ทำงานกับคนที่ไม่ฟังความเห็นใคร งานกลุ่ม

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ
กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ตอนนี้สับสนมีเรื่องอยากจะสอบถาม คือเรื่องมีอยู่ว่า เราย้ายคณะมาตอนปี 2 เลยไม่ได้มีเพื่อนเป็นกลุ่มเเก๊งค์เพราะย้ายมาคนเดียว เเต่พอทำงานกลุ่มเราก็เข้ากับเพื่อนๆได้ดีไม่มีปัญหาเเต่ส่วนมากเป็นเราที่เเบกงานก็มีเบื่อ เเต่ก็ต้องทำเพื่อคะเเนนเพราะเราเป็นคนข้างจริงจังในการทำงาน จนมาเจอเหตุการณ์ล่าสุด คือมีคนคนนึงเราให้ชื่อว่า B มาชวนเราเข้ากลุ่ม เราก็โอเคเพราะกลุ่มล่าสุดเพื่อนอีกคนไม่ช่วยเราทำงานเลย เราเลยตัดสินใจตอบตกลงที่จะอยู่กลุ่มเดียวกับ B จนกระทั่งมาถึงวันที่ต้องคุยงานก็คอลกันเเล้วก็คุย ในกลุ่มจะมี 3 คน รวมเราก็ 4 มี A ที่เป็นผู้หญิง เเละ Bกับ C ที่เป็นผู้ชาย 3 คนนี้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมาอยู่เเล้วเราก็เหมือนสมาชิกใหม่ของกลุ่ม ครั้งเเรกที่คอลคุยกันเรื่องงาน เรา B เเละ C ก็ออกความเห็นเเบบนู้นเเบบนี้ เเต่ที่เรารู้สึกไม่ชอบใจเพราะ A ทำตัวเป็นคนตัดสินความคิดเห็นคนอื่น เช่น เราว่าเเบบนั้นดีนะ เอาเเบบนั้น เราว่าเเบบนี้ดีนะ เอาเเบบนี้ จากที่จริงเเล้วงานกลุ่มก็ต้องปรึกษา โหวต รวมความเห็นกันว่าเเบบนั้นดีไหม เอาเเเบบนี้ดีไหม เเต่ A กลับทำหน้าที่เป็นคนตัดสินทั้งหมด จนถึงเรื่องนึงที่เราเห็นต่างกับ A เราเลยบอกว่างั้นโหวตดีไหม เเต่ A กลับบอกว่าไม่ต้องโหวตก็เอาอันที่ดีที่สุดเเล้วสรุปก็จบด้วยการที่ A เอาไอเดียของ A ไปใช้ในงาน ถึงตอนนั้น เราจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ ไม่ใช่เพราะว่าไอเดียเราไม่ได้ถูกนำไปใช้ เเต่เป็นเพราะว่าเรารู้สึกว่า A ไม่ค่อยรับฟังใครนอกจากตัวเอง ตัดสินทุกคอมเมนต์โดยใช้ความคิดตัวเองเป็นฐาน ไม่มีการระดมสมองในกลุ่ม A ว่าไงเพื่อนอีกสองคนก็ว่าตาม เเต่เราก็ไม่อยากเรื่องมากเพราะมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น เราก็ทำงานในส่วนของเราเเล้วเราก็บอกว่าเราจะทำพาวเวอร์พ้อยส์ให้นะ ทุกคนก็โอเค เเล้วจากการคอลพูดคุยครั้งนั้น A ก็เป็นคนจดรายละเอียดว่างานเป็นอย่างไรรายละเอียดเป็นเเเบบไหนจากการคุยงานเเล้วส่งมาในไลน์ให้ทุกคนเพิ่มเติมได้ จนมาถึงวันก่อนพรีเซ้นท์งาน 2 วันตอนค่ำๆ A ส่งสคริปต์มาที่จะพรีเซ้นท์งานเเล้วต้องเอาข้อมูลนี้ไปใส่ในพาวเวอร์พ้อยส์ เเล้ว A ก็จัดเเจงงานให้ เราทำพาวเวอร์พ้อยส์เเล้ว C ช่วย ส่วน B มีหน้าที่ตรวจทานสคริปต์ เเล้วเราก็บอกว่าเดี๋ยวเราทำพาวเวอร์พอยส์เองเพราะถ้าทำ 2 คนมันจะยุ่งยาดเพราะมันต้องเเย่งไฟล์กันไปมา ทุกคนก็โอเค เเต่พอเรามานั่งอ่านสคริปต์เเล้วลองพูด เราคิดว่ามันค่อนข้างมีเเต่น้ำ ไม่ค่อยมีเนื้อเลยซึ่งน้ำมันเยอะจนทำให้สอ่งที่พูดมันก็เยอะไปในความคิดเรา อาจารย์ให้เวลาพรีเซ้นท์ 10 นาที ถ้าไม่ถึงอาจารย์ไม่หักคะเเนนเเต่ถ้าเกินหักคะเเนน เราเลยพิมพ์ไปในไลน์ว่า

