หน้าแรก
คอมมูนิตี้
แท็ก
คลับ
เลือกห้อง
ดูเพิ่มเติม
รวมมิตร
หว้ากอ
ศาลาประชาคม
สีลม
ศาสนา
มาบุญครอง
เฉลิมไทย
ชานเรือน
โต๊ะเครื่องแป้ง
จตุจักร
พันทิป
แก็ดเจ็ต
ถนนนักเขียน
ไร้สังกัด
แกลเลอรี่
กรีนโซน
บางขุนพรหม
ชายคา
ศุภชลาศัย
กล้อง
ก้นครัว
ไกลบ้าน
เฉลิมกรุง
ซิลิคอนวัลเลย์
บลูแพลนเน็ต
ภูมิภาค
รัชดา
ราชดำเนิน
สยามสแควร์
สวนลุมพินี
สินธร
ห้องสมุด
หอศิลป์
การ์ตูน
บางรัก
พรหมชาติ
ดิโอลด์สยาม
กรุงโซล
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
เที่ยวน่านครั้งแรก สะปัน ดอยสกาด l ลองเดินทาง l maakmind l Ep.2
กระทู้สนทนา
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
โฮมสเตย์
จังหวัดน่าน
ท่องเที่ยว
เที่ยวภูเขา
ต่อจาก Ep.1 :
https://pantip.com/topic/40578973
ผมเดินทางต่อ มาจากอำเภอปัวเพื่อที่จะไปที่ดอยสกาด
ณสกาดโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่เปิดใหม่ บรรยากาศเป็นกันเองด้านหลังของโฮมสเตย์ คือพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามานั่งชมวิวทิวเขาและบรรยากาศต่างๆ ของบ้านสกาดใต้ ซึ่งเราสามารถมองเห็นอำเภอปัวที่อยู่จนสุดสายตาออกไป โดยมองผ่านทะลุช่องทางระหว่างเขา เป็นอาหารเย็นมื้อแรกที่ได้นั่งกินบนดอย และดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์กำลังลาลับทิวเขา มื้อเย็นของเราในวันนี้ ถูกจัดสรรด้วยความใส่ใจจากโฮมสเตย์ที่น่ารัก
รุ่งเช้าผมตื่นมาประมาณ 04.30 น. เดินออกยังมืดมากและดวงดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด อากาศประมาณ16องศา ซึ่งเย็นมากๆครับ หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเสร็จก็เดินทางต่อ
ผมเดินทางต่อไป เพื่อมุ่งหน้าที่จะไปยัง อำเภอบ่อเกลือเส้นทางในการเดินทางช่างคดเคี้ยว ระหว่างทางก็ได้มาเยี่ยมชมจุดชมวิว 1715 ถือโอกาสมาพักรถด้วย เพราะอยู่ระหว่างทางบนเขา เห็นทิวเขาซ้อนกันเป็นชั้นๆอากาศเย็นสบาย
ผมมาถึงอำเภอบ่อเกลือแต่ด้วยความหิวก็เลยแวะทานอาหาร ร้านปองซา คือร้านต้นกำเนิดไก่ทอดมะแขว่น เมนูยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องลองชิม
ทานเสร็จก็เดินทางไปที่บ่อเกลือโบราณที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา คือบ่อเกลือโบราณที่มีอายุมากกว่า 800 ปี บ่อเกลือที่ไม่เคยแห้ง แม้จะผ่านมาหลายชั่วอายุคน โดยชาวบ้านจะทำการตักน้ำจากบ่อ แล้วนำมาต้มให้ไอระเหยออกไปก็จะเหลือแต่เกลือ และนำมาใช้ในประโยชน์ต่างๆเป็นวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริง การพึ่งพาธรรมชาติก็คงเป็นสิ่งที่มนุษย์ ทำสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนจนถึงปัจจุบัน
น้ำตกสะปัน ถ้าใครได้มาเยือนหมู่บ้านสะปัน ก็คงพลาดสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ คือน้ำตกที่มีทั้งหมด3ชั้น บรรยากาศทางเข้ามีความเป็นธรรมชาติสูง รับรู้ได้ถึงความเย็นสบายคงเป็นเพราะต้นไม้ที่สูงปกคลุม และความเย็นของสายน้ำที่ไหลผ่านในแต่ละชั้น การเดินทางเพื่อขึ้นไปที่ยอดของน้ำตก
