.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังปิดภาคเรียนเทอมสอง เกือบสัปดาห์กว่าบอสกับน้องบีมจะได้เดินทางไปหาพ่อกับแม่ อาศัยติดรถไปกับพี่เจี๊ยบพี่ต้นและน้องมีน มีพี่แป้งมาด้วยอีกคน พี่เจี๊ยบต้องขับรถไปส่งพี่แป้งที่สมุทรปราการ เนื่องจากพ่อแม่พี่แป้งทำงานที่นั่น
ส่วนเธอนั้นพ่อกับแม่อยู่จังหวัดปทุมธานี ตัวพี่เจี๊ยบกับพี่ต้นเองอยู่หลักสี่ ญาติพี่น้องกระจัดกระจายกันอยู่ทุกทั่วสารทิศเมืองกรุง ดีที่มีรถยนต์กันทุกคน ไปมาหาสู่กันง่าย
บอสอายุแค่ 13 ย่าง 14 ปียังไม่มีวุฒิ ม.3 จึงไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ที่ไหนได้ ก็ขายของช่วยพ่อแม่ไปวัน ๆ ไปจ่ายตลาดจัดของช่วยแม่ในตอนเช้าแม่ให้วันละหนึ่งร้อยบาทกับน้องบีม ก็สนุกดี แต่น้องบีมสนุกมากกว่า เพราะเป็นคนช่างพูดช่างคุย ลูกค้าติดเยอะ แม่ขายดีกว่าปกติ เนื่องจากลูกค้าเอ็นดูน้องบีม
ทุก ๆ ปิดเทอมพวกเธอสองคนพี่น้องจะมาอยู่กับแม่เสมอ แล้วแต่ว่าเทอมไหนจะไม่อยากมาเท่านั้น ตั้งแต่เด็กยันโต สงกรานต์แม่ก็พากลับส่วนมากถ้ากลับสงกรานต์แล้ว บอสกับน้องสาวจะไม่ตามแม่มากรุงเทพอีก อยู่บ้านกับตายายรอเปิดเทอม
วันไหนขี้เกียจตื่นเช้าบอสก็ไม่ไป พาน้องสาวอยู่บ้าน ทำงานบ้านรอแม่ กลับมาให้พ่อแม่ได้ทานข้าวเย็นพักผ่อนกันเลย บ้านพักของแม่อยู่ติดคลอง แม่อยู่ฝั่งจังหวัดปทุมธานี ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นเขตสายไหมกรุงเทพ วันดีคืนดีเรือขายหอยคางหอยแมงภู่ก็วิ่งผ่าน แม่เคยซื้อให้กินก็อร่อยมาก
หอยคางหอยแมงภู่มาแล้วครับ สามโลร้อย สามโละร้อย ! นั่นพูดถึงก็มาพอดีเลย แต่ไม่ซื้อหรอก เรือยนต์วิ่งผ่านบ้านไป
“ไม่ไปขายกับข้าวกับแม่ อยู่บ้านใครเรียกให้เอาอะไรถ้าไม่รู้จักอย่าไปนะ ถ้าไม่ใช่แม่ก็อย่าออกไป พาน้องอยู่แต่ในบ้านเข้าใจมั้ยบอส”
ทุกวันแม่จะกำชับกับเธอเสมอ ถึงจะเคยอยู่ตั้งแต่อ้อนแต่ออด ก็ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ในซอยนี้รู้จักกันหมด ถึงจะมีแต่คนอิสานก็ตามที และมีคนละแวกหมู่บ้านของเธอด้วยก็ตาม มันก็ไม่น่าไว้ใจอะไรทั้งนั้น
บอสรับปากแม่และดูแลน้องบีมอย่างดีในแต่ละวัน บางวันก็แอบออกมาเล่นที่ศาลาท่าน้ำริมคลอง นั่งเล่นกันสองคน สักพักก็พากันเข้าไปเปิดทีวีดูในบ้าน ความจริงแม่ก็พึ่งปล่อยให้พวกเธออยู่บ้านกันสองคนเพียงลำพังนี่แหละ เพราะโตมากแล้ว เธอสามารถดูแลน้องได้ ปกติแม่ให้ตามไปด้วย เนื่องจากตอนนั้นยังเด็กเกินไปที่จะอยู่กันเองสองคน
เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่บอสกับน้องบีมไม่ขอตามแม่ไป พ่อกับแม่ออกไปตลาดตั้งแต่ตีสาม ซึ่งตลาดที่ว่าก็คือตลาดสี่มุมเมือง บอสตื่นลุกไปปิดประตูบ้านแล้วกลับเข้ามานอนต่อ แม่ทิ้งเงินไว้ให้สองร้อยบาท คนละหนึ่งร้อยกับน้องบีม เมื่อปิดบ้านเรียบร้อยบอสก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ น้องสาวเช่นเดิมด้วยความง่วง ทำไมนะหน้าที่ลุกปิดบ้านต้องเป็นเธอ เป็นน้องบีมไม่ได้หรือ
