
ขอสรุปผลการลงทุนประจำปีโดยคำนวณ กำไรขาดทุนที่ผ่านมาครับ
1. ผลกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงทั้งปี (Realized Profit & Loss)
2. ผลกำไรที่เกิดขึ้นจริงรวมกับผลกำไรขาดทุนที่ยังมีในพอร์ตหุ้นที่ยังถืออยู่ (Realized & Unrealized Profit & Loss)
เพื่อให้เห็นภาพว่า การลงทุนหุ้นที่เกิดขึ้นแล้วจริงในแต่ละปี มีผลตอบแทนการลงทุนเพิ่มขึ้นลดลงมากน้อยเพียงใด?
สำหรับพอร์ตรวมเป็นพอร์ตที่ลงทุนเองและพอร์ตการออมหุ้นรรายเดือน DCA ปรากฏว่า ....กำไร 2.48 % เป็นยอดกำไรที่ได้ขายหุ้นออกไปจริง รวมกับการคัดลอสเพื่อปรับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตหุ้นบางตัว ส่วนเงินปันผลที่ได้รับในปีนี้อยู่ที่ 2.74 % หากรวมหุ้นในพอร์ตที่ยังถืออยู่ด้วยจะขาดทุนเป็น - 0.81 % (รวมกำไรจาก 2.48 % ด้วย)
การลงทุนในหุ้นนั้น มีความเสี่ยง การเลือกลงทุนหุ้นมีทั้งกำไร และขาดทุนได้เสมอ สำหรับการลงทุนของผมในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา ก็มีกำไรทั้งกำไรและขาดทุนเช่นเดียวกัน แต่จากตัวเลขที่เก็บมาตลอดเป็นหุ้นรายตัว รวมแล้วมีกำไรมากกว่าขาดทุนประมาณ 4 เท่า โดยมีกำไร 82.15% ขาดทุน -17.85%
การเลือกหุ้นบางครั้งก็คิดว่าเลือกดีแล้ว แต่อาจจะเข้าผิดจังหวะ หรือเลือกผิดตัว ศึกษาหุ้นตัวนั้นๆไม่ดีเพียงพอ หรือพื้นฐานเปลี่ยนแปลงเร็ว หรือบางครั้งเห็นว่าเป็นโอกาสดีกว่าหากเปลี่ยนตัวหุ้นเป็นตัวอื่น บางครั้งก็ผมก็ยอมคัทลอสครับ (แต่ไม่บ่อย) การยื้อไม่ยอมคัทลอส ไม่ขายไม่ขาดทุน บางครั้งกลับมารู้ตัวอีกทีว่าไม่ฟื้นแล้ว ก็ติดลบมากมายเกินแก้แล้ว ก็ต้องทำใจคัทลอสครับ
สำหรับพอร์ตรวมที่ซื้อขายเองรวมพอร์ตออมหุ้นรายเดือน DCA มีทั้งสิ้น 20 ตัว โดยให้น้ำหนักการลงทุนใน 9 หุ้นหลัก คิดเป็นประม่ณ 75 % ของพอร์ต
ส่วนหุ้นในพอร์ตออมรายเดือนมีหุ้น DCA 11 ตัว แต่เน้นลงทุนหลักๆแค่ 5-6 ตัว คิดเป็นประมาณ 75 % ของพอร์ตทั้งหมด

การออมหุ้นช่วง 14 เดือน ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติไวรัสโควิด 19 ผมก็ได้เริ่มจัดพอร์ตการลงทุนออมหุ้นใหม่ เพราะพอร์ตก่อนหน้าได้ตัดสินใจขายทำกำไรไปก่อนที่หุ้นไทยจะตก
สำหรับช่วงนี้เกิดวิกฤติไวรัส โควิด 19 หลายคนก็ถอยห่าง กลัวซื้อแล้วลงต่ออีก...กลัวซื้อแพง? มองไม่เห็นอนาคตของหุ้นถ้าซื้อตอนนี้? กว่าตลาดหุ้นจะฟื้นอีกนาน?....??? แต่สำหรับผม ...ผมคิดว่าวิกฤติแบบนี้เป็นโอกาสที่เหมาะกับการออมหุ้นมากที่สุด... เพราะอะไร???
1. หุ้นในตลาดลงมามากเกินกว่าพื้นฐานปรกติ 30-40 % หลายๆตัวราคานี้หาซื้อไม่ได้ในช่วงปรกติ ราคากลับไปย้อนหลัง2-3 ปีก่อน?? หากทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ราคาหุ้นจะต้องค่อยๆกลับมาอยู่ที่ราคาก่อนเกิดวิกฤติ??
หุ้นหลายๆตัวได้มีการขยายงาน ลงทุนเพิ่มแล้ว รอเก็บเกี่ยวผลกำไรด้วยซ้ำ แต่ราคากลับลดลง หรือได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขยายสาขา...??? รายได้กำลังจะเติบโต กำไรกำลังจะเพิ่มขึ้น??
