หากการคิดบวก (Positive Thinking) ที่เราต่างทราบกันดีแล้วว่า มันคือการคิดภาพของความสำเร็จของเราไว้ในใจ โดยให้พยายามคิดถึงภาพแห่งความสำเร็จนี้ตลอดเวลา และห้ามคิดสงสัยกับภาพแห่งความสำเร็จนี้โดยเด็ดขาด เมื่อพบเจอกับอุปสรรคก็ให้เราคิดในด้านบวกเข้าไว้ หาวิธีการแก้ปัญญาให้ได้ เมื่อทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ที่สุดแล้วเราจะประสบความสำเร็จในชีวิต ดูแล้วมันก็น่าจะดีอย่างที่เขากล่าวกันมา
บางตำราก็ให้เราคิดแบบคนรวย เลียนแบบสมอง และวิธีคิดของคนรวยที่เขาประสบความสำเร็จ สุดท้ายเราก็จะรวยแบบเขาบ้าง เหมือนกันกับเรื่องของความสุข หากเราอยากมีความสุข เราก็ควรคิดแบบคนที่เขามีความสุขเขาคิดกัน!
คุณคิดว่ามันง่ายดายเช่นนั้นหรือ? แค่เพียงเราพยายามคิดแบบคนรวย พยายามคิดแบบคนที่เขามีความสุข เท่านั้นเองหรือ?
ไม่ใช่..มันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นหรอก เป็นคำตอบสำหรับคำถามนี้
เพราะการคิดบวกเป็นเพียงการเริ่มต้นของกระบวนการของความสำเร็จที่เรามุ่งหวังเท่านั้น เรายังคงต้องลงมือทำ ลงมือปฏิบัติด้วย หมายถึง เราควรคิด และพยายามปฏิบัติ เช่นถ้าเราอยากรวยแบบคนรวย เราก็ลงมือทำไปเช่นนั้น หรือถ้าเราอยากมีความสุข เราก็คิด และทำแบบที่คนที่มีความสุขเขาทำกัน มันจึงจะเกิดผลลัพธ์ ซึ่งมันคงต้องใช้เวลาพอสมควร ส่วนจะนานเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิด และการลงมือปฏิบัติของเราแต่ละคน
แต่รับรองว่ามันจะไม่ใช่แค่หนึ่ง หรือสองวันอย่างแน่นอน บางทีอาจกินเวลาเป็นปี หรือ 2 -3 ปี กว่าจะเริ่มเห็นสิ่งที่เราคาดหวัง จึงต้องใช้ความอดทน พากเพียรเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ระหว่างทางของการลงมือปฏิบัติในครั้งนี้
และในช่วงเวลาของการอดทนรอความสำเร็จเหล่านี้เอง ที่การคิดบวกจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา เมื่อเราพบเจออุปสรรคขว้างกันไม่ให้เราไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจนี้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ง่ายดายอย่างที่เราคิดแน่นอน การคิดบวกมีส่วนช่วยให้เรามีกำลังใจในการฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ และช่วยให้เราคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหา ด้วยปัญญา จนเราสามารถผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้
ส่วนที่ว่า “เราควรคิดบวกแบบไหน” นั้น
ตามความคิดของผม คือ เราควรเป็นการคิดบวกในแง่ของความเป็นจริงที่ได้พบเจอ คิดบวกแบบไม่หลอกตัวเองว่ามันจะสำเร็จได้โดยง่าย คิดบวกแบบยอมรับว่าอุปสรรคเป็นสิ่งคู่กันกับความสำเร็จ
สรุปคือ การคิดบวกแบบสมเหตุสมผล โดยอิงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นหลัก เมื่อเราคิดได้เช่นนี้ การคิดบวกของเราก็จะส่งผลให้เราได้ประสบความสำเร็จ หรือมีความสุขอย่างที่คาดหวังในที่สุด
Cr. เปลือกชีวิต The Series (Series ที่จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น) By ดช.จุ่น
ติดตามบทความอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เปลือกชีวิต The Series 48 (ใจ..บันดาลแรง?) https://pantip.com/topic/40536997
เปลือกชีวิต The Series 49 (เนิบช้า,,,,,(ปัญญา)ชีวิต!!) https://pantip.com/topic/40543768
เปลือกชีวิต The Series 50 (3 เคล็ดลับวิธีการคลายความทุกข์) https://pantip.com/topic/40554044
เปลือกชีวิต The Series 51 (เมื่อเวลา..เปลี่ยน!) https://pantip.com/topic/40569126
เปลือกชีวิต The Series 52 (กฎ 10,000 ชม.พิสูจน์ความรักได้จริงหรือ?) https://pantip.com/topic/40575473
เปลือกชีวิต The Series 53 (คิดบวก..แบบไหนดี?)
