มีเงิน 50,000 ลงทุนอะไรดี - ตอนที่ 1 ลงทุนแบบ offline ปี 2021
ถ้าคุณเก็บเงิน หรือ ออมเงินมาได้ 50,000 บาท แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้เงินงอกเงยขึ้นมา
คิดเท่าไหร่ ก็คิดไม่ออก...กลัวทำไปแล้วมั่วซั่ว ไม่มีแนวทาง เงินที่เก็บไว้ ก็จะสูญเปล่า
แต่วันนี้ผมมีไอเดียมาให้ครับว่า มีเงิน 50,000 บาท แล้วจะลงทุนทำอะไรดี
เมื่อคุณเก็บเงินออมเงินจนถึง 50,000 บาท แล้วจะลงทุนอะไรดี?! เป็นคำถามที่พบบ่อยในวัยทำงาน เพราะใคร ๆ ก็อยากมีชีวิตที่ดี มีเงินทองใช้คล่องไม่ขาดมือ และอยากประสบความสำเร็จตามที่ตนได้ตั้งเป้าหมายไว้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ฉะนั้น มนุษย์เงินเดือนหลายคนจึงใฝ่ฝันจะจับเงินล้านให้ได้สักครั้งในชีวิต ซึ่งแต่ละคนก็มีการวางแผนการเงินที่แตกต่างกันออกไปตามทุนทรัพย์ที่ตนเองมีอยู่ จนไปถึงความชอบและความถนัดในการทำธุรกิจ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง “มีเงิน 50,000 บาท ลงทุนแบบ offline อะไรดี” ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่า มีหลากหลายรูปแบบให้คุณได้ตัดสินใจแต่อาชีพไหนจะรุ่งหรือจะรวยต้องมาดูกันครับ
มีเงิน 50,000 บาท ทำอะไรดี แบบ Offline ?!
สิ่งที่จะต้องลงทุน : ออมทรัพย์แบบฝากประจำ
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่จะมีเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาการเบิกถอนเงินจากบัญชี โดยคุณสามารถเลือกระยะเวลาระหว่าง บัญชีฝากประจำทั่วไประยะสั้น (1-3 เดือน) หรือบัญชีฝากประจำระยะยาวที่เลือกฝากได้นานสูงสุดถึง 5 ปี ฉะนั้น ผลตอบแทนจากการฝากออมทรัพย์ในระยะเวลา 1-2 ปีนี้ก็อาจจะอยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นผลตอบแทนคงที่เลยก็ว่าได้
ความเสี่ยง : ไม่มีความเสี่ยง
ทักษะเฉพาะทาง : ธนาคารเป็นคนดูแล
ทักษะการตลาดการขาย : ยังไม่ต้องใช้ทักษะนี้
รายได้เฉลี่ยต่อปี : ถ้าหากเฉลี่ยรายได้ต่อปีก็อาจจะได้ดอกเบี้ยขึ้นมาประมาณ 1,500 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุน : กองทุน - สลาก
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : ผลตอบแทนของ “กองทุนรวม” ประกอบด้วยผลตอบแทนทางตรง คือ กำไร/ขาดทุนจากผลต่างราคาหน่วยลงทุน เงินปันผล และผลตอบแทนทางอ้อม คือ สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ส่วน “การซื้อสลาก” จะเป็นการลงทุนในรูปแบบนี้คล้ายกับการ ฝากประจำ เพราะมีกำหนดระยะ ฝากแน่นอน เช่น 3 ปี 5 ปี และจะได้รับดอกเบี้ยแบบเดียวกับการฝากเงิน โดยที่ดอกเบี้ยก็ไม่ได้สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากมากนัก แต่ก็น่าสนใจสำหรับคนที่หวังว่าจะ “โชคดี” เพราะว่าจะได้ลุ้นรางวัลทุกเดือนเป็นของแถมและไม่ต้องเสียภาษี ฉะนั้น ถึงแม้ว่าการลงทุนจะแตกต่างกัน แต่ผลตอบแทนกับคล้ายคลึงกัน นั่นก็คือ มีความเสี่ยงน้อยมากแต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คงที่ และอาจจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในครั้งอยู่ที่ 3-10% ในระยะ 1-2 ปี นั่นเอง