จึงเป็นโอกาสดีที่จะออมหุ้นในช่วงที่หุ้นราคาถูกๆ และยิ่ง COVID ยืดเยื้อ เราก็สามารถออมหุ้นถูกๆ ดีๆ ได้นานมากขึ้น (ไม่ได้อยากให้โควิดอยู่นานๆนะครับ แต่มองว่า ออมหุ้นราคาถูกได้นาน ก็ได้หุ้นราคาถูกเพิ่ม สุดท้ายวิกฤตินี้ก็ต้องจบอย่างแน่นอน คงไม่นานเกินรอ หุ้นที่เรา DCA ก็จะเริ่มกลับมาสร้างผลตอบแทนที่ดีให้เราได้ (ผมมองว่าวิกฤติเป็นโอกาสในการออมหุ้นครับ?)
2 . การออมหุ้นรายเดือน DCA เป้นการลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว มิได้หวังผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ แค่ปี หรือ สองปี แต่ควรหวังผลตอบแทนในระยะยาว 5 ปีขึ้นไป วิกฤตินี้จึงมิได้ส่งผลกับผลตอบแทนในระยะยาวของเราแต่อย่างใด แค่ทนรอทุกอย่างให้กลับมาดำเนินกิจการได้ตามปรกติ หุ้นก็จะกลับมาเติบโตได้อย่างแน่นอน และอาจจะเติบโตแบบก้าวกระโดด้วยซ้ำ สำหรับบางธุรกิจ??? จึงเหมาะกับการออมหุ้นช่วงวิกฤติเป็นอย่างยิ่ง?? และหากฟื้นตัวช้า ก็ทำให้เรามีเวลาออมหุ้นถูกๆได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ( มองบวก )
3. สิ่งสำคัญคือต้องเลือกหุ้นที่จะออมให้ถูกตัว บางกิจการ อาจจะถดถอยลงไปเลย (ไม่ฟื้น หรือฟื้นช้า) แต่บางกิจการจะฟื้นกลับมาได้เร็ว แต่ต้องเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี มั่นคง เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินปันผลทุกปี รายได้ปรกติมีสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนขึ้นๆลงๆ ตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก
สำหรับการออมหุ้นช่วง 14 เดือนที่ผ่านมาของผม ก็มีทั้งช่วงพอร์ตรวมบางไตรมาสก็มีกำไร และขาดทุนคละกันไป พอร์ตปลายปีที่แล้วยังขาดทุนอยู่ แต่พอมีวัคซีนทยอยฉีดกันมากขึ้น หุ้นก็เริ่มกลับฟื้นไข้มาบ้าง เพราะนักลงทุนมองว่าเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงกันแล้ว ก็หวังว่าคงอีกไม่นาน กิจการต่างๆที่ขาดทุน ก็จะเริ่มฟื้นคืนมาได้ ตามพื้นฐานของกิจการต่างๆ ทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ พอร์ตกลับมามีกำไร 8.34 % และ บวกกับเงินปันผลอีก 1 % ก็ทำให้ได้ผลตอบแทนในไตรมาสแรกประมาณ 9.34 % ครับ
สำหรับพอร์ตหุ้น DCA ก็มีหุ้น และสัดส่วนการลงทุนดังนี้
หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 5
หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 15
หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 25
พอร์ตรวม 3 พอร์ต รวม 14 เดือน
แต่หลังจากเจอโควิดระบาดรอบที่ 3 ระบาดหนักกว่าทุกรอบ หุ้นหลายตัวรูดกลับ แล้วค่อยๆฟื้นกลับมา ทำให้กำไรี่เห็นแส
สว่างปลายอุโมง กลับมืดลงอีกรอบ แต่ก็เริ่มทรงๆ ก็คงต้องรอฟ้าใสที่จะมาเยือนอีกรอบครับ
ผมการลงทุนวันที่ 20 เมษายน 2564 เป็นดังนี้
ถ้าอ่านแล้วชอบ ...อยากให้เพื่อนคนอื่นได้อ่านด้วย ...ช่วยกด " + " หน้ากระทู้ให้ด้วยนะครับ
เพื่อไม่ให้กระทู้ไหลลงไปเร็วจนเกินไป ท่านที่มาทีหลังจะได้มองเห็นกระทู้ครับ
ปีนี้กระทู้ในสินธร ไหลลงเร็วมาก เพราะมีผู้โพสคุยกันเยอะมากครับ


แชร์ DCA 14 เดือน ในวิกฤติโควิด 19 เห็นแสงสว่างปลายอุโมงแล้ว ... แต่มาเจอพายุโควิดรอบ 3 อีก "ฝุ่นยังตลบอยู่!!! "
ขอสรุปผลการลงทุนประจำปีโดยคำนวณ กำไรขาดทุนที่ผ่านมาครับ
1. ผลกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงทั้งปี (Realized Profit & Loss)
2. ผลกำไรที่เกิดขึ้นจริงรวมกับผลกำไรขาดทุนที่ยังมีในพอร์ตหุ้นที่ยังถืออยู่ (Realized & Unrealized Profit & Loss)
เพื่อให้เห็นภาพว่า การลงทุนหุ้นที่เกิดขึ้นแล้วจริงในแต่ละปี มีผลตอบแทนการลงทุนเพิ่มขึ้นลดลงมากน้อยเพียงใด?