เรา “เราว่าสคริปต์มันเยิ่นเย้อไปนะ เรากลัวคนฟังจะเบื่อ”

A “ 1.ไม่เยิ่นเย้อก็ไม่ถึง 15 นาที”

เรา “ อ.ให้เวลาไม่เกิน 15 นาทีเเต่ไม่จำเป็นต้องถึงก็ได้ ถ้าเกินอ่ะ โดนหัก เหมือนครั้งที่เเล้ว เเต่เราไม่ต้องเอาน้อยมากอ่ะ”

A “2. การ pitching คือการเล่าเรื่องไม่ใช่พรีเซนต์เอาแบบขายตรงเหมือนขอเงินคนอื่นถ้าไม่พรีเซนต์แบบนี้จะแนวไหนว่ามา/จะขายตรงกับฟรีเป็นแบบลูเลทหรอ/คนอื่นว่าไง”

B “สคริปต์เดิมไม่ขัดเเต่ถ้ามีความเห็นที่ดีกว่านี้ก็โอเค”

A ”กลุ่มเราไม่ได้โดนหักคะแนนน่ะได้เต็มทุกช่องยกเว้นคะแนนเสื้อผ้าเพราะทำตามโจทย์ของอาจารย์เป๊ะ/ไม่ติดนะถ้าจะเอาแบบอื่นแต่ทำเลยยังไม่ได้ลองพูดเลยด้วยซ้ำว่ากี่นาทีเวลาเราเรียนน่ะนะเราเขียนเป็นภาษาพูดออกมาจะพูดจริงจะย่อก็แล้วแต่แล้วที่สำคัญนะเราส่งสคริปต์ให้คนที่ทำสตาร์ทอัพจริงๆดูเค้าบอกว่าโอเคแล้ว”

เรา “ คือเราลองอ่านแล้วลองพูดแล้วเลยบอกว่ามันยืดเยอะไม่ได้แค่อ่านอย่างเดียวเราไม่ได้ว่ากลุ่มแก้ครั้งก่อนว่าได้เท่าไหร่อะไรยังไงไม่ได้เอามาเปรียบเทียบกันแค่ออกความคิดเห็นไงเพราะ. มุ่งหมายเราก็อย่างเดียวกันคืออยากได้คะแนนดี”

A “หืม? เเกจะพูดคนเดียวหมดทั้งสไลด์เลยอ่อ?
พาร์ทใครพาร์ทมัน ย่อตรงไหนก็ย่อสิ งงใจนะ”

เรา “ ไม่ใช่”

A “ เเก้มาเลยจ้ะ ถ้างั้น ทำเลยๆ ถ้ารู้งี้นะ เขียนแต่เอาท์ไลน์จบใครอยากพูดอะไรก็พูดไปเลยนี่เขียนแบบแทบจะป้อนข้าวเข้าปากแล้วไปย่อมาเลยหรืออยากจะเขียนใหม่ก็ได้ “

เรา “ ความหมายของเราก็คืออ่านเนื้อหาแล้วมันยืดเยื้อไงลองพูดแล้วมันยืดเยื้อมันจะส่งผลต่อคะแนนเราไงไม่เกี่ยวว่าใครจะพูดเราก็ออกความคิดเห็นว่าเออมันแบบนี้นะแบบนี้นะเพราะเราก็เป็นสมาชิกกลุ่มคนนึงเหมือนกันถ้าไอเดียเราไม่โอเคก็ปรับแก้กันได้แกไม่เห็นต้องพูดจาแบบนี้เลยไงเราก็แค่แสดงความคิดเห็นเฉยเฉยยังไม่ได้ทำอะไรเลย”