ความเสี่ยง : มีความเสี่ยงน้อยมาก
ทักษะเฉพาะทาง : ธนาคารเป็นคนดูแล
ทักษะการตลาดการขาย : ยังไม่ต้องใช้ทักษะนี้
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 1,500 – 5,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุน : หุ้น
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การลงทุนหุ้นยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่วัยทำงานหรือคนที่มีเงินเก็บ สามารถลงทุนได้ หากมีสัดส่วนการลงทุนที่ไม่มากเกินไป เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหากลงทุนในระยะยาวและแม้จะมีหุ้น หลากหลายประเภท ที่น่าสนใจ แต่คุณก็ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มั่นคง ราคาไม่เปลี่ยนแปลงแบบหวือหวา เพราะอาจทำให้เงินก้อนที่คุณเก็บไว้ 50,000 บาท ของคุณลดน้อยลง เพราะการลงทุนหุ้นถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่มั่นคง อาจมีขึ้นมีลงถ้าหากคุณไม่ศึกษาให้ดี ฉะนั้น ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ภายใน 1-2 ปี จากการลงทุนในรูปแบบนี้อาจจะอยู่ที่ติด -100% ไปจนถึง กำไร +1,000% ก็เป็นได้ (กำไรจากการลงทุนหุ้น 10 เท่า) ขึ้นอยู่กับทักษะในการลงทุนและดวงของคุณด้วย
ความเสี่ยง : ปานกลาง - สูง
ทักษะเฉพาะทาง : จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะในการเรียนรู้จากการลงทุนหุ้นค่อนข้างสูง หรืออาจจะต้องไปเรียนเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นโดยตรง
ทักษะการตลาดการขาย : ยังไม่ต้องใช้ทักษะนี้
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 0-500,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุน : ปล่อยกู้นอกระบบ
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นหนี้ที่ผู้ให้กู้ไม่ใช่ระบบของสถาบันการเงิน หรือเป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจให้กู้เงินตามกฎหมาย มักจะคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ร้อยละ 15) โดยทั่วไปแล้ว ดูเผินๆ เหมือนการกู้เงินนอกระบบจะช่วยให้ได้เงินเร็ว และไม่ต้องชำระคืนเป็นเงินก้อนโต แต่เมื่อนึกถึงดอกเบี้ยแล้ว อาจทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 35% ต่อปีเลยก็เป็นได้ แต่ข้อเสียของการปล่อยเงินกู้ก็มีอยู่มาก เช่น ผู้กู้หนีหนี้ ดีไม่ดีคุณให้กู้ไปแล้วอาจจะไม่ได้เงินกลับคืนเลยเช่นกัน ฉะนั้น ผลตอบแทนในลักษณะนี้ก็อาจจะคล้ายคลึงกับการลงทุนหุ้น ที่ว่าจะได้รับผลตอบแทนแบบติด -100% ไปจนถึงกำลัง 100% ถ้าหากเจอลูกหนี้ดีหรือไม่เหนียวหนี้เป็นต้น
ความเสี่ยง : สูง
ทักษะเฉพาะทาง : อาจจะต้องใช้ทักษะในการเจราจาการทวงคืนเงิน เพราะผมเชื่อว่าคงมีลูกหนี้ส่วนน้อยที่จะจ่ายหนี้ให้คุณได้ตรงตามเวลา และต้องคำนวณเงินในการกู้ยืมให้เป็น
ทักษะการตลาดการขาย : ปานกลาง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 0-50,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุน : การขายของแบบออฟไลน์
