามีจากเช้าจนค่ำ งานในบ้านต่างจากงานนอกบ้าน งานนอกบ้านทำดีมีคนชม แต่งานบ้านมีแต่คนในบ้านที่เห็นถ้าคนในบ้านไม่ชม กำลังใจจะมาจากไหน
พระคัมภีร์สอนชัดเจนว่า คนในบ้านคือคนที่ต้องยกย่องชื่นชมแม่บ้าน อาหารที่อร่อย บ้านที่เรียบร้อยลูกๆที่อยู่ในระเบียบ เธอผู้ที่ทำให้บ้านเป็นที่อบอุ่น เป็นที่พักสงบ เป็นที่ปลอดภัย ต้องได้รับการเห็นค่าและชื่นชม
5.ซื่อสัตย์ต่อภรรยา
(ฮบ.13:4) “จงให้การสมรสเป็นที่นับถือแก่คนทั้งปวง และให้เตียงสมรสปราศจากมลทิน เพราะคนที่ประพฤติผิดทางเพศ และคนที่ล่วงประเวณีนั้นพระเจ้าจะทรงพิพากษา”
(สุภาษิต 5:20-23)
"ลูกเอ๋ย เหตุใดเจ้าจึงไปหลงใหลภรรยาของชายอื่น?
เหตุใดเจ้าจึงไปซบอกหญิงแพศยา?
เพราะว่าทางทั้งสิ้นของมนุษย์อยู่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงพิเคราะห์ดูทุกวิถีของเขา
คนชั่วติดกับเพราะบาปของตน
และบาปนั้นก็เป็นบ่วงรัดเขาไว้แน่น
เขาจะตายเพราะขาดวินัย
และหลงเตลิดไปเพราะความโง่มหันต์ของตน"
💗ข้อสุดท้ายนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ภรรยาจำนวนมากเพียงสามียึดมั่นคำปฏิญาณในการสมรส ก็รู้สึกว่าตนเองโชคดีมีบุญแล้ว ผู้หญิงบางคนถึงกับบอกว่าไม่ขออะไรมาก ขอแค่นี้ แต่ก็ยังมีผู้ชายไม่น้อยทำให้ไม่ได้ และสุดท้ายครอบครัวก็พังพินาศ บ้านแตกสาแหรกขาด และทุกคนตกในความทุกข์ ดังนั้นความซื่อสัตย์จึงเป็นหัวใจสำคัญแรกสุดในชีวิตสมรส เพราะเมื่อชายจะแต่งงาน คือเขารู้แล้วว่า เขาจะต้องซื่อสัตย์ต่อหญิงคนนี้นับจากนี้ตลอดไป ความซื่อสัตย์จึงเป็นคุณธรรมสูงสุดที่สามีต้องรักษาในชีวิตสมรสตลอดไป
💗ดังนั้นจึงสำคัญมาก ในชีวิตคริสตชนและการสมรสที่แม้การแต่งงานต่างศาสนา ต้องให้คู่สมรสรู้ว่าคุณธรรมที่คริสตศาสนายึดถือคืออะไร เพราะการแต่งงานจะเป็นนรกหรือเป็นสวรรค์ ท่านเลือกเอง และทำให้มันเป็นได้เอง
(1โครินธ์ 13:4-7)
“ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตนฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติชอบ ความรักนั้นทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง”
cr. www.facebook.com/holysmn
อ่านบทความอื่นๆเกี่ยวกับ
ความรัก การสมรส กามรมณ์ ในคริสตศาสนา
ได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.770397702988047&type=1&l=9fed8c22ba
CR. : จิต ศรัทธา