มาถึงตรงนี้เราต้องชี้เเจงก่อนว่าสคริปต์ A เป็นคนทำเองโดยไม่ได้ปรึกษาใครเลย ในความคิดเราเหมือน A พูดเพื่อ Show off ว่าครั้งก่อนเราได้เต็มนะ ครั้งนี้ก็เช่นกันเพราะฉะนั้นเเกอย่าขัด เเล้วเราก็คิดว่ามันไม่โอเคที่จะมาข่มว่าเอาสคริปต์ให้คนที่ Start up จริงๆดูเเล้วเค้าบอกว่าโอเค เพราะนี่คืองานกลุ่มกลุ่มมี 4 คน ทุกคนก็มีสิทธิที่จะเเก้ไขตรงไหนออกความเห็นตรงไหนก็ได้ start up คือใคร ไม่ใบ่คนที่เรารู้จักเเล้วไม่ใช่เเม้กระทั่งคนในกลุ่มด้วยซ้ำ เราเป็นคนในกลุ่มเเต่ A ไม่เเม้อยากจะฟังความเห็นกลับ พอเราออกความเห็นกลับพูดจาเเบบนี้ ข่มเราด้วยผลงานครั้งก่อนๆที่เขาทำมาซึ่งถึงตอนนี้เรารู้สึกว่า A ไม่ได้เคารพความเห็นของคนในกลุ่มเลย เเล้ววิธีการพูดไม่ได้ถนอมน้ำใจเพื่อนในกลุ่มเลย เหมือนเราทำอะไรผิดนักหนา เราเลยตัดสินใจที่จะออกจากกลุ่ม โดยพิมพ์บอกในไลน์เเล้วขอโทษ B กับ C ที่ทำให้ลำบากใจเเล้วออกมาเลยเพราะเราไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับ A อีกรับเเต่จะมองหน้ากันไม่ติด เพราะเรารู้สึกเเย่กับ A มากๆ ตอนนั้นเรายอมเสียคะเเนนไปเลยตอนที่ออกมาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีกลุ่มไหนรับไหม เเต่เราไม่สามารถทนกับคนที่พูดจาข่มคนอื่น ไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น เจ้ากี้เจ้าการเเบบนี้ได้จริงๆ เรายอมเสียคะเเนนไปฟรีๆดีกว่ายังอยู่ในกลุ่มได้คะเเนนดีเเต่โดนเเบบนี้ พอเราออกมาจากกลุ่ม A ก็ลากเราเข้ากลุ่มอีกรอบเเล้วเหมือนเพื่อระบายอารมณ์ว่าไม่มีความรับผิดชอบ เรารู้ว่าเราผิดที่ออกมากะทันหันเรายอมรับเเต่เราก็ทนอยู่กับคนเเบบ A ไม่ได้ เเล้ว A ก็พูดข่มเรา เรียกเราน้องอย่างนู้น หนูอย่างนี้ A บอก A ทำงานมา 8 ปี สอนเราเเบบนู้นเเเบบนี้ผสมกับคำด่าคำเเซะ  เราก็ตอบโต้ด้วยเหตุผลไม่มีคำด่า อธิบายในความเห็นของเราเพราะเราคิดว่าด่ากันไปก็มีเเต่โมโหเเล้วก็จะเป็นเราที่ดูไม่ดี เเต่เหมือนว่า A ต้องการระบายอารมณ์เเละต้องการเอาชนะเลยหยิบประเด็นนู่นนี่มาเถียงมาว่า หลงประเด็กไปหมด B ว่าเราเป็นเด็กเห่อบ้าง อยู่เเต่ในโซเชียล ว่าเราเป็นเด็ก 3 ขวบบ้าง ว่าเราโง่บ้าง กับ C ก็ค่อนข้างอยู่ทาง A เเละก็ว่าเราให้ไปอยู่คนเดียวทำงานเเบบที่คุณถนัดเถอะ

จนถึงตอนนี้เรารู้สึกเเย่ เรายอมรับว่าออกมาจากกลุ่มดื้อๆก็เหมือนการไร้ความรับผิดชอบ เเต่ถ้าเป็นคุณล่ะ เจอคนเเบบนี้เข้าไป คุณจะยังอยู่กลุ่มเดียวกับเค้าได้อีกหรอ? เเต่เราตัดสินใจที่จะออกมาตายเอาดาบหน้าดีกว่าอยูาคนที่ไม่เคารพคนอื่นเเบบนี้ คิดเห็นยังไงบอกได้เลยค่ะ ตอนนี้เรารู้สึกเเย่เเละค่อนข้างสับสน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่