สิ่งที่จะต้องลงทุนการขายของแบบออฟไลน์ : ตัวแทนสินค้า
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม่ใช่ว่า สินค้านั้นจะขายได้ทุกอย่าง ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ หรือไม่ติดตลาด เป็นตัวแทนไปก็ไร้ประโยชน์ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา การจะเลือกสินค้านั้น ควรมีเทคนิคการมองสินค้าให้ออกว่าสินค้าไหนเป็นขาขึ้นหรือขาลง ขายแล้วมีออเดอร์ปัง และสมควรที่เจะเริ่มการลงทุนให้กับสินค้านั้น ๆ ซึ่งถ้าคุณสามารถเลือกสินค้าที่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้ ฉะนั้น ค่าตอบแทนในระยะ 1-2 ปีนี้ คุณอาจมีกำไรอยู่ที่ 20-1000% ก็เป็นได้
ความเสี่ยง : ต่ำ - ปานกลาง
ทักษะเฉพาะทาง : ไม่ต้องมีก็ได้
ทักษะการตลาดการขาย : ปานกลาง - สูง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 10,000 – 50,000 บาท
สิ่งที่จะต้องลงทุนการขายของแบบออฟไลน์ : แฟรนไชส์
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การลงทุนแฟรนไชส์อะไรสักอย่างนั้น แน่นอนว่า “ผลตอบแทน” คือสิ่งสำคัญที่สุดอันดับต้น ๆ ที่คุณจะต้องทราบเพื่อคำนวณและชั่งใจดูว่า มันคุ้มค่าแค่ไหนกับการลงทุนในครั้งนี้ แล้วเงินที่คุณมีในมือ 50,000 บาท จะเพียงพอในการเปิดแฟรนไชส์ไหม?! ก็ต้องมาดูความเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมีอยู่ด้วย ดีไม่ดีคุณลงทุนซื้อแฟรนไชส์มาแล้วเกิดขายไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นว่าคุณติดหนี้โดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น ทางออกจากการที่คุณอยากลงทุนแฟรนไชส์คุณต้องแน่ใจก่อนว่าแฟรนไชส์ที่คุณซื้อมา จะสามารถดึงดูดให้คนมาสนใจมากน้อยแค่ไหน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ฉะนั้น ผลตอบแทนในระยะเวลา 1-2 ปี อาจมีเรื่องดี ๆ เข้ามา โดยมีผลกำไรอยู่ที่ 20-1000% ก็เป็นได้
ความเสี่ยง : แถมไม่มีความเสี่ยง
ทักษะเฉพาะทาง : ขึ้นอยู่กับว่าคุณลงทุนแฟรนไชส์อะไร และการบริหารจัดการร้านของคุณ
ทักษะการตลาดการขาย : ปานกลาง - สูง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 10,000 – 500,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุนการขายของแบบออฟไลน์ : MLM ขายตรง
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี :แผนการจ่ายผลตอบแทนในธุรกิจเครือข่ายหรือ MLM(Compensation Plan) หรือที่นิยมเรียกกันว่า แผนการตลาดขายตรง ระบบ MLM นั้นมีลักษณะที่สำคัญซึ่งทำให้ระบบเติบโตอย่างรวดเร็วถ้าคุณมีความชื่นชอบด้านการขาย เพราะคุณสามารถขายของได้ตามอิสระและได้รับค่าตอบแทนจากยอดขายโดยตรงของตนเอง นอกจากนี้ยังได้รับค่าตอบแทน ที่เรียกว่า Override จากยอดขายของผู้จำหน่ายอิสระที่ตนเองได้แนะนำให้เข้าร่วมธุรกิจและดาวน์ไลน์ต่อ ๆ ลงไปด้วย ซึ่งผลตอบแทนก็อาจจะสูงถ้าหากคุณมีความตั้งใจ ก็อาจจะอยู่ที่ 30-1,000% ภายใน 1-2 ปีนี้
ความเสี่ยง : ปานกลาง - สูง
ทักษะเฉพาะทาง : น้อย - สูง
ทักษะการตลาดการขาย : สูงมากเพราะคุณต้องทำทั้งยอดและหาคนมาร่วมธุรกิจของคุณให้มากที่สุด