สายแค่ไหนไม่ทราบ ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อมีสายโทรศัพท์เข้า บอสหยิบมาดูเป็นสายเรียกเข้าจากเพื่อน เบิร์ดโทรหาเธอทำไม! นี่เป็นคำถามที่เธอสงสัยในหัว ทั้งที่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนักตอนเรียนหนังสือ เป็นเพื่อนต่างหมู่บ้าน แค่เรียนห้องเดียวกันเฉย ๆ เล่นคนละกลุ่ม แต่พวกเธอมีเบอร์ติดต่อกันทั้งห้อง บอสกดรับพูดเสียงงัวเงียออกไป
“ว่าไงเบิร์ด”
“บอส! บอสเคยบอกเราว่าบอสอยู่ลำลูกกาใช่มั้ย มากรุงเทพยัง” เบิร์ดถามด้วยเสียงตื่นเต้นมาก สงสัยมาแถวนี้แน่เลย
“อือ ทำไมเหรอ” หลับตาคุยกับเพื่อนไป เธอไม่อยากจะตื่นเลย อยากนอนต่อมาก ๆ “เบิร์ดมาเหรอ “
“ใช่! เรากับไอ้อั๋นอยู่คลอง 4 เนี่ยอยู่แมคโดนัลในบิ๊กซี บอสอยู่ลำลูกกาคลองไหน” เบิร์ดดูเหมือนจะตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้มาแถวที่เธออยู่ เพราะเคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อแม่ขายกับข้าวที่ไหน ไม่คิดว่าเพื่อนจะจำได้ดีขนาดนี้ ได้ยินเสียงของอั๋นพูดแทรกเข้ามาด้วย เหมือนอยากให้เธอไปหามาก ๆ
บอสหาวออกมาก่อนจะตอบเพื่อน “เค้าอยู่คลอง 3 เดี๋ยวไปหาก็ได้รอก่อนนะ” เธอดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน ปลุกน้องบีมให้ตื่น วันนี้เธอจะพาไปเที่ยว บอสเคยนั่งรถเมล์อยู่บ้าง และเคยนั่งไปบิ๊กซีด้วยจึงพอรู้ขั้นตอนในการใช้รถเมล์ “บีมตื่น! วันนี้พี่จะพาไปเที่ยวห้าง แต่ห้ามบอกแม่นะ สัญญาก่อน! ไม่งั้นจะไม่พาไปอีกเลย” บอสขู่น้องสาวไว้ก่อน แม่ไม่บ่นก็ดีไป แต่กลัวแม่จะบ่นมากกว่านะสิ
น้องบีมตื่นตามเสียงปลุกของเธอ ลุกขึ้นนั่งหลับตาพยักหน้าตกลง ก่อนจะแยกย้ายกันอาบน้ำแต่งตัว บอสโทรไปเช็คว่าเพื่อนสองคนกลับหรือยัง ได้ความว่ายังรออยู่ เธอจึงรีบแต่งตัวและพาน้องสาวเดินทางไปบิ๊กซีทันที ดูเหมือนน้องบีมจะตื่นเต้นกว่าเธออีกที่จะได้ไปเที่ยวห้าง มีเงินติดตัวอยู่แค่ห้าร้อยบาท จากการเก็บสะสมที่แม่ให้ทุกวัน
บอสกับน้องบีมเดินออกมาจากซอย ซึ่งบ้านของเธออยู่ลึกพอสมควร เดินมาขึ้นสะพานลอยเพื่อมารอรถที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม นั่งไปป้ายเดียวก็ถึงแล้ว ไม่ไกลมาก ตอนนี้ก็แดดแรงเหลือเกิน ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่
“บีมเวลารถมาก้าวขาเร็ว ๆ นะ เดี๋ยวมันออกตัวก่อนจะตกรถเอา” บอสกำชับน้อง ห่วงเรื่องความปลอดภัยตอนขึ้นรถระว่างที่นั่งรอ น้องบีมพยักหน้าเข้าใจทุกอย่าง มีเพื่อนร่วมเดินทางด้วย นั่งรอรถเมล์เหมือนกัน พอรถเมล์คันสีส้มวิ่งมาใกล้จะถึงพวกเธอก็ยืนขึ้น เตรียมตัวขึ้นรถให้ทันที่รถมันจะออกตัวไปก่อน แล้วเกินไปหาที่นั่งที่เป็นเบาะว่างคู่
โชคดีมาก ๆ ได้เบาะว่างคู่พอดี กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บเงินค่าโดยสาร นั่งรถเมล์ก็เพลินดีเหมือนกันนะ นั่งรอบล่าสุดตอนไหนก็ไม่ทราบได้ นานหลายปีแล้วที่แม่พานั่ง แต่เธอก็ยังจำได้ว่ามันต้องทำอย่างไรบ้าง
