[SR] 3 คืน 4 วัน กับความอัศจรรย์ของเมืองตราด

กระทู้รีวิว

เที่ยวไทย โฮมสเตย์ ภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ

สวัสดีครับ ผมชื่อโช และนี่คือโครงการดีๆจาก ททท. และ pantip ที่ผมได้รับโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรม กระทู้นี้ถือเป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่ผมได้พบเจอมาในช่วงเวลา 3 คืนกับอีก 4 วันในเดือนมีนาคมที่เริ่มเข้าสู่หน้าร้อนของประเทศไทย

ออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นแค่ "ผู้ติดตาม" เท่านั้นฮะ ผู้ที่ได้รับคัดเลือกในครานี้คือเพื่อนของผม ดังนั้น รายละเอียดต่างๆของแคมเปญดีๆครั้งนี้ ผมไม่ทราบรายละเอียดเลยซักกะผีก และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้น รบกวนขอให้อ่านรายการข้างล่างนี้เพื่อคลายความสงสัยของคุณผู้อ่านด้วยเน่อ

- ค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ที่พัก หรือกิจกรรมต่างๆ สารภาพว่าผมไม่ทราบเลยฮะ ( เป็น FREE TRIP สำหรับทุกคน )
- การเดินทางไปยังจุดต่างๆ เรามีรถตู้และเรือส่วนตัว ดังนั้น ผมจึงแนะนำให้ไม่ได้จริงๆว่าต้องขึ้นรถที่ไหน ต่อเรือยังไง เริ่มจากจุดไหนถึงจะดีที่สุด ( อันที่จริงทีมงานเค้าก็บอกนะครับ แต่น่าตีตรงผมเป็นนักเรียนหลังห้องที่ไม่ค่อยฟังคุณครูพูด แหะแหะ )
- สมมติว่ามีเพื่อนๆหลงมาอ่าน พลันเกิดความสงสัยขึ้นมาในหัวใจ และหากผมไม่สามารถตอบได้ ต้องขอโทษขอโพยกันล่วงหน้าไว้ตั้งแต่เนิ่นๆนี้เลย ( แต่เอาเป็นว่าผมจะพยายามถามทางทีมงานให้อย่างสุดความสามารถก่อนก็แล้วกัน )

- เข้าเรื่องกันแบบห้วนๆ ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่เรื่องราวของเมืองตราดอย่างเป็นทางการ ณ บัดนี้

วันพุธที่ 24 มีนาคม 2564

ผมออกเดินทางจากระยองบ้านเกิดเข้าสู่เมืองหลวง เพื่อตั้งต้นออกเดินทางพร้อมเพื่อนสมาชิกอีก 8 คนในรุ่งสางของวันพฤหัสบดี คืนนั้นผมพักที่ อพาร์ทเมนท์แถวสะพานหัวช้าง อันที่จริงก็ไม่เกี่ยวกับทริปนี้ แต่ไหนๆพิมพ์แล้วก็ถือว่าอ่านๆไปเอาบุญนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม 2564

#ตราดไม่ไกลอย่างที่คิด ครับ แต่มันไกลมากกว่าที่คิด! ผมอยู่ระยอง แต่ต้องนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ ก่อนจะย้อนกลับไปยังปลายทางที่อยู่ทิศเดียวกับเมืองเกิด คุณผู้อ่านลองนึกภาพเอา เหมือนอยู่เมืองหลวง แล้วคุณขับรถไปเขาใหญ่ ก่อนที่จะย้อนกลับมาที่สมุทรสาครอีกครั้ง ( ผมหยอกเล่นนะฮะทีมงาน ทริปหน้าอย่าตัดผมทิ้งนะ )
เริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญที่สำนักงานใหญ่ของ ททท. เวลา 06.30 โดยประมาณ ผมออกเดินทางจากตึกหลังโตนั่นด้วยความตื่นเต้น และสิ่งที่ผมประทับใจมากตั้งแต่เริ่มทริป นอกจากรถตู้สีแดงสดที่มองจากระยะ 500 เมตรก็ต้องจำได้ ยังมีหมวกบักเก็ตน้องเพี้ยนที่คุณต้องแลกพอยท์ถึง 5,990 พอยท์!ถึงจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของมาให้แบบฟรีๆ แบบนี้จะไม่ให้รักทีมงานได้ยังไงเนอะ