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 15,000 – 500,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุนการขายของแบบออฟไลน์ : พ่อค้าคนกลาง
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : เป็นธุรกิจในรูปแบบซื้อมาขายไป หรือเป็นพ่อค้าที่มีกรรมสิทธิ์ในตัวสินค้า อาทิเช่น สามารถตั้งราคาขายได้ ได้แก่ ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก เช่น บริษัทผลิต OTOP บะหมี่สำเร็จรูปของชุมชน แล้วจะขายสินค้าไปยังร้านขายส่งหรือร้านขายปลีก (ห้างสรรพสินค้า) เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคคนสุดท้ายต่อไป ถือว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ่อนและมีรายได้เป็นผลค่าตอบแทนค่อนดีอยู่ที่ประมาณ 30-1000% เลยทีเดียว ถ้าหากคุณบริหารจัดการทั้งด้านการขายและการตั้งราคาเป็น
ความเสี่ยง : สูง
ทักษะเฉพาะทาง : ทักษะการเจราจา ทักษะด้านการขาย และการบริหารจัดการด้านการเงินที่สูง
ทักษะการตลาดการขาย : สูงมากเพราะคุณต้องรับผิดชอบสินค้าที่คุณรับมาแล้วถ่ายเทสินค้าให้เร็วที่สุดเป็นการลดค้างสินค้าในสต็อก
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 20,000-150,000 บาท
ดังนั้น เมื่อคุณมีเงิน 50,000 บาทแล้วอยากลงทุนแบบ offline ก็สามารถเลือกได้หลากหลายช่องทางขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคุณ และการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นยีงมีข้อดีอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือ เรามีกระแสเงินสดที่เข้ามาต่อเนื่องในทุก ๆ เดือน ทำให้สามารถวางแผนการลงทุนและออมเงินได้อย่างมีระบบ ถือว่าเป็นการสร้างวินัยในตัวเองได้ด้วย แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้เขียนขึ้นเพราะอยากให้ทุก ๆ คนลองนำเทคนิคการเลือกลงทุนแบบ Offline เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองครับ เพื่อที่จะได้มีค่าตอบแทนที่คุณหวังไว้หรือเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในอนาคตอย่างมีความสุขครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับตัวเลือกที่ว่า “เงิน 50,000 ลงทุนแบบ offline อะไรดี” ผมเชื่อว่าถ้าคุณอ่านบทความมาจนถึงตอนนี้ คุณอาจจะมีไอเดียหรือเริ่มที่อยากจะลงมือทำอะไรสักอย่างให้เป็นชิ้นเป็นอันแล้วใช่ไหมครับ สุดท้ายนี้ผมก็ขออวยพรให้คนที่อ่านบทความนี้ พบวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองนะครับ หรือถ้าใครมีข้อสงสัยหรืออยากแชร์ไอเดียอะไรในบทความนี้ สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ
สำหรับใครที่อยากได้รับอรรถรสเพิ่มมากขึ้น สามารถคลิกวีดีโอได้ตามด้านล่างนี้นะครับ
มีเงิน 50,000 ลงทุนอะไรดี - ตอนที่ 1 ลงทุนแบบ offline ปี 2021