“เบิร์ดเค้ากับน้องถึงแล้ว เบิร์ดกับอั๋นรออยู่ตรงไหนนะ “ เมื่อรถจอดถึงที่หมาย บอสยืนอยู่หน้าบิ๊กซีโทรหาเบิร์ดถามพิกัดว่าอยู่ที่ไหน เอาให้ชัวร์จะได้ไม่ต้องเสียเวลา
“เค้ารออยู่ที่ร้านแมคโดนัลหนิ เห็นมั้ยกินอิ่มแล้วแหละ แต่ยืนรอบอสอยู่แถว ๆ หน้าร้านอ่ะ”
“เค! เดี๋ยวเดินไปหา เค้ามากับน้องสองคน” บอสกดวางสายเพื่อน เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าแล้วพาน้องเดินไปเข้าไปข้างใน “ปะบีมเข้าไปกัน” บอสจับมือน้องสาวเดินไปยังร้านแมคโดนัลทันที มองเห็นเพื่อนชายสองคนแต่ไกล ๆ ยืนอยู่หน้าร้าน ดีใจมาก เพราะตั้งแต่ปิดเทอมก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย มันดีใจมาก ๆ ที่ได้มาเจอกันที่นี่
“เบิร์ด อั๋น ไปยังไงมายังไงหนิ ทำไมได้มาแถวนี้” บอสเปิดประเด็นถามเพื่อนก่อนเลย เมื่อเจอกัน
“มาทำงานกับน้า น้าปล่อยลงให้เดินเล่นก่อนเดี๋ยวแกค่อยมารับ” อั๋นตอบ อั๋นมาทำงานทั้งที่ยังไม่มีวุฒิ ม.3 นั่นแหละ มาเป็นผู้ช่วยน้าตัวเอง
“แล้วอยู่แถวนี้เหรอ ไม่บอกแต่แรก จะได้มาเล่นด้วยบ่อย ๆ “ บอสถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถ้าเพื่อนอยู่ใกล้ ๆ กันก็ดี จะได้แอบแม่มาเล่นด้วยบ่อย ๆ
“เปล่า! อยู่รังสิตแต่น้าพามาทำธุระแถวนี้น่ะ แกปล่อยลงให้เดินเล่นเฉย ๆ พอดีนึกได้ว่าบอสเคยเล่าให้ฟังว่าอยู่ลำลูกกา ก็เลยโทรหานี่ล่ะ” เบิร์ดตอบ พวกเธอยืนคุยกันไม่สนใจคนเดินผ่านไปผ่านมาจะมองเลย ยืนคุยหน้าร้านแมคโดนัล ไม่สนใจคนในร้านมองด้วย
เมื่อพวกเธอเจอกันแล้ว ก็พากันเดินดูข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในนั้น เดินเล่นเฉย ๆ ไม่มีท่าทีว่าจะซื้ออะไร เดินดูของเครื่องเล่นไปเรื่อยเปื่อย แลกเหรียญมาเล่นเกมบ้าง น้องบีมขอเธอเล่นเกม เธอก็ยอมให้น้องสาวเล่นได้ตามสบาย ส่วนตัวเองแค่ยืนดู ไม่ชอบเล่นเกมเท่าไหร่
“เบิร์ด อั๋น เราไปหาซื้อขนมกันดีกว่ามั้ย”บอสชวนเพื่อน เบื่อยืนดูเพื่อนเล่นเกมแล้ว เธอไม่ได้เล่นด้วย คนยืนดูเฉย ๆ มันก็รู้สึกเบื่อ
“พี่บอสน้องบีมยังไม่อยากไปเลย อยากเล่นเกมต่ออ่ะ” น้องบีมทำสีหน้าอ้อนวอนต่อเธอ
“ไม่ได้บีมเดี๋ยวเงินหมด จะซื้อขนมกลับไปกินบ้านมั้ย” บอสเอ็ดน้องสาวไปที น้องบีมก็ไม่งอแง เลิกเล่นก็เลิกเล่นก็ได้ เก็บเงินไว้ซื้อขนมดีกว่า
“ปะ ไปก็ไป”
“แล้วน้าจะมาตอนไหนอ่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแกโทรหา”
พวกเธอพากันไปเดินดูขนมและพูดคุยกันไปด้วย บอสบอกให้น้องหยิบตะกร้ามาด้วย น้องบีมทำตามอย่างว่าง่าย ให้น้องเลือกเอาขนมได้ตามใจก่อนเลย ค่อยมาคำนวนเงินจ่าย ต้องเหลือไว้ค่ารถเมล์ด้วย ซึ่งเธอถือเงินมาแค่ห้าร้อยบาทเท่านั้นเอง ทว่าก็ได้ขนมไปเยอะแยะมากมาย
พวกเธอสี่คนเดินดูขนมไปเรื่อย ๆ โผล่เช้วนู้นทีเช้วนี้ที ได้ขนมมาตั้งมากมาย