มื้อแรกของพวกเราครับ ตามนี้เลย

5 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก เราเดินทางมาถึงร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองตราด แน่นอนว่าตรงกับเที่ยงวันซึ่งเป็นเวลาที่พยาธิในท้องผมกำลังร่ำร้องด้วยความหิวโหยอย่างพอดิบพอดี ทีมงานกระซิบดังๆว่าร้านนี้ "ห้ามพลาด" จริงๆสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน
เจ้าของร้านมีชื่อว่า "พี่ละเอียด" ( หากจำผิดน้องขออภัยด้วยนะพี่ ) ร้านนี้มีสตอรี่ที่ยาวนาน หากเพื่อนๆอยากฟัง...ครับ ถามพี่เค้าเองเลย นกดื่มชา

บรรยากาศโดยรวมเป็นร้านอาหารกลางน้ำครับ และสิ่งที่ "ขึ้นชื่อ" ของร้านนี้ไม่ใช่ "นาย" หรือ "นางสาว" แต่คือกิจกรรมการให้อาหาร "เหยี่ยวแดงคอขาว" นั่นเอง เพื่อนๆจะได้เห็นเหยี่ยวท้องถิ่นนับร้อยโผบินกลางอากาศกันพัลวันเพื่อแย่งกินอาหารที่พี่ละเอียดนำไปให้ เป็นภาพที่หาดูได้ที่นี่ที่เดียวนะฮะ นอกจากนั้น ปรากฏการณ์ครั้งนี้ยังมีที่มาที่ไปอีกเช่นเคย ครับ...ผมไม่บอก ต้องไปฟังกับตัวๆ แพลบๆ

อ่ะ อย่ารีรอ รับชมบรรยากาศกันดีกว่า

น้องคนนี้ปีกหัก บินไม่ได้ครับ ขี้แง

เอารูปเหล่าสมาชิกไปดูบ้าง เดี๋ยวพวกเค้าจะน้อยใจแล้วไม่พาผมไปร่วมทริปอีก

มาถึงอาหารมื้อนี้กันบ้าง เมนูขึ้นชื่อสุดๆของที่นี่ เค้ามีชื่อว่าปลาอะไรน้า...ปลา...อ่า จำไม่ได้ครับ ต้องขอโทษจริงๆฮะ พี่ละเอียดเคลมว่าเนื้อของมันอร่อยกว่าปลากะพงเสียอีก เสียดายที่ผมเองก็นั่งยันให้ไม่ได้ เนื่องจากผมม่ายบริโภคปลานั่นเอง ซอรี่น้า ขี้แง

ตะวันคล้อยบ่าย แสงอาทิตย์เริ่มลดทอนความร้อนแรงลงไป 37.189% เราออกเดินทางกันต่อ และจุดหมายปลายทางต่อไปคือ "บ้านไม้รูด" หมู่บ้านชาวประมงอีกแห่งนึงของภาคตะวันออก หากเพื่อนๆมีคำถามว่า เอ๊ะ แล้วมันไกลจากร้านอาหาร "คนพลัดถิ่น" มั้ยนะ? ตอบดังๆเลยว่าจำไม่ได้ครับ ผมหลับตลอดทาง พ่นน้ำหมาก

บ้านไม้รูดเป็นหมู่บ้านที่ตั้งติดอยู่ริมแม่น้ำ ระยะทางจากการคะเน ผมว่าน่าจะตกที่ 975 เมตร กับอีก 78 เซ็นติเมตร ที่นี่มีอาหารทะเลสดๆขาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำเต้า ปู ปลา คุณผู้อ่านสามารถซื้อไปเป็นของฝากได้ วงเล็บว่าถ้าไม่บูดไม่เสียไปก่อนนะครับ

อ่า ไหนๆมาแล้วก็ขอชักภาพร่วมกับที่นี่ซักหน่อย

ถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยว่าร้อนรึเปล่านะ? ผมตอบเลยว่า "ไหม้!"