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : บัญชีเงินฝากประจำทั่วไป โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่จะมีเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาการเบิกถอนเงินจากบัญชี โดยคุณสามารถเลือกระยะเวลาระหว่าง บัญชีฝากประจำทั่วไประยะสั้น (1-3 เดือน) หรือบัญชีฝากประจำระยะยาวที่เลือกฝากได้นานสูงสุดถึง 5 ปี ฉะนั้น ผลตอบแทนจากการฝากออมทรัพย์ในระยะเวลา 1-2 ปีนี้ก็อาจจะอยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นผลตอบแทนคงที่เลยก็ว่าได้
ความเสี่ยง : ไม่มีความเสี่ยง
ทักษะเฉพาะทาง : ธนาคารเป็นคนดูแล
ทักษะการตลาดการขาย : ยังไม่ต้องใช้ทักษะนี้
รายได้เฉลี่ยต่อปี : ถ้าหากเฉลี่ยรายได้ต่อปีก็อาจจะได้ดอกเบี้ยขึ้นมาประมาณ 1,500 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุน : กองทุน - สลาก
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : ผลตอบแทนของ “กองทุนรวม” ประกอบด้วยผลตอบแทนทางตรง คือ กำไร/ขาดทุนจากผลต่างราคาหน่วยลงทุน เงินปันผล และผลตอบแทนทางอ้อม คือ สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี ส่วน “การซื้อสลาก” จะเป็นการลงทุนในรูปแบบนี้คล้ายกับการ ฝากประจำ เพราะมีกำหนดระยะ ฝากแน่นอน เช่น 3 ปี 5 ปี และจะได้รับดอกเบี้ยแบบเดียวกับการฝากเงิน โดยที่ดอกเบี้ยก็ไม่ได้สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากมากนัก แต่ก็น่าสนใจสำหรับคนที่หวังว่าจะ “โชคดี” เพราะว่าจะได้ลุ้นรางวัลทุกเดือนเป็นของแถมและไม่ต้องเสียภาษี ฉะนั้น ถึงแม้ว่าการลงทุนจะแตกต่างกัน แต่ผลตอบแทนกับคล้ายคลึงกัน นั่นก็คือ มีความเสี่ยงน้อยมากแต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่คงที่ และอาจจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในครั้งอยู่ที่ 3-10% ในระยะ 1-2 ปี นั่นเอง
ความเสี่ยง : มีความเสี่ยงน้อยมาก
ทักษะเฉพาะทาง : ธนาคารเป็นคนดูแล
ทักษะการตลาดการขาย : ยังไม่ต้องใช้ทักษะนี้
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 1,500 – 5,000 บาท
====================================
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การลงทุนหุ้นยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่วัยทำงานหรือคนที่มีเงินเก็บ สามารถลงทุนได้ หากมีสัดส่วนการลงทุนที่ไม่มากเกินไป เพราะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหากลงทุนในระยะยาวและแม้จะมีหุ้น หลากหลายประเภท ที่น่าสนใจ แต่คุณก็ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มั่นคง ราคาไม่เปลี่ยนแปลงแบบหวือหวา เพราะอาจทำให้เงินก้อนที่คุณเก็บไว้ 50,000 บาท ของคุณลดน้อยลง เพราะการลงทุนหุ้นถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่มั่นคง อาจมีขึ้นมีลงถ้าหากคุณไม่ศึกษาให้ดี ฉะนั้น ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้ภายใน 1-2 ปี จากการลงทุนในรูปแบบนี้อาจจะอยู่ที่ติด -100% ไปจนถึง กำไร +1,000% ก็เป็นได้ (กำไรจากการลงทุนหุ้น 10 เท่า) ขึ้นอยู่กับทักษะในการลงทุนและดวงของคุณด้วย
ความเสี่ยง : ปานกลาง - สูง