“บีมพี่ว่าเอานมกล่องไปเก็บไว้ที่เดิมดีกว่า เอาไมโลซองไปชงกินแทนดีกว่ามั้ย ได้เยอะกว่าด้วย” เมื่อน้องบีมหยิบเอาไมโลกล่องแบบแพ็กมาซึ่งมีแค่หกกล่อง สู้ซื้อเป็นซองสำเร็จรูปฉีกแล้วเทน้ำร้อนชงง่ายกว่า ได้กินหลายวันกว่าด้วย “นั่นไง เราเอาไปชงกินตอนเช้า” บอสชี้นิ้วบอกน้องสาว ซึ่งเบิร์ดกับอั๋นยืนข้าง ๆ
“ก็ได้! เดี๋ยวน้องบีมเอานมไปเก็บก่อน พี่บอสน้องบีมเอาหนมปังทานมด้วยได้มั้ย” น้องบีมหันมามองเธอ เมื่อเห็นขนมปังโฮวีทสำหรับทานมไว้ทานแทนข้าวเช้าได้
“ได้! เอาเลย หยิบมาใส่ตะกร้าไว้เลยบีมเดี๋ยวนะ ! หมดไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย” บอสนึกขึ้นได้ มีเงินติดตัวมาแค่ห้าร้อยบาทเอง จ่ายค่าเล่นเกมไปหลายสิบบาทแล้วด้วย ขนมที่น้องสาวเก็บใส่ตะกร้าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ บอสยืนคำนวนเงินในใจคร่าว ๆ ถอนหายใจหมดไปเกือบสี่ร้อย แต่ว่าคงพอแล้ว เหลือเงินไว้บ้าง ค่ารถเมล์ไม่ถึงสิบบาทก็จริง แต่ควรเหลือไว้หน่อยจะดีกว่า “สี่ร้อยแล้ว เอาหนมปังกับนมค้นพอ เงินจะหมด”
“ได้ น้องบีมเอาอันนี้นะ” น้องบีมชูให้เธอดู พยักหน้าเป็นคำตอบ “เบิร์ด อั๋น ไม่ซื้ออะไรเหรอ มาเดินเฉย ๆ “ พร้อมหัวเราะให้เพื่อน
อั๋นชูขนมให้เธอดู เบิร์ดก็ได้ไปห่อหนึ่ง พวกเธอเดินดูขนมเรื่อย ๆ แล้วนำไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ บอสรู้สึกเบื่อไม่รู้จะไปไหนต่อดี อยากกลับบ้านด้วยกลัวแม่รู้ น้าของเบิร์ดกับอั๋นจะมารับตอนไหนก็ไม่ทราบ พวกเธอทั้งสี่คนชวนกันไปซื้อไอศกรีมกิยก่อนกลับ เดินกินไปด้วยแบบไม่อายใคร
การแต่งตัวก็แสนจะธรรมดาบ้าน ๆ บอสกับน้องบีมใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดธรรมดา ส่วนเบิร์ดกับอั๋นแต่งตัวดูดีมาก เหมือนวัยรุ่นเลย กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตอย่างหล่อ บอสมองสำรวจการแต่งตัวของเพื่อนแอบขำ ทีตอนอยู่โรงเรียนอย่างกับเด็ก ตอนนี้เป็นหนุ่มเชียว
“ไปรอน้าที่บ้านเรามั้ย นี่อยู่คลองสามเอง” บอสชวน เบื่อที่จะเดินห้างอีกต่อไปแล้ว
“นั่งรถเมล์ไปป้ายเดียวนะพี่เบิร์ด พี่อั๋น ไปเล่นบ้านน้องบีมมั้ย” น้องบีมชวนอีกคน สีหน้าท่าทางยังไม่อยากกลับหรอก แต่เธอเหนื่อย เหนื่อยเดินแล้ว เดินจนทั่วห้าง ไปทุกซอกทุกมุม
“ไม่อ่ะ นี่น้าเราก็ใกล้จะมาแล้ว พวกเรารออยู่ที่นี่แหละ บอสกับน้องกลับโลด” อั๋นตอบ พร้อมยกแขนขึ้นดูนาฬิกา เบิร์ดกับอั๋นเป็นญาติกันจึงมากรุงเทพทำงานกับน้าด้วยกัน เป็นงานเกี่ยวกับอะไรไม่ทราบ บอสไม่ได้ถาม
“เอางั้นเหรอ ! งั้นเค้ากับน้องกลับนะ “
“เค ! แล้วเจอกันอีกถ้าเราผ่านมาทางนี้” อั๋นตอบ สองคนเดินไปส่งเธอกับน้องบีมที่ป้ายรถเมล์ อยู่เป็นเพื่อนคุยจนกว่ารถเมล์จะมา
บอสโบกมือลาเพื่อนสองคนก่อนจะขึ้นรถไป น้องบีมก็ทำตาม ไม่ได้เคอะเขินเพื่อนของเธอเลย สองคนพี่น้องนั่งรถกลับบ้านอย่างสบายใจ กลับมาถึงบ้านน้องบีมก็จัดการต้มน้ำร้อนชงไมโลกินเลย พร้อมแกะขนมปังโรยด้วยนมข้นหวานกิน บอสมองแบบนึกหมั่นไส้ จะหิวจะเห่ออะไรขนาดนั้น