พื้นที่ด้านหลังเป็นป่าโกงกางขนาดใหญ่ ผมมีเวลาเดินสำรวจได้ไม่นานก็มีอันต้องรีบเดินทางกลับ จำได้เลยว่าตอนนั้นเวลา 16.37.15 คนอะไรมีความจำดีขนาดนี้ก็ไม่รู้ ( แต่ชื่อปลาจำไม่ได้นะ! )

เมื่อต่างก็ร้อนแดดกันได้ที่ พวกเราก็เดินทางกลับที่พักของคืนนี้กันอย่างฉับไว ก่อนออกจากบ้านไม้รูด ขอบอกว่าอาหารทะเลที่นี่สดมากนะครับ โดยเฉพาะ "ปู" และ "กั้ง" ยังไงแวะมาแล้วอยากให้ได้ลองลิ้มและชิมรสกัน เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่บอกฮะ

สิ่งที่ผมเสียดายที่สุดในวันแรก คือท้องฟ้าที่หม่นหมอง ( แต่ร้อนเหมือนเดิมนะ! ) ผมก็เลยถ่ายรูปไม่สนุกซักเท่าไร ก่อนถึงที่พัก ทางทีมงานก็พาพวกเราแวะกันที่หาดแห่งนึงก่อน อย่างที่คุณผู้ชมเดา ครับ ผมจำชื่อหาดไม่ได้อีกเช่นเคย ขี้แง

หลังจากที่สนุกสนานกันมาทั้งวัน พวกเราก็เดินทางมาถึงที่พักแรกของทริปนี้ "บ้านทะเลภู รีสอร์ท" ที่นี่เป็นทั้งห้องพัก เป็นทั้งร้านอาหาร ที่สำคัญคือติดทะเลด้วย ห้องพักสะอาดครับ กว้างมาก ห้องที่ผมนอนมีเตียง 2 เตียงตั้งอยู่ และผมมักจะเกิดความสงสัยทุกที ตกลงมันเรียกว่า "เตียงเดี่ยว" หรือว่ามันคือ "เตียงคู่" กันแน่นะ เพื่อนๆคนไหนรู้ช่วยบอกทีฮะ

ในที่สุดก็ได้เวลาของมื้อเย็นเสียที ผมที่หิวโหยมานานก็เริ่มมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ อาหารขึ้นชื่อของภาคตะวันออก แน่นอนว่าเป็นอาหารป่าครับ ทุ๊ย! มันต้องเป็นอาหารทะเลสิ! ติดกันจนตัวดำปี๋ขนาดนี้เนอะ และนี่คือเมนูของมื้อนี้ครับ

- ขนมจีบปู อร่อยมั่ก
- ผักน้ำพริกปู ( มั้งนะ) อร่อยมั่กๆ
- พะโล้หมูใส่ถั่วลิเณร แฮ่! ถั่วลิสง ( ไม่รู้ว่าใช่รึเปล่าด้วย กลัวไปเปลี่ยนชื่อเมนูเค้าอีก )
- ปลากะพงทอดราดน้ำปลา อร่อยมั่กๆๆ
- กุ้งแม่น้ำทอดหรือย่างเกลือซักอย่างฮะ อร่อย X7
- กั้งทอดกระเทียม อร่อย X8
- กั้งผัดฉ่า อร่อย X9
- ปูนึ่ง อันนี้ไม่ได้รับประทานฮะ ขี้เกียจแพะ...แกะสิ! หยอกเย้า