ผู้นำคือคนที่สำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาในภาวะวิกฤติ

หลังจาก โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี เขาได้เริ่มดำเนินมาตรการเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในอเมริกาอย่างจริงจัง โดยให้คำสัญญาว่าภายใน 100 วัน หลังจากเข้ารับตำแหน่ง จะต้องมีชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีน 100 ล้านคน ภายหลังได้มีการปรับตัวเลขใหม่เป็น 200 ล้านคน เนื่องจากความคืบหน้าดีกว่าที่คาดไว้ และไบเดนก็สามารถสำเร็จในการฉีดวัคซีนให้คนอเมริกัน 200 ล้าน ก่อนกำหนด 100 วันของเขากว่าสัปดาห์

ในระหว่างที่กำลังดำเนินการฉีดวัคซีน ไบเดนก็ดำเนินการรณรงค์สื่อสารกับคนอเมริกันให้ปัองกันตัวจากวัคซีนอย่างจริงจังควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้มจนจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัดไม่นานหลังจากที่เขาเข้ารับตแหน่ง

จากที่เคยผู้กันว่าคนอเมริกันรักอิสระเสรี เอาแต่ใจ บังคับยาก ควบคุมไม่ได้ จนเป็นสาเหตุให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลก แต่พอเปลี่ยนผู้นำใหม่ที่สนใจในการแก้ปัญหาอย่างจริงจังก็สามารถหักล้างความเชื่อนั้นได้จนจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลงจนกลับไปเท่ากับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วตามกราฟที่แสดงด้านล่าง

สิ่งนี้พิสูจน์แล้วว่าการแก้วิกฤติโรคระบาดไม่ใช่กาารบอกว่ามันขึ้นอยู่ตัวประชาชนที่ต้องคอยระวังเอง จะบอกว่าถ้าประชาชนไม่ใส่ใจในเรื่องการป้องกันแล้วรัฐบาลก็จนปัญญาไม่าสามารถแก้ปัญหาได้  แต่ความจริงก็คือผู้นำจะต้องคนบริหารจัดการ สื่อสาร ทำเป็นแบบอย่างให้ประชาชน และลงมือทำอย่างจริงจัง บริหารจัดการอย่างเป็นระบบอย่างที่ไบเดนกำลังทำอยู่ในเวลานี้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่