คิดถึง 2 บทที่ 44
.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังปิดภาคเรียนเทอมสอง เกือบสัปดาห์กว่าบอสกับน้องบีมจะได้เดินทางไปหาพ่อกับแม่ อาศัยติดรถไปกับพี่เจี๊ยบพี่ต้นและน้องมีน มีพี่แป้งมาด้วยอีกคน พี่เจี๊ยบต้องขับรถไปส่งพี่แป้งที่สมุทรปราการ เนื่องจากพ่อแม่พี่แป้งทำงานที่นั่น
ส่วนเธอนั้นพ่อกับแม่อยู่จังหวัดปทุมธานี ตัวพี่เจี๊ยบกับพี่ต้นเองอยู่หลักสี่ ญาติพี่น้องกระจัดกระจายกันอยู่ทุกทั่วสารทิศเมืองกรุง ดีที่มีรถยนต์กันทุกคน ไปมาหาสู่กันง่าย
บอสอายุแค่ 13 ย่าง 14 ปียังไม่มีวุฒิ ม.3 จึงไม่สามารถทำงานพาร์ทไทม์ที่ไหนได้ ก็ขายของช่วยพ่อแม่ไปวัน ๆ ไปจ่ายตลาดจัดของช่วยแม่ในตอนเช้าแม่ให้วันละหนึ่งร้อยบาทกับน้องบีม ก็สนุกดี แต่น้องบีมสนุกมากกว่า เพราะเป็นคนช่างพูดช่างคุย ลูกค้าติดเยอะ แม่ขายดีกว่าปกติ เนื่องจากลูกค้าเอ็นดูน้องบีม
ทุก ๆ ปิดเทอมพวกเธอสองคนพี่น้องจะมาอยู่กับแม่เสมอ แล้วแต่ว่าเทอมไหนจะไม่อยากมาเท่านั้น ตั้งแต่เด็กยันโต สงกรานต์แม่ก็พากลับส่วนมากถ้ากลับสงกรานต์แล้ว บอสกับน้องสาวจะไม่ตามแม่มากรุงเทพอีก อยู่บ้านกับตายายรอเปิดเทอม
วันไหนขี้เกียจตื่นเช้าบอสก็ไม่ไป พาน้องสาวอยู่บ้าน ทำงานบ้านรอแม่ กลับมาให้พ่อแม่ได้ทานข้าวเย็นพักผ่อนกันเลย บ้านพักของแม่อยู่ติดคลอง แม่อยู่ฝั่งจังหวัดปทุมธานี ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นเขตสายไหมกรุงเทพ วันดีคืนดีเรือขายหอยคางหอยแมงภู่ก็วิ่งผ่าน แม่เคยซื้อให้กินก็อร่อยมาก
หอยคางหอยแมงภู่มาแล้วครับ สามโลร้อย สามโละร้อย ! นั่นพูดถึงก็มาพอดีเลย แต่ไม่ซื้อหรอก เรือยนต์วิ่งผ่านบ้านไป
“ไม่ไปขายกับข้าวกับแม่ อยู่บ้านใครเรียกให้เอาอะไรถ้าไม่รู้จักอย่าไปนะ ถ้าไม่ใช่แม่ก็อย่าออกไป พาน้องอยู่แต่ในบ้านเข้าใจมั้ยบอส”
ทุกวันแม่จะกำชับกับเธอเสมอ ถึงจะเคยอยู่ตั้งแต่อ้อนแต่ออด ก็ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ในซอยนี้รู้จักกันหมด ถึงจะมีแต่คนอิสานก็ตามที และมีคนละแวกหมู่บ้านของเธอด้วยก็ตาม มันก็ไม่น่าไว้ใจอะไรทั้งนั้น
บอสรับปากแม่และดูแลน้องบีมอย่างดีในแต่ละวัน บางวันก็แอบออกมาเล่นที่ศาลาท่าน้ำริมคลอง นั่งเล่นกันสองคน สักพักก็พากันเข้าไปเปิดทีวีดูในบ้าน ความจริงแม่ก็พึ่งปล่อยให้พวกเธออยู่บ้านกันสองคนเพียงลำพังนี่แหละ เพราะโตมากแล้ว เธอสามารถดูแลน้องได้ ปกติแม่ให้ตามไปด้วย เนื่องจากตอนนั้นยังเด็กเกินไปที่จะอยู่กันเองสองคน
เช้าวันนี้เป็นอีกวันที่บอสกับน้องบีมไม่ขอตามแม่ไป พ่อกับแม่ออกไปตลาดตั้งแต่ตีสาม ซึ่งตลาดที่ว่าก็คือตลาดสี่มุมเมือง บอสตื่นลุกไปปิดประตูบ้านแล้วกลับเข้ามานอนต่อ แม่ทิ้งเงินไว้ให้สองร้อยบาท คนละหนึ่งร้อยกับน้องบีม เมื่อปิดบ้านเรียบร้อยบอสก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ น้องสาวเช่นเดิมด้วยความง่วง ทำไมนะหน้าที่ลุกปิดบ้านต้องเป็นเธอ เป็นน้องบีมไม่ได้หรือ