บางตำราก็ให้เราคิดแบบคนรวย เลียนแบบสมอง และวิธีคิดของคนรวยที่เขาประสบความสำเร็จ สุดท้ายเราก็จะรวยแบบเขาบ้าง เหมือนกันกับเรื่องของความสุข หากเราอยากมีความสุข เราก็ควรคิดแบบคนที่เขามีความสุขเขาคิดกัน!
คุณคิดว่ามันง่ายดายเช่นนั้นหรือ? แค่เพียงเราพยายามคิดแบบคนรวย พยายามคิดแบบคนที่เขามีความสุข เท่านั้นเองหรือ?
ไม่ใช่..มันไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้นหรอก เป็นคำตอบสำหรับคำถามนี้
เพราะการคิดบวกเป็นเพียงการเริ่มต้นของกระบวนการของความสำเร็จที่เรามุ่งหวังเท่านั้น เรายังคงต้องลงมือทำ ลงมือปฏิบัติด้วย หมายถึง เราควรคิด และพยายามปฏิบัติ เช่นถ้าเราอยากรวยแบบคนรวย เราก็ลงมือทำไปเช่นนั้น หรือถ้าเราอยากมีความสุข เราก็คิด และทำแบบที่คนที่มีความสุขเขาทำกัน มันจึงจะเกิดผลลัพธ์ ซึ่งมันคงต้องใช้เวลาพอสมควร ส่วนจะนานเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิธีคิด และการลงมือปฏิบัติของเราแต่ละคน
แต่รับรองว่ามันจะไม่ใช่แค่หนึ่ง หรือสองวันอย่างแน่นอน บางทีอาจกินเวลาเป็นปี หรือ 2 -3 ปี กว่าจะเริ่มเห็นสิ่งที่เราคาดหวัง จึงต้องใช้ความอดทน พากเพียรเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ระหว่างทางของการลงมือปฏิบัติในครั้งนี้
และในช่วงเวลาของการอดทนรอความสำเร็จเหล่านี้เอง ที่การคิดบวกจะเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรา เมื่อเราพบเจออุปสรรคขว้างกันไม่ให้เราไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจนี้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ง่ายดายอย่างที่เราคิดแน่นอน การคิดบวกมีส่วนช่วยให้เรามีกำลังใจในการฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ และช่วยให้เราคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหา ด้วยปัญญา จนเราสามารถผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้
ส่วนที่ว่า “เราควรคิดบวกแบบไหน” นั้น
ตามความคิดของผม คือ เราควรเป็นการคิดบวกในแง่ของความเป็นจริงที่ได้พบเจอ คิดบวกแบบไม่หลอกตัวเองว่ามันจะสำเร็จได้โดยง่าย คิดบวกแบบยอมรับว่าอุปสรรคเป็นสิ่งคู่กันกับความสำเร็จ
สรุปคือ การคิดบวกแบบสมเหตุสมผล โดยอิงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นหลัก เมื่อเราคิดได้เช่นนี้ การคิดบวกของเราก็จะส่งผลให้เราได้ประสบความสำเร็จ หรือมีความสุขอย่างที่คาดหวังในที่สุด
Cr. เปลือกชีวิต The Series (Series ที่จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น) By ดช.จุ่น
ติดตามบทความอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้