ยอมรับว่าตอนแรกเกือบถอดใจ แต่ในใจคิดว่าอยากจะไปให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งให้ได้ ผมใช้เวลาในการเดินประมาณ 20 นาที ก็มาถึงด้านบนของน้ำตกจะเป็นลักษณะของน้ำตกที่มี 2 สาย ไหลคู่ขนานกันตลอดเวลา พอถึงจุดหมายปลายทางก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมมีแต่คนต้องการอยากมาชมน้ำตกแห่งนี้
ได้เวลาเดินทางเข้าไปที่พักแล้วครับ ที่พักของเราในคืนนี้คือโฮมสเตย์ที่สูงที่สุดของหมู่บ้านสะปัน ดอยอิงดาว คือโฮมสเตย์ที่มีห้องพักประมาณ10ห้อง ผมเก็บสัมภาระเข้าห้องพักด้วยความหิวจึงสั่งหมูกะทะ (แนะนำให้สั่งไว้ตอนที่จองห้องพักก่อนนะครับ) การนั่งทานหมูกะทะบนดอย ด้วยอุณหภูมิ18องศา ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
สำหรับสายหมอกในยามเช้าในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ย่อมทำให้คนที่นอนดึกตื่นสายอย่างผม มีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก วันนี้ผมรู้สึกโชคดีที่ตื่นมาก็ได้พบกับทะเลหมอกที่อยู่เบื้องหน้า เป็นทะเลหมอกครั้งแรกในชีวิตที่ได้สัมผัส ช่างแตกต่างจากภาพที่มองเห็นผ่านจอ ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้เลย กับการได้มาพบกับสถานที่จริง ภาพที่ส่งผ่านจากสายตาเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มาก สำหรับคนที่เอาแต่ใช้ชีวิตกับรูปแบบเดิมๆ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้พูดคุยสนทนา กับพี่ตั้มเจ้าของโฮมสเตย์แห่งนี้ พี่อุ๊(แฟนพี่ตั้ม)ได้แนะนำให้ลองชิมเมี่ยงคำหรือ โอเล่ดอย ภาษาวัยรุ่นคนเหนือจ้าว 555 ซึ่งเป็นสูตรที่คุณแม่ของพี่ตั้มเป็นคนหมักเอง ส่วนตัวไม่เคยกินเมี่ยงคำมาก่อน ลองคำแรกปรากฏว่าติดใจ
รสชาติออกเปรี๊ยวๆ ใส่เกลือ น้ำตาล ขิงเพิ่มความซ่า ผมติดใจเลยขอไป 3 คำ ตาสว่างขับรถสบายเลย
จากนั้นก็ได้ออกจากที่พักเพื่อเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางในการเดินทางกลับผมก็ได้เจอมิตรภาพต่างๆของชาวบ้าน แม้การเดินทางครั้งนี้จะจบลงแต่ผมก็จะเก็บ ภาพความสวยงามกลับไปเพื่อเตือนตัวเองว่าครั้งหนึ่ง เคยได้มาเที่ยวจังหวัดที่มีธรรมชาติสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
เที่ยวน่านครั้งแรก สะปัน ดอยสกาด l ลองเดินทาง l maakmind l Ep.2
ผมเดินทางต่อ มาจากอำเภอปัวเพื่อที่จะไปที่ดอยสกาด
ณสกาดโฮมสเตย์ เป็นโฮมสเตย์ที่เปิดใหม่ บรรยากาศเป็นกันเองด้านหลังของโฮมสเตย์ คือพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามานั่งชมวิวทิวเขาและบรรยากาศต่างๆ ของบ้านสกาดใต้ ซึ่งเราสามารถมองเห็นอำเภอปัวที่อยู่จนสุดสายตาออกไป โดยมองผ่านทะลุช่องทางระหว่างเขา เป็นอาหารเย็นมื้อแรกที่ได้นั่งกินบนดอย และดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์กำลังลาลับทิวเขา มื้อเย็นของเราในวันนี้ ถูกจัดสรรด้วยความใส่ใจจากโฮมสเตย์ที่น่ารัก
รุ่งเช้าผมตื่นมาประมาณ 04.30 น. เดินออกยังมืดมากและดวงดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด อากาศประมาณ16องศา ซึ่งเย็นมากๆครับ หลังจากทานอาหารมื้อเช้าเสร็จก็เดินทางต่อ
ผมเดินทางต่อไป เพื่อมุ่งหน้าที่จะไปยัง อำเภอบ่อเกลือเส้นทางในการเดินทางช่างคดเคี้ยว ระหว่างทางก็ได้มาเยี่ยมชมจุดชมวิว 1715 ถือโอกาสมาพักรถด้วย เพราะอยู่ระหว่างทางบนเขา เห็นทิวเขาซ้อนกันเป็นชั้นๆอากาศเย็นสบาย