สำหรับพอร์ตรวมเป็นพอร์ตที่ลงทุนเองและพอร์ตการออมหุ้นรรายเดือน DCA ปรากฏว่า ....กำไร 2.48 % เป็นยอดกำไรที่ได้ขายหุ้นออกไปจริง รวมกับการคัดลอสเพื่อปรับเปลี่ยนหุ้นในพอร์ตหุ้นบางตัว ส่วนเงินปันผลที่ได้รับในปีนี้อยู่ที่ 2.74 % หากรวมหุ้นในพอร์ตที่ยังถืออยู่ด้วยจะขาดทุนเป็น - 0.81 % (รวมกำไรจาก 2.48 % ด้วย)
การลงทุนในหุ้นนั้น มีความเสี่ยง การเลือกลงทุนหุ้นมีทั้งกำไร และขาดทุนได้เสมอ สำหรับการลงทุนของผมในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา ก็มีกำไรทั้งกำไรและขาดทุนเช่นเดียวกัน แต่จากตัวเลขที่เก็บมาตลอดเป็นหุ้นรายตัว รวมแล้วมีกำไรมากกว่าขาดทุนประมาณ 4 เท่า โดยมีกำไร 82.15% ขาดทุน -17.85%
การเลือกหุ้นบางครั้งก็คิดว่าเลือกดีแล้ว แต่อาจจะเข้าผิดจังหวะ หรือเลือกผิดตัว ศึกษาหุ้นตัวนั้นๆไม่ดีเพียงพอ หรือพื้นฐานเปลี่ยนแปลงเร็ว หรือบางครั้งเห็นว่าเป็นโอกาสดีกว่าหากเปลี่ยนตัวหุ้นเป็นตัวอื่น บางครั้งก็ผมก็ยอมคัทลอสครับ (แต่ไม่บ่อย) การยื้อไม่ยอมคัทลอส ไม่ขายไม่ขาดทุน บางครั้งกลับมารู้ตัวอีกทีว่าไม่ฟื้นแล้ว ก็ติดลบมากมายเกินแก้แล้ว ก็ต้องทำใจคัทลอสครับ
สำหรับพอร์ตรวมที่ซื้อขายเองรวมพอร์ตออมหุ้นรายเดือน DCA มีทั้งสิ้น 20 ตัว โดยให้น้ำหนักการลงทุนใน 9 หุ้นหลัก คิดเป็นประม่ณ 75 % ของพอร์ต
ส่วนหุ้นในพอร์ตออมรายเดือนมีหุ้น DCA 11 ตัว แต่เน้นลงทุนหลักๆแค่ 5-6 ตัว คิดเป็นประมาณ 75 % ของพอร์ตทั้งหมด
การออมหุ้นช่วง 14 เดือน ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติไวรัสโควิด 19 ผมก็ได้เริ่มจัดพอร์ตการลงทุนออมหุ้นใหม่ เพราะพอร์ตก่อนหน้าได้ตัดสินใจขายทำกำไรไปก่อนที่หุ้นไทยจะตก
สำหรับช่วงนี้เกิดวิกฤติไวรัส โควิด 19 หลายคนก็ถอยห่าง กลัวซื้อแล้วลงต่ออีก...กลัวซื้อแพง? มองไม่เห็นอนาคตของหุ้นถ้าซื้อตอนนี้? กว่าตลาดหุ้นจะฟื้นอีกนาน?....??? แต่สำหรับผม ...ผมคิดว่าวิกฤติแบบนี้เป็นโอกาสที่เหมาะกับการออมหุ้นมากที่สุด... เพราะอะไร???
1. หุ้นในตลาดลงมามากเกินกว่าพื้นฐานปรกติ 30-40 % หลายๆตัวราคานี้หาซื้อไม่ได้ในช่วงปรกติ ราคากลับไปย้อนหลัง2-3 ปีก่อน?? หากทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ราคาหุ้นจะต้องค่อยๆกลับมาอยู่ที่ราคาก่อนเกิดวิกฤติ??