ทักษะเฉพาะทาง : จำเป็นที่จะต้องใช้ทักษะในการเรียนรู้จากการลงทุนหุ้นค่อนข้างสูง หรืออาจจะต้องไปเรียนเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นโดยตรง
ทักษะการตลาดการขาย : ยังไม่ต้องใช้ทักษะนี้
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 0-500,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุน : ปล่อยกู้นอกระบบ
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นหนี้ที่ผู้ให้กู้ไม่ใช่ระบบของสถาบันการเงิน หรือเป็นผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจให้กู้เงินตามกฎหมาย มักจะคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ร้อยละ 15) โดยทั่วไปแล้ว ดูเผินๆ เหมือนการกู้เงินนอกระบบจะช่วยให้ได้เงินเร็ว และไม่ต้องชำระคืนเป็นเงินก้อนโต แต่เมื่อนึกถึงดอกเบี้ยแล้ว อาจทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 35% ต่อปีเลยก็เป็นได้ แต่ข้อเสียของการปล่อยเงินกู้ก็มีอยู่มาก เช่น ผู้กู้หนีหนี้ ดีไม่ดีคุณให้กู้ไปแล้วอาจจะไม่ได้เงินกลับคืนเลยเช่นกัน ฉะนั้น ผลตอบแทนในลักษณะนี้ก็อาจจะคล้ายคลึงกับการลงทุนหุ้น ที่ว่าจะได้รับผลตอบแทนแบบติด -100% ไปจนถึงกำลัง 100% ถ้าหากเจอลูกหนี้ดีหรือไม่เหนียวหนี้เป็นต้น
ความเสี่ยง : สูง
ทักษะเฉพาะทาง : อาจจะต้องใช้ทักษะในการเจราจาการทวงคืนเงิน เพราะผมเชื่อว่าคงมีลูกหนี้ส่วนน้อยที่จะจ่ายหนี้ให้คุณได้ตรงตามเวลา และต้องคำนวณเงินในการกู้ยืมให้เป็น
ทักษะการตลาดการขาย : ปานกลาง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 0-50,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุนการขายของแบบออฟไลน์ : ตัวแทนสินค้า
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม่ใช่ว่า สินค้านั้นจะขายได้ทุกอย่าง ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ หรือไม่ติดตลาด เป็นตัวแทนไปก็ไร้ประโยชน์ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา การจะเลือกสินค้านั้น ควรมีเทคนิคการมองสินค้าให้ออกว่าสินค้าไหนเป็นขาขึ้นหรือขาลง ขายแล้วมีออเดอร์ปัง และสมควรที่เจะเริ่มการลงทุนให้กับสินค้านั้น ๆ ซึ่งถ้าคุณสามารถเลือกสินค้าที่มั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลกำไรได้ ฉะนั้น ค่าตอบแทนในระยะ 1-2 ปีนี้ คุณอาจมีกำไรอยู่ที่ 20-1000% ก็เป็นได้
ความเสี่ยง : ต่ำ - ปานกลาง
ทักษะเฉพาะทาง : ไม่ต้องมีก็ได้
ทักษะการตลาดการขาย : ปานกลาง - สูง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 10,000 – 50,000 บาท
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : การลงทุนแฟรนไชส์อะไรสักอย่างนั้น แน่นอนว่า “ผลตอบแทน” คือสิ่งสำคัญที่สุดอันดับต้น ๆ ที่คุณจะต้องทราบเพื่อคำนวณและชั่งใจดูว่า มันคุ้มค่าแค่ไหนกับการลงทุนในครั้งนี้ แล้วเงินที่คุณมีในมือ 50,000 บาท จะเพียงพอในการเปิดแฟรนไชส์ไหม?! ก็ต้องมาดูความเหมาะสมกับงบประมาณที่คุณมีอยู่ด้วย ดีไม่ดีคุณลงทุนซื้อแฟรนไชส์มาแล้วเกิดขายไม่ดีก็อาจจะกลายเป็นว่าคุณติดหนี้โดยไม่รู้ตัว ฉะนั้น ทางออกจากการที่คุณอยากลงทุนแฟรนไชส์คุณต้องแน่ใจก่อนว่าแฟรนไชส์ที่คุณซื้อมา จะสามารถดึงดูดให้คนมาสนใจมากน้อยแค่ไหน อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ฉะนั้น ผลตอบแทนในระยะเวลา 1-2 ปี อาจมีเรื่องดี ๆ เข้ามา โดยมีผลกำไรอยู่ที่ 20-1000% ก็เป็นได้