ผมมาถึงอำเภอบ่อเกลือแต่ด้วยความหิวก็เลยแวะทานอาหาร ร้านปองซา คือร้านต้นกำเนิดไก่ทอดมะแขว่น เมนูยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องลองชิม
ทานเสร็จก็เดินทางไปที่บ่อเกลือโบราณที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน บ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา คือบ่อเกลือโบราณที่มีอายุมากกว่า 800 ปี บ่อเกลือที่ไม่เคยแห้ง แม้จะผ่านมาหลายชั่วอายุคน โดยชาวบ้านจะทำการตักน้ำจากบ่อ แล้วนำมาต้มให้ไอระเหยออกไปก็จะเหลือแต่เกลือ และนำมาใช้ในประโยชน์ต่างๆเป็นวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างแท้จริง การพึ่งพาธรรมชาติก็คงเป็นสิ่งที่มนุษย์ ทำสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนจนถึงปัจจุบัน
น้ำตกสะปัน ถ้าใครได้มาเยือนหมู่บ้านสะปัน ก็คงพลาดสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ คือน้ำตกที่มีทั้งหมด3ชั้น บรรยากาศทางเข้ามีความเป็นธรรมชาติสูง รับรู้ได้ถึงความเย็นสบายคงเป็นเพราะต้นไม้ที่สูงปกคลุม และความเย็นของสายน้ำที่ไหลผ่านในแต่ละชั้น การเดินทางเพื่อขึ้นไปที่ยอดของน้ำตก
ยอมรับว่าตอนแรกเกือบถอดใจ แต่ในใจคิดว่าอยากจะไปให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งให้ได้ ผมใช้เวลาในการเดินประมาณ 20 นาที ก็มาถึงด้านบนของน้ำตกจะเป็นลักษณะของน้ำตกที่มี 2 สาย ไหลคู่ขนานกันตลอดเวลา พอถึงจุดหมายปลายทางก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมมีแต่คนต้องการอยากมาชมน้ำตกแห่งนี้
ได้เวลาเดินทางเข้าไปที่พักแล้วครับ ที่พักของเราในคืนนี้คือโฮมสเตย์ที่สูงที่สุดของหมู่บ้านสะปัน ดอยอิงดาว คือโฮมสเตย์ที่มีห้องพักประมาณ10ห้อง ผมเก็บสัมภาระเข้าห้องพักด้วยความหิวจึงสั่งหมูกะทะ (แนะนำให้สั่งไว้ตอนที่จองห้องพักก่อนนะครับ) การนั่งทานหมูกะทะบนดอย ด้วยอุณหภูมิ18องศา ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
สำหรับสายหมอกในยามเช้าในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง ย่อมทำให้คนที่นอนดึกตื่นสายอย่างผม มีความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก วันนี้ผมรู้สึกโชคดีที่ตื่นมาก็ได้พบกับทะเลหมอกที่อยู่เบื้องหน้า เป็นทะเลหมอกครั้งแรกในชีวิตที่ได้สัมผัส ช่างแตกต่างจากภาพที่มองเห็นผ่านจอ ซึ่งเปรียบเทียบไม่ได้เลย กับการได้มาพบกับสถานที่จริง ภาพที่ส่งผ่านจากสายตาเป็นประสบการณ์ที่ใหม่มาก สำหรับคนที่เอาแต่ใช้ชีวิตกับรูปแบบเดิมๆ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้พูดคุยสนทนา กับพี่ตั้มเจ้าของโฮมสเตย์แห่งนี้ พี่อุ๊(แฟนพี่ตั้ม)ได้แนะนำให้ลองชิมเมี่ยงคำหรือ โอเล่ดอย ภาษาวัยรุ่นคนเหนือจ้าว 555 ซึ่งเป็นสูตรที่คุณแม่ของพี่ตั้มเป็นคนหมักเอง ส่วนตัวไม่เคยกินเมี่ยงคำมาก่อน ลองคำแรกปรากฏว่าติดใจ
รสชาติออกเปรี๊ยวๆ ใส่เกลือ น้ำตาล ขิงเพิ่มความซ่า ผมติดใจเลยขอไป 3 คำ ตาสว่างขับรถสบายเลย
จากนั้นก็ได้ออกจากที่พักเพื่อเดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางในการเดินทางกลับผมก็ได้เจอมิตรภาพต่างๆของชาวบ้าน แม้การเดินทางครั้งนี้จะจบลงแต่ผมก็จะเก็บ ภาพความสวยงามกลับไปเพื่อเตือนตัวเองว่าครั้งหนึ่ง เคยได้มาเที่ยวจังหวัดที่มีธรรมชาติสวยงามแห่งหนึ่งของประเทศไทย