หุ้นหลายๆตัวได้มีการขยายงาน ลงทุนเพิ่มแล้ว รอเก็บเกี่ยวผลกำไรด้วยซ้ำ แต่ราคากลับลดลง หรือได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขยายสาขา...??? รายได้กำลังจะเติบโต กำไรกำลังจะเพิ่มขึ้น??
จึงเป็นโอกาสดีที่จะออมหุ้นในช่วงที่หุ้นราคาถูกๆ และยิ่ง COVID ยืดเยื้อ เราก็สามารถออมหุ้นถูกๆ ดีๆ ได้นานมากขึ้น (ไม่ได้อยากให้โควิดอยู่นานๆนะครับ แต่มองว่า ออมหุ้นราคาถูกได้นาน ก็ได้หุ้นราคาถูกเพิ่ม สุดท้ายวิกฤตินี้ก็ต้องจบอย่างแน่นอน คงไม่นานเกินรอ หุ้นที่เรา DCA ก็จะเริ่มกลับมาสร้างผลตอบแทนที่ดีให้เราได้ (ผมมองว่าวิกฤติเป็นโอกาสในการออมหุ้นครับ?)
2 . การออมหุ้นรายเดือน DCA เป้นการลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว มิได้หวังผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ แค่ปี หรือ สองปี แต่ควรหวังผลตอบแทนในระยะยาว 5 ปีขึ้นไป วิกฤตินี้จึงมิได้ส่งผลกับผลตอบแทนในระยะยาวของเราแต่อย่างใด แค่ทนรอทุกอย่างให้กลับมาดำเนินกิจการได้ตามปรกติ หุ้นก็จะกลับมาเติบโตได้อย่างแน่นอน และอาจจะเติบโตแบบก้าวกระโดด้วยซ้ำ สำหรับบางธุรกิจ??? จึงเหมาะกับการออมหุ้นช่วงวิกฤติเป็นอย่างยิ่ง?? และหากฟื้นตัวช้า ก็ทำให้เรามีเวลาออมหุ้นถูกๆได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ( มองบวก )
3. สิ่งสำคัญคือต้องเลือกหุ้นที่จะออมให้ถูกตัว บางกิจการ อาจจะถดถอยลงไปเลย (ไม่ฟื้น หรือฟื้นช้า) แต่บางกิจการจะฟื้นกลับมาได้เร็ว แต่ต้องเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี มั่นคง เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินปันผลทุกปี รายได้ปรกติมีสม่ำเสมอ ไม่ผันผวนขึ้นๆลงๆ ตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก
สำหรับการออมหุ้นช่วง 14 เดือนที่ผ่านมาของผม ก็มีทั้งช่วงพอร์ตรวมบางไตรมาสก็มีกำไร และขาดทุนคละกันไป พอร์ตปลายปีที่แล้วยังขาดทุนอยู่ แต่พอมีวัคซีนทยอยฉีดกันมากขึ้น หุ้นก็เริ่มกลับฟื้นไข้มาบ้าง เพราะนักลงทุนมองว่าเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงกันแล้ว ก็หวังว่าคงอีกไม่นาน กิจการต่างๆที่ขาดทุน ก็จะเริ่มฟื้นคืนมาได้ ตามพื้นฐานของกิจการต่างๆ ทำให้ในไตรมาสแรกของปีนี้ พอร์ตกลับมามีกำไร 8.34 % และ บวกกับเงินปันผลอีก 1 % ก็ทำให้ได้ผลตอบแทนในไตรมาสแรกประมาณ 9.34 % ครับ
สำหรับพอร์ตหุ้น DCA ก็มีหุ้น และสัดส่วนการลงทุนดังนี้
หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 5
หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 15
หุ้นที่ DCA ทุกวันที่ 25
พอร์ตรวม 3 พอร์ต รวม 14 เดือน
แต่หลังจากเจอโควิดระบาดรอบที่ 3 ระบาดหนักกว่าทุกรอบ หุ้นหลายตัวรูดกลับ แล้วค่อยๆฟื้นกลับมา ทำให้กำไรี่เห็นแส
สว่างปลายอุโมง กลับมืดลงอีกรอบ แต่ก็เริ่มทรงๆ ก็คงต้องรอฟ้าใสที่จะมาเยือนอีกรอบครับ
ผมการลงทุนวันที่ 20 เมษายน 2564 เป็นดังนี้
ถ้าอ่านแล้วชอบ ...อยากให้เพื่อนคนอื่นได้อ่านด้วย ...ช่วยกด " + " หน้ากระทู้ให้ด้วยนะครับ
เพื่อไม่ให้กระทู้ไหลลงไปเร็วจนเกินไป ท่านที่มาทีหลังจะได้มองเห็นกระทู้ครับ
ปีนี้กระทู้ในสินธร ไหลลงเร็วมาก เพราะมีผู้โพสคุยกันเยอะมากครับ