สายแค่ไหนไม่ทราบ ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อมีสายโทรศัพท์เข้า บอสหยิบมาดูเป็นสายเรียกเข้าจากเพื่อน เบิร์ดโทรหาเธอทำไม! นี่เป็นคำถามที่เธอสงสัยในหัว ทั้งที่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนักตอนเรียนหนังสือ เป็นเพื่อนต่างหมู่บ้าน แค่เรียนห้องเดียวกันเฉย ๆ เล่นคนละกลุ่ม แต่พวกเธอมีเบอร์ติดต่อกันทั้งห้อง บอสกดรับพูดเสียงงัวเงียออกไป
“ว่าไงเบิร์ด”
“บอส! บอสเคยบอกเราว่าบอสอยู่ลำลูกกาใช่มั้ย มากรุงเทพยัง” เบิร์ดถามด้วยเสียงตื่นเต้นมาก สงสัยมาแถวนี้แน่เลย
“อือ ทำไมเหรอ” หลับตาคุยกับเพื่อนไป เธอไม่อยากจะตื่นเลย อยากนอนต่อมาก ๆ “เบิร์ดมาเหรอ “
“ใช่! เรากับไอ้อั๋นอยู่คลอง 4 เนี่ยอยู่แมคโดนัลในบิ๊กซี บอสอยู่ลำลูกกาคลองไหน” เบิร์ดดูเหมือนจะตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้มาแถวที่เธออยู่ เพราะเคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าพ่อแม่ขายกับข้าวที่ไหน ไม่คิดว่าเพื่อนจะจำได้ดีขนาดนี้ ได้ยินเสียงของอั๋นพูดแทรกเข้ามาด้วย เหมือนอยากให้เธอไปหามาก ๆ
บอสหาวออกมาก่อนจะตอบเพื่อน “เค้าอยู่คลอง 3 เดี๋ยวไปหาก็ได้รอก่อนนะ” เธอดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอน ปลุกน้องบีมให้ตื่น วันนี้เธอจะพาไปเที่ยว บอสเคยนั่งรถเมล์อยู่บ้าง และเคยนั่งไปบิ๊กซีด้วยจึงพอรู้ขั้นตอนในการใช้รถเมล์ “บีมตื่น! วันนี้พี่จะพาไปเที่ยวห้าง แต่ห้ามบอกแม่นะ สัญญาก่อน! ไม่งั้นจะไม่พาไปอีกเลย” บอสขู่น้องสาวไว้ก่อน แม่ไม่บ่นก็ดีไป แต่กลัวแม่จะบ่นมากกว่านะสิ
น้องบีมตื่นตามเสียงปลุกของเธอ ลุกขึ้นนั่งหลับตาพยักหน้าตกลง ก่อนจะแยกย้ายกันอาบน้ำแต่งตัว บอสโทรไปเช็คว่าเพื่อนสองคนกลับหรือยัง ได้ความว่ายังรออยู่ เธอจึงรีบแต่งตัวและพาน้องสาวเดินทางไปบิ๊กซีทันที ดูเหมือนน้องบีมจะตื่นเต้นกว่าเธออีกที่จะได้ไปเที่ยวห้าง มีเงินติดตัวอยู่แค่ห้าร้อยบาท จากการเก็บสะสมที่แม่ให้ทุกวัน
บอสกับน้องบีมเดินออกมาจากซอย ซึ่งบ้านของเธออยู่ลึกพอสมควร เดินมาขึ้นสะพานลอยเพื่อมารอรถที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม นั่งไปป้ายเดียวก็ถึงแล้ว ไม่ไกลมาก ตอนนี้ก็แดดแรงเหลือเกิน ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไหร่
“บีมเวลารถมาก้าวขาเร็ว ๆ นะ เดี๋ยวมันออกตัวก่อนจะตกรถเอา” บอสกำชับน้อง ห่วงเรื่องความปลอดภัยตอนขึ้นรถระว่างที่นั่งรอ น้องบีมพยักหน้าเข้าใจทุกอย่าง มีเพื่อนร่วมเดินทางด้วย นั่งรอรถเมล์เหมือนกัน พอรถเมล์คันสีส้มวิ่งมาใกล้จะถึงพวกเธอก็ยืนขึ้น เตรียมตัวขึ้นรถให้ทันที่รถมันจะออกตัวไปก่อน แล้วเกินไปหาที่นั่งที่เป็นเบาะว่างคู่
โชคดีมาก ๆ ได้เบาะว่างคู่พอดี กระเป๋ารถเมล์ก็เดินมาเก็บเงินค่าโดยสาร นั่งรถเมล์ก็เพลินดีเหมือนกันนะ นั่งรอบล่าสุดตอนไหนก็ไม่ทราบได้ นานหลายปีแล้วที่แม่พานั่ง แต่เธอก็ยังจำได้ว่ามันต้องทำอย่างไรบ้าง