ความเสี่ยง : แถมไม่มีความเสี่ยง
ทักษะเฉพาะทาง : ขึ้นอยู่กับว่าคุณลงทุนแฟรนไชส์อะไร และการบริหารจัดการร้านของคุณ
ทักษะการตลาดการขาย : ปานกลาง - สูง
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 10,000 – 500,000 บาท
====================================
สิ่งที่จะต้องลงทุนการขายของแบบออฟไลน์ : MLM ขายตรง
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี :แผนการจ่ายผลตอบแทนในธุรกิจเครือข่ายหรือ MLM(Compensation Plan) หรือที่นิยมเรียกกันว่า แผนการตลาดขายตรง ระบบ MLM นั้นมีลักษณะที่สำคัญซึ่งทำให้ระบบเติบโตอย่างรวดเร็วถ้าคุณมีความชื่นชอบด้านการขาย เพราะคุณสามารถขายของได้ตามอิสระและได้รับค่าตอบแทนจากยอดขายโดยตรงของตนเอง นอกจากนี้ยังได้รับค่าตอบแทน ที่เรียกว่า Override จากยอดขายของผู้จำหน่ายอิสระที่ตนเองได้แนะนำให้เข้าร่วมธุรกิจและดาวน์ไลน์ต่อ ๆ ลงไปด้วย ซึ่งผลตอบแทนก็อาจจะสูงถ้าหากคุณมีความตั้งใจ ก็อาจจะอยู่ที่ 30-1,000% ภายใน 1-2 ปีนี้
ความเสี่ยง : ปานกลาง - สูง
ทักษะเฉพาะทาง : น้อย - สูง
ทักษะการตลาดการขาย : สูงมากเพราะคุณต้องทำทั้งยอดและหาคนมาร่วมธุรกิจของคุณให้มากที่สุด
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 15,000 – 500,000 บาท
====================================
ผลตอบแทนในระยะ 1-2 ปี : เป็นธุรกิจในรูปแบบซื้อมาขายไป หรือเป็นพ่อค้าที่มีกรรมสิทธิ์ในตัวสินค้า อาทิเช่น สามารถตั้งราคาขายได้ ได้แก่ ผู้ค้าส่ง และผู้ค้าปลีก เช่น บริษัทผลิต OTOP บะหมี่สำเร็จรูปของชุมชน แล้วจะขายสินค้าไปยังร้านขายส่งหรือร้านขายปลีก (ห้างสรรพสินค้า) เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคคนสุดท้ายต่อไป ถือว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ่อนและมีรายได้เป็นผลค่าตอบแทนค่อนดีอยู่ที่ประมาณ 30-1000% เลยทีเดียว ถ้าหากคุณบริหารจัดการทั้งด้านการขายและการตั้งราคาเป็น
ความเสี่ยง : สูง
ทักษะเฉพาะทาง : ทักษะการเจราจา ทักษะด้านการขาย และการบริหารจัดการด้านการเงินที่สูง
ทักษะการตลาดการขาย : สูงมากเพราะคุณต้องรับผิดชอบสินค้าที่คุณรับมาแล้วถ่ายเทสินค้าให้เร็วที่สุดเป็นการลดค้างสินค้าในสต็อก
รายได้เฉลี่ยต่อปี : 20,000-150,000 บาท
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับตัวเลือกที่ว่า “เงิน 50,000 ลงทุนแบบ offline อะไรดี” ผมเชื่อว่าถ้าคุณอ่านบทความมาจนถึงตอนนี้ คุณอาจจะมีไอเดียหรือเริ่มที่อยากจะลงมือทำอะไรสักอย่างให้เป็นชิ้นเป็นอันแล้วใช่ไหมครับ สุดท้ายนี้ผมก็ขออวยพรให้คนที่อ่านบทความนี้ พบวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองนะครับ หรือถ้าใครมีข้อสงสัยหรืออยากแชร์ไอเดียอะไรในบทความนี้ สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