“เบิร์ดเค้ากับน้องถึงแล้ว เบิร์ดกับอั๋นรออยู่ตรงไหนนะ “ เมื่อรถจอดถึงที่หมาย บอสยืนอยู่หน้าบิ๊กซีโทรหาเบิร์ดถามพิกัดว่าอยู่ที่ไหน เอาให้ชัวร์จะได้ไม่ต้องเสียเวลา
“เค้ารออยู่ที่ร้านแมคโดนัลหนิ เห็นมั้ยกินอิ่มแล้วแหละ แต่ยืนรอบอสอยู่แถว ๆ หน้าร้านอ่ะ”
“เค! เดี๋ยวเดินไปหา เค้ามากับน้องสองคน” บอสกดวางสายเพื่อน เก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าแล้วพาน้องเดินไปเข้าไปข้างใน “ปะบีมเข้าไปกัน” บอสจับมือน้องสาวเดินไปยังร้านแมคโดนัลทันที มองเห็นเพื่อนชายสองคนแต่ไกล ๆ ยืนอยู่หน้าร้าน ดีใจมาก เพราะตั้งแต่ปิดเทอมก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย มันดีใจมาก ๆ ที่ได้มาเจอกันที่นี่
“เบิร์ด อั๋น ไปยังไงมายังไงหนิ ทำไมได้มาแถวนี้” บอสเปิดประเด็นถามเพื่อนก่อนเลย เมื่อเจอกัน
“มาทำงานกับน้า น้าปล่อยลงให้เดินเล่นก่อนเดี๋ยวแกค่อยมารับ” อั๋นตอบ อั๋นมาทำงานทั้งที่ยังไม่มีวุฒิ ม.3 นั่นแหละ มาเป็นผู้ช่วยน้าตัวเอง
“แล้วอยู่แถวนี้เหรอ ไม่บอกแต่แรก จะได้มาเล่นด้วยบ่อย ๆ “ บอสถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ถ้าเพื่อนอยู่ใกล้ ๆ กันก็ดี จะได้แอบแม่มาเล่นด้วยบ่อย ๆ
“เปล่า! อยู่รังสิตแต่น้าพามาทำธุระแถวนี้น่ะ แกปล่อยลงให้เดินเล่นเฉย ๆ พอดีนึกได้ว่าบอสเคยเล่าให้ฟังว่าอยู่ลำลูกกา ก็เลยโทรหานี่ล่ะ” เบิร์ดตอบ พวกเธอยืนคุยกันไม่สนใจคนเดินผ่านไปผ่านมาจะมองเลย ยืนคุยหน้าร้านแมคโดนัล ไม่สนใจคนในร้านมองด้วย
เมื่อพวกเธอเจอกันแล้ว ก็พากันเดินดูข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในนั้น เดินเล่นเฉย ๆ ไม่มีท่าทีว่าจะซื้ออะไร เดินดูของเครื่องเล่นไปเรื่อยเปื่อย แลกเหรียญมาเล่นเกมบ้าง น้องบีมขอเธอเล่นเกม เธอก็ยอมให้น้องสาวเล่นได้ตามสบาย ส่วนตัวเองแค่ยืนดู ไม่ชอบเล่นเกมเท่าไหร่
“เบิร์ด อั๋น เราไปหาซื้อขนมกันดีกว่ามั้ย”บอสชวนเพื่อน เบื่อยืนดูเพื่อนเล่นเกมแล้ว เธอไม่ได้เล่นด้วย คนยืนดูเฉย ๆ มันก็รู้สึกเบื่อ
“พี่บอสน้องบีมยังไม่อยากไปเลย อยากเล่นเกมต่ออ่ะ” น้องบีมทำสีหน้าอ้อนวอนต่อเธอ
“ไม่ได้บีมเดี๋ยวเงินหมด จะซื้อขนมกลับไปกินบ้านมั้ย” บอสเอ็ดน้องสาวไปที น้องบีมก็ไม่งอแง เลิกเล่นก็เลิกเล่นก็ได้ เก็บเงินไว้ซื้อขนมดีกว่า
“ปะ ไปก็ไป”
“แล้วน้าจะมาตอนไหนอ่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแกโทรหา”
พวกเธอพากันไปเดินดูขนมและพูดคุยกันไปด้วย บอสบอกให้น้องหยิบตะกร้ามาด้วย น้องบีมทำตามอย่างว่าง่าย ให้น้องเลือกเอาขนมได้ตามใจก่อนเลย ค่อยมาคำนวนเงินจ่าย ต้องเหลือไว้ค่ารถเมล์ด้วย ซึ่งเธอถือเงินมาแค่ห้าร้อยบาทเท่านั้นเอง ทว่าก็ได้ขนมไปเยอะแยะมากมาย
พวกเธอสี่คนเดินดูขนมไปเรื่อย ๆ โผล่เช้วนู้นทีเช้วนี้ที ได้ขนมมาตั้งมากมาย
“บีมพี่ว่าเอานมกล่องไปเก็บไว้ที่เดิมดีกว่า เอาไมโลซองไปชงกินแทนดีกว่ามั้ย ได้เยอะกว่าด้วย” เมื่อน้องบีมหยิบเอาไมโลกล่องแบบแพ็กมาซึ่งมีแค่หกกล่อง สู้ซื้อเป็นซองสำเร็จรูปฉีกแล้วเทน้ำร้อนชงง่ายกว่า ได้กินหลายวันกว่าด้วย “นั่นไง เราเอาไปชงกินตอนเช้า” บอสชี้นิ้วบอกน้องสาว ซึ่งเบิร์ดกับอั๋นยืนข้าง ๆ
“ก็ได้! เดี๋ยวน้องบีมเอานมไปเก็บก่อน พี่บอสน้องบีมเอาหนมปังทานมด้วยได้มั้ย” น้องบีมหันมามองเธอ เมื่อเห็นขนมปังโฮวีทสำหรับทานมไว้ทานแทนข้าวเช้าได้
“ได้! เอาเลย หยิบมาใส่ตะกร้าไว้เลยบีมเดี๋ยวนะ ! หมดไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย” บอสนึกขึ้นได้ มีเงินติดตัวมาแค่ห้าร้อยบาทเอง จ่ายค่าเล่นเกมไปหลายสิบบาทแล้วด้วย ขนมที่น้องสาวเก็บใส่ตะกร้าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ บอสยืนคำนวนเงินในใจคร่าว ๆ ถอนหายใจหมดไปเกือบสี่ร้อย แต่ว่าคงพอแล้ว เหลือเงินไว้บ้าง ค่ารถเมล์ไม่ถึงสิบบาทก็จริง แต่ควรเหลือไว้หน่อยจะดีกว่า “สี่ร้อยแล้ว เอาหนมปังกับนมค้นพอ เงินจะหมด”
“ได้ น้องบีมเอาอันนี้นะ” น้องบีมชูให้เธอดู พยักหน้าเป็นคำตอบ “เบิร์ด อั๋น ไม่ซื้ออะไรเหรอ มาเดินเฉย ๆ “ พร้อมหัวเราะให้เพื่อน
อั๋นชูขนมให้เธอดู เบิร์ดก็ได้ไปห่อหนึ่ง พวกเธอเดินดูขนมเรื่อย ๆ แล้วนำไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์ บอสรู้สึกเบื่อไม่รู้จะไปไหนต่อดี อยากกลับบ้านด้วยกลัวแม่รู้ น้าของเบิร์ดกับอั๋นจะมารับตอนไหนก็ไม่ทราบ พวกเธอทั้งสี่คนชวนกันไปซื้อไอศกรีมกิยก่อนกลับ เดินกินไปด้วยแบบไม่อายใคร
การแต่งตัวก็แสนจะธรรมดาบ้าน ๆ บอสกับน้องบีมใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดธรรมดา ส่วนเบิร์ดกับอั๋นแต่งตัวดูดีมาก เหมือนวัยรุ่นเลย กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตอย่างหล่อ บอสมองสำรวจการแต่งตัวของเพื่อนแอบขำ ทีตอนอยู่โรงเรียนอย่างกับเด็ก ตอนนี้เป็นหนุ่มเชียว
“ไปรอน้าที่บ้านเรามั้ย นี่อยู่คลองสามเอง” บอสชวน เบื่อที่จะเดินห้างอีกต่อไปแล้ว
“นั่งรถเมล์ไปป้ายเดียวนะพี่เบิร์ด พี่อั๋น ไปเล่นบ้านน้องบีมมั้ย” น้องบีมชวนอีกคน สีหน้าท่าทางยังไม่อยากกลับหรอก แต่เธอเหนื่อย เหนื่อยเดินแล้ว เดินจนทั่วห้าง ไปทุกซอกทุกมุม
“ไม่อ่ะ นี่น้าเราก็ใกล้จะมาแล้ว พวกเรารออยู่ที่นี่แหละ บอสกับน้องกลับโลด” อั๋นตอบ พร้อมยกแขนขึ้นดูนาฬิกา เบิร์ดกับอั๋นเป็นญาติกันจึงมากรุงเทพทำงานกับน้าด้วยกัน เป็นงานเกี่ยวกับอะไรไม่ทราบ บอสไม่ได้ถาม
“เอางั้นเหรอ ! งั้นเค้ากับน้องกลับนะ “
“เค ! แล้วเจอกันอีกถ้าเราผ่านมาทางนี้” อั๋นตอบ สองคนเดินไปส่งเธอกับน้องบีมที่ป้ายรถเมล์ อยู่เป็นเพื่อนคุยจนกว่ารถเมล์จะมา
บอสโบกมือลาเพื่อนสองคนก่อนจะขึ้นรถไป น้องบีมก็ทำตาม ไม่ได้เคอะเขินเพื่อนของเธอเลย สองคนพี่น้องนั่งรถกลับบ้านอย่างสบายใจ กลับมาถึงบ้านน้องบีมก็จัดการต้มน้ำร้อนชงไมโลกินเลย พร้อมแกะขนมปังโรยด้วยนมข้นหวานกิน บอสมองแบบนึกหมั่นไส้ จะหิวจะเห่ออะไรขนาดนั้น